<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 มีนาคม 2553
 
 
ละคร พระจันทร์ลายพยัคฆ์ ตอนที่ 14

ตอนที่ 14

ระหว่างทางที่อานนท์จะไปดูที่บ้านปานเดือนให้นั้น เขาได้รับโทรศัพท์จากทิวาจึงรู้ว่าที่บ้านไม่ได้เป็นอะไร ทิวาโทร.มานัดกินข้าวเย็นด้วยกันเพราะตนเหงาเหลือเกิน อานนท์จึงขอไปทำธุระก่อนแล้วจะกลับมาตอนเย็น แล้วเขาก็บ่ายหน้าไปหาชัชวาลที่โรงพยาบาล

มาถึงหน้าห้องไอซียู เจอหมอ หมอถามว่า "มาเยี่ยมสารวัตรหรือครับผู้กอง" อานนท์ตอบหมอแล้วจะเข้าไปในห้อง

เสียงทักทายดังเข้าไปในห้อง ทำให้ปานเดือนที่ยังอยู่ในห้องไอซียูคิดหาทางหนี แต่ไม่ทันจึงหลบซ่อนตัวอยู่ในห้อง

อานนท์เข้าไปเจอชัชวาลหมดสติอยู่บนเตียง เขาตกใจมากรีบเรียกหมอมาดู ท่ามกลางความชุลมุนนั้นเอง ปานเดือนเร้นตัวออกจากห้องไปได้

ระหว่างนั้นดุจดาวโทร.เข้ามือถือของอานนท์ เขาดูแล้วกดตัดสายทิ้ง เพราะรู้อยู่แล้วว่าเธอแค่โทร.มาวอแวเท่านั้น แต่ดุจดาวโกรธวิ่งปึงปังจะออกไปฟ้องวิชาญ

เป็นวันที่วิชาญเรียกจอมขวัญมาพบในห้องที่ค่อนข้างมิดชิด จอมขวัญอ่อยเต็มที่ ทีแรกก็บอกว่าตอนนี้แก๊งของวายุเริ่มสั่นคลอนทุกทีแล้ว ตนเลยตัดสินใจมาฝากตัวกับเขาก่อนแต่เนิ่นๆ

ส่วนเรื่องเมธีที่วิชาญถามว่าเขาดูแลเธอดีไหม จอมขวัญบีบน้ำตาเล่าว่าตนถูกเมธีใช้กำลังข่มเหง แต่หัวเด็ดตีนขาดตนก็ไม่ยอมใจง่าย จากนั้นก็อ่อยวิชาญเต็มที่บอกเขาตาหวานเยิ้มว่า

"วันนี้ขวัญว่าง ไม่ทราบว่าท่านมีอะไรจะให้ขวัญรับใช้ไหมคะ"

ฟังแค่นั้นวิชาญก็มองทะลุ บอกรอนให้ออกไปก่อนพอรอนออกไปอย่างรู้ใจเจ้านาย วิชาญก็เปิดฉากรุกเรียกจอมขวัญเข้าไปนั่งใกล้ๆ พินิจพิจารณาแล้วบ่นว่ายังสาวยังสวยไม่น่าเป็นม่ายเลย

"เห็นรอนบอกว่าเธอมีสินค้าจะมาขายให้ฉัน บอกได้ไหมว่าคืออะไร" วิชาญเสแสร้งถาม

"จุดอ่อนของนายวายุค่ะท่าน สิ่งที่จะทำลายมันได้ภายในชั่วพริบตา"

ทั้งคนถามและคนตอบก็แค่ทำเป็นพิธีไปอย่างนั้นเอง พริบตาเดียวก็ถึงเนื้อถึงตัวกันอย่างกระหาย แต่หารู้ไม่ว่า ดุจดาว กำลังวิ่งมาหา รอนรั้งไม่อยู่ พอดุจดาวผลักประตูผลัวะเข้าไปก็เจอพ่อกำลังจูบอยู่กับจอมขวัญ

เป็นเรื่องทันที ดุจดาวช็อกไปชั่วขณะแล้วพุ่งไปจิกจอมขวัญกระชากออกมาด่าลั่น

"นังผู้หญิงข้างถนน แกกล้าดียังไงถึงได้มาทำอุบาทว์ในบ้านฉัน"

จอมขวัญร้องว่าเจ็บขอให้วิชาญช่วยด้วยเลยทำให้ดุจดาวยิ่งเดือดพล่านพุ่งเข้าตบไม่ยั้ง แล้วหันไปต่อว่าวิชาญ ว่าทำไมทำอย่างนี้ ประกาศิตว่าพ่อต้องมีแม่คนเดียว ครั้นวิชาญ อ้างว่าแม่ตายไปนานแล้ว เธอสวนไปทันทีว่า

"งั้นก็เลือกหน่อยสิคะ ทำไมต้องมากินของเน่าของเสียแบบนี้ด้วย ผู้ชายนี่เป็นเหมือนกันหมด กินไม่เลือก!"

ถูกลูกด่าแทงใจดำต่อหน้าจอมขวัญ ทำให้วิชาญโกรธจนลืมตัวตบดุจดาวจนหน้าหัน ปรามว่าอย่าพูดกับตนอย่างนี้อีก ดุจดาวมองพ่ออย่างคาดไม่ถึง ต่อว่าพ่อว่าตบหน้าตนเพื่อปกป้องจอมขวัญ แล้วหันไปคว้ากาน้ำชาร้อนๆเทใส่หัวจอมขวัญ พอจอมขวัญร้องขอความช่วยเหลือจากวิชาญก็ยิ่งเหมือนราดน้ำมันลงในกองไฟ ดุจดาวพุ่งเข้าไปกระหน่ำตบอีก

สุดท้ายวิชาญดึงดุจดาวออกมาตวาดให้หยุดคลั่งได้แล้วถ้าไม่หยุดตนจะเอาจริง ทำให้ดุจดาวยิ่งเสียใจตะโกนใส่หน้าวิชาญว่า

"ดาวเกลียดพ่อ! ได้ยินไหม ว่าดาวเกลียดพ่อ!"

ดุจดาววิ่งเตลิดออกไป วิชาญบอกรอนให้รีบตามไปอย่าให้คลาดสายตา ส่วนตัวเองย้อนกลับไปบรรเลงกับจอมขวัญต่อ

ooooooo

ดุจดาวหนีไปนั่งดื่มที่คอฟฟี่ช็อปในโรงแรมอย่างระห่ำจนเมา รอนตามไปเรียกตัวกลับ ระหว่างออกมาขึ้นรถ ดุจดาวเห็นทิวาเดินผ่านมาพอดี เธอสลัดจากรอนพรวดไปดักหน้าทิวา กล่าวโทษทั้งที่เมาแอ๋ว่า

"แกกับพวกพี่สาวของแกคงสะใจมากสินะ ที่ทำฉันเจ็บได้น่ะ แกคิดว่าฉันไม่มีปัญญาตอบโต้ใช่ไหม"

ทิวามองดุจดาวอย่างสมเพช ตอบโต้ไม่กี่คำก็ถูกดุจดาวตวาดว่า

"เก่งกันทั้งบ้าน นังปานเดือนก็ทำหยิ่งวางก้าม นังจันทร์ฉายก็แย่งผู้ชายของฉันไป พี่สาวแกมันโหลยโท่ย ทุเรศ ถือดียังไงมาเทียบกับฉัน"

ถูกดุจดาวด่าลามปามถึงพี่สาว ทิวาก็ฮึดขึ้นมา แต่เห็นว่าเธอเมามากเลยไล่ให้กลับไปนอนพักเสียพลางจะเดินหนี ถูกดุจดาวกระชากไว้ ทิวาสะบัดอย่างแรงจนดุจดาวเสียหลักล้มลง

เท่านั้นเอง ดุจดาวก็สั่งลูกน้องที่มาตามให้รุมกระทืบทิวาทันที ทิวาโวยวายได้ไม่กี่คำก็ถูกพวกลูกน้องของดุจดาวและรอน รุมจนลงไปจุกกับพื้น
การเสียชีวิตของสารวัตรชัชวาลนับเป็นการสูญเสียที่ใหญ่หลวง ผู้การขจรเปิดประชุมที่กองปราบสรุปว่านั่นเป็นอุบัติเหตุจากการที่สารวัตรชัชวาลใช้มือปัดสายออกซิเจนหลุดจนทำให้ขาดอากาศหายใจ

ปานเดือนตีหน้าเศร้าแต่แอบโล่งใจที่ผลสรุปออกมาเป็นแบบนี้ จากนั้นผู้การสั่งให้แบ่งงานกันจัดการ เรื่องแรกคืองานศพของสารวัตรชัชวาล อานนท์อาสาขอดูแลเรื่องนี้

"ส่วนอีกเรื่องก็คืองานของทีมสารวัตรชัชวาลที่ยังค้างอยู่ ผลจะโอนถ่ายให้ผู้กองปานเดือนสานต่อไปเลย เพราะเป็นคดีของนายวายุที่ทีมผู้กองปานเดือนรับผิดชอบอยู่แล้ว"

ปานเดือนรับทราบทันที ผู้การพยักหน้า เอ่ยขอบคุณทุกคน แล้วไปยืนหน้าเครียดอยู่ริมหน้าต่าง

อานนท์ปรารภกับปานเดือนว่า เมื่อเช้าสารวัตรเรียกตนไปหา ปานเดือนรีบออกตัวว่าตนขอโทษที่ทำให้เขาไปหาชัชวาลไม่ทัน อานนท์บอกว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เขาอยากรู้ว่าชัชวาลมีเรื่องอะไรจะบอกเขา ถามว่าเธอรู้ไหม ปานเดือนอึกอักแล้วเบี่ยงเบนไปว่าคงเป็นเรื่องงานกระมัง บอกอานนท์ว่า

"ผู้กองค่อยๆไล่เอกสารดูเดี๋ยวก็คงรู้ว่ามีงานอะไรติดขัดอยู่หรือเปล่า"

อานนท์พยักหน้าแล้วเดินแยกไป ปานเดือนถอนใจโล่งอกที่หลุดไปได้อีกเปลาะหนึ่ง แต่ไม่ทันไรก็ได้รับโทรศัพท์ จากทิวา เธอฟังปลายสายถามอย่างตกใจ

"ว่าไงทิวา...อะไรนะ! แล้วแกเป็นอะไรมากรึเปล่า"

ooooooo

ปานเดือนลุยไปที่บ้านวิชาญถามหาดุจดาวถูกรอนมาขวาง เธอบ้าดีเดือดจะลุยเข้าไปให้ได้ จนกระทั่ง ชักปืนออกมาอาละวาด รอนชักปืนออกมาอย่างไม่ยอมถอย จนกระทั่งวิชาญออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น สั่งให้ เก็บปืนเดี๋ยวนี้

ปานเดือนโต้เถียงกับวิชาญอย่างเลือดขึ้นหน้าที่น้องชาย ถูกรังแก จนวิชาญถามว่าจะให้ตนลดตัวไปขอโทษน้องชายเธอถึงจะยอมใช่ไหม ปานเดือนไม่ต้องการ แต่ขู่ว่าถ้ามีเรื่องอีกครั้งเมื่อไรตนจะลากคอลูกสาวเขาเข้าคุกแน่

"ผู้กอง เราพวกเดียวกันนะ อย่าลืมสิว่าที่คุณได้ดีทุกวันนี้เพราะใคร" วิชาญลำเลิก แต่ก็ไม่อาจหยุดปานเดือนได้ เธอประกาศว่าคนอย่างตนโกรธขึ้นมาเมื่อไรใครก็ขวางไม่ได้ ทั้งนั้น วิชาญปรามว่า "นี่เธอกำลังขู่ฉันอยู่นะ ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอ ฉันบีบทีเดียวก็ดิ้นไม่หลุดแล้ว"

"ถึงบอกไงคะว่าปานเดือนคนนี้ไม่มีอะไรจะเสีย ถ้าท่านบีบฉันอีกครั้ง ฉันจะดับเครื่องชนให้ดู แล้วสุดท้ายคนที่พังไม่ใช่ฉันคนเดียวแน่ ฉันจะแฉเบื้องหลังของท่านออกมาให้หมด ดูสิว่าใครมันจะพังก่อนกัน!" ปานเดือนเผชิญหน้ากับวิชาญอย่างไม่มีอะไรจะกลัวกันอีกแล้ว

เมื่อปานเดือนกลับไปแล้ว วิชาญนั่งคุยกับรอนในห้องดื่มน้ำชา เขาสบถว่าคิดไม่ถึงว่านังตัวแสบนี่จะกล้าอวดดีขนาดนี้ รอนติงว่าท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่าเสือมันเชื่องยากกว่าสุนัข และตนก็ไม่เคยเห็นใครเลี้ยงเสือไว้ใช้มัน พอเห็นวิชาญชะงักฟัง รอนพูดอีกว่า

"มันอยู่ใต้คำสั่งของคนได้ไม่นาน วันนี้ถึงมันจะล่าเหยื่อให้เราได้ แต่วันหน้ามันก็เห็นเราเป็นเหยื่อได้เหมือนกันนะครับท่าน"

วิชาญนิ่งคิดตามที่รอนพูด สีหน้าเขาคล้อยตาม เขานิ่งไปครู่หนึ่งแล้วบอกรอนว่า

"ถ้าโค่นไอ้วายุได้เมื่อไหร่ ผู้กองปานเดือนก็หมดความหมาย ของไม่มีค่าก็ควรกำจัดทิ้งไปเสีย"

รอนพยักหน้าอย่างรับคำสั่งตามแผนการ ส่วนวิชาญ ยังนั่งเจ็บใจตัวเองว่าไม่น่าปั้นปานเดือนขึ้นมาเลย

ooooooo

เรื่องราวต่างๆยังไม่ทันกระจ่าง ก็มีเรื่องดุเดือดเลือดพล่านขึ้นมาอีก เมื่ออานนท์รู้จากจ่าพงษ์ว่า ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานแจ้งว่ารอยนิ้วมือบนมีดชัยเป็นลายมือเดียวกันกับที่อยู่บนมือถือของไพลิน

เท่านั้นเอง ความแค้นแต่หนหลังก็พลุ่งพล่านขึ้น อานนท์ ลิ่วไปที่บ้านวายุลุยเข้าไปเอาเรื่องกับเมธี ถามว่าเขาเป็นคนส่งคนไปลักพาตัวดุจดาวใช่ไหม เมธีทำไขสือพูดหน้าตายว่า

"จันทร์ฉายเป็นคนยืมตัวไอ้ชัย ถ้าจะเอาเรื่องก็ไปเอาเรื่องกับจันทร์ฉายสิ ไม่ใช่ฉัน"

"ไม่ได้พูดถึงคดีใหม่โว้ย แต่มันผูกไปถึงคดีเก่า คดีผู้หมวดไพลิน! ไอ้ซาดิสต์ แกเป็นคนสั่งฆ่าไพลินใช่ไหม" อานนท์ตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อเมธี

จันทร์ฉายรีบเข้าห้ามอานนท์ แต่พออานนท์พูดถึงความเจ็บปวดเสียใจกับการที่ไพลินถูกฆ่า จันทร์ฉายก็แอบน้อยใจที่ไพลินยังอยู่ในใจของอานนท์ตลอดมา แต่ก็ยังพยายามเตือนสติเขาว่าถ้าเขายิงเมธี เขาก็ต้องติดคุกเพียงเพราะอารมณ์ ชั่ววูบ จ่าพงษ์ก็เตือนให้ตั้งสติหน่อย เพราะทำอย่างนั้นไม่มีประโยชน์อะไร

วายุให้สมชายประคองลงมาจากข้างบน เขาบอกอานนท์ ว่าถึงอานนท์ยิงลูกน้องเขาตายตรงหน้าเขาก็ไม่เห็นอยู่ดี ที่สำคัญ คืออย่าปรักปรำคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานดีกว่า

"รอยนิ้วมือที่อยู่บนมีดกับมือถือของไพลินมันเป็นรอยมือเดียวกัน แค่นี้หลักฐานพอหรือยัง" อานนท์ย้อนถามอย่างฉุนเฉียว เมธีสวนไปว่าแสดงว่าชัยเป็นฆาตกร แล้วตอนนี้ชัยก็ตายไปแล้วตนไม่เกี่ยว อานนท์ตวาดใส่ว่า "แต่แกเป็นคนออกคำสั่ง" เลยทำให้เมธีเถียงไม่ออก

วายุบอกจันทร์ฉายให้พาอานนท์ออกไปเสีย จันทร์ฉายเข้าไปกดมือที่ถือปืนของอานนท์ลงแล้วดึงปืนออก บอกเขาว่า

"ที่คุณเล่นงานไม่ใช่แค่ศัตรูของคุณ แต่คุณกำลังเล่นงานฉันต่างหาก แล้วคุณคิดว่าถ้าคุณฆ่าเมธีเรื่องมันจะจบลงแค่นี้หรือ แก๊งของวายุต้องมีปัญหากับตำรวจไม่รู้จักจบสิ้น"

อานนท์ต่อว่าจันทร์ฉายว่าเดือดร้อนเป็นห่วงวายุหรือ แคร์เขาทำไม คนที่เธอควรแคร์คือตนต่างหาก ทำเอาทั้งวายุ และจันทร์ฉายต่างอึ้งไป เพราะมันเป็นการบอกให้รู้ว่าระหว่างอานนท์กับจันทร์ฉายนั้นลึกซึ้งกันเพียงใด

ในที่สุด วายุตัดบทว่าอานนท์ไม่ควรคู่กับจันทร์ฉายเลย เพราะเธอมีค่ามากกว่านั้น แต่พอเข้าใกล้อานนท์ ได้กลิ่นน้ำหอมของเขา วายุชะงัก พูดแดกดันว่า
ไม่ยักรู้ว่าคุณสองคนใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกัน พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงจะต้องแคร์กันเป็นพิเศษ"

คำพูดของวายุทำให้อานนท์ได้สติ รีบพูดว่าวายุเข้าใจผิด พอวายุนิ่งฟังอานนท์พูดอีกว่า

"ผมกับจันทร์ฉายไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เธอไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับผม"

จันทร์ฉายฟังแล้วชะงักอึ้ง น้ำตารื้นทันที เธอโยนปืนทิ้งวิ่งออกจากบ้านไป สมชายรีบตามไป ส่วนอานนท์มองตามไปอย่างเจ็บปวดที่ต้องพูดออกไปอย่างนั้น

วายุนิ่ง แต่แววตาเสียใจกับความจริงทุกอย่างที่เขาได้รับรู้

ooooooo

จันทร์ฉายวิ่งเตลิดไปด้วยความเสียใจในคำพูดของอานนท์ ไปยืนเจ็บปวดอยู่ที่ริมน้ำร้องไห้จนสาแก่ใจแล้ว จึงกลับมาเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวราดแต่ผมลงมา ทั้งหยดน้ำและหยาดน้ำตาหลั่งรินเป็นสาย จนในที่สุดเธอตัดสินใจถอดแหวนที่อานนท์ให้ออก แต่ สุดท้ายก็ตัดใจไม่ขาด...สวมแหวนนั้นไว้ตามเดิม...

ดึกแล้ว วายุมาเคาะประตูห้องบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยด้วย เมื่อเผชิญหน้ากัน เธอถามเขาว่า

"ทำไมคุณไม่ฆ่าฉันเลยล่ะ คุณรู้มาตลอดใช่ไหมว่าฉันติดต่อกับผู้กองอานนท์"

"ต่อให้คุณหักหลังผมมากกว่านี้ ผมก็ฆ่าคุณไม่ได้หรอก แต่จำไว้นะ ผมจะไม่ยอมให้อานนท์หรือใครพรากคุณไปจากผมเด็ดขาด" วายุกุมมือเธอขึ้นแนบหัวใจตัวเอง

จันทร์ฉายดึงมือตัวเองกลับ บอกเขาว่าที่ทำทุกอย่างก็เพียงแค่ต้องการตอบแทนที่เขาเคยช่วยตนไว้เท่านั้น วายุถามอย่างเจ็บปวดว่าเธอจะไม่ยอมแบ่งหัวใจให้ตนบ้างเลยสักนิดหรือ จันทร์ฉายไม่ตอบ

"ผมพอจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว ชีวิตผมเคยผ่านเรื่องเจ็บปวดมามาก แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่มันทำให้ผมเจ็บปวดได้เท่าครั้งนี้ แต่ไม่ต้องกังวลนะ ผมเต็มใจที่จะเจ็บปวด"

จันทร์ฉายสงสารจนอยากจะปลอบ แต่ก็ทำไม่ได้ จนกระทั่งวายุเดินออกจากห้องไป...

ooooooo

ปานเดือนไปหาอานนท์ที่แฟลตถามว่าบุกเดี่ยวไปที่บ้านวายุหรือ อานนท์ถามดักคอว่าเธอมาถามเพื่อจะรู้ว่าตนไปหาวายุหรือจันทร์ฉายกันแน่ใช่ไหม เตือนเธอว่าเลิกจับผิดกันเสียที

ทั้งสองโต้เถียงกัน ปานเดือนตัดพ้อว่าตนก็เป็นได้ แค่กระโถนสำหรับเขา ใครจะสำคัญกับเขาเท่าจันทร์ฉายได้เล่า อานนท์ถอนใจอย่างเบื่อหน่ายบอกว่าตนไม่อยากทะเลาะกับเธอ และเรื่องนี้จันทร์ฉายก็ไม่เกี่ยวด้วย

อานนท์พยายามบอกปานเดือนว่าจันทร์ฉายทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ ถ้าจันทร์ฉายไม่ไปทำงานกับวายุป่านนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอก็ไม่รู้ ย้ำให้ปานเดือนรู้ว่าจันทร์ฉายทำทุกอย่างเพื่อแม่เพื่อน้องและเพื่อตัวเธอ

"ไม่ใช่! เพราะมันนั่นล่ะแม่ถึงเป็นแบบนี้ เดือนขอร้องล่ะ ผู้กองเลิกเชื่อเรื่องบ้าๆที่จันทร์ฉายยัดใส่สมองเสียที แล้วหันมาดูแลปกป้องคนที่ผู้กองควรดูแล นั่นก็คือเดือน...เมียของผู้กอง!"

อานนท์หันขวับฉุนที่ปานเดือนวกเข้าเรื่องนี้อีกจนได้ แต่ปานเดือนก็ยังพูดเย้ยก่อนออกไปว่า

"หรือไม่พอใจที่มีเมียเป็นตำรวจ อยากมีเมียเป็นโจรก็ตามใจ!"

อานนท์ได้แต่นั่งกลุ้มใจกับปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ จันทร์ฉายคือผู้หญิงที่เขารัก แต่ปานเดือนคือผู้หญิงที่เขาทำพลาดจนกลายเป็นบ่วงรัดคออยู่ทุกวันนี้

ooooooo

วันนี้ เมธีไปหาวิชาญ จอมขวัญทำทีว่าตามเขามาด้วยหมายปกปิดความสัมพันธ์ระหว่างตนกับวิชาญ แต่อากัปกิริยาของทั้งจอมขวัญและวิชาญก็ไม่รอดพ้นสายตาของเมธี เพียงแต่เขาเก็บงำไว้เท่านั้น

เมธีมาเสนอวิชาญว่า ถ้าตนล้มวายุได้เมื่อไรก็จะหอบองค์กรมาสวามิภักดิ์เขา และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว วิชาญพูดอย่างลำพองใจว่า ตนจะให้ตัวช่วยเมธีอีกคน บอกเมธีว่า

"ถล่มไอ้วายุครั้งนี้ มีตำรวจออกโรงแทนเรา มันหนีรอดก็ให้มันรู้ไป"

จากนั้นวิชาญให้ปานเดือนมาฟังเมธีเล่าแผนการของเขาให้ฟัง เมธีบรรยายว่า

"ตัวการหลักของมันก็คือต้าเว่ยที่เป็นคนดูแลสินค้า จันทร์ฉายเป็นคนประสานงาน และนายวายุที่เป็นคนคุมเกมทั้งหมด ถ้าเราหยุดทั้งสามคนนี้ได้รับรองว่าองค์กรของมันล่มแน่"

แผนการรายละเอียดคือ ให้เล่นงานทีละคนแล้วบีบให้พวกนั้นแฉกันเอง จากนั้นเข้าตรวจสอบบัญชีฟอกเงินซึ่งเมธีเป็นคนดูแลทั้งหมดอยู่แล้ว เช่นนี้แล้ว เราก็จะได้ทั้งพยานและหลักฐาน

"ถ้ามันไม่ยอมให้การซัดทอด เราต้องเล่นงานต้าเว่ยก่อนเพราะสินค้าทั้งหมดอยู่ที่มัน" ปานเดือนเสนอ แต่ก็มีแง่ว่าตำรวจข้ามชายแดนไปไม่ได้ เมธีรับปากว่าจะพาต้าเว่ยมาหาเธอเอง

วิชาญนั่งฟังอยู่ด้วย พูดสนับสนุนว่า "พอเล่นงานไอ้ต้าเว่ยได้เมื่อไหร่ คนต่อไปที่เราต้องกำจัดก็คือจันทร์ฉาย นังเสือร้ายนี่จะปล่อยให้รอดไปไม่ได้เด็ดขาด จริงไหม ผู้กอง" วิชาญหันไปถามปานเดือนมองอย่างวัดใจ

ปานเดือนนิ่งแต่ก็อดใจหายไม่ได้ ในที่สุดเมื่อคิดทบทวนความแค้นแล้วเธอกุมเขี้ยวเสือที่คอบอกกับตัวเองอย่างเหี้ยมเกรียมว่า

"ฉันจะกำจัดแกด้วยมือของฉันเอง!!"

ตรงกันข้าม จันทร์ฉายอยู่ที่ห้องครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ ต่างๆ กุมเขี้ยวเสือไว้ด้วยความหวังว่า

"เดือน...สักวันครอบครัวของเราต้องกลับมารักกันเหมือนเดิม พี่สัญญา..."

ooooooo

เช้าวันต่อมา ปานเดือนไปที่บ้านครู่เดียวก็กลับ ทิวาถามว่าจะรีบไปไหน งานยุ่งจนลืมไปแล้วหรือว่าวันนี้เป็นวันอะไร พลางก็ยื่นพวงมาลัยให้บอกว่า "ฝากไปไหว้พ่อแทนแม่กับผมด้วย"

ปานเดือนทำหน้างงๆ ทิวาเลยเตือนความจำว่า "พ่อเราตายวันนี้ไง จำได้ยัง?"

ที่บริเวณเจดีย์เก็บอัฐิภายในวัดนี่เอง ปานเดือนเจอกับจันทร์ฉายที่มาไหว้อัฐิเหมือนกัน จันทร์ฉายวางพวงมาลัยไว้หน้ารูปทั้งสองคน บอกกล่าวว่า

"พ่อ ฉายรู้ว่าพ่อคงผิดหวังที่เห็นฉายกลายเป็นแบบนี้ แต่ฉายพยายามแล้วนะพ่อ ฉายพยายามทำให้ทุกคนปลอดภัย พ่ออย่าโกรธฉายเลยนะ ฉายขอโทษ"

"คิดว่าแค่ขอโทษแล้วจะลบล้างความชั่วได้งั้นเหรอ" เสียงปานเดือนดังมาจากข้างหลัง "นอกจากแกกับฉันจะเกิดวันเดียวกันแล้ว ฉันนึกว่าแกจะลืมไปซะแล้วว่า พ่อแกกับพ่อฉันตายวันเดียวกัน"

"พี่ไม่เคยลืมเรื่องของเราแม้แต่เรื่องเดียวเลยเดือน"

"เพราะเห็นแก่พ่อของเรา ฉันเลยอยากเตือนแกเป็นครั้งสุดท้าย ถอนตัวเสียก่อนที่จะสายเกินไป" ครั้นจันทร์ฉายบอกว่าไม่สายหรอก ถ้าปานเดือนให้โอกาสตนกลับมา "โอกาสแกหมดไปนานแล้วจันทร์ฉาย! ที่ผ่านมาฉันอยากฆ่าแก แต่ต้องยั้งใจไว้ทุกครั้ง แต่จากนี้ไปฉันจะไม่ลังเลอีกแล้ว มีคนบริสุทธิ์ตายเพราะแกมามากแล้วจันทร์ฉาย มันมากเกินไปแล้ว"

"แน่ใจเหรอว่านั่นคือเหตุผลที่แกอยากจะฆ่าพี่ ไม่ใช่ เพราะแกเกลียดพี่หรอกเหรอเดือน"

ปานเดือนมองขวับจ้องหน้าจันทร์ฉาย ทั้งสองจ้องกันเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน

"วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะปล่อยให้แกลอยนวล เจอกันอีกทีเมื่อไหร่ แกตายแน่นังจันทร์ฉาย!"

ปานเดือนผละไปอย่างโกรธแค้น จันทร์ฉายยังยืนอยู่ตรงนั้น คิดว่าคงมีแต่ความตายของตนเท่านั้นกระมังที่จะลบล้างความแค้นของปานเดือนได้...

ooooooo

จบตอนที่ 14
เครดิต ไทยรัฐ


Create Date : 15 มีนาคม 2553
Last Update : 15 มีนาคม 2553 15:54:18 น. 0 comments
Counter : 597 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com