Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 

ลุยแดนกีวี..สัมผัสการศึกษาถิ่นเมารี (1) เยือน"โอทาโก"ม.แห่งแรกของนิวซีแลนด์

โดย ขติยา มหาสินธ์ oui1@hotmail.com


*ระหว่าง 19-25 มิถุนายนที่ผ่านมา มีโอกาสได้ติดตามคณะผู้บริหารของ "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี" นำโดย "รศ.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์" อธิการบดี มทร.ธัญบุรี ไปศึกษาดูงานด้านเทคโนโลยีการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ ณ เกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการพัฒนาบุคลากรด้านออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ ประจำปี 2551" ภายใต้โครงการพัฒนาจัดการศึกษาตามยุทธศาสตร์การพัฒนา มทร.ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

     การศึกษาดูงานของคณะผู้บริหารครั้งนี้ อยู่ในระยะที่ 2 ของโครงการพัฒนาบุคลากรด้านออกแบบแฟชั่น รับผิดชอบโครงการโดย "คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี" โดยก่อนหน้านี้ มทร.ธัญบุรี ได้ส่งคณาจารย์ไปฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอที่ "มหาวิทยาลัยโอทาโก" ประเทศนิวซีแลนด์มาแล้ว ครั้งนี้คณะผู้บริหารจึงมาติดตามผล ตลอดจนพบปะอย่างเป็นทางการกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์ เพื่อพัฒนาเป็นเครือข่ายที่ยั่งยืนต่อไป

     รศ.นำยุทธกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการว่า มาจากยุทธศาสตร์การพัฒนา มทร.โดยรวม ซึ่งเดิมเป็นสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ให้เป็นมหาวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเมื่อเป็นมหาวิทยาลัย 9 แห่ง ก็ยังคงยึดตามยุทธศาสตร์ เพียงแต่มีวิธีบริหารจัดการที่แตกต่างกัน ในส่วนของ มทร.ธัญบุรี มุ่งจัดการศึกษา และพัฒนาสาขาเทคโนโลยีการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศเป็นผู้นำด้านการผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นและสิ่งทอ ตลอดจนการออกแบบแฟชั่นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

     "มทร.ธัญบุรีในฐานะผู้ผลิตบัณฑิตเพื่อตอบสนองความต้องการของสถานประกอบการ ตลอดจนให้บริการวิชาการเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ โดยร่วมกับมูลนิธิพัฒนาเครื่องนุ่งห่มไทย จึงจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยในด้านนี้ และหวังว่าโครงการนี้จะสร้างความเข้มแข็งให้กับมหาวิทยาลัยมากขึ้น ขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสให้กับคนของเราเองได้มีประสบการณ์ และเรียนรู้ด้านนี้เพิ่มขึ้นด้วย" รศ.นำยุทธกล่าว

*"ผศ.เจริญ เจริญชัย" คณบดีคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า โครงการนี้มุ่งพัฒนาอาจารย์ให้มีงานวิจัยเทคโนโลยีด้านออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอได้ จึงได้ส่งตัวแทนอาจารย์ในคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ และคณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรการเรียนการสอนการออกแบบแฟชั่น 6 คน และมีอาจารย์จาก มทร.พระนคร และ มทร.กรุงเทพ สมทบอีก 4 คน ฝึกอบรมที่มหาวิทยาลัยโอทาโก ระหว่าง 26 เมษายน-16 พฤษภาคม รวม 3 สัปดาห์ สาเหตุที่เลือกมหาวิทยาลัยโอทาโก เพราะสอนวิทยาศาสตร์สิ่งทอ หวังว่าอาจารย์ที่มาอบรมจะได้เรียนรู้เทคนิคการวิจัยที่เกี่ยวกับเครื่องแบบสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ทั้งยังคาดหวังว่า มทร.ธัญบุรี และมหาวิทยาลัยโอทาโกจะร่วมทำวิจัยด้วยกัน เพราะนิวซีแลนด์สนใจสิ่งทอพื้นเมืองของประเทศไทย

     สำหรับมหาวิทยาลัยโอทาโก ตั้งอยู่ที่เมืองดันนิดิน เกาะใต้นิวซีแลนด์ เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของนิวซีแลนด์ จากทั้งหมด 8 แห่ง มหาวิทยาลัยโอทาโกก่อตั้งในปี ค.ศ.1876 จัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี บัณฑิตศึกษา และระดับหลังปริญญาตรี ด้านการศึกษาปฐมวัย ประถม และมัธยม เพื่อผลิตครู และผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา มีชื่อเสียงในเรื่องจัดหลักสูตรระยะสั้นสำหรับการพัฒนาวิชาชีพให้แก่คณะครูอาจารย์ที่มาจากประเทศต่างๆ เพราะมีมาตรฐานทางการเรียนการสอน และมีความเข้มแข็งทางการวิจัย จึงเป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นิยมส่งนักศึกษาทุน ก.พ.มาเรียน

*วันที่คณะผู้บริหารเดินทางไปศึกษาดูงานที่นิวซีแลนด์นั้น ทางมหาวิทยาลัยโอทาโกจัดให้พบปะกับ "ดวิษา ไพบูลย์ศิริ" นักศึกษาทุน ก.พ.ที่มาเรียนคณะวิทยาศาสตร์การอาหารในระดับปริญญาตรี และโท ที่มหาวิทยาลัยโอทาโก ซึ่งในเดือนมกราคม 2552 น้องดวิษาก็จะจบปริญญาโท และกลับมารับราชการที่เมืองไทยแล้ว เจ้าตัวเล่าว่า "มหาวิทยาลัยโอทาโกให้ความสำคัญกับการวิจัยมาก ทุกปีคณะวิทยาศาสตร์การอาหาร มหาวิทยาลัยโอทาโก และผู้ประกอบการอาหารจะรวมกลุ่มกันจัดสัมมนาเพื่อพูดคุยถึงงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยทำ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าไทยมาลงนามความร่วมมือด้วย ก็จะได้รับความรู้จากนิวซีแลนด์"

     การศึกษาดูงานของคณะผู้บริหาร มทร.ธัญบุรีครั้งนี้ นอกจากจะได้พบปะคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยโอทาโกแล้ว ยังได้เยี่ยมชมมหาวิทยาลัย ทั้งห้องปฏิบัติงานของคณะวิทยาศาสตร์การอาหาร หรือห้องปฏิบัติงานในภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งทอและเครื่องนุ่มห่ม ทำให้เห็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย การใช้ประโยชน์จากเครื่องมืออย่างคุ้มค่า และการบริหารจัดการบุคลากรที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงติดตามผลการฝึกอบรมของบุคลากรที่ส่งมาอบรมกับมหาวิทยาลัยโอทาโกอีกด้วย

      "น.ส.วราภรณ์ วงศ์ปถัมภ์" อาจารย์สาขาวิชาสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม สังกัดคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี หนึ่งในผู้เข้าอบรม เล่าว่า การอบรมกับมหาวิทยาลัยโอทาโกทำให้รู้ถึงหลักการวิจัยที่หลากหลาย โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับวงการอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ตัวอย่างสินค้าที่ทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานภายนอก คือกีฬาโอลิมปิค โดยอาจารย์นิวซีแลนด์ทำเสื้อผ้าชุดว่ายน้ำที่ไร้ตะเข็บโดยใช้กาวประกอบชุด ทำให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้น เพราะแรงต้านของตะเข็บไม่มี นอกจากนี้ ยังมีห้องทดลองที่ควบคุมอุณหภูมิ อย่างเวลานักกีฬาสวมเสื้อผ้า จะระบายอากาศไม่ดี ห้องทดลองที่ควบคุมอุณหภูมิจะทำให้รู้ว่าผ้าที่จะนำมาตัดเย็บระบายอากาศได้ดีแค่ไหน ทั้งนี้ ผลจากการศึกษาอบรม ทำให้คิดนอกกรอบ ได้คอนเซ็ปท์ในการวิจัย ตลอดจนได้แนวความคิดที่จะต่อยอด ซึ่งตนจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์สอนนักศึกษา โดยอนาคตอาจจะร่วมกับสาขาที่เกี่ยวข้องทำวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเสื้อผ้าพื้นเมือง

      "ผศ.สุมานิการ์ จันทร์บรรเจิด" ผู้ช่วยอธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า การมาเยือนมหาวิทยาลัยโอทาโก เป็นการประเมินสถานที่ที่ส่งคนมาอบรม จะได้รู้ว่าอนาคตควรร่วมมือกับสถาบันแห่งนี้มากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม การจะได้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า สมาชิกทุกคนควรนำแง่คิดที่ได้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น และนำไปสู่การพัฒนามหาวิทยาลัยที่ยั่งยืนต่อไป

     ปิดท้ายที่ "ผศ.อ้อยทิพย์ ผู้พัฒน์" รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ในฐานะผู้รับผิดชอบ และประสานโครงการ บอกว่า โครงการนี้แบ่งบุคลากรออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกส่งอาจารย์มาฝึกอบรมที่มหาวิทยาลัยโอทาโก และกลุ่มที่ 2 ส่งผู้บริหารมาติดตามผล ซึ่งถือเป็นการพัฒนาผู้บริหารควบคู่ไปกับอาจารย์ ต่อไปจะนำบุคลากรที่ไปฝึกอบรมทุกคน รวมถึงอาจารย์จาก มทร.พระนคร และกรุงเทพ มาขยายผล และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กันและกัน


ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนออนไลน์ วันที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11073 หน้า 23

H O M E




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2551
1 comments
Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 0:16:43 น.
Counter : 1146 Pageviews.

 

ขอบคุณครับ

 

โดย: พนบ. 5 กรกฎาคม 2551 6:33:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.