|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
O ตำนาน"ลาโง่" แห่ง คลองหลวง ! .. O
สร้างทำไม ? . . นี่คือคำถามง่ายๆ .. . แนวคิดนี้เริ่มจากการคิด เชื่อ ว่ามีตัวตนล่องลอยข้ามภพข้ามชาติ โดยมีแรงผลักจาก "วิบากกรรม" (1 ในอจินไตย 4 ซึ่งพุทธะบอกว่าไม่ควรคิด ในอจินติตสูตร .. เพราะสามัญบุคคลไม่สามารถรู้ได้ ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ คิดไปก็ฟุ้งซ่าน หาความจริงไม่ได้เลย) . เมื่อมีแรงผลัก (อันเปรียบเสมือนแรงที่ผลักดันให้ดวงดาวโคจรในอวกาศ) จากวิบากกรรม หรือ กรรมเก่า ซึ่งมาจากอดีตชาติ ก็ต้องมี อนาคตชาติ รองรับแนวคิดนี้อีกลำดับหนึ่ง . อดีต -> ปัจจุบัน -> อนาคต . อดีต คือ ช่วงเวลาก่อนการเกิดของรูปนามในท้องแม่ อนาคต คือ ช่วงเวลาหลังการดับของรูปนามเข้าโลง เผา หรือ ฝัง ระหว่างสองช่วงเวลาคือ ปัจจุบัน . เป็นเรื่องน่าหัวร่อ ที่การเกิดของรูปนามใดๆ นั้นแท้จริงแล้ว เกิดจาก ความปรารถนาของชายหญิง ตามธรรมชาติแห่งวัย และโดยเจตนาของสองคนเท่านั้น . ซึ่งไม่เกี่ยวกับ เจตนารมย์ ใดๆของตัวอ่อน (บุคคลที่ 3) ที่เกิดปฏิสนธิขึ้น"หลังจาก" เชื้ออสุจิของชายผสมกับไข่ของหญิง (บุคคลที่ 1 + 2) . แนวคิดนี้มิแปลว่า "วิบากกรรม ของตัวอ่อน (บุคคลที่ 3)" แทรกเข้าควบคุมเจตนารมย์ของ พ่อแม่ (บุคคลที่ 1+2) ก่อนการมีเพศสัมพันธ์หรอกหรือ ? . เป็นเรื่องขาดเหตุผล ไม่ว่าในทางรูป หรือ ทางนาม . เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสไม่ให้คิด เรื่อง วิบากกรรม .. หมายความว่า พระองค์รู้ว่านั่นจะเป็นเหตุแห่ง มิจฉาทิฏฐิ ตามกำลังสังขาร (อำนาจแห่งการปรุงแต่ง) ของแต่ละคน .. พูดกันสนุกสนาน เพริดแพร้วพิสดาร สาระพัด แล้วหาความจริงอะไรไม่ได้เลย - จึงทรงห้ามเสีย . พูดอีกที คือ พระองค์บอกว่า เรื่องอดีตที่รู้เองไม่ได้ ผู้อื่นก็ไม่มีใครรู้ของใครได้ มาบอกอย่างโน้นอย่างนี้ย่อมเป็นเรื่องหลอกลวงสถานเดียว แปลต่อว่า เรื่องของอดีต เรื่องของอนาคต ไม่ใช่เจตนารมย์ของพระองค์ที่จะสอน . พระองค์สอนแต่เรื่องทุกข์ และความดับทุกข์ในปัจจุบันเท่านั้น . แล้วทำไมจึงเชื่อกันไม่ลืมหูลิมตา ? . ตอบว่าเพราะพระร่วงเขียน "ไตรภูมิพระร่วง" โดยแปลอรรกถา "คัมภีร์วิสุทธิมรรค ของพระพุทธโฆษาจารย์" ภิกษุอินเดียผู้จาริกไปศึกษาพุทธธรรมที่ลังกาเมื่อประมาณ พศ.1500 เขียนอธิบายพระไตรปิฎกเอาไว้ ... . . และ หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ศึกษาแนวคิดจากวิสุทธิมรรคนี้ นำมาเผยแพร่ต่อลูกศิษย์อีกต่อ .. ธรรมกาย ย่อมสืบทอดแนวคิดมาจากหลวงพ่อสด . . วิสุทธิมรรค อธิบาย ปฏิจจสมุปบาท ออกทะเล โดยแทรก "ปฏิสนธิวิญญาณ" ขึ้นมาสนธิช่วงต่อ ระหว่าง วิญญาณ กับ นามรูป โดยวาง .. .. อวิชชา กับ สังขาร - เป็นอดีตชาติ .. (ปฏิสนธิ)วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ ตัณหา เวทนา อุปาทาน ภพ - เป็นปัจจุบันชาติ .. ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส - เป็นอนาคตชาติ . . เกิดตรง นามรูป ครั้งหนึ่ง เกิดตรง ชาติ อีกครั้ง . . ซึ่งคำ "ปฏิสนธิวิญญาณ" นี้ไม่มีในพระไตรปิฎก . จึงกลายเป็นเกิด 2 ครั้ง มี 3 ภพ 3 ชาติ และนับเนื่องเป็นตัวตน (บุคคล) เดิมเดียว อันเป็นเรื่องของ อาตมัน ของพราหมณ์ ในทางพุทธศาสนา เรียกแนวคิดการเวียนว่ายตายเกิดแบบนี้ว่า สัสสตทิฏฐิ . . อนัตตา คือ ไม่มีอะไรเป็นตัวตนถาวรอะไร เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามเหตุปัจจัยที่เกื้อหนุน หล่อเลี้ยง อยู่ ... ไม่มีอะไรนับเนื่องเป็นตัวตนเดิมเดียวได้ . . บรรดา"ลาโง่"จึงต้องลากแอกไปรอบๆหลัก โดยการ"สร้าง"วัตถุธรรมสืบต่อไม่จบไม่สิ้น . . เช่น เจดีย์ ในรูปเป็นต้น .. ที่สร้างด้วยลาโง่ ทั้งหัวโล้น หัวดำ ! .
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2560 |
|
0 comments |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2560 13:48:17 น. |
Counter : 1641 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|