Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
11 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
Bloggang ภาค "ความรักทำได้ทุกอย่าง" มามิโกะ โนโตะ นักพากษ์ในดวงใจมีอัลบั้มรวมเพลงกับเขาแล้ว!!






Mamiko Notos

ตั้งแต่ที่เริ่มติดตาม anime หรือ อนิเมชั่นญี่ปุ่น อยู่ห่าง ๆ บ้าง เข้าไป scream โฮก ๆ ร่วมกับพวกเขาบ้าง จนเริ่มรู้สึกเป็นการส่วนตัวว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ anime มีชีวิตชีวาแฝงฝังอยู่เป็นวัฒนธรรมป็อบขนาดนี้ได้ ไม่ใช่แค่งานภาพหรือเนื้อเรื่องอย่างเดียว ส่วนที่สำคัญมากอีกส่วนหนึ่งคือนักพากษ์ครับพี่น้อง! มันเริ่มจากการไปเอะใจกับเสียงพากษ์เสียงหนึ่งเข้าเพราะมันเป็นเสียงพากษ์ที่เป็นเอกลักษณ์เหลือเกิน เป็นเอกลักษณ์แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพากษ์ได้แต่บทซ้ำ ๆ ซาก ๆ เพราะคุณเธอพากษ์ได้หลากหลายบททีเดียวตั้งแต่เด็กผู้หญิงประถมชาวต่างชาติ (ที่ดันพูดภาษาบ้านเกิดตัวเองไม่ได้) บทเด็กหนุ่ม บทเย็นชา หรือตัวร้ายก็เป็นได้ แต่บทที่มักจะได้รับบ่อยที่สุดคือพวกสาวขี้อาย สาวเงียบ อะไรพวกนี้มากที่สุด แต่ไม่ว่าเธอจะพากษ์ใครผมจะจำได้ทันทีว่าเฮ้ย! ใช่เธอคนนี้พากษ์แน่นอน

คงเริ่มเดากันออกแล้วล่ะสำหรับแฟน anime กันผู้ที่ไม่ได้ติดตาม anime ผมก็ขอเฉลยแต่โดยดีว่าเธอคนนี้คือ มามิโกะ โนโตะ หรือที่หลายคนเรียกว่าเป็นเจ้าของเสียงแบบ "หวานเย็น" นั่นเอง (แน่ล่ะว่าอาจทีทุ้มโหด หรือถึงขั้นหวานแต่เย็นจนหนาวอะไรแบบนี้ปนมาบ้าง แต่ส่วนใหญ่รับประกันยี่ห้อเจ๊มามิโกะได้อย่างดี) เธอมีงานพากษ์มาตั้งแต่ปี ซึ่งมาถึงตอนนี้เธอก็อายุได้สัก 30 แล้ว ซึ่งจัดว่ากำลังสามสิบยังแจ๋งเลยทีเดียว

ไม่ใช่แค่เธอเป็นคนแรกเท่านั้นที่ทำให้ผมสนใจในนักพากษ์นะครับ นักพากษ์ที่ผมชอบมีหลายอยู่ แต่กับคนนี้นี่ จะให้เรียกว่า (หลง)รัก ไปแล้วก็คงได้ ถึงหน้าตาเธออาจไม่โมเอ๊ โมเอะ อะไรสักหนา แต่ได้ยินเสียงก็ชื่นใจแล้ว จนถึงขั้นคิดว่าจะตามดูการ์ตูนทุกเรื่องที่เธอพากษ์ให้ได้ แม้ว่า (เนื้อเรื่อง/ภาพ/ฯลฯ) ในการ์ตูนมันจะห่วยขนาดไหนก็ตาม (อย่างน้อยได้ดูตอนนึงจบพอทนไม่ได้ค่อยเลิกก็ยังดี) แต่เสียงของมามิโกะ โนโตะ นี้ยากนักที่จะหาข้อเสีย เว้นแต่การ์ตูนเรื่องนั้นหาดูไม่ได้จริง ๆ

ถึงในการ์ตูนบางเรื่องจะได้ชอบตัวละครอื่นมากกว่าตัวละครที่เจ๊มามิโกะพากษ์ (เช่นมิอุ ใน Ichigo Mashimaro , คิคุริ ใน Jigoku Shoujo สองภาคหลัง) แต่กับเสียงพากษ์ก็ยังยกให้เธออยู่ดี

ที่กะเริ่มเขียนถึงเธอในตอนนี้เพราะว่า เธอมีอัลบั้มรวเพลงกับเขาแล้วในชื่อเรียบ ๆ ว่า Mamiko Noto Character Song Collection ซึ่งแน่อนนว่าไม่ใช่ Original album (อัลบ้มที่ออกมาเฉพาะไม่ใช่พวกรวมเพลงเกี่ยวกับการ์ตูน) แบบที่ Horie Yui , Minori Chihara หรือ Nonaka Ai (คนหลังสุดน้ผมทนเสียงร้องเธอไม่ค่อยได้แฮะ -*-) ออกมาจนถือเป็นทั้งนักพากษ์และนักร้องไอดอลไปแล้ว

แต่ Mamiko Noto Character Song collection ก็ดังที่ชื่อมันบอกนั่นแล (พูดไปจะเป็น Captain Obvious เปล่า ๆ) ว่าเป็นรวมเพลงจากตัวละครต่าง ๆ ในการ์ตูนที่เธอพากษ์  อ๊ะ?...เอ๋?...งง? สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก Character Image Song คิดเสียง่าย ๆ ว่ามันเป็นการหากินกับความรักในนักพากษ์ และ/หรือ ตัวละครอย่างหนึ่งครับ โดยการที่นำนักพากษ์มาร้องเพลงโดยถอดแบบทั้งเสียงและคาแรกเตอร์จากตัวละครนั้น ๆ มา เช่น Character Image Song ของ นารุโตะ ก็จะให้คนพากษ์นารุโตะออกมาร้องด้วยเสียงแบบนารุโตะด้วยเนื้อหาและดนตรีที่สะท้อนตัวละครออกมา จึงต่างจากเพลงเปิดเพลงปิด (OP กับ ED) ที่จะให้วงป็อบ/ร็อค มาร้องเล่นกันไปเลย (จริง ๆ หลายเรื่องที่ขายตัวละครมาก ๆ ก็ใช้นักพากษ์ร้องก็มีครับ แต่ไม่ได้เป็นการสะท้อนแบบของตัวละครมากเท่า Image song)

อธิบายมายืดยาว วกเข้ามาพูดถึงอัลบั้มนี้กันเลยดีกว่า จริง ๆ ในฐานะแฟนผลงานผู้คลั่งไคล้ในตัวเจ๊แกคนนึงก็อยากบอกว่า ไอ่หลายเพลงในอัลบั้มนี้ผมไปโหลดมาฟังตอนมันแยกอยู่เดี่ยว ๆ ของมันแล้วล่ะครับ แต่ด้วยในฐานะของแฟนผลงานผู้คลั่งไคล้ (เช่นกัน) ผมก็ยังไปขวนขวายหามันมาฟังทั้งอัลบั้มอยู่ดีโดยไม่สนว่าเพลงจะซ้ำหรือเคยฟังมาแล้ว





นับว่าอัลบั้มนี้เอาใจคอแฟนเจ๊มามิโกะอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ เพราะแฟนแกส่วนใหญ่มักจะเริ่มชอบแกจากผลงานพากษ์ และเกือบจะเป็นศูนย์ที่เริ่มชอบแกจากผลงานเพลง (ซึงผมยอมรับว่าบางครั้งเธอก็ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่) เลยนอกจากจะเอาเพลงมารวม ๆ กันแล้ว ยังมีการนำ Monologue หรือบทพูด (พากษ์) จากตัวละครต่าง ๆ ของแกมาใส่ให้เคลิบเลิ้ม เป็นปลื้มนิสสันทีด้า ก่อนจะเอนจอยไปกับเสียงของแก/เธอ ในงานเพลง เช่น หลังจากเพลงช้า ๆ ซึ้ง ๆ ที่คนส่วนใหญ่รู้จักอย่าง Yuugao ซึ่งเธอร้องเป็นเพลงปิดให้เรื่อง School Rumble (และเป็นเหมือนความในใจของตัวละคร ยาคุโมะ ทสึกาโมโตะ อยู่กลาย ๆ) จบลง ก็มีเสียงเจื้อแจ้วขึ้นมาจนผมดีใจแทบตั้งตัวไม่ทัน เสียงนี้มัน Ana Coppola นี่นา! บทที่น่ารักที่สุดของเจ๊มามิโกะแกเลย จบ Monologue นี้ปุ๊บก็ขึ้นด้วย Character song ของ(คุณ)หนู Ana "Made in a girl"...ซึ่งผมว่า...ได้อารมณ์มากกว่าตอนฟังเดี่ยว ๆ เยอะเลย ...อะไรมันจะมีความสุขไปกว่านี้เนี่ย!

Monologue ในแทรคที่ 13 เนี่ยพอ เซ.....โนะ! (หนึ่ง....สอง!) ขึ้นปุ๊บก็ร้องอ๋อนึกถึงมัทสึริ ชิโฮะ จากเรื่อง Sola ตอนฉากที่เจอกับพระเอกครั้งแรกเลยเชียว (เธอนับหนึ่ง...สอง! แล้ววิ่งเข้าถีบตู้ขายน้ำที่กินเหรียญเธอไป) ...จะว่าไปมันไม่น่าจะเป็น Monologue (บทรำพึงคนเดียว) แล้วแฮะเพราะมันเป็นตัวละครที่เจ๊มามิโกะพากษ์มาสื่อสารกันชัด ๆ นี่นา

แทรคที่ 20 นี่ผมมองว่าเป็นดนตรีประกอบที่เหมาะสมกับเสียงร้องแบบมามิโกะ โนโตะ มาก ใช้เสียงเปียโนคลอและไม่ซ้อนเสียงมากนักในท่อนร้อง (หันมาใส่ลูกเล่นช่วงขั้นระหว่างท่อนแทน) หรือถ้าซ้อนก็เฟดมันไม่ให้กลบเสียงร้องของเจ๊มามิโกะแกมากนัก


 





Pros
- Monologue นี้ทำให้แฟน ๆ แกหายคิดถึงตัวละครหลายตัว และกับคนที่ไม่ค่อยรู้จักแกก็จะได้สัมผัสความสามารถทางเสียงพากษ์ของแกด้วยครับ
- แน่นอน !!! ได้ฟังเสียงเจ๊มามิโกะ
- รูปใน Booklet ให้ความรู้สึกแบบมามิโกะ โนโตะ ดีพอใช้ (น่าจะทำได้ดีกว่านี้)
- การเรียงเพลงและแทรก Monologue ทำได้ดี ชวนให้รู้สึกเต็มอิ่มมากจากต้นจนจบ เว้นแต่...

Cons
- บางเพลงดนตรีมันน่าเบื่อเกินไปครับ
- ไม่มีตัวละครดัง ๆ ของเธอที่คาดว่าจะมีอย่าง...เอนมะ ไอ ล่ะ!!
(เข้าใจว่าคาแรกเตอร์ของ เอนมะ ไอ ค่อนข้าง out of place พอสมควร แต่แม้ว่า Jigoku Shoujo จะเป็นแนวดราม่าแบบ "ซีเรียส" แต่เอนมะ ไอ เนี่ยถือเป็นส่วนหนึ่งในวิญญาณของเสียงพากษ์แบบโนโตะเลยครับ "Enma Ai is a part of Noto-san's voice casting soul")
- โนกิซากะ ฮารุกะ ก็ไม่มี เจอแต่ตัวละครที่ไม่ค่อยดังทั้งนั้นเลย
- โคโตมิ อิชิโนเสะ จาก Clannad นี้ไม่รู้แกมีเพลง image song กับเขาหรือเปล่า แต่อย่างน้อยโคโตมิ นี้ก็ดังมากเมื่อเทียบกับตัวละครอื่น ๆ ในนี้

มาดูกันดีกว่าว่าในอัลบั้มนี้มีเพลงและ/หรือบทพูดของตัวละครไหนอยู่บ้าง


เริ่มต้นเพลงแรก  Kimi he no Tabi เป็นของ Azuma Haduki ตัวละครแนวสาวห้าวที่หลงรักพี่สาว (?) ตัวเอง ในเรื่อง Yami to Boushi to Hon no Tabibito ที่เป็นแนวแฟนตาซีแบบแปลก ๆ ตัวละคร Haduki นี้เองต้องไปผจญภัยในโลกหนังสือเพื่อตามหาพี่สาวของเธอที่ผายตัวไป ...อยากบอกว่าเรื่องนี้ผมเคยดูตอนเดียวเองครับ เพราะไม่ค่อยชอบสไตล์การเล่าเรื่องมันเท่าไหร่ ทั้ง ๆ ที่ พล็อตมันอาจเจ๋งมากก็ได้นะ ...เพลงนี้เป็นเพลงจังหวะกลาง ฟังได้เรื่อย ๆ เพราะดีเหมือนกัน

Feel the Glow นี้เป็นของ Lilica Evett จาก Burn-up Scramble ซึ่งแทบไม่เป็นที่รู้จักเลย ผมเองก็จนปัญญาจะทราบเหมือนกันว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ดนตรีเพลงนี้อัพบีทขึ้นมาหน่อย ดูเร่าร้อนและมีไดนามิคดี แต่ดูไม่ค่อยเข้ากับเสียงร้องของเจ๊มามิโกะเท่าไหร่ เพราะเสียงเจ๊แกเป็นธาตุเย็นแบบเต็ม ๆ ครับ มาร้องเพลงร้อน ๆ ไม่ไหวแน่

Yuugao เป็นเพลงที่รู้จักกันดีสำหรับแฟน ๆ ยาคุโมะ ทสึกาโมโตะ (Yakumo Tsukamoto) จากเรื่อง School Rumble น่าเสียดายว่าเรื่องนี้ดังแท้ ๆ คาแรกเตอร์ยาคุโมะก็เป็นที่นิยมของแฟน ๆ เจ๊มามิโกะมาก (บางคนเจอเจ๊แกร้องเพลงนี้แล้วส่งเสียงเชียร์แต่ ยาคุโมะ ยาคุโมะ กันใหญ่) แต่กลับไม่มี Monologue ของเธอเสียนี้ --- เรื่องตัวเพลงนี้ผมถือว่าเป็นเพลงบัลลาดป็อบโอลด์สคูลที่ได้กลิ่นป็อบตะวันออกยุคเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ถือว่าเพราะและเหมาะกับเสียงแบบมามิโกะ โนโตะ มาก ๆ



(เรียงตามลำดับซ๊ายไปขวา)
Ana Coppola คุณหนูจากอังกฤษที่ดันเก่งภาษาญี่ปุ่นมากกว่าภาษาบ้านเกิดตัวเอง , Azuma Haduki สาวห้าวในการ์ตูนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก , และ ยาคุโมะ ทสึกาโมโตะ จาก School Rumble ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ มาก



Made in Onnanoko (a.k.a. Made in a girl) - เพลงของ Ana Coppola จาก Ichigo Mashimaro ตัวละครโปรดของผมเอง Monologue ของเธอนี้ทำผมละลายได้เลย ^0^ ต้องขอบคุณเจ๊มามิโกะมาก ๆ ทั้งที่ฟังไม่ออกเลย พอจบ Monologue แล้วขึ้นเพลงมานี้เข้ากันมาก ดนตรีเพลงนี้ก็ใช่ย่อยนะครับ พวกอินด้งอินดี้บางคนดูถูก Anime music แต่ไม่รู้เสียเลยว่าเพลงนี้ฟังดี ๆ มันเรียบเรียงได้ดีมาก (ไม่เหมือนโพสท์พังค์สั่ว ๆ บางวง) เทกเจอร์คีย์บอร์ด (ไม่ก็สังเคราะห์) ของมันสื่ออารมณ์คุณหนูจากอังกฤษของ Ana ได้อย่างดี เสียงเจ๊มามิโกะก็สื่อความ(แอ๊บ)แบ๊วของ Ana ได้น่ารักไม่หยอก

Zinc White เป็นเพลงประจำตัว Toujou Aya จากเรื่อง Ichigo 100% (คนละเรื่องกับ Ichigo Mashimaro นะ) ส่วน MORE... นี้เป็นของ Rinko Jerad จากเรื่อง Law of Ueki (เรื่องนี้ในบ้านเราฉบับหนังสือการ์ตูนจะใช้ชื่อ "ฝ่ามิติอลเวง" ฉบับอนิเมะชื่อ "แสบซ่าส์ ผ่ากฏเทพ") Zinc White นีดนตรีเพราะดีแต่อย่างกับภาคสองของ Kimi he no Tabi ยังไงอย่างงั้น ส่วน MORE... นี้จังหวะการร้องของเจ๊มามิโกะสะดุดหน่อย ๆ ซึ่งผมว่าเสียงกลอง (ไฟฟ้า?) มันดังจนรกไปหน่อย เสียงเครื่องสายนี้ผมชอบนะได้อารมณ์ดี






แปะแบบขี้เกียจสุดตรีน เอา Youtube ของคนอื่นเขามาฮ่า ๆๆๆ

Harukaze หรือสายลมฤดูใบไม้ผลิ มาจาก Satou Ayano เรื่อง Joshi Kousei หรือ High School Girl .....เคยได้ยืนชื่อเรื่องนี้เหมือนกันครับ แต่ไม่เคยดูหรืออ่านเรื่องนี้เลย จากข้อมูลที่หามาทำให้รู้ว่าเป็นคาแรคเตอร์ตามแบบฉบับของเจ๊แกอีกแล้ว คือสาวขี้อาย ส่วนเพลงนี้น่าเบื่อเอาการ เสียงร้องแกก็ดูไม่เป็นธรรมชาติเลย ชอบอยู่อย่างเดียวคือเสียงขลุ่ยญี่ปุ่น (หรือเปล่านะ) ที่โผล่มาแบบแอบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ในบางช่วงของเพลง



(ซ้ายไปขวา) Toujou Aya จาก Ichigo 100% , Masane Amaha จาก Witchblade , และ Matsuri Shihou จาก Sola



Ashita no Te เป็นเพลง ED ของเรื่อง Witchblade (ฉบับ anime ญี่ปุ่น) ซึ่งเรื่องนี้มามิโกะ โนโตะ พากษ์เป็นคุณแม่ยังสาว (อายุ 25) คือ Amaha Masane เพลงนี้เป็นเพลงป็อบช้า ๆ วางเลเยอร์ไม่ซับซ้อนซึ่งผมว่าเหมาะกับเสียงร้องแบบเจ๊มามิโกะมาก ๆ

Yasou no Hibi ni เพลงของ Shihou Matsuri จากเรื่อง Sola หนึ่งใน anime แนวโรแมนติก ดราม่า ที่ผมประทับใจที่สุด ที่สำคัญคือแม้มัทสึริจะไม่ใช่คาแรกเตอร์แนวสาวขี้อายแบบฉบับของมามิโกะ โนโตะ แต่เจ๊แกก็ยังสามารถดึงเสน่ห์จากตัวละครออกมาผ่านน้ำเสียงของแกได้เป็นอย่างดี (ใน Monologue ตอน "เซ~~~โนะ" ซึ่งเป็นเสียงฉากที่เธอต่อยเครื่องขายน้ำที่กินเหรียญนี้ ทำเอาคิดถึงวันวานของ Sola ไปสองตลบ) ตัวเพลงนี้ธรรมดามาก ฟังได้เรื่อย ๆ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่

Kaze no Yukue มาจากตัวละคร Konoe Fumina ของเรื่องเนตรเพลิงชานะ II (Shakugan no Shana II) ซึ่งเรื่องนี้ผมดูถึงตอนที่สิบแล้วดองไว้ไม่ถึงตอนที่เจ๊มามิโกะมีบทพากษ์สักที ...พอฟังมาถึงตรงนี้ของอัลบั้มคงรู้สึกเหนื่อยกันบ้างละครับ แถมเพลงนี้ก็ยังเรียบ ๆ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่เลยด้วย




 Fumina Konoe กับ Hecate จาก เนตรเพลิงชานะ (คนหลังนี้เป็นตัวร้ายภาคแรกด้วย)
ว่าแต่ทำไมแกพากษ์สองตัวเลยล่ะ!! ...จุ๊ ๆ เป็นความลับของเนื้อเรื่องครับ



Watarase Kinu ---Who? , Tetsudou Musume ---What?
strawberry story เป็นชื่อเพลงที่ชวนให้นึกถึง Ichigo Mashimaro (มาร์ชเมลโลว สตรอวเบอร์รี่) มากกว่าเรื่องอะไรที่ผมไม่เคยรู้จักเลยแม้แต่นิดเดียวเรื่องนี้เลยนะ เพลงก็เป็นจังหวะกลาง ๆ ...แต่ไม่มีอะไรพิเศษน่าสนใจ เสน่ห์เสียงร้องของเจ๊มามิโกะในเพลงหลัง ๆ นี้เหมือนถูกเสน่ห์จากเพลงแรก ๆ กลบไปหมดแล้ว

UPDATE!! - เท่าที่หาข้อมูลมาพบว่า Tetsudou Musume เป็นชื่อเกมส์ของเครื่อง Nintendo DS ครับ

เป็น Trivia เสียหน่อยก็แล้วกันว่ามามิโกะ โนโตะ เนี่ยไม่ได้มีดีแคพากษ์การ์ตูน แต่ยังพากษ์ตัวละครในเกมส์ (อันนี้ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะนักพากษ์ทั่วไปก็มีผลงานในเกมส์บ้างล่ะ) แต่ยังมีบทพากษ์เป็น Narrator โฆษณาตั้งแต่ แมคโดนัลด์ , โตโยต้า , หนังเรื่องแมน ออน ไฟร์ , มิตสึบิชิ ,ผลิตภัณฑ์ขนมโมรินากะ (ในบ้านเรามีช็อตโกแล็ตยี่ห้อนี้ด้วย) , บริษัทการรถไฟโทบุ , ไปจนถึงสภาโฆษณาของญี่ปุ่น ฯลฯ เลยทีเดียว

Aozora loop (Shijou Mitsuki ver.) -album version- มาจากเรื่อง Kimi Kiss pure rouge เคยได้ยินชื่อเรื่องนี้เหมือนกันนะ แต่ยังไม่มีอะไรดึงดูดให้ตามหามาชมเท่าไหร่ ตัวเพลงนี้ฟังน่าฟังกว่าสองเเพลงที่ผ่านมาครับ คงเพราะเสียงเปียโนที่เข้ากับเสียงร้องของเจ๊มามิโกะมากเลยละมั่ง ^^ Monologue ช่วงหลังจบเพลงถึงแม้จะไม่รู้ว่าพูดว่าอะไร แต่ฟังแล้วเต็มอิ่มเหมาะปิดอัลบั้ม



Mitsuki Shijou จาก Kimi kiss ~ Pure Rouge



Taisetsu na Koto กับ Sono Basho he นี้ผมก็ไม่ทราบว่ามาจากไหนอีกเช่นเคย (เผลอ ๆ จะเป็นเพลง Original) แต่เมโลดี้เพลงแรกคุ้นหูมาก (หรืออาจเฝือมากก็ได้) แต่ฟังแล้วรู้สึก Nostalgia กับชีวิตยังไงไม่รู้ ^^ ขณะที่เพลงสุดท้ายของอัลบั้มนี้กลับมามีจังหวะจะโคนมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เป็นเพลงที่จัดอยู่ในระดับมาตรฐานของมามิโกะ โนโตะ ไม่ด้อยและไม่เด่น แต่ก็ถือว่าเป็นของหวานส่งท้ายที่น่ารัก จับใจดีครับ

Trivia - ผมสงสัยว่าหนึ่งในสองเพลงนี้เป็นเพลงที่แกเขียนขึ้นเองจากเหตุการณ์ที่เธอต้องไปอยู่โรงพยาบาลถึงหกเดือนในช่วงปี 2005 เพื่อตรวจดูอาการของโรคหัวใจ (อันนี้ยังไม่คอนเฟิร์มนะครับ)



มาดูตัวละครอื่น ๆ ที่ไม่มี "เสียง" ในอัลบั้มนี้ดีหว่า



ทิฟฟาเนีย เวสต์วูด จากเรื่อง "อสูรรับใช้ของยัยศูนย์สนิท" (Zero no Tsukaima) ที่เพิ่งมีฉบับหนังสือการ์ตูนในบ้านเรานี่เอง



อันนี้ก็ตัวละครใหม่อีกตัว จากเรื่อง "อินเด็กซ์ เจ้าหนูหมื่นตำราเวทย์" (Toaru Majutsu no Index) เธอคนนี้ชื่อ ไอสะ ฮิเมกามิ เสียดายบทน้อยไปหน่อย ทั้ง ๆ ที่นาน ๆ ทีจะได้เจอมามิโกะ โนโตะ พากษ์บทฮา ๆ (หรือจริง ๆ เธอฮาแค่ฉากนั่งหิวกระเป๋าแห้งในร้านฟาสต์ฟูด)




พูดถึงสาวขี้อายแล้ว คงไม่พูดถึง โนโดกะ จากเรื่อง "คุณครูจอมเวทย์ เนกิมะ" คงไม่ได้ (ว่าแต่เธอถูกโฉลกกับการ์ตูนแนวเวทย์มนต์เหมือนกันนะช่วงหลัง ๆ) --- จะว่าไปแล้ว มีเกือบสิบเพลงเลยมั้งที่เจ๊มามิโกะ ร้องด้วยเสียงของโนโดกะ แต่ไม่ยักกะมีในอัลบั้มสักนิด



จากใหม่ ๆ แล้วมาดูเก่า ๆ บ้างดีกว่า นารุเอะ จากเรื่อง "จอมป่วนต่างดาว นารุเอะ" (The World of Narue) เป็นบทเด่น (นางเอก) บทแรก ๆ เลยมั้งที่เธอได้พากษ์ มี trivia เล็กน้อยด้วยว่า เมื่อก่อนพ่อแม่เธอเปิดร้านหนังสือแล้วมีการ์ตูนเรื่องนี้ขายด้วย (สงสัยหายากมั้ง) ไม่รู้ว่าต่อมาลูกตัวเองจะได้มาพากษ์เป็นนางเอก (ปัจจุบันพ่อแม่เธอเลิกทำร้านแล้ว หวังว่างานพากษ์ของเธอคงทำเงินเลี้ยงพ่อแม่ได้นะ)



อะ ๆ เธอไม่ได้พากษ์แต่ Anime บันเทิง น่ารัก หรือพวกแนวล่อลวงโอตาคุอย่างเดียวนะ เรื่องแนวซีเรียส ๆ ก็ได้เสียงเธอพากษ์มาแล้ว อย่างบท Sagi Tsukiko ในเรื่อง "พารานอย เอเจนซ์" (Paranoia Agent) ...ใครชอบ Higurashi ชอบ Chaos:head ต้องไม่พลาดเรื่องนี้ครับ เป็น Psychological Thriller + Drama ผลงานกำกับของ Satoshi Kon (Perfect Blue , Millenium Actress , Paprika , Tokyo Godfathers) ...อยากเขียน Blog ถึงเรื่องนี้เหมือนกัน



ซีเรียสกันอีกเรื่องคือ แอนนา ลีเบิร์ท จาก "Monster คนปีศาจ" เจ้าของผลงานเดียวกับเรื่อง 20th Century Boys (แต่ 20th ดันไม่มี anime กลายเป็นหนังโรงไปก่อนเสียนี่)



ซากุระ อากิระ ในเรื่อง "นารุทารุ เพื่อนน้อยจากต่างดาว" (ShadowStar Naru Taru --ชื่อภาษาอังกฤษเมคเซนส์กว่าเยอะ) เป็นเด็กขี้อาย ที่เริ่มไม่โมเอะ ซะแล้ว เธอมีแผลในใจที่ลึกมากแล้วก็ดูเศร้ามากด้วย ผลงานเดียวกับผู้แต่ง โบกุราโนะ เป็นคนแต่งที่เก่งเรื่องทำร้ายจิตใจคนดูมากเชียวละ



โควตะ จากเรื่อง Kanokon ใช่แล้ว!! มามิโกะ โนโตะ พากษ์เป็น "หนุ่มน้อย" (Shota)



นอกจากสาวขี้อายแบบโนโดกะแล้ว ยังเป็นสาวห้องสมุดแบบโนโดกะอีกด้วย (เอ๊ะ! ยังไง)
เธอคนนี้คือ อิชิโนเสะ โคโตมิ แฟน ๆ anime ของค่าย Key คงรู้จักกันดี เป็นตัวละครที่ฮาแบบไม่ตั้งใจ (คิดดูแล้วกันว่าพอพระเอกโดดเรียนไปนั่งห้องสมุดก็เจอเธอนั่งอยู่ก่อน...ที่พื้น แถมพอคุยด้วยก็ตอบไม่ตรงคำถาม แล้วอยู่ ๆ ก็เอาข้าวกล่องออกมาชวนกินด้วยอีกแน่ะ) โดยส่วนตัวในเรื่อง Clannad ผมก็ชอบเธอที่สุดแล้ว



ผลงานใหม่ (เกือบจะ) ล่า่สุดที่มามิโกะ ได้พากษ์คือ บทสาวขี้อาย เป็นคุณหนู เป็นไอดอลของโรงเรียน ที่สำคัญคือ เป็นโอตาคุด้วย !!!
โนกิซากะ ฮารุกะ จากเรื่อง "จุ๊ ๆ อย่าบอกใครนะ ว่าฉันเป็นโอตาคุ" (์Nogizaka Haruka no Himitsu - คนไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นก็รู้เฟ้ย ว่าผมแปลชื่อไม่ตรงเลยสักนิด!)






คนสุดท้ายนี้ ถ้าคุณรู้จักมามิโกะ โนโตะ แต่ไม่รู้จักเธอ แสดงว่าคุณไม่รู้จักมามิโกะจริง!!
เธอคือ เอนมะ ไอ จากเรื่อง "ธิดาอเวจี" (Jigoku Shoujo) เจ้าของประโยคเด็ดที่พอคนเจอเจ๊มามิโกะ แล้วจะเรียกร้องให้เธอพูดคือ


"อยากลองตาย ดูบ้างไหมล่ะ"
(Ippen Shinde Miru?)


(จบคร้าบบบบบ ตัวใครตัวมันคร้าบบบบ)






Free TextEditor


Create Date : 11 กรกฎาคม 2552
Last Update : 11 กรกฎาคม 2552 5:00:57 น. 4 comments
Counter : 5708 Pageviews.

 


เพลงอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มนี้ครับ Ichinuke จาก Jigoku Shoujo Mitsuganae ที่ผมว่าเป็นเพลงปิดที่ดีที่สุดในสามภาคนี้เลย


โดย: ShadowServant วันที่: 11 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:53:39 น.  

 


Le Secret ที่เป็น Image song ของ โนกิซากะ ฮารุกะ นี้สงสัยใหม่เกินไป ทั้ง ๆ ที่คุณภาพเข้าท่าแท้ ๆ


โดย: ShadowServant วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:01:20 น.  

 


ด้วยความขี้เกียจอัพโหลดเองจัด เคยไปคุยตาม Youtube เอา (อีกตามเคย)

เพลงนี้เป็น Image song ของทั้งโนโดกะ กับเนกิ เป็นมามิโกะ โนโตะ ร้องคู่กับ รินะ ซาโต้ (คนพากษ์ตาเนกิ-ใช้...ผู้หญิงครับ) ดนตรีไ่มีอะไรเลยครับ แต่เสียงคู่ของสองคนนี้เข้ากันได้อย่างไม่คาดคิดมาก่อน


โดย: ShadowServant วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:08:58 น.  

 
"อยากลองตาย ดูบ้างไหมล่ะ"


ไม่อ่ะ ไม่อยากลอง


โดย: ดาริกามณี วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:13:30:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ShadowServant
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add ShadowServant's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.