sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
17 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ 8 สายใยบางๆ



ช่วงเช้าของอีกวันหญิงสาวร่างโปร่งยืนรับลมอยู่ที่ระเบียงด้วยความรู้สึกอิ่มเอมกับบรรยากาศของธรรมชาติที่อยู่รอบกาย

“พิณมาดูอะไรนี่สิ”

วีนากวักมือเรียกเพื่อนพร้อมกับสูดอากาศเข้าปอดแล้วกางแขนออกก่อนจะหลุบเปลือกตาลงเพื่อฟังเสียงธรรมชาติที่ดังหวีดหวิวรอบกายด้วยความรู้สึกเบิกบานใจ

“มีอะไรอีกล่ะคุณนางแบบ ดูทำท่าเข้าใครมาเห็นคงสมเพชตายทำยังกับไม่เคยพบเคยเจออากาศบริสุทธิ์ยังงั้นแหละ”

คนถูกเรียกเดินออกมาตามคำชวนด้วยทีท่าที่ไม่ใคร่จะใส่ใจกับท่าทางอันแสนจะโอเวอร์ของเพื่อนซักเท่าไหร่นัก

“แหมพิณนี่ยังไงคนเค้ากำลังมีอารมณ์อันสุนทรีเสียอารมณ์หมดเลย”
นางแบบสาวลืมตาขึ้นแล้วหันไปส่งค้อนให้เพื่อน

“โอ้โห!...นาที่นี่มันสวรรค์ชั้นไหนกันล่ะเนี่ย”

รพิชาที่เดินออกมาเห็นทัศนียภาพอันงดงามถึงกับโพล่งออกมาด้วยความตื่นตะลึงเมื่อมองออกไปนอกระเบียงแล้วเห็นทุ่งดอกเบญจมาศหลากสีหลายพันธุ์ทั้งดอกเล็กดอกใหญ่ดาษดื่นนับๆ สิบๆ ไร่

“ต๊าย! แม่หมอพิณอย่าไปเที่ยวถามคำถามนี้กับผู้ชายเข้าล่ะ ล่อแหลมจริงๆ เดี๋ยวเค้าตอบกลับว่าชั้นเจ็ดขึ้นมา อื้อหืม...ได้ยุ่งกันพอดี”

นางแบบสาวลืมตาโพลงแล้วหันไปหัวเราะคิกคัก

“บ้า! นาเดี๋ยวนี้ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ”

“แน่ะพูดแค่นี้ทำหน้าแดง”

วีนาหัวเราะขบขันเมื่อเห็นใบหน้านวลเนียนของเพื่อนสนิทเริ่มมีสีชมพูจางๆ
“ก๋ากั่นจังเลยนะคุณนางแบบ ลงไปข้างล่างกันเถอะมาอยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดายตื่นแล้วก็รีบลงไปช่วยงานบ้านท่านบ้าง”

“หวังว่าคงไม่ถึงขนาดให้เราปั้นวัวปั้นควายหรอกนะ” วีนาหันไปเย้าแหย่สีหน้ายียวน

“ยอกย้อนจริงๆ เชียว ไปกันเถอะไม่รู้ว่าวันนี้เราจะได้คุยกับคนไข้คนนั้นหรือเปล่าดูท่าทางเค้าเหมือนไม่ค่อยชอบเรานาว่ามั้ย”

“แม่หมอโรคจิตนี่ยังไงถามอะไรแปลกๆ อย่างพิณโลโก้ก็บอกชัดๆ ว่ายืนอยู่ข้างใครให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าคนนั้นจิตไม่ปกติคุณคนเมื่อคืนก็ดูปกติแถมหน้าตาหล่อเหลายังกะพระเอกหนัง เค้าก็คงอคติน่ะซีคนไม่บ้าดันพาหมอโรคจิตเข้าบ้านแบบนี้ ถ้าเป็นเรานะเรายังไงก็ต้องตั้งกำแพงกันไว้ก่อนนั่นแหละ”

“นั่นสินาเท่าที่เราสังเกตคุณคนเมื่อคืนก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติเลย หนำซ้ำท่าทางเขาก็ดูดีออกแววตาอะไรก็สดใสไม่เห็นมีแววเก็บกดหรือสะกดอารมณ์เพื่อปกปิดอาการเจ็บป่วยที่เป็นเลย”

คุณหมอสาวสันนิษฐานไปตามพฤติกรรมที่เห็นและการประเมินจากการสังเกตอาการคร่าวๆ ของคนไข้หนุ่ม

“เอ...ถ้าอาการคุณรูปหล่อเป็นปกติแบบนี้พิณว่ามันจะเป็นไปได้ไหมที่คุณจีรัณอะไรนั่นจะพยายามสร้างเรื่องแล้วคิดฮุบสมบัติโดยทำให้คนนอกคิดว่าน้องชายตัวเองเป็นโรคจิต”

“เค้าจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกัน”

“มันก็ไม่แน่นะดูบ้านช่องสิออกจะใหญ่โต เราว่าบางทีมันอาจจะมีเรื่องแก่งแย่งสมบัติก็เป็นได้ พิณลองคิดดูสิว่าถ้าทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของน้องชาย แล้วถ้าคุณจีรัชญ์อะไรนั่นเกิดบ้าจริงๆ คุณจีรัณก็ต้องร้องศาลขอเป็นผู้พิทักษ์ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็คิดเป็นอื่นไม่ได้หรอก”

“ดูหนังมากไปหรือเปล่าคะคุณวีนาพูดอะไรแบบนั้นดูๆ คุณจีรัณเธอก็รักน้องชายดีออก”

คุณหมอสาวถึงกับขบขันเมื่อได้ฟังคำสันนิษฐานจากเพื่อน

“เรารู้สึกว่าคุณจีรัณไม่ค่อยน่าไว้วางใจ เวลาอยู่ใกล้ๆ เรารู้สึกเหมือนใจลอยๆ ยังไงไม่รู้”

“แล้วนาจะกลับกรุงเทพฯ ตอนไหนล่ะ”

รพิชาจ้องหน้าเพื่อนแววตากังวล

“ตอนแรกก็ว่าจะอยู่เป็นเพื่อนพิณซักอาทิตย์หนึ่ง แต่พอมาเห็นสภาพแวดล้อมแล้วบอกตรงๆ ว่าเราคงทิ้งพิณให้อยู่คนเดียวไม่ได้แล้วล่ะช่วงนี้เราก็ไม่ได้รับงานอยู่ไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร”

นางแบบสาวบอกพลางยักไหล่น้อยๆ

“ขอบคุณนานะที่ห่วงเรา”

“ไม่ห่วงได้ไงคนที่นี่จิตใจเป็นยังไงก็ไม่รู้ งานพิณน่ะก็รู้ๆ กันอยู่ว่าต้องทำงานกับคนที่มีสภาพจิตไม่ปกติ อยู่โรงพยาบาลมันก็พอวางใจบ้างเพราะอย่างน้อยหมอก็เยอะคนดูแลก็แยะแต่ที่นี่เราไม่รู้หรอกว่าใครเป็นแบบไหน เราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้อำนวยการของพิณถึงกล้าส่งหมอที่เป็นผู้หญิงออกมาทำงานนอกสถานที่แบบนี้”

หันไปมองหน้าเพื่อนแล้วอดตำหนิไปยังผู้ออกคำสั่งไม่ได้

“นาอย่าไปว่าท่านเลย ผู้อำนวยการสนิทกับคุณพ่อออกถ้าท่านเห็นว่าไม่ปลอดภัยมีเหรอจะกล้าส่งเรามา นาอย่าคิดมากเลยนะแค่นาอยู่เป็นเพื่อนเราก็ดีใจแล้วล่ะ”

“แล้วพิณจะต้องอยู่ที่นี่นานมั้ย แล้วพอรู้ไหมล่ะว่าคนไข้ของพิณเป็นอะไร”
“มันไม่มีกำหนดตายตัวว่าเราจะได้กลับเมื่อไหร่ ส่วนอาการตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าคนไข้ป่วยเป็นอะไรเพราะยังไม่ได้ประวัติเลย”

“อืม..เดี๋ยวเค้าคงคุยรายละเอียดมั๊งพิณไม่ต้องกลัวนะเราไม่ปล่อยพิณให้อยู่ที่นี่ลำพังหรอก อีกอย่างที่นี่อากาศดี๊ดีอยู่ทั้งปีก็ยังไหว”

วีนาสูดอากาศเข้าปอดเพื่อยืนยันคำพูดของตนแล้วยิ้มออกมาอย่างร่างเริง รพิชายิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นอาการตื่นธรรมชาติของเพื่อน


*******************

จีรัณนั่งมองกาแฟดำตรงหน้าแววตาเรียบเฉย ในขณะจีรัชญ์กำลังตักข้าวต้มกุ้งเข้าปากด้วยความเร่งรีบ อีกฝั่งของโต๊ะอาหารมีหญิงสาวอีกสองคนกำลังจดจ่อกับอาหารเช้าวีนาที่เคยชินกับชั่วโมงเร่งรีบเลือกทานเป็นนมสดและขนมปังปิ้งเพียงแผ่นเดียว ส่วนรพิชาเลือกทานเป็นข้าวต้มเพราะเคยชินกับการรับประทานอาหารเช้า ทั้งหมดนั่งทานอาหารที่วางอยู่ตรงหน้าของตนไปเรื่อยๆ

“รัชญ์วันนี้พาคุณหมอไปเที่ยวที่ไร่ด้วยสิ”

จีรัณวางแก้วกาแฟที่ยกขึ้นดื่มลงบนจานรองแล้วหันไปบอกน้องชาย

“จะดีเหรองานในไร่มันน่าเบื่อจะตายเจอแดดร้อนๆ ผิวคุณหมอไม่เสียแย่หรือ”

คนเป็นน้องบอกปัดคล้ายไม่ใคร่อยากพาไปนัก

“อากาศบ้านเราไม่ได้อบอ้าวซักเท่าไหร่ อีกอย่างที่ไร่ไม่ใช่มีแต่อยู่กลางแดดกลางลมซักหน่อยพาคุณหมอไปเปิดหูเปิดตาดูดอกไม้บ้างจะได้ไม่เบื่อ”

“ถ้าคุณจีรัชญ์ไม่สะดวกก็อย่าไปรบกวนเลยค่ะ”

พอเห็นสีหน้าของจีรัชญ์ดูอึดอัดรพิชาจึงเอ่ยตัดปัญหา

“ไม่รบกวนหรอกครับ คุณหมอต้องอยู่ที่นี่อีกนานให้อยู่แต่ในบ้านคงเบื่อแย่ ออกไปเปิดหูเปิดบ้างก็ดีนะครับ”

“พี่จีสก็พาเธอไปเองสิผมต้องทำงาน”

“รัชญ์อย่าทำตัวมีปัญหาสิ ต่อไปรัชญ์กับคุณหมอก็ต้องพบปะพูดคุยกันบ่อยๆ สร้างความคุ้ยเคยกันไว้จะเป็นอะไรไป”

“ผมไม่ได้เป็นอะไรทำไมจะต้องพบปะกับหมอบ่อยๆ ”

ชายหนุ่มจ้องหน้าพี่ชายแล้วปรายตามองไปทางคุณหมอหน้าสวยที่นั่งหน้านิ่งแววตาอ่อนลง เจอหมอมาก็เยอะหมอที่เจอล้วนแต่หน้าตาเรียบๆ ใจดีๆ ส่วนใหญ่ไม่เป็นผู้ชายก็เป็นคุณหมอรุ่นป้า แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับแตกต่างจากบรรดาคุณหมอทั้งหลายที่เขาเคยเจอ

หมอรพิชาดูอ่อนเยาว์ผิวพรรณขาวนวลผุดผ่องเป็นยองใย ส่วนใบหน้าก็นวลเนียนสะอาดสะอ้าน เธอดูบอบบางจนไม่น่าจะเลือกงานที่จะต้องเหน็ดเหนื่อยและคร่ำเคร่งกับความเจ็บป่วยของคนอื่น ถึงแม้ลึกๆ เขาจะไม่ค่อยพึงใจซักเท่าไหร่กับการที่จะต้องอยู่ใกล้ๆ เธอซึ่งกำลังจะมาเป็นหมอเจ้าของไข้ แต่น่าแปลกที่เวลาได้ยินเสียงเธอเขากลับรู้สึกอุ่นใจและสบายใจ...เธอเป็นจิตแพทย์...คงไม่แปลกหากจะใช้จิตวิทยาที่เธอมีเพื่อโน้มน้าวให้คนไข้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ...จีรัชญ์สรุปกับตัวเองเงียบๆ

“หากคุณจีรัชญ์ต้องทำงานดิฉันว่าวันนี้คงไม่เหมาะที่ดิฉันกับเพื่อนจะไปรบกวน คุณจีรัณไม่ต้องกังวลนะคะว่าดิฉันกับเพื่อนจะเบื่อเราอยู่กันได้ค่ะ”
คุณหมอสาวเหลือบมองไปทางจีรัชญ์แล้วก็เห็นความยุ่งยากใจ จากสีหน้าและแววตาขุ่นมัวของชายหนุ่มที่ฉายออกมาบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังอึดอัดกับสถานการณ์จนดูกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด

“เอาไว้วันหลังผมจะพาคุณหมอกับคุณวีนาไปเที่ยวที่น้ำตกดีกว่า ถัดจากท้ายไร่ไปประมาณกิโลกว่าๆ จะมีน้ำตกเล็กๆ ถึงน้ำจะไม่หลากแต่ก็สวยงามและเย็นสบาย”

พอได้ยินน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจจากคุณหมอคนสวยจีรัชญ์ที่พยายามตั้งป้อมก็ถึงกับอ่อนยวบ ชายหนุ่มผุดรอยยิ้มบางๆ ออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายดูขุ่นเคืองใจจนน่าขัน

“เสียดายนะครับที่วันนี้ผมติดธุระไม่อย่างนั้นผมคงไม่รบกวนเจ้าของไร่ให้เมื่อยปาก”

จีรัณเหน็บขึ้น

“พูดแบบนั้นได้ยังไงล่ะพี่จีสของทุกอย่างมันก็เป็นของผมกับของพี่ทั้งนั้นนั่นแหละ เฮ้อ! ไปทำงานดีกว่า”

จีรัชญ์เอื้อมมือไปหยิบหมวกสานที่วางบนเก้าอี้แล้วผุดลุกขึ้น แต่ก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไปเสียงเขียวๆ ของพี่ชายก็ดังขึ้น

“สุภาพสตรีนั่งอยู่ตั้งสองคนแกจะไม่มีมารยาทบอกขอตัวเลยหรือยังไงฮึ”

“ผมขออนุญาตออกไปทำงานก่อนะครับคุณหมอ คุณวีณา และคุณพี่ชาย”
พอได้ยินเสียงเขียวๆ ของพี่ชายขัดขึ้นชายหนุ่มก็อดประชดประชันไม่ได้ รพิชามอมยิ้มน้อยๆ ส่วนวีนาได้แต่กลั้นยิ้มเมื่อเห็นท่าทางอันยียวนของจีรัชญ์

“ตอนเย็นอย่ากลับค่ำนักล่ะ”

“ครับคุณผู้ปกครอง”

จีรัชญ์ที่ลุกเดินออกไปยังไม่พ้นเขตห้องอาหารหันกลับมารับคำสั่งน้ำเสียงห้วนๆ ก่อนที่จะเดินจ้ำอ้าวออกไป

“ต้องขอโทษคุณหมอกับคุณวีนาด้วยนะครับที่น้องชายผมทำตัวไม่น่ารักเอาเสียเลย”

จีรัณเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องชายจอมดื้อเดินออกไปไกลพอสมควร

“ไม่เป็นไรค่ะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เอง อ้อคุณจีรัณวันนี้รบกวนคุณช่วยเอาประวัติอาการป่วยของคุณจีรัชญ์มาให้ดิฉันด้วยนะคะ ดิฉันอยากจะทราบว่าคุณจีรัชญ์ป่วยเป็นอะไรและมีการรักษาอาการไปถึงไหนแล้ว แต่จากที่ดูจากพฤติกรรมและอารมณ์ก็ปกติดีนี่คะ”

“เรื่องรายละเอียดของอาการและประวัติจากการรักษาผมจะจัดการให้คงได้ตอนเย็นๆ วันนี้ผมต้องขอโทษคุณหมอจริงๆ นะครับที่ไม่ได้อยู่ดูแล”

ปากบอกขอโทษขอโพยรพิชาแต่สายตากลับจ้องๆไปยังวงหน้ากระจ่างใสของหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่เงียบๆ แล้วทานอาหารบนจานของตนจนไม่ยอมเข้าร่วมวงสนทนา

“อย่ากังวลเลยค่ะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

“เอางี้ดีกว่าคุณหมอกับคุณวีนาอยากเข้าเมืองมั้ยครับจากไร่ไปถึงเมืองก็ราวๆ 40 กิโลถ้าคุณเบื่อบ้านไปกับผมก็ได้”

จีรัณพยายามหาทางออก

“ดิฉันอยากพักมากกว่าค่ะ นาอยากไปไหมล่ะ”

“ถ้าพิณไม่ไปเราก็ไม่ไปดีกว่า”

นางแบบสาวตอบชนิดถนอมคำจนจีรัณผุดรอยยิ้มบางๆ ออกมาเมื่อเห็นนางแบบชื่อดังที่เคยมาดมั่นเปลี่ยนเป็นนุ่มนิ่มจนน่าเอ็นดู

“ถ้าอย่างนั้นผมจะรีบไปรีบกลับนะครับปล่อยแขกให้อยู่กันเองบอกตรงๆ ผมเป็นห่วง”

“คุณจีรัณทำธุระให้สบายใจเถอะค่ะไม่ต้องรีบร้อน นาเค้าไม่หนีกลับกรุงเทพฯ วันนี้พรุ่งนี้หรอกค่ะ”

รพิชาบอกยิ้มๆ เมื่อเห็นอาการกระวนกระวายของชายหนุ่มที่แสดงออกมาชัดเจนว่าความห่วงใยที่ท่วมท้นออกมาแท้จริงพุ่งตรงไปที่ใคร

“เอ่อ...แหมคุณหมอครับเล่นยิงประตูผมแบบนี้ผมก็แย่นะสิครับ”

พอถูกจับไต๋จีรัณก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ แล้วเหลือบแลไปทางนางแบบสาวที่กำลังนั่งหน้าแดงอยู่อีกฝั่ง ชายหนุ่มรู้สึกกระหยิ่มใจไม่น้อยเมื่อมองเห็นหนทางที่จะสานความสัมพันธ์กับเป้าหมาย ลองคุณหมอคนสวยขัดคอบ้างเปิดทางบ้างเห็นทีความรักครั้งนี้คงมีเฮ.....







Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2553 17:01:02 น. 2 comments
Counter : 477 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:28:50 น.  

 
เห็นทีจะมีสองคู่ ฮ่าๆๆ


โดย: nan (*-*-MeMoRy PolaRiS-*-* ) วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:18:05:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.