Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
ธันวาคม 2560
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
14 ธันวาคม 2560
O ความรัก O
All Blogs
O ดิรัจฉานแห่งตักสิลา O
O เส้นทาง .. ที่วางทอด O
O ศรีอยุธยา .. O
O ความรัก O
O อุโฆษแห่งคำ .. O
O อัญชลีกรรม .. O
O โลกะสังวาส .. O
O กรรตุวาจก .. O
O ควันธูปและเปลวเทียน .. O
O ภุมรินและพินทุรส .. O
O จุดไฟ-ในนาคร .. ! O
O ลมรำเพย .. O
O รติภิรมย์ .. O
O คุรุชาติ .. O
O ทุรยุค .. O
O ปรารมภะบท .. O
O เพลงซอที่รอสี .. O
O รำพันพิลาป .. O
O ก่อนอัสดงคต .. O
O ขอบขันธปราการ .. O
O อุสุมะสมัย .. O
O ผู้เหนือโลก .. O
O หนึ่งในดวงใจ...O
O .. คืนแห่งจันทร์ .. O
O เพ็ญเดือน ๖ .. O
O เชิญจันทร์ .. O
O บุหรงรำแพน..O
O เจ้าอ่อนเอย...O
O ผู้หลงโลก..? O
O โวหารภาพพจน์....? O
O วรรณกรรม .. O
O ความรัก O
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
O ลมเห่ระเกสระพะยอม
ฉมะพร้อมภิรมย์เพ็ญ
วับไหว ณ นัยนะก็เห็น-
สุขะเต้นขจ่างตา
O เรื้องแหล่งเพราะแรงสิริพิลาส
รุจะธาตุทาบทา
เวียนว่อนภมรถวิละผา-
นิตะบ่าตะบึงบิน
O ผันผวนขบวนสกุณะเรียง
สรรพะเสียงก็แว่วยิน
ท่ามกลางนภางคะธรณิน-
นิระสิ้นประดาเสียง
O พบกันก็พลันอุระระส่ำ
นยะพร่ำ ฤ พอเพียง
แว่วล้วนก็ส่วนสุขะระเรียง
ขณะเคียงประคองคราญ
O พบเห็น ฤ เป็นกรรมะประณีต
ณ อดีตะบันดาล
เริ่มเหตุเพราะเดชอธิษฐาน
บุพะวาระร่วมหวัง
O คลี่คลายผกายรหัสะเนตร
ระอุเลศะกำลัง
ปลาบปนระคนนยะประนัง
รติตั้งประดังตอน
O บัดนั้นก็นันทินิรมิต
ประลุจิตะกำจร
โดยเนตรและเจตนะสะท้อน
บทะอ้อนประโลมทรวง
O เกริกกละสนธิพิสวาดิ
กละบาศกะเคยบวง
เหนี่ยวรัดกระหวัดหทัยะดวง
รสะหน่วงก็ดำเนิน
O เร้ารุมผชุมมิตินิวรณ์
รติร้อนก็จำเริญ
ตาสบประจบนยะสะเทิ้น
ขณะเมินก็มอบไม-
O ตรี .. ล้อม บ ยอม จะ ละ จะ ร้าง
สรพางคะเปี่ยมไพ-
บูลย์นวละชวนรชะสมัย-
ก-ระไล้ประโลมลอง
O บดเบียดละเมียดวรรณะสะเทื้อน
ขณะเคลื่อนจะเข้าครอง
แว่วครวญและนวลวรรณะสนอง
ผัสะต้องละล่องตาม
O หวีดหวิวละลิ่วสถละสรวง
วตะห้วงก็ลืมยาม
ซ่านซึ้งระรึงกมละหวาม
ฤ จะห้ามคระโหยหา
O ลามบทเพราะรสระอุลุแล่น
ประลุแถนและทาบทา
แว่วครวญเพราะส่วนวรรณะผวา
ณ สภาวะรมย์เพ็ญ
O หวิวหวีดประณีตะมธุรส
ตละหยดก็วาบเย็น
แว่วคราญสะท้าน, วรรณะก็เห็น-
ผิวะเว้น-จะวางวาย
O เกสรขจร .. รสะประทิ่น
ภุมรินก็รอบราย
หวานหอมนะพร้อม .. จิตะก็หมาย
ผิวะตาย ก็ ยอมตน
แปล...
O ลมวรรษาพลิ้วผ่านแต่วานก่อน
เมื่ออาวรณ์แฝงฝากเริ่มกรากเชี่ยว
แต่สบทั้งวงหน้ารูปตาเรียว
แรงกอดเกี่ยวรูปนาม ก็ล่ามคา
O สร้อยสุมาลย์บานช่อ .. เพื่อรอหอม
อวลกลิ่นล้อมภู่ภมรเวียนว่อนหา
รูปเอยแต่ลอบเล็ม .. อยู่เต็มตา
แม้หลับลืมก็ยังคา .. อยู่ทั้งคน
O เมื่อโคมฟ้าลอยดวงขึ้นช่วงแสง
ค่อยทอดแรงเรื่อรองขับหมองหม่น
ก็เมื่อภู่ .. ภุมรินเริ่มบินวน-
สีสันกลีบกุสุมบน .. ที่เบ่งบาน
O ปีกวิหคแผ่กาง .. ลอยร่าง-ร่อน
สูงต่ำตอนเสาะหาภักษาหาร
ท่ามกลางเสียงนกแว่ว .. ลมแผ่วพาน
กุสุมาลย์ก็ลอยช่อให้รอชม
O แต่พบกัน .. อาวรณ์ก็ร่อนคว้าง
อยู่ท่ามกลางรูปลออ .. มาลย์ช่อ-ฉม
เสริมกำลังปรารถนา .. แรงปรารมภ์-
เข้าสั่งสมสืบทราบ .. รอบบาปบุญ
O ฤๅพบกัน .. จากกรรมชี้นำทิศ
เหนี่ยวสองจิตยื้อยุด .. ช่วยอุดหนุน
เพรงสัญญาก่อนเห็นจักเป็นทุน
เข้าเจือจุนจิตเจ้า .. ฟังเว้าวอน
O ผกายน้ำเนตรรับ .. วับวับไหว
สื่อความให้พร่ำพลอด .. ความออดอ้อน
ค่อยค่อยถ่ายคะนึงหา .. ความอาวรณ์
ค่อยสุมซ้อนความรัก .. ให้ตักตวง
O ราวหวานหอมทั้งหล้า .. น้อมมาให้-
คอยชิดใกล้ล้อมอยู่ไม่รู้ล่วง
เจตนาผ่านเนตร .. ไร้เลศลวง
ใจทั้งดวงหวานฉ่ำ .. อยู่ค่ำเช้า
O เมื่ออกใครเต้นระส่ำ .. คล้ายคร่ำครวญ
จากแปรปรวนส่วนเสี้ยว .. ความเปลี่ยวเปล่า
ก็เมื่องามอ่อนไหว .. จากวัยเยาว์-
ค่อยค่อยเร้างามรุกไปทุกตอน
O บุปผาเชิดเรณูเหมือนรู้เชิง-
ให้ภู่เหลิงห้อมเห่ .. หยาดเกสร
เช่นอกคนครวญคร่ำ .. ถ้อยคำวอน
ด้วยหลงเหลิงออดอ้อน .. สะท้อนสะท้าน
O นุ่มนวลเนียนเนื้อ .. ก็เหลืออ้าง
จักเริดร้างรูปภาค .. ย่อมยากผ่าน
คงเกินใจมุ่งมั่น .. อาจบันดาล
เกินต่อต้านปรารถนา .. เกินฝ่าพ้น
O กลีบพะยอมนิ่มเนื้อ .. นั้นเหลือนุ่ม
ลมผ่าวรุมไหวระรัว .. ก็กลัวหล่น
ค่อยโน้มแนบด่ำดอม .. กรุ่นหอมปรน-
เปรอใจวนว่ายหอม .. ไม่ยอมร้าง
O ล่องลอยเอย .. มาลย์สรวงเมื่อร่วงหล่น
พลิ้ววกวนลมไหว .. ร่อนไปห่าง
ฝ่าลำลมจบแล้ว .. พลิ้วแผ่ว -วาง
ก่อนกลีบบางเกลือกซบลงจบดิน
O ครวญคร่ำวิชชุแล่น .. บนแผ่นฟ้า
ย่อมทาบทาหม่นหมองให้ล่องสิ้น
เช่นคร่ำครวญละห้อยแผ่วที่แว่วยิน
จักรวยรินทับทรวง .. เกินล่วงลา
O หอมหวานครั้นผ่านเนตร .. เป็นเลศลับ
แล้วค่อยพรับระยับดวง .. บอกห่วงหา
ค่อยค่อยเผยความหมาย .. ผ่านสายตา
ชม้อยชม้ายหมายว่า .. บอกท่าที
O ภู่ภมรว่อนเวียน .. พากเพียรนัก
ใจเอยก็สุดหักไปห่างศรี
กุสุมา .. พรั่งพร้อม .. หวานหอมมี
และใจที่หวงหอม .. ก็ยอมตัว
O ภู่ภมรว่อนอยู่ .. ไม่รู้ร้าง
ยิ้มท่ามกลางห่วงละห้อย ก็คอยยั่ว
รูปนามเอย .. กระซิบนั้น-เพื่อสั่นรัว-
ของอีกหัวใจผู้ .. รับรู้งาม !
Create Date : 14 ธันวาคม 2560
Last Update : 30 สิงหาคม 2562 7:21:24 น.
6 comments
Counter : 1891 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดีค่ะคุณสดายุ
กลอนไพเราะมาก ถึงมากที่สุดค่ะ ถ้าเป็นแค่ฉันท์ที่ไม่มีคำแปล ทิพย์จะไม่ค่อยรู้ความหมาย มีแปลแบบนี้ ดีมาก เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ
อย่าติคนมีความรู้น้อยนะคะ อิๆๆ
โดย: ทิพย์ IP: 49.48.241.88 วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:7:12:14 น.
สวัสดีครับคุณทิพย์
บทนี้ผมเองเพิ่งเจอ เขียนวางไว้ใน
สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2013
4 ปีมาแล้ว .. ลืมไปแล้วนะนี่
พอเห็นว่าในบล็อคเองก็ไม่มีบทนี้ก็เลยเอามาวางใหม่
เขียนเป็นฉันท์ต้องใช้ศัพท์บาลี สันสกฤตช่วย
จึงค่อนข้างเข้าใจยากสักหน่อย ..
มีเวลาก็จะเขียนคำแปลเป็นกลอนให้แบบนี้แหละครับ
สำหรับแนวนารีปราโมชเท่านั้น ..
ถ้าเป็นแนวการเมืองไม่แปลครับ ..
เพราะทหารอ่านไม่รู้เรื่อง ดีแล้ว .. 55
ความรู้ในการหาเงินเข้ากระเป๋า สำคัญที่สุดครับ
เพราะใช้เลี้ยงปากท้องได้ ..
ดังนั้น ความรู้เรื่องอื่น ไม่ต้องใส่ใจมากครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:9:50:46 น.
คุณสดายุ
แม่เอื้อยขอแซมฉันท์สักนิด คงไม่ต้องแปลเพราะท่านเก่งอยู่แล้วค่ะ
ชาติชายไป่มุ่งทนุระสัตย์
บ่มิปัดมโนทัย
ทุกข์เข็ญก็จริงศิระประไพ
มนะฝ่าจะเคียงครอง
หากเถื่อนผิใช่กวะจะเลี่ยง
ทมะเอียงบ่ไตร่ตรอง
ชาตินี้ฤดีจะละมิมอง
วจะหยันนิรันกาล
โดย: เอื้อย IP: 61.19.86.2 วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:17:18:14 น.
สวัสดีค่ะพี่เอื้อย
เพิ่งเห็นพี่เอื้อยแต่งฉันท์ คุณสดายุเขาเก่งแล้ว ไม่ต้องแปลก็ได้ แต่ทิพย์ไม่รู้ความหมาย พี่แปลให้ทิพย์ฟังบ้างนะคะ มีแต่คนเก่งๆเป็นไอดอลให้ทิพย์คนละด้าน เยี่ยมค่ะ
สวัสดีค่ะคุณสดายุ
เรื่องปากท้องสำคัญจริงค่ะ วันๆวิ่งทำมาค้าขายแข่งกับเวลาจนเหนื่อย ว่างก็เข้ามาดูเนทบ้าง พักบ้างไปตามโอกาส จริงแล้วคนเราก็กินแค่อิ่ม
แต่ที่ต้องทำเพราะตุนไว้วันข้างหน้าและเผื่อลูกหลานนะคะ อิๆๆ
โดย: ทิพย์ IP: 49.48.244.27 วันที่: 16 ธันวาคม 2560 เวลา:7:38:06 น.
แม่เอื้อย ..
ฉันท์บทนี้ออกไปทาง "นารีเทศนา" นะนี่
ขึ้นธรรมาสแบบนี้หนุ่มๆหายหมด 55
โดย:
สดายุ...
วันที่: 16 ธันวาคม 2560 เวลา:9:15:04 น.
คุณสดายุ
"นารีเทศนา" เข้าใจตั้งชื่อนะ ผู้ชายบ้านนี้มีคนเดียว
คงไม่หนีไปไหนหรอก หายตัวเมื่อไร นารีร้างหมดนะเอ้อ ๕๕๕
โดย: เอื้อย IP: 61.19.86.2 วันที่: 17 ธันวาคม 2560 เวลา:9:22:22 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
กลอนไพเราะมาก ถึงมากที่สุดค่ะ ถ้าเป็นแค่ฉันท์ที่ไม่มีคำแปล ทิพย์จะไม่ค่อยรู้ความหมาย มีแปลแบบนี้ ดีมาก เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ
อย่าติคนมีความรู้น้อยนะคะ อิๆๆ