"Amputechture" โดย The Mars Volta Genres - Progressive Rock
Title - Day of the Baphomets Artist - The Mars Volta Album - Amputechture
วง The Mars Volta อันประกอบด้วยสองคู่หูชาวละติน อย่าง Omar Rodriguez-Lopez กับ Cedric Bixler-Zavala แต่เดิมนั้นมาจากวงพังค์ที่ชื่อ "At the Disco" ผู้ที่เข้ามาวนเวียนอยู่ในดนตรี Progressive และพยายามกำหนดแนวทางใหม่ด้วยตัวเอง ซึ่งเสียงตอบรับก็มีทั้งบวกและลบเป็นธรรมดา
ในอัลบั้ม Amputechture บางเพลงทำให้ผมมีความรู้สึกเหมือนถูกผี King Crimson ยุค 70's (ซึ่งเพี้ยนพอกัน) ตามหลอกหลอน โดยเฉพาะเพลง Tetragrammaton และเพลงอย่าง Day of the Baphomets ท่อนโซโล่แบบ Free Jazz ของมันก็ชวนให้นึกถึง 21th Schizoid Man กับ Picture of a City เหลือเกิน เพลงอย่าง Asilos Magdelana ก็เป็นเพลงเดียวที่มีเนื้อร้องเป็นภาษาสเปนทั้งหมด (แต่มีคนบอกว่าชื่อเพลงนี้ตั้งผิด จริง ๆ มันต้องเป็น Asilos Magdelanos) ก็เป็นเพลงที่เรียบง่ายที่สุดของอัลบั้ม กลิ่นละตินตลบอบอวล เพลงที่เคยออกเป็น Single อย่าง Viscera eyes ที่โจ๊ะและย่อยง่าย บวกกับท่อนโซโล่กีต้าร์ซึ่งต้องให้เครดิตกับ John Frusicante มือกีต้าร์รับเชิญจากวงพริกไทยเผ็ดร้อน (Red Hot Chilli Pepper) ซึ่งมาเป็นกีต้าร์ให้กับทุกเพลง
"On An Island" โดย David Gilmour Genres - Progressive Rock / Blue Rock
Title - On an Island Artist - David Gilmour Album - On an Island
เทพเจ้ากีต้าร์ของ Pink Floyd กลับมาทำอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน การที่เข้าได้ทำอัลบั้มเดี่ยวก็เป็นเหมือนว่าเขาได้โชว์พลังและความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งใน Pink Floyd สองอัลบั้มหลัง (Momentary Lapse of Reason กับ The Division Bell) ก็เริ่มแสดงความเป็น Gilmour อย่างเห็นได้ชัดเจนขึ้น จึงไม่แปลกที่ใครฟังอัลบั้มนี้แล้วจะรู้สึกนึกถึง Pink Floyd สองอัลบั้มหลังอย่างอดไม่ได้ โดยเฉพาะ The Division Bell ที่ตัวดนตรีจะออกมาโล่งสบาย อารมณ์ชิล-ชิล Mellow-Mellow เนื้อหาพูดถึงความสัมพันธ์ในแบบของผู้ที่มั่นคงแล้วในจิตใจ
จนตรงนี้แหละที่มีนักวิจารณ์เพลงในนิตยสารแห่งการวิจารณ์ชื่อดังเล่มหนึ่งเอามาเขียนแขวะ Roger Waters หนึ่งในเจ้าของตำนาน Pink Floyd ในพื้นที่วิจารณ์อัลบั้ม On an Island นี้ ซึ่งแกแขวะ Waters ไปเสียครึ่งบทความแล้ววกกลับมาหาอัลบั้มนี้เป็นระยะ ๆ เมื่อถอดจริตทางภาษาออกมาได้แล้วความหมายจะประมาณว่า "เห็นไหม เห็นไหม Gilmour เขาเข้าใจชีวิตขนาดไหน เนื้อหาก็เป็นผู้ใหญ่ ไม่เป็นวัยรุ่นอารมณ์ร้อน ติสท์แดก อีโก้จัด บ้าพลัง อย่าง Waters หรอก" ซึ่งมันทำให้ผมหมดศรัทธาในตัวนักเขียนผู้นี้ไปในบัดดล ผมเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่อชอบ Roger Waters แต่ไม่ได้เกลียด Gilmour เพียงแค่ชอบน้อยกว่า...และในฐานะของผู้ที่มี Pink Floyd ในหัวใจคนหนึ่ง ผมคิดว่าความเป็น Pink Floyd ขาดไม่ได้ทั้งฝีมือกีต้าร์เจ้าตำหรับของ David Gilmour และ ความโกรธของ มือเบสส์ คนแต่งเพลง เจ้าแห่งคอนเซปต์อัจฉริยะ อย่าง Roger Waters
จบจากเรื่องความมั่นคงภายใน (ซึ่งจริง ๆ Pink Floyd ถือว่าปิดตำนานไปใน Concert Live8 ปีที่แล้ว...อย่างสวยงาม) เข้ามาสู่ตัวอัลบั้ม อารมณ์ Mellow-Mellow นี้ไม่ใช่ความผิดบาปในดนตรี Progressive แต่อย่างใด ตัวอัลบั้มเริ่มต้นด้วย Instrumental ซึ่งเป็นเสมือน Intro อย่าง Castellorizon ก่อนจะเข้าสู่ Title Track ที่ฟังสบาย ๆ แล้วต่อด้วยเพลงนุ่ม ๆ อย่าง The Blue เพลงที่แรงขึ้นมาอีกหน่อย อย่าง Take a Breath กับ Red Sky at Night แม้แต่ This Heaven ที่ดูมีจังหวะจะโคน ไม่ค่อยดึงความสนใจผมเท่าไหร่ เพราะผมกลับคิดว่าถ้าจะละมุนละไม ก็ขอเอาแบบที่ฟังแล้วเคลิ้มกันไปเลยดีกว่า อย่าง Then I Close my Eyes นี้เป็นเพลงบรรเลงที่ฟังแล้วเหมือนขึ้นสวรรค์ การได้ Graham Nash กับ David Crosby มาช่วยทำให้ดนตรีในอัลบั้มนี้นั้นทำให้ฟังมีกลิ่น Folk ปนอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย เพลงมีหวาน ๆ อย่าง Smile ที่แอบมีเสียงของ Polly Samson ภรรยาของ Gilmour ผู้มีอิทธิพลกับดนตรีของเขามาก มาช่วยร้องคลอ โดยนอกจากนี้เธอยังช่วย Gilmour ในการแต่งเนื้อร้องอีกด้วย จนมีคนเรียกว่าเป็น Yoko Ono เบอร์สอง ดู ๆ แล้วคู่นี้น่ารักดีจริง ๆ มาจนถึงเพลงที่ผมชอบที่สุดอย่าง A Pocketful of Stone ที่ทั้งหวาน ทั้งเศร้า และร่มรื่น กับเนื้อหาที่พูดถึงชีวิตและความตายอย่างเข้าใจในความเป็นไป ก่อนจะจบด้วยเพลง Where We Start ลงอย่างหมดจด
Tracklist
1. Castellorization 2. On An Island 3. The Blue 4. Take A Breath 5. Red Sky At Night 6. This Heaven 7. Then I Close My Eyes 8. Smile 9. A Pocketful Of Stones 10. Where We Start
MV เพลง Smile ครับ
"Needing a better way To find my way home To your smile"
อันดับที่ 2
"Foiled" โดย Blue October Genres - Alternative Pop-Rock (With Post-grudge , Nu-Metal , Progressive etc. influenced)
Title - You Make Me Smile Artist - Blue October Album - Foiled
มาถึงตุลาฟ้าหม่นกันแล้ว Blue October เป็นวง Rock สมัยใหม่ จากรัฐ Texas โดยอัลบั้มนี้ถูกด่าเปิงจาก NME ว่ามันจะมั่วเกินไปแล้ว จะเอาแนวไหนก็เอาสักทางเซ่ !! แต่ตรงข้ามผมกลับรู้สึกว่าความหลากหลายแต่ล้วยย่อยง่ายของอัลบั้มนี้ทำให้เอามาฟังได้เรื่อย ๆ โดยไม่เบื่อ แต่ถึงจะย่อยง่าย แต่ในด้านดนตรีก็ไม่ทิ้งแฝงความซับซ้อนไว้นิดลงไป และถึงแม้จะหลากหลาย แต่ก็ไม่ถึงขั้นทิ้งความเป็น Blue October ไปเช่นกัน
เพลงที่ดังสุด ๆ คือเพลงเจ้าอารมณ์เนื้อหาปวดร้าวอย่าง Hate me นั้นก็ช่างจับใจ (ถึงผมจะไม่ถึงขั้นชอบมันเมื่อฟังแต่ครั้งแรกก็เถอะ) MV ของมันก็กดหัวจิตหัวใจเหลือเกิน ซึ่งโดยเนื้อหาของอัลบั้มนี้เท่าที่ดูแล้ว มันให้อารมณ์เด็กมีปัญหา วัยรุ่นเบื่อโลก อย่าง The Wall เสียจริง (แต่ The Wall รายละเอียดมันลึกกว่าอยู่แล้ว) แต่เพลงสดใส ๆ ก็มีอย่าง Into the Ocean , Everlasting Friend และ 18th Floor Balcony (แต่เพลงสุดท้ายยังมีอารมณ์หม่น ๆ อยู่นะ ว่าจะเอามาให้ฟังแล้ว แต่กลัวมันยาวเกินไป แล้วก็ Spoil ด้วย)
อัลบั้มนี้บางคนอาจจะเกลียดมันไปเลยก็ได้ มีอย่างที่ไหน กำลังซึ้ง ๆ กับ Pop-Rock เบา ๆ เหยาะเสียงคีย์บอร์ดแฝงตามไรเสียงฟังดู Progressive เล็ก ๆ อยู่ดี ๆ มันก็มาระเบิดหูตูด้วย เพลงที่โยน Nu-Metal ลงไปในหม้อเต็มก้อนอย่าง Drilled a wire through my cheek (ได้ข่าวว่าเพลงนี้เอาไปใช้ประกอบเรื่อง SAW 3 ด้วย แต่ผมยังไม่ได้ดู) ไอ่เพลง X-Amount of words ก็อย่างกับหลุดมาจาก Club Dance สลัว ๆ ไหนจะไอ่ Overweight ที่เริ่มต้นด้วยเสียงแมนโดลิน แล้วมันก็พากันร้องอย่าง Rap Rock ที่ไม่วายปูเสียงเครื่องสายไว้เป็นฉากหลัง แล้วยังเพลง Let it go ที่มันมีเสียงหีบเพลงปากมาทำ Folk อะไร!? ไหนจะ You Make me Smile กับ She's my ride home ที่มีซาวน์ Brit ปน ๆ มา ไอ่เพลงหลังนี้ตงิด ๆ นึกถึง Joy Division ได้ไงก็ไม่ทราบ ทั้งที่มันไม่ Gothic เลย
Tracklist 1. You Make Me Smile 2. She's My Ride Home 3. Into The Ocean 4. What If We Could 5. Hate Me 6. Let It Go 7. X-Amount Of Words 8. Congratulations 9. Drilled A Wire Through My Cheek 10. Sound Of Pulling Heaven Down 11. Everlasting Friend 12. 18th Floor Balcony (including hidden track "It's just me.")
อันดับที่ 1
"Modern Times" โดย Bob Dylan Genres - Folk-Rock , Country-Rock
Title - Working Man Blue #2 Artist - Bob Dylan Album - Modern Times
สูงสุดคืนสู่สามัญ... เที่ยวเสาะหาความซับซ้อนมาสนองหัวใจซ้อนซับของตน แล้วก็พ่ายแก่ Folk-Rock ง่าย ๆ ของสุดยอดSinger/Songwriter ผู้ยิ่งใหญ่ของหนุ่มสาวแห่ง ศต.ที่ 20 Bob Dylan มากับอัลบั้มใหม่ที่ทั้งก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ไม่ลืมท่วงทำนองเก่า ๆ ทำให้เมื่อผมฟังอัลบั้มนี้แล้ว มันอดใจนึกถึงอะไรเก่า ๆ ในหลาย ๆ อัลบั้มแกไม่ได้ แม้ว่าชื่ออัลบั้มจะบอกว่า Modern Times (ซึ่งน่าจะตั้งตามชื่อหนังของ Charlie Chaplin) ก็ตาม
เพลงในอัลบั้มนี้ มีทั้งเพลงเร็วจังหวะน่าโยกตัวสลับกับเพลงช้า ไพเราะเรียบง่าย เนื้อหาลึกซึ้ง กินใจ เพลงอย่าง Spirit On the Water , When the deal goes down ทำให้ผมคิดถึงใครบางคนจนเสียน้ำตามาให้มันหลายครั้งแล้ว
ถ้าให้พูดจริง ๆ ผมออกจะชอบเพลงช้าในอัลบั้มนี้มากกว่าเพลงเร็ว เสียงของ Bob Dylan โดยเฉพาะในเพลง When the Deal goes down ฟังดูอบอุ่น อ่อนโยน ระบายสีให้ท้องฟ้ายามเย็นแบบราง ๆ ผมรู้สึกว่ามันช่างชีวิตและจับใจเหลือเกิน เกินกว่าจะบรรยายด้วยคำไหน ๆ แล้ว
ถึงยังไงก็ตามสำหรับ Bob Dylan ที่พี่ชอบแล้ว อัลบั้ม Modern Times ก็เป็นอัลบั้มอันดับหนึ่งของผมสำหรับปีนี้เช่นกัน
Tracklist 1. Thunder On The Mountain 2. Spirit On The Water 3. Rollin' and Tumblin' 4. When The Deal Goes Down 5. Someday Baby 6. Workingman's Blues #2 7. Beyond The Horizon 8. Nettie Moore 9. The Levee's Gonna Break 10. Ain't Talkin'
555 อันดับ 1-5 ของชาโดว์นี่โอ้ว ข่อยไม่ได้ฟังซักอัลบัมเลยอะ ข่อยว่า จขบ. นี่ฟังเพลงไปไกลแล้วนะ เอิ๊กๆ ไอ่ The Mars Volta นี่มันเพี้ยนเอาเรื่องแฮะ อันดับ 4-3-2-1 เด่วไล่อ่านไล่ฟังอีกทีนะ แต่ Blue October ชักสนใจอยากลองซื้อมาฟังมั่งเหมือนกัน ไปหยิบดูหลายรอบแล้ว
เอ่อ ลืมไปว่ายังไม่ได้ฟังเพลงบล็อกนี้ เข้ามาฟังแล้วเปิด Mars volta ก่อนเลย แบบว่าอึ้งแดกมากกกกกกก เพลงจบเลยมาคอมเม้นท์ก่อนเลยนี่แหละ เพลงบ้าอะไร เริ่ดมากกกกกก
สมาชิกวงThe Mars Volta มาจากวง At the Drive-in ไม่ใช่เหรอคับ? วงTMVพัฒนาขึ้นทุกอัลบั้ม อัลบั้มล่าสุดนี่ก็จ๊าบเหลือเกิน เป็นวงโพรเกรสซีฟ ไซคีเดลิก ร็อค ที่ผสมดนตรีพื้นบ้านเข้ามาด้วย โดนๆ ต้องยกให้เป็นอัลบั้มแห่งปีสำหรับผมเหมือนกาน
กร้ากกกกก ฟังได้หมดทุกเพลงแล้ว สรุปว่าตอนนี้กรี๊ดแตกกับ Mars Volta มากกกกกกกกกกกกกกกกก สติเสียไปเลยอ่ะ เพลงอื่นในอัลบั้มมันเป็นอย่างนี้อ่ะป่าว จะได้ไปลองหามาฟังดู
เนื้อเพลงของแกสุดยอดจริงๆ
ตอนนี้ฟัง Don't think twice , It's Allright บ่อยๆ