แก้ไขความเข้าใจผิดของกมธ.ทหารสภาฯ+ข้อฝากถึงกองทัพ
อ่านแล้วเหนื่อยและท้อกับนักการเมืองไทยเลยครับ ยังไงก็ขออนุญาตแย้งไปทีละประโยคแล้วกันนะครับผม
จากข่าวนี้ครับ
//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000051338
"วันนี้ (7 พ.ค.) พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ทางรัฐบาล ปรับลดงบประมาณรายจ่ายปี 2553 โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงกลาโหม ที่ถูกปรับลดไปเกือบ 20,000 ล้านบาท ซึ่งกระทบต่อแผนการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของแต่ละเหล่าทัพ ว่า ตนเห็นด้วยอย่างที่สุด"
- ตรงนี้ผมก็เห็นด้วยครับ เศรษฐกิจแบบนี้ การเลื่อนการจัดหาที่ไม่เร่งด่วนออกไป ถือเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่งครับ ไม่ได้พูดประชดด้วยนะครับ ผมหมายความว่าอย่างนั้นจริง ๆ
"และไม่ควรจะปรับลดเฉพาะปีนี้อย่างเดียว แต่อะไรที่ไม่จำเป็นก็ควรจะยกเลิกไปเลย"
- อันนี้ก็เห็นด้วยครับว่า อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรจัดหามา
"หลายโครงการดูแล้วมีความไม่เหมาะสม เช่น การจัดซื้อรถยานเกราะล้อยาง จากประเทศยูเครน วงเงินงบประมาณเกือบ 5,000 ล้านบาท ก็เป็นรถที่ดัดแปลงมาจากรถของรัสเซีย ยังมีปัญหาเรื่องอะไหล่ และการบำรุงรักษา และไม่มีความเหมาะสมที่จะใช้กับภูมิประเทศของไทย เมื่อถูกตัดงบแล้ว ก็ควรจะเจรจากับรัฐบาลยูเครนถึงปัญหาของเรา และถือโอกาสเลิกสัญญากับยูเครนไปเลย จะเสียค่ามัดจำไปบ้างก็ไม่เป็นไร"
- ส่วนตัวผมก็แสดงจุดยืนไปตั้งแต่ต้นแล้วครับว่า ไม่เห็นด้วยเท่าใดนักกับการจัดหารถเกราะจากยูเครน และทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืน แต่ผมไม่เห็นด้วยที่ท่านใช้ข้อมูลผิด ๆ มาเพื่อโจมตีครับ ท่านทราบได้อย่างไรว่ามันมีปัญหาด้านอะไหล่? ขอข้อมูลยืนยันด้วยนะครับ เพราะมีหลายประเทศจัดหาไปใช้งาน อีกทั้งเรายังไม่ได้รับเข้าประจำการเลย ท่านทราบแล้วหรือครับว่ามันมีปัญหาด้านอะไหล่ อีกอย่างท่านทราบได้อย่างไรครับว่ามันไม่เหมาะสมกับภูมิประเทศของไทย พม่าก็มีรถรุ่นนี้ใช้งาน เพียงแต่เป็นรุ่นเก่ากว่าเราเท่านั้นเอง สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ก็มีใช้งาน การที่ท่านบอกว่าเราควรจะเจรจากับยูเครนถึงปัญหาของเรา (ซึ่งเราก็เจรจามานานแล้ว) แล้วถือโอกาสยกเลิกสัญญาเลย จะเสียค่ามัดจำบ้างก็ไม่เป็นไร ผมไม่ทราบว่าทำไมท่านถึงพูดแบบนี้ครับ ..... จะเสียมัดจำบ้างก็ไม่เป็นไร ..... ผมไม่ยอมครับ นี่มันเงินของผม เงินภาษีของผม ย้ำอีกครั้ง เงินภาษีของผม ไม่ใช่เงินส่วนตัวของท่าน ท่านมาบอกว่าให้ผมทิ้งเงินภาษีของผมไปฟรี ๆ โดยไม่ต้องเอาอะไรหรือได้ประโยชน์อะไรมาแบบนี้ ท่านขาดความรับผิดชอบต่อเงินภาษีของผมนะครับ ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่หรือเปล่า? ท่านก็รับเงินเดือนจากภาษีของผมเช่นกัน ถ้าท่านหยุดรับเงินเดือน ผมจะไม่ว่าอะไรเลย
"ส่วนเครื่องบินกริฟเฟนของสวีเดน นั้น ทางสวีเดนก็เลิกพัฒนาไปแล้ว เมื่อเราซื้อมาก็จะต้องเปลี่ยนสายการบำรุงทุกอย่าง ไม่ว่าระบบการติดต่อ หรือระบบอาวุธ ที่ต้องติดระบบใหม่ ที่ใช้กระสุนนัดละห้าพันบาท ปีหนึ่งต้องซื้อถึงหนึ่งหมื่นนัด"
- ผมก็ไม่ทราบว่าท่านไปเอาข้อมูลมาจากไหนครับ เพราะเห็นท่านพูดมาหลายครั้งแล้วว่าสวีเดนเลิกพัฒนาไปแล้ว ซึ่งถ้าท่านไปถามคนอื่นที่เขาศึกษาเรื่องอาวุธ หรือแม้แต่ลองไปดูงานต่างประเทศบ้าง (ไปดูงานแบบเอางานนะครับไม่ใช่แบบไปเที่ยวเดี๋ยว ๆ ก็กลับ) ท่านจะไม่พูดคำนี้ออกมาให้อายต่างประเทศเขาเลยครับ ถ้าคำพูดของท่านที่ว่าสวีเดนเขาเลิกพัฒนาแล้วเป็นความจริง ผมก็ยังงงอยู่ว่าเครื่องบินรุ่นใหม่ที่บิน ๆ อยู่ทุกวันนี้มันคืออะไร? การจัดหาเครื่องบินจากแหล่งใหม่ แน่นอนครับมันต้องจัดตั้งสายการส่งกำลังบำรุงใหม่ แต่ตอนที่พรรคของท่านเป็นผู้บริหารประเทศ ท่านกลับจะไปซื้อเครื่องบินรัสเซีย ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่เรามีประจำการอย่างสิ้นเชิง ต่างยิ่งกว่าเครื่องบินสวีเดนลิบลับ แม้แต่บันไดไต่ขึ้นเครื่องบินก็ต้องซื้อใหม่ และไม่เหมาะกับประเทศไทยอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะทั้งด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ อันนี้ไม่แย่กว่าหรือครับ? แล้วที่ท่านจะซื้อเครื่องบินรัสเซีย นั่นน่ะครับระบบอาวุธใช้กับเราไม่ได้เลยสักชิ้น แม้แต่กระสุนสักนัด แต่เครื่องบินสวีเดน ยังใช้ระบบอาวุธที่เรามีอยู่ได้ทุกชนิด ยกเว้นกระสุนปืนกลอากาศที่ท่านเอามาอ้าง ซึ่งกองทัพอากาศก็มีโรงงานผลิตกระสุนใช้เองอยู่แล้ว ไม่ยากที่จะผลิต เครื่องบินรัสเซียของท่านสิครับ จรวดลูกละ 20 ล้านก็ต้องซื้อใหม่ ไม่ทราบว่าท่านไปเอาข้อมูลมาจากไหนครับ?
//www.gripen.com/en/MediaRelations/News/2008/Gripen_Demonstrator_The_Future_has_Arrived.htm
สิ่งที่เราได้มาจากการจัดซื้อในครั้งนี้ ทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีและความร่วมมือใหม่ ๆ แลกกับการจัดตั้งสายการส่งกำลังบำรุงใหม่นั้น คุ้มค่ากว่ามาก มันสามารถเป็นพื้นฐานในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศเราทั้งประเทศได้ เราได้ในสิ่งที่เราไม่เคยได้จากสหรัฐเลย นั่นคือเทคโนโลยีที่จะทำให้เราสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต ซึ่งผมอยากจะบอกว่า ก็รัฐบาลท่านนั้นแหละครับเป็นคนเล่นเกมส์เจรจาให้เราได้แพ็คแก็จนี้มา สับขาหลอกผู้ผลิตจนเราผู้ซื้อมีอำนาจต่อรองสูง ซึ่งตรงนี้ผมชื่นชมรัฐบาลท่านมาตลอด และแม้ท่านจะไม่ได้เป็นคนเซ็นสัญญา ท่านก็ยังสามารถเอาไปอ้างได้ด้วยซ้ำว่าถ้าไม่ได้ท่านเราก็คงไม่ได้แพ็คเก็จแบบนี้ เพราะถ้าท่านอ้างแบบนั้นผมก็จะยอมรับ เนื่องจากความจริงมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่ตอนนี้ท่านกลับมาวิจารณ์สิ่งที่ท่านเคยทำเอง ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม หรือแค่เพราะว่าท่านไม่ได้เป็นคนเซ็นสัญญา???
"ในขณะที่กองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินขับไล่ เอฟ16 อยู่ 56 ลำ หากจะเสียเงินเพื่อปรับปรุงเครื่องบินให้ทันสมัยทั้งหมดก็จะใช้งบเพียง 2 พันล้านบาท เราก็จะใช้เครื่องบินเอฟ 16 ได้อีกถึงสิบปี ทำไมถึงต้องไปใช้เครื่องบินสวีเดนราคาหลายหมื่นล้านด้วย"
- ท่านอาจจะสับสนไปสักนิด แต่เพื่อเป็นข้อมูล ประเทศไทยมี F-16 อยู่ 61 ลำ เก็บไว้เป็นอะไหล่ 2 ลำ ใช้งานจริง 59 ลำ งบ 2 พันล้านที่ท่านว่า เป็นงบในโครงการ Falcon Up/Star ซึ่งเป็นการยืดอายุโครงการของ F-16 ออกไปให้นานขึ้น จาก 4,000 ชม.บินเป็น 8,000 ชั่วโมงบิน แต่ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถให้กับเครื่องบิน ซึ่งนั่นคือโครงการ MLU (Mid-Life Upgrade) ที่จะต้องทำต่อจากโครงการ Falcon Up/Star แต่ตอนนี้เงินยังไม่มี เนื่องจากต้องใช้เงินเป็นหมื่นล้าน เลยยังไม่ได้ทำนะครับ
"พ.ต.ท.สมชาย กล่าวต่อว่า ทางคณะกรรมาธิการการทหาร ไม่ได้ค้านการที่กองทัพจะจัดซื้ออาวุธ แต่ควรจะซื้อให้เหมาะสมกับภารกิจ และภาวะเศรษฐกิจของบ้านเรา อย่างล่าสุดที่กองทัพบกจัดซื้อจรวดหลายลำกล้องรุ่น W S 1 แบบพื้นสู่พื้น จากประเทศจีน ราคานับพันล้าน ซึ่งเหมาะสมกับสงครามเต็มรูปแบบ แต่ไทยก็ซื้อมา ไม่ทราบว่าจะให้ไปรบกับใคร"
- ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ท่านค้านหรือไม่ค้านครับ และผมก็ยังงง ๆ อยู่ว่าอะไรคือสิ่งที่เหมาะสมกับบ้านเราตามที่ท่านบอกมา หวังว่าคงไม่ใช่เครื่องบินรัสเซียที่ต้องจ่ายค่าบินชั่วโมงละ 4 แสนบาท ในขณะที่ F-16 จ่ายแค่ 2 แสนบาท และเครื่องบินสวีเดนจ่ายแค่ 1 แสนบาทนะครับ? เครื่องบินรัสเซียไม่ใช่ไม่ดี ดีกว่าที่เรามีอยู่ด้วยซ้ำ แต่มันไม่เหมาะสมกับเมืองไทยครับ
WS-1B เป็นจรวดพื้นสู่พื้นหลายลำกล้องจากจีน ไทยเราซื้อมาเพื่อเปิดโครงการจรวดเพื่อความมั่นคง ซึ่งเป็นโครงการที่ทำการวิจัยและพัฒนาจรวดของเราเอง โดยร่วมมือกับจีน WS-1B นี่ ตั้งโรงงานผลิตในเมืองไทยด้วยซ้ำนะครับ ต่อไปเมื่อโครงการนี้ดำเนินไปเรื่อย ๆ ประเทศเราจะพึ่งพาตนเองด้านจรวดได้อย่างสมบูรณ์ และทำไปทำมาสามารถส่งออกจรวดขายให้กับต่างประเทศได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องไปรบกับใครหรอกครับ ทำจรวดขาย ได้เงินเข้าประเทศ ไม่เอาหรือครับ? หรือเพราะว่าโครงการนี้ไม่ได้เกิดจากท่านแต่เกิดจากฝ่ายตรงข้ามท่าน?
www.army-technology.com/projects/ws1b/
"ส่วนปืนประจำตัวทหาร ทางเราก็เห็นด้วยที่สมควรจะซื้อ แต่ทำไมถึงต้องซื้อปืนกล TAVOR จากอิสราเอล กระบอกละกว่าแปดหมื่นบาท ทั้งที่ปืนกล เอ็ม16 เอ 2 ราคาถูกกว่า และดีกว่า ก็ไม่ซื้อ"
- แล้วทำไมถึงต้องซื้อปืนกลเอ็ม16 เอ2 ล่ะครับ ราคาถูกกว่านั้นใช่แน่นอน แต่ดีกว่านี้ยังน่าสงสัยอยู่ เพราะทุกวันนี้อิสราเอลกำลังปลด M16 และ M4 ทิ้งและเอา Tavor เข้าประจำการแทน?
"ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวด้วยว่า ปัญหาของกองทัพบ้านเรา มักจะซื้ออาวุธแพงกว่าประเทศอื่น"
- ตรงนี้ผมเห็นด้วยครับ ประชาชนอย่างพวกเราต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาครับ และต้องไม่มีฝ่ายใดมีผลประโยชน์แอบแฝงด้วยครับ
"และไม่มีความเหมาะสม ตนขอให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ควรจะทบทวนการจัดซื้ออาวุธต่างๆ ของกองทัพ เพราะไทยไม่ใช่ประเทศร่ำรวย และการระงับการซื้ออาวุธในปีนี้ หวังว่า ไม่ใช่หยุดไปหนึ่งปี แล้วไปโถมซื้อในงบประมาณปีต่อๆ ไป แต่ควรจะทบทวนรายการสั่งซื้อทุกอย่าง อะไรที่ไม่จำเป็น และจะต้องเสียการบำรุงซ่อมแซมมาก ก็ยกเลิกไปเลยดีกว่า จะเสียค่าปรับหรือมัดจำบ้างก็ต้องยอมเสีย"
- ก็เหมือนเดิมนะครับ ค่าปรับหรือมัดจำ คือเงินภาษีของผม ท่านพูดแบบนี้ ขาดความรับผิดชอบหรือไม่? ถ้าเรามีสัญญากับประเทศอื่นมาแล้ว แล้วจู่ ๆ เราเล่นการเมืองกันเอง บอกว่าไม่เอาแล้ว ยกเลิกดีกว่า ต่อไปใครเขาจะเชื่อถือเราครับ ใครเขาจะมาค้าขายกับเรา ถ้าเราทำอะไรเป็นเด็กไม่รู้จักโตแบบที่ท่านว่ามานี้ แค่ปิดสนามบิน ล้มการประชุมอาเซียน ยังไม่พออีกหรือครับ?
ผมเห็นด้วยที่ควรจะเลื่อนการจัดหาอาวุธที่ยังไม่เร่งด่วนออกไปเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ตรงนี้ผมก็พูดอยู่เสมอ แต่ที่ท่านบอกว่าหยุดปีนี้แล้วห้ามไปโถมซื้อปีหน้านี้ สรุปมันยังไงกันแน่ครับ ผมไม่เข้าใจ ผมไม่เคยเห็นด้วยที่ไทยจะจัดหาอาวุธอะไรที่มากเกินไปและใหญ่เกินตัว หลายครั้งผมออกมาคัดค้านเองด้วยซ้ำ แต่ถ้าไม่มีเลย มันก็ไม่ถูกครับ มิเช่นนั้นจะมีกองทัพไว้ทำไม ตอนที่ประเทศเพื่อนบ้านยิงเรา ท่านไปจับปืนสู้แทนเอาไหมครับ? ถ้าเอาผมจะเลิกบ่นครับ
ซึ่งเอาเข้าจริง รัฐบาลท่านมิใช่หรือครับที่เป็นคนประกาศแผนการจัดหาอาวุธ 9 ปีมูลค่าสองแสนล้านบาท ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ก็ทำตามแผนที่ท่านร่างเอาไว้? อ้าว แล้วยังไงก็แน่ครับเนี๊ย ท่านค้านในสิ่งที่ท่านริเริ่มมาเองเหรอครับ? ผมไม่เข้าใจจริง ๆ?
อาวุธหลาย ๆ อย่าง ผมเห็นด้วยที่ควรจะชะลอเอาไว้ หลาย ๆ อย่างผมไม่เห็นด้วยที่จะจัดหามาด้วยซ้ำครับ แต่การที่เราจะคัดค้านหรือสนับสนุนอะไร ควรจะต้องใช้ข้อมูลที่ถูกต้องครับ เพราะมิฉะนั้นอาจจะเสี่ยงที่ทำให้เราถูกมองว่ามีผลประโยชน์แอบแฝงได้
ผมเห็นกรรมมาธิการทหารของสหรัฐแล้ว รู้สึกชื่นชมเป็นอันมาก เพราะข้อมูลที่ออกมาจากการแถลงข่าวของพวกเขา ล้วนเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และมีความถูกต้องมากมาย หลาย ๆ ครั้งสามารถทำให้กองทัพไม่กล้าเถียง เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ถูกต้องจริง ๆ นักการเมืองสหรัฐ สามารถสั่งให้ปิดสายการผลิต F-22 และเพิ่มงบประมาณให้ F-35 ได้ โดยกองทัพอากาศไม่มีสิทธิบ่น เพราะเขาจนต่อเหตุผลจริง ๆ
ผมอยากเห็นกรรมมาธิการทหารแบบนี้ในเมืองไทยครับ ผมอยากเห็นกรรมมาธิการทหารของไทยที่สู้เพื่อปกป้องเงินภาษีของผม ผมอยากเห็นกรรมมาธิการทหารของไทยที่มีวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคงได้อย่างแท้จริง ผมอยากเห็นกรรมมาธิการทหารที่พูดเพื่อประเทศไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายใด ขอให้ท่านกรรมมาธิการทหารทำให้ผมเห็นเป็นบุญสักครั้งหนึ่งเถิดครับ
ส่วนในส่วนนี้ ขอฝากถึงกองทัพครับ
ในฐานะที่ผมก็เป็นผลเรือนคนหนึ่ง อยากจะขอร้องกองทัพให้กองทัพช่วยกันฝ่าวิกฤตไปด้วยกันครับ
แต่ก่อนผมเคยเรียกร้องเสมอว่า งบประมาณกลาโหมของประเทศ อยู่ในระดับต่ำมาตลอดหลังวิกฤตปี 40 จนกองทัพไม่สามารถปฏิบัติการได้เต็มประสิทธิภาพ
ท่านนายกรัฐมนตรี ก็ตระหนักถึงปัญหานี้ดี เหมือนที่ท่านได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ตอนนี้กองทัพได้รับงบประมาณราว ๆ 150,000 ล้านบาท หรือราว 1.7% ของ GDP แน่นอนแม้จะยังสู้เพื่อนบ้านไม่ได้อยู่ดี แต่อย่างน้อยยังดีกว่าเมื่อก่อนมาก
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า งบประมาณจำนวนนี้ แม้จะไม่ได้มากมาย แต่ก็ถือว่า เหมาะสมกับกับเราแล้วล่ะครับ
ดังนั้น ช่วงปีหลัง ๆ นี้ ผมมักจะเปลี่ยนข้อเรียกร้องใหม่เสมอ
คือเรียกร้องให้กองทัพปฏิวัติตัวเองครับ
ปฏิวัติตัวเองในที่นี้ คือการปฏิวัติโครงสร้าง ปฏิวัติการบริหารงบประมาณ ปฏิวัติแนวคิด
การปรับโครงสร้างของกองทัพไทย มีความจำเป็นสูงสุด เนื่องจากโครงสร้างกองทัพของเรา เก่าแก่และล้าสมัย ไม่ทันยุคครับ งานวิจัยของสถานบันการศึกษาของกองทัพหลายชิ้นก็ชี้เช่นกัน
ดังนั้น อยากให้กองทัพทำให้มันเกิดขึ้นจริง คือกล้ายุบเลิก รวบรวมหน่วยงานที่ซ้ำซ้อน กล้า Outsource งานบางอย่างให้เอกชนทำ กล้าตัดลดตำแหน่งในระดับสูง เพื่อความอ่อนตัวและทันสมัย
การลดงบประมาณเหล่านี้ คือการตัดลดรายจ่ายประจำ ซึ่งมีสัดส่วนที่สูงกว่าครึ่งหนึ่งของรายจ่ายของกองทัพ เมื่อรายจ่ายประจำลดลง งบลงทุนก็จะเพิ่มขึ้นเองโดยอัตโนมัติ นั่นหมายถึงว่า กองทัพมีเงินมาซื้ออาวุธมากขึ้น มาใช้ในการฝึกมากขึ้น ทหารสามารถออกฝึกภาพสนามได้มากขึ้น เรือรบสามารถออกทะเลได้นานขึ้น นักบินสามารถบินได้ชั่วโมงมากขึ้น
หลายหน่วยงานของกองทัพ ยกเลิกได้ เลิกได้ ควบรวมได้ ปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพในการปฏิบัติการลดลงเลย ตรงกันข้าม กลับเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้วยซ้ำ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานไหน ผมเชื่อว่าผู้บริหารกองทัพซึ่งรับผิดชอบโดยตรง ทราบและเข้าใจดียิ่งกว่าผม เพราะผมก็เป็นเพียงคนนอกกองทัพ
ถ้ากองทัพสามารถปฏิวัติตัวเองสำเร็จ ก็จะเป็นตัวอย่างให้กับหน่วยงานราชการอื่น ๆ ได้ และลดข้อครหาที่ว่า กองทัพเป็นแดนสนธยา เป็นรัฐซ้อนรัฐ ลงได้มาก
ซึ่งแม้ว่าทุกวันนี้กองทัพจะเริ่มต้นปรับโครงสร้างแล้ว แต่ก็อยากให้เร่งสปีดให้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น
และอีกประเด็นหนึ่งก็คือ การปรับลดงบประมาณกลาโหมครับ
กองทัพถูกตัดงบลง 2 หมื่นล้านบาท แม้จะคิดเป็นราว 10% ซึ่งดูตัวเลขแล้ว รู้สึกได้ว่าค่อนข้างมาก
แต่ก็มิได้หมายความว่า กองทัพจะถูกตัดลดงบประมาณตลอดไป และกองทัพก็ไม่ใช่หน่วยงานเดียวที่ถูกตัดลดงบประมาณ หน่วยงานของรัฐบาลทุกหน่วยงาน ต่างถูกตัดลดงบประมาณทั้งสิ้น
แม้ว่ากองทัพจะสามารถชี้แจงถึงความจำเป็นได้ ซึ่งก็เป็นสิทธิในฐานะหน่วยงานราชการหน่วยหนึ่ง
แต่สุดท้าย ผมก็อยากเรียกร้องให้กองทัพ ร่วมกันฝ่าวิกฤตที่กลับมาอีกครั้งในตอนนี้ เลื่อนการจัดหาโครงการที่ยังไม่เร่งด่วนออกไปครับ
โครงการไหนเร่งด่วน โครงการไหนไม่เร่งด่วน ผมเชื่อว่ากองทัพทราบดี
แน่นอนบางโครงการที่สำคัญสำหรับการปฏิบัติงานก็อาจจะยังคงไว้ต่อไป แต่ถ้า F-16 จะถูก MLU ช้าไปสักสองสามปี เรือฟริเกตสมรรถนะสูงจะจัดหาช้าไปสักสองสามปี รถถังใหม่จะล้าช้าไปสักสองสามปี ผมก็ยังเชื่อว่า มันยังไม่วิกฤตถึงขั้นปฏิบัติงานไม่ได้
แต่ตอนนี้ประเทศเราประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ แม้ว่าจะยังไม่รุนแรงเท่ากับต้มยำกุ้ง แต่ก็ถือว่า หนักหนามากทีเดียว
เราต้องการงบมากระตุ้นเศรษฐกิจ เช่นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันระยะยาวของประเทศ รวมถึงอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อสร้างเงินใหม่ ๆ ในระบบเศรษฐกิจ
เราต้องยอมรับว่า งบประมาณที่จะใช้ในการนี้ มีความเร่งด่วนสูงสุด และถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเช่นกัน
ผมชื่นชม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่รีบออกมาให้สัมภาษณ์หลังรัฐบาลสั่งตัดงบว่า กองทัพยอมรับได้ นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีมากครับ
ประเทศหลายประเทศต่างถูกตัดลดงบประมาณกันถ้วนหน้า แม้แต่กองทัพสหรัฐที่ปกติแทบไม่เคยถูกแตะต้อง ก็ยังถูกตัดลด ประเทศเพื่อบ้านเรา หลายประเทศก็ตัดลด หลายประเทศแม้ไม่ตัดลด แต่ก็ไม่เพิ่ม แต่บางประเทศที่ประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการซื้ออาวุธเพิ่ม เพียงแต่อาวุธที่เขาซื้อนั้นผลิตในประเทศของเขาเอง
ซึ่งถ้ากองทัพ อยากจะร่วมช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจ กองทัพก็สามารถทำได้ เช่นการจัดสร้างบ้านให้กับกำลังพล หรือการจัดหาอุปกรณ์ประจำตัวทหารให้กับกำลังพล ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ผลิตในประเทศ เนื่องจากเรายังขาดแคลนตรงนี้
แม้แต่การลงทุนจัดหาอาวุธที่ผลิตในประเทศ ก็ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ต่างจากการดำเนินโครงการเมกกะโปรเจ็คต่าง ๆ เช่นเดียวกัน เพราะมันก็สามารถสร้างงานให้กับประเทศได้
การต่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งของกองทัพเรือ สามารถเป็นตัวอย่างของการซื้ออาวุธเพิ่มพัฒนาประเทศได้ครับ เพราะเรือต่อที่อู่ของไทย บริษัทที่รับผิดชอบก็คือบริษัทไทย ต่อแล้ว สร้างงานให้คนไทย เงินหมุนเวียนในประเทศไทย สร้างเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทย และพัฒนาอุตสาหกรรมการต่อเรือไทยเช่นเดียวกัน
เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.991
กองทัพบกก็มีโครงการพึ่งพาตนเองที่น่าสนับสนุนหลายโครงการ รวมถึงโครงการระดับชาติก็คือ โครงการจรวดพื้นความมั่นคง ถ้าอยากกระตุ้นเศรษฐกิจ ของบซื้อรถชัยปราการเพิ่ม อุตสาหกรรมยานยนต์บ้านเราจะได้มีออเดอร์เพิ่มขึ้น หรือสั่งเสื้อเกราะไทยประดิษฐ์ให้มากขึ้น
โครงการในลักษณะนี้ ควรจะทำออกมาให้มาก ๆ ครับ
ทำแบบนี้ ไม่มีใครว่าหรอกครับ มีแต่คนจะชื่นชม เพียงแค่ทำให้มากขึ้นเท่านั้นเองครับ
วิกฤตเศรษฐกิจในตอนนี้ แม้ว่ามันจะยังไม่ใช่วิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดที่เราเจอ แต่มันก็ทำให้เราต้องลำบากกันอีกครั้งหนึ่งเช่นกัน
เราต้องการการร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย ในการที่จะผ่านมันไปให้ได้ วิกฤตในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากพื้นฐานของเรา ดังนั้น ก็คงอีกไม่นาน มันก็จะผ่านไป
ดังนั้น ตอนนี้ ทุกฝ่าย รวมถึงคนไทยทุกคน ต้องช่วยกันครับ
อ้างอิง
"รู้กันหรือยังว่ากองทัพบกทำวิจัยจรวดกับจีน"
//www.thaiarmedforce.com/forum/viewtopic.php?f=5&t=19
"กองทัพบกอิสราเอล ทะยอยรับมอบ Tavor"
//www.thaiarmedforce.com/forum/viewtopic.php?f=11&t=242
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลัขสิทธิ์ พุทธศักราช 2537 ห้ามนำออกจากเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงห้ามนำไปอ้างอิงเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองไม่ว่าจะกลุ่มใดหรือฝ่ายใด และถือว่าผู้อ่านยอมรับข้อตกลงนี้แล้วเมื่อเข้ามาอ่าน ผู้เขียนสวงนสิทธิ์ที่จะบอกปัดความรับผิดชอบทุกประการถ้ามีการละเมิดข้อตกลงนี้
Create Date : 13 พฤษภาคม 2552 |
|
28 comments |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2552 18:55:07 น. |
Counter : 3218 Pageviews. |
|
|
|