20 ปี ของ F-16 แห่งกองทัพอากาศไทย - RTAF 20th Anniversary of F-16
20 ปีแล้วครับ
นับจากการเข้าประจำการครั้งแรกในปี 2531 จนถึงวันนี้ F-16 ของกองทัพอากาศไทยมีอายุครบ 20 ปีพอดี F-16 เป็นกำลังรบหลักของกองทัพอากาศไทยมาตลอด ถือได้ว่าเป็นเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูงที่สุดของประเทศในปัจจุบัน จากเที่ยวบินหลายพันเที่ยว ชั่วโมงบินหลายหมื่นชั่วโมง F-16 ทั้ง 59 ลำของไทยไม่เคยประสบอุบัติเหตุตกเลยแม้แต่ครั้งเดียว และในโอกาสครบรอบ 20 ปีของ F-16 ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ F-16 แห่งกองทัพอากาศไทย เพื่อที่จะคงความเหนือกว่าในน่านฟ้าของกองทัพอากาศไทยไปอีก 20 ปีข้างหน้า
วันนี้มีภาพสวย ๆ จากงานฉลองครบรอบ 20ปี F-16 ที่กองบิน 1 มาฝากครับ ..... อ้อ ผมไม่ได้ถ่ายเองนะครับ ได้มาจากพี่ที่รู้จักกันครับ
หลังจากการยึดอำนาจของอยาโตลา โคมัยนี่จากพระเจ้าซาร์ในอิหร่าน ทำให้อาวุธอันทันสมัยหลายรายการของสหรัฐถูกส่งไปให้สหภาพโซเวียตทดสอบและวิเคราะห์ สหรัฐอเมริกาโดยประธานาธิปดีจิมมี่ คาร์เตอร์จึงประกาศโครงการ FX Export Fighter ซึ่งจะขายเครื่องบินขับไล่ที่ลดประสิทธิภาพให้กับชาติพันธมิตรแทนการขายรุ่นที่ทันสมัยของตน แบบแผนของเครื่องบินขับไล่ F-16/79 ของ Lockheed Martin ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะเหนือ F-20 Tiger Shark ของ Northrop Gramman การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ F-16/79 แตกต่างจาก F-16A/B ก็คือการตัดความสามารถในการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ลดน้ำหนักบรรทุกและพิสัยบิน ลดความสามารถในการปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดิน เปลี่ยนเครื่องยนต์จาก F100 ให้เป็นเครื่องยนต์แบบ J79 ซึ่งให้แรงขับต่ำกว่า และมีราคาถูกราว 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดตามค่าเงินในปี 1980) โดยสหรัฐอนุญาตให้ส่งออกเครื่องบินรุ่นนี้ไปยังพันธมิตรกว่า 20 ประเทศ กองทัพอากาศสิงคโปร์เป็นชาติแรกที่สั่งซื้อ F-16/79 ในปี 1985 โดยสั่งซื้อจำนวน 8 ลำในโครงการ Peace Carvin I แต่มีข้อแม้ว่าถ้าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถจัดหา F-16A/B ได้แล้ว สิงคโปร์จะเปลี่ยนไปจัดหา F-16A/B แทน
ในช่วงเวลาเดียวกัน หลังจากการปลดประจำการเครื่องบินโจมตีฝึกแบบที่ 13 หรือ T-28D ในช่วงปี 2524 - 2528 กองทัพอากาศไทยได้เริ่มโครงการจัดหาเครื่องบินแบบใหม่เพื่อทดแทนบ.จฝ.13 จำนวน 1 ฝูงบิน โดยมีบริษัทที่เสนอแบบแผนอากาศยานให้พิจารณา 2 แบบคือ F-16A/B Block 15OCU และ F-20 โดยกองทัพอากาศได้ทำการเลือกแบบผู้ชนะเป็น F-16A/B Block 15OCU แต่รัฐบาลสหรัฐต้องการให้ไทยจัดหา F-16/79 ตามนโยบายที่กล่าวมาข้างตน รัฐบาลไทยอ้างถึงความจำเป็นในการที่จะต้องมีเครื่องบินที่ทันสมัยไว้รับมือกับการวางกำลังของ MiG-23 ในเวียดนาม จึงยืนยันความต้องการจัดหา F-16 A/B Block 15OCU ต่อรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากบริษัทผู้ผลิตที่มองว่า F-16A/B จะมีอนาคตมากกว่า F-16/79 ที่แม้แต่ประเทศผู้ผลิตก็ยังไม่จัดหาเข้าประจำการ หลังจากการกดดันอย่างหนักจากทั้งบริษัทผู้ผลิตและรัฐบาลไทย ในที่สุดรัฐบาลสหรัฐก็อนุมัติขาย F-16A/B Block 15OCU ให้กับประเทศไทยในปี 2528
F-16A/B Block 15OCU จึงกลายมาเป็นเครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 ในประวัติศาสตร์เกือบ 1 ศตวรรศของกองทัพอากาศไทย ..........
กองทัพอากาศไทยจัดหา F-16 ใน 4 โครงการคือ
Peace Naresuan I
กองทัพอากาศจัดหา F-16A Block 15OCU จำนวน 8 ลำ และ F-16B Block 15OCU จำนวน 4 ลำในปี 2528 ได้รับมอบเครื่องบินเข้าประจำการในปี 2531 ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราช
Peace Naresuan II
กองทัพอากาศจัดหา F-16 เพิ่มเติมอีก 6 ลำ เป็น F-16A Block 15OCU ทั้งหมด ได้รับมอบเครื่องบินเข้าประจำการในปี 2534 ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราช
Peace Naresuan III
ในปี 2537 กองทัพอากาศพิจารณาเครื่องบินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ โดยมีตัวเลือกคือ F-16A/B Block 15OCU, A-10, และ F-7M ซึ่งกองทัพอากาศได้เลือก 16A/B Block 15OCU เช่นเดิม โดยเป็น F-16A Block 15OCU จำนวน 12 ลำ และ F-16B Block 15OCU จำนวน 6 ลำ
F-16 ฝูงนี้ได้รับการออกแบบให้ทำภารกิจขับไล่โจมตีกลางคืนโดยเฉพาะ โดยติดตั้งกระเปาะช่วยเดินอากาศ (Navigation Pod) แบบ Rubis และกระเปาะชี้เป้า (Targeting Pod) ATLIS II โดยในรุ่นสองที่นั่ง ห้องนักบินด้านหลังถูกปรับปรุงเป็นที่นั่งของนายทหารอาวุธ (Weapon System Officer) ทำหน้าที่ทำงานกับระบบอาวุธและเรด้าร์ในการโจมตีภาคพื้นดิน ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ฝูงบิน 403 กองบิน 4 ตาคลี
Peace Naresuan IV
กองทัพอากาศได้จัดหา F/A-18C/D จำนวน 8 ลำเพื่อมาเป็นเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ของกองทัพอากาศไทย แต่จากวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนั้น ประเทศไทยประสบกับภาวะขาดงบประมาณอย่างรุนแรง ไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ กองทัพอากาศและรัฐบาลไทยจึงเจรจากับรัฐบาลสหรัฐให้ซื้อสัญญา F/A-18C/D ทั้ง 8 ลำกลับไป ปัจจุบัน F/A-18C/D ทั้ง 8 ลำประจำการอยู่ในหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ
แต่กำลังรบของกองทัพอากาศไทยยังขาดไปอีก 1 ฝูงบิน ในปี 2542 กองทัพอากาศจึงจัดหา F-16ADF มือสองจำนวน 16 ลำ เป็น F-16ADF ที่นั่งเดียว 15 ลำ และ F-16ADF สองที่นั่ง 1 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่เกินความต้องการของสหรัฐ โดยใช้เงินที่เคยจ่ายไปในโครงการจัดหา F/A-18C/D และเงินที่กองทัพอากาศฝากไว้กับรัฐบาลสหรัฐเพื่อดำรงความพร้อมรบของเครื่องบินของกองทัพอากาศ
F-16ADF นับเป็นเครื่องบินแบบแรกของกองทัพอากาศที่มีความสามารถในการใช้อาวุธปล่อยอากาศสู่อากาศระยะกลาง มีความสามารถในการโจมตีข้าศึกตั้งแต่ระยะเกินสายตา (Beyond Visual Range) โดยกองทัพอากาศจัดหา AIM-120 AMRAAM มาติดตั้งใช้เงินกับ F-16ADF ปัจจุบัน F-16ADF ประจำการอยู่ที่ฝูงบิน 102 กองบิน 1 โคราช
รับมอบจากกองทัพอากาศสิงคโปร์
ในปี 2547 กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้มอบ F-16A/B Block 15OCU จำนวน 7 ลำ (F-16A 3 ลำ และ F-16B 4 ลำ)ให้กับกองทัพอากาศไทยเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการที่กองทัพอากาศไทยอนุญาตให้กองทัพอากาศสิงคโปร์ใช้พื้นที่การฝึกในประเทศไทยได้ โดยทั้งหมดเป็น F-16 จากโครงการ Peace Carvin I ของสิงคโปร์
20 ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีทางด้านการบินทางทหารพัฒนาไปมาก ความสามารถของ F-16A/B ทั้ง 59 ลำอาจจะไม่เพียงพอที่จะรับมือกับเครื่องบินที่ทันสมัยกว่า แต่การจัดหาเครื่องบินใหม่ก็ต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก ดังนั้นกองทัพอากาศจึงมีโครงการปรับปรุง F-16 ที่ประจำการอยู่ โดยเราเรียกว่าการปรับปรุงช่วงครึ่งอายุ หรือ Mid-Life Upgrade (MLU) ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิคต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานอาวุธรุ่นใหม่ ๆ ที่สมัยได้ นอกจากนั้นยังได้ทำการปรับปรุงโครงการของเครื่องบินในโครงการ Falcon Up และ Falcon Star เพื่อยืดอายุการใช้งานออกไป โดยกองทัพอากาศวางแผนที่จะปลดประจำการ F-16 ลำสุดท้ายในปี 2583
โห่ย เขียนจนเหนื่อย ... หมดเรื่องประวัติไปแล้ว มาชมบรรยากาศของงานครบรอบ 20 ปี F-16 กันครับ
งานจัดขึ้นในวันที่ 28 พ.ค. 51 ที่ผ่านมา โดยมีพลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ (คนกลางในภาพ) เสนาธิการกองทัพอากาศ อดีตผู้บังคับฝูงบิน F-16 คนแรกของไทย มาเป็นตัวแทนของผู้บัญชาการทหารอากาศและทำการบินในวันนี้ ในงานมีทั้งการบินหมู่ของ F-16 ของไทย และพิธีสงฆ์เพื่อความเป็นศิริมงคลของทั้งเจ้าหน้าที่และอากาศยานครับ
วันนี้นักบินใส่ชุดบินสีดำซึ่งเป็นชุดพิธีการครับ
ภาพการบินหมู่ทั้ง 13 ลำของ F-16 จาก 3 ฝูงครับ นักบินฝึกกันเหนื่อยหน่อย เพราะการจะทำเครื่องบินทั้ง 13 ลำให้บินเป็นรูปร่างในแนวระนาบไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก
ปล่อย Flare หรือพลุความร้อนที่เอาไว้ใช้ลวงจรวดนำวิถีที่ตรวจจับความร้อนครับ ...... ถ้ายังจำกันได้วันเด็กปี 47 ก็มีการปล่อย Flare โชว์ครั้งหนึ่งครับ
ลูกนึงหลายตังค์อยู่ เลยไม่เอามาทิ้งเล่นมากนัก
นอกจากนี้ในโอกาสพิเศษนี้ กองทัพอากาศยังได้ทำสีลายพิเศษของ F-16 สามลำในกองบิน 1 โวยครับ โดยเป็นสีสองโทน คือ Tiger Red และ Tiger Blue สื่อถึงกองบิน 1 ซึ่งใช้เสือเป็นสัญลักษณ์
การออกแบบเริ่มจากการร่างแบบในคอมพิวเตอร์และเทียบกับขนาดของเครื่องบินจริง ส่วนการลงสีนั้นใช้ Airbrush พ่นลงไปด้วยมือครับ
ทีมงานที่ออกแบบและทำลายนี้เป็นทีมงานที่มีประสบการณ์การทำลายในการเฉลิมฉลองให้กับกองทัพอากาศในโอกาสพิเศษต่าง ๆ มานาน และทำมากว่า 10 ลำ รวมถึงลายฉลอง 15 ปีของ F-16 ด้วยครับ ........... ฝีมือไม่เบาทีเดียว
ปล. ลำที่ทำลายพิเศษเหล่านี้ได้ไปอวดฝรั่งที่ Pitch Black 2008 ณ ประเทศออสเตรเลียด้วยครับ
ภาพใกล้ ๆ ครับ ..... วันเด็กปีหน้าน่าจะได้ชมใกล้ ๆ ครับ
ถ่ายภาพหมู่กันหน่อยครับ
หมายเลขที่แพนหางดิ่งด้านหลังเป็นหมายเลขประจำตัวเครื่องจากสหรัฐครับ ส่วนหมายเลขมาตราฐานของกองทัพอากาศจะอยู่กลางลำตัว สำหรับหมายเลขของสหรัฐนั้น สองตัวหน้าเป็นเลขท้ายของปีที่ผลิต สามตัวหลังน่าจะเป็นลำดับการผลิตครับ ส่วนเลขของไทย สามตัวหน้าจะเป็นหมายเลขฝูงบิน สองตัวหลังเป็นลำดับของเครื่องบินในฝูงครับ
นาน ๆ ทีจะมีภาพ F-16 มาจอดเรียงกันให้ถ่ายแบบต่างประเทศสักครั้งนะครับ ดูแล้วยิ่งใหญ่ดีเหมือนกัน
ลองสังเกตุที่หลังนะครับ จะมีเส้น ๆ เหลี่ยม ๆ นูน ๆ ขึ้นมา นั่นคือการปรับปรุง Falcon Up ครับ การปรับปรุงนี้จะทำเฉพาะโครงสร้างของอากาศยานเท่านั้น โดยจะทำให้เครื่องบินมีอายุการใช้งานได้นานขึ้นและเพิ่มความปลอดภัยให้นักบินด้วยครับ โครงการนี้บริษัท TAI (Thai Aviation Industry) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของทอ.เป็นผู้ดำเนินโครงการ โดยจัดหาชุด Kit มาจาก Lockheed Martin ครับ
เมื่อปลายปีที่ผ่านมามีข่าวออกมาจากงาน Defense 2007 ในกรุงเทพ โดยJane's ซึ่งเป็นบริษัทข้อมูลด้านการทหารระดับโลกบอกว่า กองทัพอากาศไทยกำลังพิจารณาสัญญาการจัดหาชุด Kit จาก Lockheed Martin เพื่อมาปรับปรุง F-16 ของกองทัพอากาศทั้งหมดในโครงการ MLU และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาตัวแทนจากกองทัพอากาศสหรัฐประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกได้เข้าพบกับเสนาธิการทหารอากาศเพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดของโครงการ MLU และอาวุธที่กองทัพอากาศไทยต้องการเพื่อมาติดตั้งกับ บ. F-16, F-5, และ Gripen.
ส่วนตัวแล้วอยากให้ทำครับ เพราะพูดตรง ๆ ว่า F-16A/B ทุกวันนี้สู้เครื่องบินอื่น ๆ ในภูมิภาคได้ยาก ไม่ว่าจะเป็น Su-27/30 ของอินโดนิเซียกับเวียดนาม, F-16C/D และ F-15SG ของสิงคโปร์ หรือ F/A-18D, MiG-29N หรือ Su-30MKM ของมาเลเซีย ซึ่งถ้าจะจัดหาเครื่องบินใหม่ให้ครบทั้ง 3 ฝูง 59 ลำนั้น ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 150,000,000,000 บาท แต่ถ้านำ F-16 ทั้งหมดไปปรับปรุงในโครงการ MLU อาจจะใช้งบประมาณเพียง 20,000,000,000 - 30,000,000,000 บาท แต่ก็จะได้เครื่องบินที่ทันสมัยขึ้น มีระบบอิเล็กทรอนิคต์ต่าง ๆ ที่สามารถเทียบได้หรือเหนือกว่าเครื่องบินชั้นนำในภูมิภาค แต่ประหยัดเงินไปกว่า 4 - 5 เท่า
ถ้าทอ. จะทำคงไม่ได้ทำทีเดียวทั้งหมด แต่น่าจะค่อย ๆ ทะยอย ๆ ทำไปเนื่องจากงบประมาณมีจำกัด ........ ส่วน Gripen ล็อตที่สองอีก 6 ลำ ทอ.เจรจารายละเอียดครบถ้วนแล้วตั้งแต่การสั่งซื้อล็อตแรก โดยล็อตสองจะเป็น Gripen 6 ลำพร้อมกับ Saab 340 AEW&C อีก 1 ลำ แต่ล็อตสองจะมาหรือไม่นั้น คงต้องรอดูปีหน้าและขึ้นอยู่กับการเมืองด้วย!!! ......... รอดูกันต่อไปครับ
สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ
Create Date : 08 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2551 7:27:12 น. |
|
11 comments
|
Counter : 10935 Pageviews. |
|
|
|
ตอนนี้พี่หมีก็นอนอย่างเดียวเพราะกลางคืนจะไอมากจนนอนไม่ได้
แต่กลางวันหลับไม่เหลือ พออายุมากเป็นอะไรแล้วหายช้าจัง
เช้านี้คุณสามีก็เริ่มบ่นว่าเจ็บคออีกคนแล้ว