|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
O ภุมรินและพินทุรส .. O
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
O ลมรื่นแตะตื่นมธุระเก- สระเรณุกาไพร พาหอม ลุ ล้อม, ยุคะสมัย- ะพิไลพิลาสรอ O งดงาม ณ ยามรุจะกระหนาบ- นภะภาพะพร่างพอ- กำจายสยายบทะลออ กระแหนะช่อสุมาลย์สี O ฝั่งฟ้าประภา, และ ธรณิน ภุมรินะเริ่มลี- ลาศ-หาผการสะเพราะมี ดุษฎีกะหอมหวาน O โลกกว้างระหว่างวตะอรุณ ดุจะหมุนประกอบการณ์ โผนผกวิหค ณ คคนาน- ตะผสานผสมเสียง O เริ่มกาลประสารรหัสะเลศ ทุระเภทะพร้อมเพรียง- กล่อมเมาหะเขลา, มุสะประเดียง- ก็ระเรียงประโลมร้อย O เผยภาพละภาพ ณ บุพะภพ- ระบุครบ .. ระบัดคอย ราวเรื่องก็เปลื้องบทะทะยอย สุขะ-สร้อย .. ผสานเสริม O เยี่ยงหวานสุมาลยะประนัง รสะตั้งจะเตรียบเติม- คลื่นหอมตะล่อมบทะกระเหิม ระอุเพิ่ม .. ณ กลีบกรอง O ทิพเทพวิเลปนะกระวน สติคน ก็ ถูกครอง เพียงรสประพจนะสนอง ผัสะต้อง สิ เจียนตาย O ผึ้งภู่เสาะสู่มธุระรส ระบุกฏ บ อาจกลาย แสงสูรยะพูนพละสยาย ขณะผายก็แผดเผา O อำนาจและอาชญะประภาพ ฤทธิทาบ ฤ บรรเทา ถ้วนกฏและพจนะเฉลา ก็คละเคล้าระคนความ O หยาดพินทุรินมธุ-ละออง ผัสะต้องจะตื่นตาม หยาดคำเพราะคัมภิระ-ละลาม อุระหวาม ฤ ข้ามไหว O ภาพพจน์จรดกะนัยนา คุณะค่า ฤ ควรใคร- เทียมทัศน์และวัตระอดิศัย- ะประไพประพิณพร้อม O เทียบ-ภาพก็ภาพมธุกุสุม กระแหนะนุ่มระรุมดอม เปรียบ-บทสุพจนะประนอม ประลุล้อมระรายเรียง O สามารถเหมาะอาชญะผสาน- อุปการะเกริกเกรียง แซ่ศัพทะรับดุจะจะเอียง- ธรณินะล่มสูญ O สามารถเหมาะอาชวะสมรรถ เพราะขจัด บ เพิ่มพูน พ้องความกะทราม, ก็บริบูรณ์- ภวะกูณฑะสุมเมือง O พร้อมพินทุสิ้นภวะจะหยด จิตะคดก็แค้นเคือง โดยพิษะริษยะเมลือง ทะนุเนื่องและน้อมนำ O ริ้ววาตะพารสะประทิ่น ภุมรินะเริงรำ ปีกลู่เสาะสู่มธุระสัม- ผัสะย้ำกะหยาดหวาน O ริ้ววาทะพามุสะประนอม ผัสะย้อม กะ วิญญาณ เจตจินตะสิ้น, สติพิชาน- ก็จะลาญ บ เหลือรอย O หวาน, วาตะ, อาชญะประนัง ฤดิคลั่ง ก็ หมอบคอย เสพลิ้มกระหยิ่ม บ ละ บ ถอย สติด้อย สิ ดึงดัน O เลศวาทะ, อาชวะรหัส อวิภัชะรำพัน เกณฑ์กรอบระบอบมุหะมหัน- ตะกระนั้นจะเนื่องหนุน O สูงค่าสุภาษิตะประกอบ- คละระบอบ .. ระเบียบบุญ สูงส่งเพราะมงคละเหมาะสุน- ทริยะดุลยะภาพพร้อม O ภาพงามละลามยุคะสมัย มธุ-ไพระสุดออม- แอบกลิ่นประทิ่น, กฏะพะยอม- ก็ ลุ ล้อมประนอมกรรม O แฉกลิ้น มุ ภินทนะสมา- คมะชาติด้วยชำ- นาญ..บท .. และพจนะกลัม- พ-ระพร่ำ ก็ เป็นผล O สามารถเหมาะชาติจะอภิวัฒ- นะขจัดซะอับจน จารีตและคีตะอนุสน- ธิ ระคนประโคมคอย O หอมหวานสุมาลยะก็ภิน- ทนะสิ้นและสุดรอย หยาดพินทุสิ้น, มธุระพลอย- รสะถ่อย .. ผิ เอาทาร !
========================================
คำศัพท์บางคำ (ที่มา .. https://www.chatchawan.net/2014/05/vibhajyavada/)
วิภัชชวาที .. แปลว่า การพูดแยกแยะ การพูดจำแนก หรือพูดแจกแจง หรือการพูดเชิงวิเคราะห์ ลักษณะสำคัญของการคิดและการพูดแบบนี้คือ การมองและแสดงความจริง โดยแยกแยะออกให้เห็นแต่ละแง่แต่ละด้าน แต่ละประเด็นครบทุกแง่ทุกด้าน ทุกประเด็น ไม่ใช่จับเอาประเด็นใดประเด็นหนึ่งมาคิดวิเคราะห์แล้วสรุปครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด
วิภัชชวาท .. เป็นชื่อเรียกอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนา หรือเป็นคำหนึ่งที่แสดงระบบความคิดของพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธเจ้าทรงเรียกพระองค์เองว่าเป็น วิภัชชวาท หรือ วิภัชชวาที และคำว่า วิภัชชวาท หรือวิภัชชวาทีนั้น ก็ได้เป็นคำเรียกพระพุทธศาสนา หรือคำเรียกพระนามของพระพุทธเจ้าซึ่งได้ใช้อ้างกันมาในประวัติการณ์แห่งพระพุทธศาสนา เช่น ในคราวสังคายนาครั้งที่ 3 พระเจ้าอโศกมหาราชตรัสถามพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ประธานสงฆ์ในการสังคายนาว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีวาทะอย่างไร พระเถระทูลตอบว่า มหาบพิตร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นวิภัชชวาที
อ .. แปลว่า ไม่
อวิภัชชวาที .. จึงแปลตรงกันข้ามกับ .. วิภัชชวาที หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายก็หมายถึง การพูด (การกล่าวหา) แบบ "เหมารวม" ไม่จำแนกแยกแยะด้วยเหตุผล .. อันจะพบเห็นได้มากในทางการเมืองในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา
ปกติเมื่อเป็นภาษาไทยจะลดรูป "ช" ออกตัวหนึ่ง
========================================
Create Date : 03 กรกฎาคม 2560 |
Last Update : 31 ธันวาคม 2563 18:27:34 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1893 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กฤษณา เวชศิลป์ IP: 171.4.117.103 วันที่: 5 กรกฎาคม 2560 เวลา:20:00:02 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 6 กรกฎาคม 2560 เวลา:7:43:12 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 11 กรกฎาคม 2560 เวลา:14:44:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|
คีตคึก ครบค่า มหาศาล
หอมกลิ่นร่ำ ฉ่ำมาลา พาสำราญ
ภมรผ่าน ผกผิน..ฟังพิณเพลง