Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
พบรอยเท้า “ไดโนเสาร์” เก่าสุดในโลกที่ชัยภูมิ - อายุ 210 ล้านปี คาดเป็นแหล่งกำเนิด



     ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- คณะสำรวจสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ โคราช ค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์อายุ 210 ล้านปีก่อนเก่าที่สุดในโลก มากกว่า 80 รอย ที่ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ คาดเป็นแหล่งกำเนิดของไดโนเสาร์ ด้าน ผอ.สถาบันวิจัยฯ หัวหน้าคณะสำรวจ เผยเป็นรอยเท้าเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา และถือเป็นแห่งแรกที่พบรอยเท้าไดโนเสาร์ชนิดกินเนื้อกับกินพืชอยู่ด้วยกัน เสนอท้องถิ่นสร้างพิพิธภัณฑ์จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวชม

     วันนี้ (18 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผศ.ดร.เศาวนิต เศาณานนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา พร้อมด้วย ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พร้อมด้วยตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกันแถลงข่าว การค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์อายุประมาณ 210 ล้านปีก่อน ซึ่งเป็นรอยเท้าเก่าที่สุดในโลกที่ บ้านโนนตูม ต.วังชมภู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ

     ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ หัวหน้าคณะสำรวจไดโนเสาร์ เปิดเผยว่า คณะสำรวจไดโนเสาร์จากสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้เดินทางไปศึกษาสำรวจรอยเท้าไดโนเสาร์ บริเวณลานหินริมตลิ่งลำชี เขตบ้านโนนตูม ต.วังชมภู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ เมื่อเดือน ก.ค.2551 ที่ผ่านมา ตามคำบอกเล่าของ นายศุภโชค หาญกุดเลาะ ชาวบ้านบ้านโนนตูม พร้อมนำคณะสำรวจลงพื้นที่ดูรอยเท้าที่พบจริง



     ทั้งนี้ จากการสำรวจ พบรอยเท้าไดโนเสาร์จำนวนมากกว่า 80 รอย บนลานหินทราย พื้นที่ประมาณ 50 ตารางเมตร ทางคณะได้นำผลการสำรวจไปปรึกษา ดร.โยอิชิ อะซูมา ผู้เชี่ยวชาญไดโนเสาร์ จากพิพิธภัณฑ์ฟูกุอิ ประเทศญี่ปุ่น และ ศาสตราจารย์ ต่ง จือหมิง จากพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ลูเฟง สาธารณรัฐประชาชนจีน สามารถจำแนกรอยเท้าที่ปรากฏได้ 3 ลักษณะ คือ ลักษณะแรกเป็นแนวทางเดินของรอยเท้าทรงกลมมน คล้ายรอยเท้าของช้าง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 เซนติเมตร จำนวนไม่ต่ำกว่า 17 รอย คาดว่าเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์ซอโรพอด หรือ ไดโนเสาร์สี่เท้าขนาดใหญ่กินพืช

ลักษณะที่ 2 เป็นแนวทางเดินของรอยเท้า 3 นิ้ว คล้ายเท้านก ขนาดกว้าง x ยาว เท่ากับ 28 x 30 เซนติเมตร จำนวนไม่ต่ำกว่า 15 รอย คาดว่าเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์ คาร์โนซอร์ หรือ ไดโนเสาร์สองเท้าขนาดใหญ่กินเนื้อ



     ส่วนลักษณะที่ 3 เป็นแนวทางเดินของรอยเท้า 2 กีบคล้ายเท้าควาย รอยเท้าหลังมีขนาด 18 x 20 เซนติเมตร จำนวนไม่ต่ำกว่า 29 รอย รอยเท้าหน้า ขนาด 10 x 20 เซนติเมตร จำนวน 19 รอย ลักษณะที่ 3 นี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นรอยไดโนเสาร์ หรือสัตว์เลื้อยคลานประเภทใด แต่คาดว่าเป็นรอยเท้าพวกใหม่ที่น่าจะยังไม่เคยพบมาก่อน

     ผศ.ดร.ประเทือง กล่าวอีกว่า รอยเท้าทั้งหมดพบอยู่บนหินที่นักธรณีวิทยาเรียกว่า “หมวดหินน้ำพอง” ซึ่งกรมทรัพยากรธรณี ให้อายุอยู่ในยุคไทรแอสซิกตอนปลาย หรือประมาณ 210 ล้านปีก่อน ความสำคัญของรอยเท้าที่พบครั้งนี้ จึงคาดว่าเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์ซอโรพอด และคาร์โนซอร์ที่มีอายุเก่าที่สุดในโลก เพราะรอยเท้าดังกล่าวในแหล่งอื่นที่อายุเก่า จะพบในหินยุคจูแรสซิก (ประมาณ 200-146 ล้านปีก่อน)



     ขณะเดียวกัน เป็นการสนับสนุน การค้นพบซากดึกดำบรรพ์กระดูกไดโนเสาร์ซอโรพอดเป็นชนิดกินพืช ของกรมทรัพยากรธรณี ที่ให้ชื่อว่า “อิสานโนชอรัส อรรถวิภิชน์ชิ” ซึ่งถือว่าเก่าที่สุดในโลกอายุประมาณ 210 ล้านปีก่อนเช่นกัน จากแหล่งตำบลถ้ำวัวแดง จ.เลย ซึ่งเป็นตำบลติดต่อกันกับตำบลวังชมภู ที่เป็นแหล่งพบรอยเท้าไดโนเสาร์ครั้งนี้ และคาดว่ารอยเท้าส่วนใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกีบเท้าสัตว์ 2 กีบนั้นน่า จะเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์หรือสัตว์เลื้อยคลานพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่พบในทวีปใดมาก่อน

     “การค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์อายุเก่าที่สุดในโลกครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏพบรอยเท้าของไดโนเสาร์ชนิดที่กินพืชกับกินเนื้ออยู่ด้วยกันและมีอายุมากขนาดนี้มาก่อน แต่มาพบที่ จ.ชัยภูมิ เป็นแห่งแรก และอาจจะบอกได้ว่านี่คือแหล่งกำเนิดของไดโนเสาร์ของโลก และยังมีรอยเท้าที่จำแนกไม่ได้อีกในขณะนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศจะลงมาศึกษา เพื่อหารายละเอียดของรายเท้าดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นแหล่งค้นพบครั้งนี้ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก และนับเป็นโอกาสที่ดีที่จะสนับสนุนให้มีพิพิธภัณฑ์แสดงรอยเท้าไดโนเสาร์ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกให้เกิดขึ้นในท้องถิ่น” ผศ.ดร.ประเทือง กล่าว

     ผศ.ดร.ประเทือง กล่าวอีกว่า สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์อยู่แล้ว จะนำรอยเท้าจำลองมาจัดแสดงนิทรรศการรอยเท้าไดโนเสาร์ชัยภูมิที่ “อาคารสิรินธร” ภายในสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 ต.ค.2551 ที่จะถึงนี้ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จฯมาเป็นองค์ประธานเปิดอาคารดังกล่าว


ขอขอบคุณ
ที่มา :
ผู้จัดการออนไลน์ 18 สิงหาคม 2551

H O M E



Create Date : 21 สิงหาคม 2551
Last Update : 21 สิงหาคม 2551 17:49:15 น. 5 comments
Counter : 2131 Pageviews.

 
เรื่องนี้น่าสนใจมากมากเลยค่ะ ขอบคุณน้าคะที่นำมาให้อ่านเป็นความรู้กัน ขอบคุณจ๊ะ


โดย: ยายแก้มนิ่ม วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:23:11:41 น.  

 
สนใจเรื่องนี้มากๆ เลย


โดย: poland IP: 118.175.76.3 วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:12:40:10 น.  

 
จริงปะที่บอกว่าเป็นรอยเท้าที่เก่าแก่ที่สุด


โดย: ปราง IP: 118.173.128.168 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:17:46:37 น.  

 
ต่อไปจะพยายาม หา ตัวไดฝดนเสา มาให้ดูกัน จะจะ


โดย: kun IP: 58.9.112.155 วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:23:47:53 น.  

 
My apologies for getting off-topic but I had to ask!
yiwu futian market //yiwumarket.iwopop.com/


โดย: yiwu futian market IP: 133.130.49.172 วันที่: 3 กรกฎาคม 2558 เวลา:22:03:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.