sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ 15 พ่ายรัก





จีรัชญ์จ้องหญิงสาวที่กำลังนั่งแกว่งเท้าเล่นน้ำไปมาอยู่บนโขดหินเตี้ยๆ แววตากึ่งกล้ากึ่งกลัว รพิชาเหมือนอ่อนหวานแต่หากได้ใกล้ชิดเขากลับรู้สึกว่าเธอหาได้นุ่มนิ่มอย่างที่เห็น อาจเป็นเพราะเขาเกรงกับสิ่งที่เธอเป็นหรืออาจเป็นเพราะตัวเขาเองกำลังหวาดกลัวกับความรู้สึกที่อยู่ลึกๆ ภายในใจ

เสียงพ่นลมหายใจเบาๆ ที่ดังจากคนข้างๆ ทำให้จีรัณที่กำลังนั่งห่อเหี่ยวหันกลับไปมอง ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมองใบหน้าเรียบเฉยหากแฝงไปด้วยความกังวลของน้องชายแววตาอ่อนลง จีรัชญ์คงกำลังต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองว่าควรจะทำอย่างไรกับสิ่งที่กำลังแฝงอยู่ในความรู้สึก

“รัชญ์ถ้าลำบากใจมากก็อย่าฝืนเลยพี่ไม่เป็นไร”

เมื่อเห็นประกายความยุ่งยากที่ฉายชัดออกมาจากสีหน้าของน้องชาย คนเป็นพี่ก็ไม่อาจเรียกเร้าเอาแต่ใจ

“ผมถามจริงๆ เถอะพี่ชอบคุณนาเธอจริงหรือแค่เล่นๆ เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ”

จีรัชญ์จ้องเค้นเอาความจริงจากพี่ชายสีหน้าจริงจัง

“ไม่รู้ซี...บอกไม่ถูกพี่รู้สึกพอใจเธอมากครั้งแรกที่เจอเธอดูแกร่ง ร้อนแรงและเอาเรื่อง แต่ตอนนี้เธอกลับอ่อนลงจนแทบเป็นคนละคน รัชญ์ก็เห็นว่าเธอสวยขนาดไหนพี่บอกตรงๆ ว่าต้องการเธอแต่ไม่ใช่ในแบบที่ผ่านๆ มา”

จีรัชญ์จ้องหน้าพี่ชายเหมือนกำลังชั่งใจก่อนพูดต่อน้ำเสียงราบเรียบปนตำหนิ

“หลายปีมานี้พี่ใช้ความพิเศษที่พี่มีตักตวงความสุขจากคนที่พี่พอใจ ถึงแม้ผู้หญิงของพี่จะพึงพอใจกับสิ่งที่เธอได้รับหลังจากนั้น แต่หากมองในแง่ของศีลธรรมผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับพวกเธอเลยกับความรู้สึกที่ต้องยินยอมเมื่อถูกควบคุมจากอำนาจของใครซักคน”

“ทำไมรัชญ์ถึงมองพี่เลวร้ายแบบนั้นล่ะ”

จีรัณเลิกคิ้วขึ้นเหมือนแปลกใจกับคำพูดที่เพิ่งได้ยิน

“ตอนที่อยู่เมืองนอกผมเห็นพี่เปลี่ยนแฟนบ่อยยังกับเปลี่ยนแปลงสีฟันแน่ะ เอ๊ะหรือว่าบ่อยกว่าฮึ”

จีรัชญ์ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหรี่ตากระเซ้าพี่ชาย

“ตอนนั้นมันยังหนุ่มนี่หว่า แล้วที่เมืองนอกรัชญ์ก็รู้ว่าผู้หญิงเค้าไม่ได้แคร์กับเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่ ตอนนั้นมันก็เป็นแค่ความคึกคะนองตามประสาคนหนุ่ม แต่ตอนนี้รัชญ์ก็เห็นว่าสิ่งที่พี่เคยเป็นมันเปลี่ยนไป แล้วพี่ก็ไม่เคยก้าวล้ำกับสัมปชัญญะชองผู้หญิงคนไหนอีกนับตั้งแต่กลับมา”

“แต่ตอนนี้พี่กำลังคิดที่จะก้าวล้ำคุณวีณาไม่ใช่เหรอ”

จีรัชญ์กอดอกแล้วโบ้ยปากไปทางนางแบบสาวร่างเพรียวที่กำลังนั่งกวักน้ำเล่นอยู่อีกด้าน

“เปล่าเลยพี่ต้องการเธอด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากทุกครั้ง พี่สนใจและต้องการรู้จักเธอมากกว่านี้ แต่ไม่ใช่ในแบบที่เธอไม่รับรู้อะไร”

จีรัณหันไปมองหญิงสาวที่กำลังเข้ามามีอิทธิพลกับตัวเขาแววตาเต็มล้นไปด้วยความเสน่หา วีณามีรูปร่างหน้าตาที่สวยจนหาที่ติไม่ได้ และด้วยอาชีพของเธอมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกนักหากผู้ชายซักคนจะให้ความสนใจเธอเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่ทำให้เขาอยากรู้จักและหวังไปมากกว่านั้นนั่นก็คือความเป็นตัวของตัวเองที่เธอเป็น

จากข้อมูลที่นักสืบให้มาประวัติของหญิงสาวเบื้องหน้าถือว่าขาวสะอาด จนอดทึ่งและรู้สึกพึงใจกับการวางตัวและเลือกมีชีวิตที่อยู่ในกรอบอันงดงาม ซึ่งแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ที่มักจะหลงใหลไปกับความฟู่ฟ่าของโลกมายาที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ที่มีทั้งสีขาวและสีดำ

“แล้วรัชญ์ล่ะไม่คิดจะเปิดใจแล้วให้โอกาสกับชีวิตที่รัชญ์ควรมีเลยหรือ”
จีรัณถอนสายตาออกจากวีณาแล้วหันไปถามน้องชายบ้าง

พอได้ยินคำถามจากพี่ชายจีรัชญ์ที่กำลังชั่งใจกับสิ่งที่กำลังกังวลก็ถึงกับพ่นลมหายใจออกมา

“พี่จีส...ผมถามจริงๆ เถอะที่พี่เลือกคุณหมอมาเพราะต้องการให้ผมสนใจเธอแล้วรักเธอใช่ไหม?”

“ถ้าพี่ตอบว่าใช่ล่ะรัชญ์จะว่ายังไง”

“เธอไม่ควรเข้ามารับรู้และรับเคราะห์หากทุกอย่างมันเป็นเหมือน....ตอนนั้น พี่พาเธอกลับไปซะเถอะผมสบายดี”

จีรัชญ์จ้องดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลตาเขม็งพร้อมแสดงความรู้สึกกังวลออกมาชัดเจนจนคนเป็นพี่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา

“แกเป็นน้องคนเดียวที่ฉันมีตอนนี้แกอาจจะไม่เป็นไร แต่ฉันคงอยู่เฉยไม่ได้หากยังไม่มีใครแก้ไขในสิ่งที่แกเป็น ถ้าสิ่งที่ฉันเลือกมันจะทำให้แกหายต่อให้ต้องแลกกับอะไรฉันก็ไม่แคร์ทั้งนั้น”

“ถ้าผมรักคุณหมอแล้วทุกอย่างมันเป็นเหมือนตอนนั้นล่ะ พี่จะให้ผมทำยังไงหัวใจของผมไม่ต้องเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือ...”

“แกจะจมอยู่กับเรื่องบ้าๆ นี่อีกนานแค่ไหนฮึ ราตรีตายไปแล้วแกจะมาจ่อมจมอยู่กับเรื่องความหลังที่มันแก้ไขอะไรไม่ได้แบบนี้ไปทั้งชีวิตหรือยังไง”

“แต่ราตรีไม่ควรตาย เธอตายโดยที่ผมไม่มีโอกาสรับรู้ด้วยสัมปชัญญะที่ควรมีผมไม่ได้กอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำ ผมรักราตรีแค่ไหนพี่ก็รู้พี่จีสพี่ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าการที่ต้องสูญเสียคนที่เรารักไปต่อหน้าต่อตาแล้วไม่สามารถช่วยอะไรได้มันเจ็บปวดแค่ไหน”

“การที่ราตรีตายมันไม่ใช่ความผิดของแกนะรัชญ์”

“แต่มันก็เป็นผมไม่ใช่เหรอฮะพี่ที่เป็นต้นเหตุ”

จีรัชญ์จ้องหน้าพี่ชายแววตาหม่นเศร้า

“รัชญ์ฟังพี่ ถึงคนที่เรารักจะตายจากแต่อย่าให้ความรักที่มันหล่อเลี้ยงชีวิตของรัชญ์ต้องตายไปด้วยซี ถ้าการที่รัชญ์ยังอยู่ที่นี่มันทำให้ละทิ้งความเจ็บปวดไม่ได้พี่ว่าเรากลับไปอยู่ สวิตฯ ก็ได้ที่โน่นอากาศก็ไม่ได้แตกต่างจากที่นี่ซักเท่าไหร่ออกจะดีกว่าด้วยซ้ำ คุณแม่ท่านคงดีใจหากรัชญ์กลับไปอยู่ที่โน่น”

“ไม่มีทางที่นี่เป็นบ้าน ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น”

จีรัชญ์ปฏิเสธด้วยระดับเสียงที่ดังก้องไปทั้งป่าจนทำให้หญิงสาวอีกสองคนที่กำลังชื่นมื่นอยู่กับสายน้ำในลำธารถึงกับหันกลับไปมอง

“พี่ก็แค่เสนอทางเลือกทำไมแกต้องเกรี้ยวกราดด้วย”

“พี่กำลังผลักไสให้ผมหนีต่างหาก ตอนนี้ผมสบายดีพี่ก็เห็นพี่พาเธอกลับไปเถอะผมขออยู่กับตัวเอง”

“แกนี่นะสบายดี รัชญ์ยอมรับซะบ้างว่าแกไม่ปกติ”

“พี่นั่นแหละที่ไม่ปกติ พี่จีสผมรู้ว่าพี่หวังดีแต่ถ้าจะเอาคนอื่นมาเสี่ยงกับอันตรายผมก็ไม่เอา ถ้ามันจะต้องอยู่ตัวคนเดียวไปทั้งชีวิตผมก็ยินดีที่จะอยู่มันแบบนี้ไปจนตาย”

จีรัชญ์จ้องหน้าพี่ชายแล้วแค่นเสียงเกรี้ยวกราดจนคนเป็นพี่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ทำไมการที่เขาทำทุกอย่างเพราะหวังดีกับน้องมันถึงต้องกลายเป็นความขัดแย้ง

“พิณทำไมคุณจีรัชญ์ถึงทำเสียงเกรี้ยวกราดแบบนั้นล่ะ”

นางแบบสาวผุดลุกขึ้นเมื่อเห็นท่าทางเอาเรื่องของจีรัชญ์

“ไม่รู้ซี ดูๆ ไปก่อน”

รพิชาลุกขึ้นยืนแล้วประเมินสถานการณ์

“สีหน้าคุณจีรัณถมึงทึงเอาเรื่องแบบนั้นเค้าคงกำลังมีเรื่องกันแน่ๆ เลย”

“เป็นพี่เป็นน้องกันถึงจะกระทบกระทั่งก็คงไม่ถึงกับมีเรื่องมีราวกันหรอก”

แต่ก่อนที่บทสรุปของรพิชาจะสัมฤทธิ์ผลจีรัณที่ยืนอยู่นิ่งๆ ก็ผลักอกน้องชายจนร่างสูงใหญ่เซผงะไปด้านหลัง

“ว๊าย! คุณจีรัณอย่าค่ะ”

วีณาที่ใจหายใจคว่ำแหกปากห้ามเสียงลั่นป่าพร้อมๆ กับวิ่งปรือขึ้นฝั่งไปอย่างรวดเร็ว

“มีอะไรกันเหรอคะ”

รพิชาที่วิ่งฉิวตามขึ้นมาติดๆ รีบคว้าแขนกำยำของคนไข้ในความดูแลของเธอแล้วยึดไว้

“ฉันหวังดีกับแกนะรัชญ์ทำไมถึงไม่นึกถึงความรู้สึกของคนที่เขาห่วงแกบ้าง”

จีรัณชี้หน้าต่อว่าน้องชายคนเดียวสีหน้าเกรี้ยวกราดไม่ต่างกัน แล้วทำท่าจะกระโจนเข้าไปหาพอเห็นท่าไม่ดีวีณาจึงรีบจับหมับไปที่แขนของชายหนุ่มแล้วออกแรงฉุดดึงพาเลี่ยงไปทางลำธาร

“ไม่เอานะคะอย่ามีเรื่องกันเลย”

รพิชาบีบแขนกำยำเบาๆ เชิงเตือนให้จีรัชญ์ที่กำลังกัดกรามแน่นผ่อนความเครียดขรึมที่กำลังพุ่งพล่านให้คลายลง

“ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณตกใจ”

จีรัชญ์เอ่ยขอโทษเสียงอ่อนลง เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังสร้างความตระหนกให้กับหญิงสาว

“ไม่เป็นไรค่ะดิฉันว่าคุณไปนั่งสงบใจที่ใต้ร่มไม้นั่นก่อนดีกว่า”

รพิชาคลายมือออกจากแขนของชายหนุ่ม ก่อนจะเบี่ยงกายถอยไปอีกด้านเพื่อเปิดทางให้ร่างสูงใหญ่กำยำเดินผ่านไปยังเสื่อผืนใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป

“คุณจะไม่ถามผมซักคำเลยหรือ ว่าผมกับพี่จีสมีปัญหาอะไรกัน”

ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ เมื่อทรุดลงนั่งมาได้ซักอึดใจแล้วไม่ได้ยินเสียงถามไถ่จากหญิงสาวที่กำลังนั่งอยู่เงียบๆ ด้วยระยะที่ห่างพอสมควร

“ความขัดแย้งของคุณทั้งสองเป็นเรื่องส่วนตัว ดิฉันเป็นคนนอกไม่ควรก้าวก่ายให้คุณต้องอึดอัดใจ”

รพิชาบอกออกไปตามนิสัย

“ดูคุณจะไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของคนอื่นเลยนะครับ”

“หากเป็นเรื่องส่วนตัวมันก็บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้วนี่คะว่าคนอื่นไม่ควรก้าวล้ำเข้าไป”

จีรัชญ์จ้องหญิงสาวแววตาชื่นชม พอเห็นดวงตาคู่สวยเปล่งประกายสดใสก็อดยิ้มไม่ได้ รพิชาสวยน่ารักเธอดูบอบบางเกินไปกับอาชีพที่เธอเลือก ในดวงตาของเธอถึงจะดูอบอุ่นแต่ก็แฝงไปด้วยความเฉลียวฉลาดและความเด็ดเดี่ยว

คงเพราะความหนักแน่นและความแข็งแกร่งที่แฝงอยู่ในตัวเธอกระมังที่ทำให้จีรัณมั่นใจว่าหญิงสาวตรงหน้าจะสามารถเปลี่ยนทุกอย่างให้ดีขึ้น พอสายตาเปิดรับกับสิ่งที่เห็นหัวใจก็เริ่มเอนเอียงไปกับความน่ารักและสดใสของหญิงสาวเบื้องหน้า

“คุณหมอครับตอนนี้คุณกำลังอยู่ในหน้าที่หรือเปล่า”

รพิชาเอียงหน้าเล็กน้อยเหมือนไม่แน่ใจกับคำถามของอีกคน

“เอ่อ...ผมแค่อยากรู้ว่าคุณหมอกำลังตรวจผมอยู่หรือเปล่า”

จีรัชญ์ยิ้มอายๆ เมื่อเห็นสีหน้างุนงงของหญิงสาว

“อ๋อ...แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะคะ”

“ผมอยากให้คุณหมอช่วยมองผ่านว่าผมไม่ใช่คนไข้ซักวัน แล้วมองผมเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งจะได้ไหม”

“ตอนนี้ดิฉันก็เห็นคุณเป็นผู้ชายนี่คะ เปล่าเห็นเป็นอย่างอื่นเสียหน่อย”

รอยยิ้มละไมผุดออกจากริมฝีปากสีอ่อน เมื่อนึกขันกับความซื่อปนขัดเขินในน้ำเสียงของชายหนุ่มร่างใหญ่

“คุณหิวมั้ย”

เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรจีรัชญ์จึงหลุดคำถามสิ้นคิดออกไป

“เราพึ่งทานอาหารไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วเองนะคะ คุณหิวแล้วเหรอ”
“เอ่อ...นั่นสินะผมนี่แย่จริงๆ “

“ถ้าคุณหิวจะทานก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะดูให้ว่ามีอะไรพอที่จะทานรองท้องได้บ้าง”

มือเรียวทำท่าจะเอื้อมตะกร้าอาหารที่อยู่ห่างไม่ถึงช่วงแขน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มเอื้อมมาคว้ามือเธอไปกุมไว้

“ผมยังไม่หิว...”

ดวงหน้าหวานเริ่มซับสีชมพูจางๆ เมื่อเห็นประกายตาแปลกๆ วิบวับออกจากดวงตาคู่เข้ม

“ค่ะ”

รพิชาพยักหน้าน้อยๆ ขณะดึงมือกลับพร้อมกับกระเถิบออกไปนิดหนึ่งเพื่อรักษาระยะห่างไว้ให้พอเหมาะ

“ผมขอโทษ...”

จีรัชญ์ถึงกับหน้าจืดเจื่อนเมื่อเห็นประกายตาตระหนกปนตำหนิฉายวาบออกมาจากดวงตาคู่สวย

“ไม่เป็นไรค่ะคุณคงไม่ได้ตั้งใจ”

“คุณชอบดอกไม้ป่ามั้ย เดินเลาะจากทางตรงนั้นไปอีกไม่ถึงสองร้อยเมตรผมให้คนงานทำสะพานไม้ไว้ ข้ามฟากไปด้านในมีดอกไม้ป่าขึ้นหนาตาเชียว”

“เหรอคะ น่าสนใจจังงั้นเดี๋ยวดิฉันไปตามเพื่อนก่อนดีกว่า”

บอกพร้อมกับทำท่าจะลุกขึ้นไปตามเพื่อน

“ผมว่าตอนนี้พี่จีสคงต้องการใครซักคนเป็นเพื่อนคุย พี่ชายผมไม่ใช่เสือหรอกครับคุณหมออย่ากังวลเลย”

ชายหนุ่มคว้าข้อมือเรียวเล็กแล้วรั้งไว้

“แต่พี่ชายคุณมีอำนาจจิต ดิฉันไม่ไว้ใจเกรงว่าหากปล่อยให้นาอยู่ใกล้ๆ เธออาจจะไม่ปลอดภัย”

จีรัชญ์ถึงกับสันหลังเย็นวาบเมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากคุณหมอสาวตรงหน้า ตกลงรพิชารู้งั้นเหรอว่าจีรัณมีอำนาจพิเศษ ชายหนุ่มจ้องหญิงสาวเบื้องหน้าตาเขม็ง ดูท่าคนที่นุ่มนิ่มอย่างรพิชาคงไม่ธรรมดาอย่างที่จีรัณมอง ขนาดรับรู้ว่าอีกคนเป็นอย่างไรเห็นทีเธอคงมีดีกว่าที่เห็นเสียแล้วกระมัง

“เชื่อใจผมเถอะครับว่าพี่จีสจะไม่เอาเปรียบคุณนาด้วยอำนาจจิตที่มี”

“ดิฉันรู้ว่าคุณจีรัณมองเพื่อนดิฉันยังไง ขอโทษนะคะยังไงฉันก็ไม่วางใจพี่ชายคุณอยู่ดี กรุณาปล่อยมือดิฉันด้วยค่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นสีหน้าเอาเรื่องของคุณหมอร่างเล็กตรงหน้า

“ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ เกี่ยวกับความผิดปกติของผม คุณหมอครับโดยปกติแล้วการพูดคุยระหว่างหมอกับคนไข้ถือว่าเป็นความลับที่ไม่ควรให้บุคคลอื่นรับรู้ไม่ใช่เหรอครับ วันนี้อากาศกำลังดีส่วนบรรยากาศที่นี่ก็ร่มรื่นผมคงไม่อึดอัดหากจะบอกเล่าความผิดปกติให้คุณหมอฟัง”

จีรัณใช้อาการเจ็บป่วยของตนขึ้นมาอ้าง

“ตอนนี้ดิฉันไม่ได้อยู่ในหน้าที่”

“หากตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ในหน้าที่ แล้วบังเอิญเห็นคนกำลังบาดเจ็บและรอความช่วยเหลือด้วยความเป็นหมอคุณจะวางเฉยกับหน้าที่ไหม”

“แล้วถ้าหากคุณเป็นนักเสี่ยงภัยที่มองเห็นว่ากำลังจะมีภยันตรายจากสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับคนที่คุณรัก คุณจะวางเฉยแล้วรอให้เกิดเหตุร้ายขึ้นหรือจะป้องกันไม่ให้เหตุร้ายนั่นเกิดขึ้นมาล่ะคะ”

พอได้ฟังคำยอกย้อนจากหญิงสาวจีรัชญ์ก็ถึงกับสะอึกด้วยความนึกไม่ถึงว่าผู้หญิงนุ่มนิ่มอย่างรพิชาจะหลักแหลมและรู้เท่าทันถึงเพียงนี้ แต่จะปล่อยให้เธอเข้าไปทำลายช่วงจังหวะดีๆ ของพี่ชายแผนแกล้งทะเลาะกับจีรัณที่เขาจัดฉากขึ้นก็คงเสียเปล่า แต่จะลากเธอเข้าไปดูดอกไม้ป่าก็ดูท่าจะยากเอาการ....เอาไงดีหนอกับผู้หญิงที่ฉลาดเป็นกรดตรงหน้า...

“ผมอยากคุยกับคุณจริงๆ นะครับคุณหมอเอางี้ผมจะรับผิดชอบกับทุกอย่างหากจะมีภยันตรายเกิดขึ้น และผมเชื่อว่าจะไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นแน่นอนนั่นเพราะผมไม่ได้ประมาทกับสิ่งที่คาดไม่ถึง เชื่อใจผมซักครั้งได้ไหมคุณหมอ”

“บางครั้งแค่ความรับผิดชอบและสิ่งตอบแทนมันก็ไม่เพียงพอหรอกค่ะหากจะต้องแลกกับความสูญเสีย”

“ตอนนี้พี่ชายผมคงกำลังเครียดกับอาการป่วยของผม เมื่อกี้ที่เรามีปากเสียงกันก็เพราะพี่จีสอยากให้ผมกลับไปอยู่กับคุณแม่ที่สวิตฯ จิตใจของพี่ชายผมกำลังฟุ้งซ่านและพุ่งพล่านไปด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างเดือดดาล ต่อให้อยากจะสะกดจิตใครซักคนยังไงก็ทำไม่ได้หรอกครับ เรื่องการควบคุมทางจิตทุกอย่างขึ้นอยู่กับสมาธิข้อนี้คุณหมอน่าจะรู้ดีกว่าใครจริงไหมครับ”

จีรัชญ์หยุดพูดแล้วจ้องดวงตาคู่สวยเหมือนกำลังร้องขอความไว้วางใจ
พอได้ฟังคำบอกเล่าใบหน้าสดใสที่ดึงดันก็เริ่มอ่อนลง เมื่อปฏิเสธความจริงไม่ได้ร่างกายที่แข็งขืนในคราแรกก็ผ่อนลงจนคนเจ้าเล่ห์นึกกระหยิ่มกับหนทางสร้างความคุ้นเคยที่กำลังวางไว้ให้ตัวเอง รพิชาจ้องดวงหน้าคมสันแล้วครุ่นคิดเมื่อเห็นความปกติของจีรัชญ์ ตกลงเธอกำลังเจอคนไข้ทางจิตประเภทไหนกัน....

จีรัชญ์มองร่างเรียวบางหากสมส่วนสมวัยสาวของหญิงสาวเบื้องหน้าแววตาฉายความพึงใจอย่างเปิดเผย ถึงแม้เขาจะพยายามผลักไสความรู้สึกให้ออกห่างจากเธอแต่ดูเหมือนจะทำได้ยากยิ่ง รพิชาไม่ใช่มีเพียงความสวยที่ตรึงใจจนทำเขาให้หยุดมองและลองรัก

มือหนาบีบกระชับมือเรียวเล็กในอุ้งมือเบาๆ เมื่อรู้สึกอุ่นซ่านไปกับความอบอุ่นที่กำจายอยู่รอบกายเธอ หัวใจพี่ว่างเปล่ากำลังถูกความรักเข้าแทรกซึม....ใจหนอใจใยจึงหลงใหลกับความรักที่กำลังจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดง่ายดายเช่นนี้...

ชายหนุ่มนึกต่อว่าความพ่ายแพ้ที่เขากำลังจะศิโรราบให้กับความต้องการจากเบื้องลึกที่ไม่อาจปิดกั้น และสิ่งที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้อีกนั่นก็คือหัวใจที่ด้านชากำลังโหยหาไอรักจากเธอ....







Create Date : 12 มีนาคม 2553
Last Update : 12 มีนาคม 2553 14:18:05 น. 1 comments
Counter : 585 Pageviews.

 
เฮ้อ เป็นอะไรไปความรัก


โดย: หนอนนิยาย IP: 180.180.67.232 วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:18:02:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.