Bloggang.com : jenifaae : "บีอาร์เอ็น"ลั่นเปิดศึกต่อ

"บีอาร์เอ็น"ลั่นเปิดศึกต่อ

ยันไม่เกี่ยวกับองค์กร แถลงการณ์หยุดยิง "บิ๊กบัง"แนะฟังหูไว้หู

“บีอาร์เอ็น” ยันคนแถลงการณ์หยุดยิงไม่เกี่ยวกับองค์กร ประกาศลั่นจะเปิดศึกกับรัฐบาล เพื่อแบ่งแยกดินแดนตามจุดยืน ขณะที่แกนนำกลุ่ม “พูโล-เบอร์ซาตู” พาเหรดปฎิเสธไม่รู้เรื่อง แฉประวัติ “กลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้” เคยจับเข่าคุยกับรัฐบาล-บิ๊กจิ๋ว มาแล้วถึง 3 ครั้ง ก่อนจะพาสมาชิกออกมาร่วมพัฒนาชาติไทย แค่ตัวเองกลับหันหน้าเข้าร่วมขบวนการอีกครั้งแต่ถูกลดบทบาท หลังถูกจับได้ว่านำเงินสนับสนุนไปใช้ส่วนตัว “ผบ.ทบ.ลั่นไม่มีทางเจรจา เพราะคนที่ก่อเหตุคืออาชญากร ที่ต้องถูกลงโทษ เผยสถานการณ์ยังปกติ แต่บอกไม่ได้ว่าจะยุติหรือไม่ ส่วน “บิ๊กบัง” ออกโรงแนะควรฟังหูไว้หู จนท.ต้องระวังตัวเหมือนเดิม ด้าน หน่วยข่าวเตือนเจ้าหน้าที่รับมือ หลังสืบรู้กลุ่มป่วนใต้เทงบ 4 ล้านเตรียมลุยป่วน โจรใต้ยังก่อเหตุตามไล่ยิงเหยื่อรายวัน

     ภายหลังจากสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้แพร่ภาพบุคคลที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้” ที่ประกาศยุติการก่อความไม่สงบทุกชนิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาค ใต้ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเป็นตัว จริงหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ในฐานะที่เป็นคนติดต่อและเจรจากับกลุ่มดังกล่าวออกมายืนยันว่า จะยอมรับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งระบุว่าไม่ได้เป็นการจัดฉาก เพื่อหวังผลทางการเมือง ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ระบุว่าจากการตรวจสอบพบว่า บุคคลที่พูดภาษายาวี น่าจะเป็นนายอารี เป็งคาน อดีตสมาชิกกลุ่ม “อิสลามลังกาสุกะ” ที่เคยมีกิจกรรมสมัยปี 2527-2530 โดยพยายามจะเป็นศูนย์รวมของทุกกลุ่ม แต่ไม่ได้รับการยอมรับจึงยุติการเคลื่อนไหวไปตั้งแต่ปี 2530 อย่างไรก็ตามหน่วยข่าว ออกมายืนว่า คนที่แปลภาษายาวี เป็นภาษาไทย คือนายสะแปอิง ยูนิเนาะสตา ที่ได้ยุติบทบาทมานานกว่า 20 ปี เช่นเดียวกัน ทั้งนี้สำหรับบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวมากที่สุดในฐานะที่เป็นแกนนำป่วนใต้และมีการตั้งค่าหัวไว้สูงถึง 10 ล้านบาท คือ นายสะแปอิง บาซอ แกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น (โคออร์ดิเนต)

“อนุพงษ์”ลั่นไม่เจรจาโจร

เกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 ก.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการจมูกมด ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง 7 ว่า ในฐานะเป็นข้าราชการของรัฐไม่สามารถที่จะไปเจรจากับกลุ่มที่ก่อการร้าย ซึ่งถือเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายที่เรียกว่า อาชญากร ที่ต้องถูกดำเนินคดี ดังนั้นการเจรจาไม่อยู่ในอำนาจของตนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งนี้ยืนยันกองทัพไม่ได้รับรู้และส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.เชษฐา อย่างไรก็ตามตนได้รายงาน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ทราบแบบคร่าว ๆ ซึ่งก็ไม่ว่าอะไรและไม่ทราบเรื่องมาก่อน ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ยังปกติ แต่บอกไม่ได้ว่าจะยุติลงหรือไม่

     เมื่อถามว่า ได้มีการตรวจสอบหรือ ไม่ว่ามีนายทหารคนไหนเข้าไปช่วยเหลือ พล.อ. เชษฐา ในการเจรจา พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ตรวจสอบ เพราะ พล.อ.เชษฐา คงมีความปรารถนาดีที่จะช่วยบ้านเมือง ซึ่งถ้าเป็นไปโดยไม่มีเงื่อนไข และวาระแอบแฝงก็คงไม่มีอะไร ยืนยันว่าขณะนี้ทหารทุกนายยังคงทำหน้าที่ ตามปกติ เมื่อถามว่า ช่อง 5 แจ้งให้ทราบก่อน จะออกอากาศหรือไม่ ผบ.ทบ. กล่าวว่า เขาทำหน้าที่สื่อจึงไม่ถือเป็นข้อผิดพลาด จึงไม่ต้องไปเพ่งเล็งถึงขนาดว่าต้องทำอะไร เรื่องออกอากาศไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะทุกช่องก็ออกตามกันหมด

“ชวน”ห่วงกลัวถูกหลอก

ที่สถาบันเนติบัณฑิตยสภา นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวต้องขอขอบคุณเจตนาดีของ พล.อ.เชษฐา แต่ตนเป็นห่วงกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะประเมินเหตุการณ์น้อยและประมาท ซึ่งขอเตือนให้ระมัดระวังมากขึ้น เพราะหากไม่เป็นเรื่องจริงคนร้ายก็จะออกมาแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ ว่าไม่ได้อยู่ภายใต้การรับคำสั่งของกลุ่มรวมใต้ดิน และอาจจะก่อเหตุร้ายมากกว่าเดิม

     ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเด็นแอบแฝงทางการเมืองเกี่ยวข้อง โดยต้องการผลักดัน พล.อ.เชษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป นายชวน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นการเมืองก็ได้แค่นี้หากปรากฏว่าพล.อ.เชษฐา ถูกหลอกก็ถือเป็นบทเรียน แต่ถ้ามีส่วนจริงอย่างน้อยกลุ่มที่ออกมาประกาศตัวก็มีส่วนช่วยให้เกิดความสงบมากขึ้น แต่ผลอีกอย่างที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อได้มีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวออกไปทั่วโลก องค์กรนี้ก็จะได้รับการยอมรับมากขึ้น ดังนั้นเมื่อยังไม่มีข้อยุติฝ่ายความมั่นคง ก็ควรมีการแถลงท่าทีออกไปให้ทั่วโลกรับรู้เช่นเดียวกัน

“บิ๊กบัง”บอกต้องฟังหูไว้หู

ที่หอประชุมทรัพย์เจริญกรีนแลนด์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ.และอดีตประธานคมช. กล่าวบรรยายหัวข้อ “การอยู่ร่วมกันใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้” ให้นักเรียนนายร้อยและเยาวชนภาคใต้ จำนวน 120 คนรับฟัง ตอนหนึ่งว่า ยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหา ภาคใต้ตามพระบรมราโชวาท คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ทั้งนี้ความเข้าใจเป็นเรื่องที่สำคัญถ้าไม่เข้าใจก็เข้าถึงไม่ได้ และไม่สามารถทำอะไรต่อได้ การที่จะส่งคนไปทำงานต้องให้เรียนรู้ในเรื่องของภาษา วัฒนธรรม ประเพณีศาสนาและลักษณะนิสัยของคนซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ตรงกับปรัชญาของซุนวูที่ว่า รู้เขา รู้เรา การที่จะไปรบกับข้าศึกต้องรู้จักข้าศึก และรู้จักตัวเอง ถึงจะรบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง เมื่อศึกษาเรื่องของคนในพื้นที่ให้เข้าใจว่าเขามีประเพณี วัฒนธรรมอย่างไรเราก็จะนำไปใช้อย่างถูกต้อง

     อดีต ผบ.ทบ. กล่าวอีกว่า ภาคใต้มีปัญหามาแต่เดิม คือคนที่ไปดำเนินการไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ พลเรือน เป็นคนไม่ค่อยดี เรียนไม่ค่อยเก่ง หรือทำงานแล้วบกพร่อง จึง ถูกส่งไปภาคใต้ ทำให้ปัญหาภาคใต้เกิดขึ้น คือเรื่องความไม่เป็นธรรมในสังคม ทุกคนที่อยู่เป็นคนไม่ดี เมื่อลงไปก็ไปสร้างเงื่อนไข แต่ขณะนี้ได้มีการแก้ไขพยายามเลือกคนดี ๆ เข้าไปทำงาน อย่างไรก็ตามปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนแม้ว่าตนจะเกษียณแล้วก็ยังมีความห่วงใย มีสิ่งไหนที่ช่วยได้ก็จะช่วย เพื่อให้ภาคใต้เกิดความสงบโดยเร็ว อีกทั้งบรรพบุรุษของตนก็ช่วยชาติมาตั้งนานแล้ว

     ต่อมาพล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทยออกมาประกาศหยุดยิงว่า สมัยที่ตนเป็นผบ.ทบ.ก็มีองค์กรหลาย ๆ องค์กรมาประสานที่จะเข้าไปทำกิจกรรมในเรื่องของการพบปะพูดคุยเจรจา ประมาณ 4-5 ครั้ง แต่หลังจากเข้าไปตรวจสอบปรากฏว่าองค์กรที่เข้ามาเจรจาหรือพูดคุยไม่ใช่ของจริง ฉะนั้นที่ผ่านมาเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก ครั้งนี้จริงหรือไม่จริงตอบไม่ได้ แต่ควรจะฟังหู ไว้หู อย่าเพิ่งเชื่อนัก และยังคงต้องระมัดระวังเหมือนเดิมอย่าได้ประมาทเป็นเด็ดขาด ในส่วนของทหารก็มีการดำเนินการตามขั้นตอนของตนเองตามหน้าที่ของตนเอง ภาคประชาชน ข้าราชการครูก็ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐได้กำหนดไว้ ช่วงนี้ก็ยังคงต้องระมัดระวังตัวเหมือนเดิม

“พูโล-เบอร์ซาตู”ยันไม่รู้จัก

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการแถลงประกาศหยุดยิง ขบวนการพูโลเก่า โดย นายดัสตูรี มะโกตา หรืออิสมาแอล จาวา หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของขบวนการพูโลเก่า ซึ่งเป็นคน ในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ได้ปฏิเสธว่าขบวนการพูโลเก่า ไม่ได้รับรู้การแถลงข่าวหยุดยิง โดยขบวนการพูโลยังคงยืนยันในข้อตกลงเดิมคือเปิดการเจรจาโดยตรงกับตัวแทนรัฐบาลเพื่อสร้างความสันติในจังหวัดชายแดนภาคใต้

     ขณะที่ ดร.วันการ์ เด เจ๊ะมาน ประธานกลุ่มเบอร์ซาตู ได้ออกแถลงการณ์ว่า เบอร์ซาตู ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำครั้งนี้ และขบวนการแบ่งแยกดินแดนทุกขบวนการที่เป็นพันธมิตรกับเบอร์ซาตูคือ พูโลเก่า พูโลใหม่ มูจาฮีดีน ปัตตานี และอื่น ๆ ต่างไม่เคยรู้เรื่องหรือได้รับการติดต่อจากกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนกลุ่มใต้ดินทุกกลุ่มแต่อย่างใด

“บีอาร์เอ็นฯ”ประกาศจุดยืนเดิม

ส่วนขบวนการบีอาร์เอ็นโคออร์ดิเนต ซึ่งเป็นองค์กรปิดลับ ที่เป็นผู้นำในการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แจ้งผ่าน แกนนำซึ่งเป็นอุสตาซใน จ.นราธิวาส และแกนนำในประเทศเพื่อนบ้านว่า บีอาร์เอ็นฯ ไม่ต้องปฏิบัติตามคำแถลงการณ์ดังกล่าว เพราะผู้ที่ออกมาแถลงการณ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบีอาร์เอ็นฯ และบีอาร์เอ็นฯยังมีจุดยืนเดิมคือการต่อสู้กับรัฐบาลเพื่อการแบ่งแยกดินแดนรัฐปัตตานีดารุสลาม

หน่วยข่าวแจ้งเตรียมรับมือ

ขณะที่หน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นชาวมาเลเซียได้จำนวน 2 คน เป็นคนจากรัฐมะละกา 1 คน และ จากรัฐกลันตัน 1 คน ในขณะเดินทางเข้ามายัง จ.นราธิวาส และนำไปสอบสวนขยายผลที่ค่าย อิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งจากการสอบสวนทั้งสองให้การสารภาพว่าอยู่ในขบวนการบีอาร์เอ็นฯในระดับแกนนำ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังทำการสอบสวนเพิ่มเติมว่า เดินทางเข้ามาเพื่อก่อการร้ายหรือไม่ นอกจากนั้นหน่วยข่าวความมั่นคงยังได้สั่งการให้กำลังทหาร ตำรวจ ในพื้นที่เสริมกำลังป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดกับพระ และครู ในระหว่างวันที่ 20-25 ก.ค. เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ว่า ขบวนการบีอาร์เอ็นฯ ได้สั่งการให้แนวร่วมในพื้นที่ปฏิบัติการต่อเป้าหมาย เพื่อสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้น ซึ่ง จากการตรวจสอบพบว่ามีการใช้เงิน 4 ล้านบาท เพื่อก่อเหตุร้ายครั้งใหม่ ในห้วงเวลาดังกล่าว

เผยประวัติเคยคุย“บิ๊กจิ๋ว”

ขณะเดียวกันมีรายงานจากหน่วยข่าวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า สำหรับแกนนำที่ออกมาแถลงเป็นภาษามลายู คือ นายมะรีเป็ง คาน อายุ 57 ปี มีชื่อจริงว่า นายอารีเฟน คาน เดิมเป็นคนในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นพี่ชายของนายซำซูดิน คาน อดีตรองเลขาธิการขบวนการพูโลเก่า สมัย นายตวนกูบีรอ กอตอนีรอ เป็นประธานพูโลเก่า เมื่อประมาณปี 2522 แต่ปัจุจบันนายตวนกูบีรอ กอตอนีรอ ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่บ้านพักในเมืองดามัสกัส ประเทศซีเรีย ขณะอายุได้ประมาณ 80 ปี

     ทั้งนี้สำหรับ นายอารีเฟน คาน เป็น อดีตสมาชิกขบวนการพูโลเก่า มีตำแหน่งเป็น ผู้แทนพูโลเก่าฝ่ายต่างประเทศ ประจำประเทศสวีเดน และสแกนดิเนเวีย ซึ่งที่ผ่านมาเคยเจรจากับเจ้าหน้าที่ไทยมาแล้ว 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 9-12 เม.ย. 36 ที่โรงแรมเมอรีเดียนเดอแคร์ กรุงไคไร ประเทศอียิปต์ และเมื่อวันที่ 26-28 เม.ย. 37 ที่ กรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เพื่อสานต่อการเจรจาครั้งแรก และนายอารีเฟน เคยเป็นหนึ่งในทีมเจรจากับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมัย เป็น ผบ.ทบ. เพื่อนำสมาชิกในขบวนการออกมาราย งานตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จากนั้นก็หวนกลับเข้าไปสู่ขบวนการอีกครั้ง โดยทำหน้าที่หาเงินสนับสนุนจากประเทศในตะวันออก โดยอาศัยชื่อนายตวนกูบีรอ จนถูกตั้งข้อหาจากคนในขบวนการว่า นำเงินมาใช้ส่วนตัว จึงถูกลดบทบาทในขบวนการลง แต่ยังอาศัยบารมีของนายซำซูดิน คาน น้องชาย ที่นั่งตำแหน่ง รักษาการประธานขบวนการพูโลเก่า เคลื่อนไหวอยู่ในขบวนการตลอด

ยิงเหยื่อเจ็บ-แถลงจับแนวร่วม

ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเมื่อเวลา 03.00 น. ศูนย์ข่าว สภ.กาบัง จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันภายในบริเวณสวนยาง หมู่ 4 บ้านคชศิลา ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงประสานกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พบเพียงกองเลือด ส่วนคนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อ นายสมพร แก้วมณี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 1 ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา ถูกกระสุนปืนเข้าที่แขนจำนวน 1 นัด สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายสมพร กำลังกรีดยางอยู่ภายในสวนยาง ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

     ถัดมาเวลา 09.00 น. ที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 2 พล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาคร ผบ.ฉก. ปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมกำลังนำตัว นายมูฮามะมิง แวสุหลง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดและยิงทหารพราน เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย เหตุเกิดพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา และ นายซูฟียาน หาแว อายุ 28 ปี นายมะนาแซ ดาโอง อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาขนอุปกรณ์ระเบิดจำนวน 39 รายการ มาแถลงข่าวหลังจากจับกุมได้

ทัพบกยันไม่มีเอี่ยวแถลงการณ์

ที่กองบัญชาการกองทัพบก เวลา 17.30 น. วันเดียวกัน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบกแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า กองทัพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ต่อเรื่องดังกล่าว การเผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ เป็นการดำเนินการส่วนบุคคลที่ดำเนินการโดย พล.อ.เชษฐา ที่มีความปรารถนาดีและห่วงใยให้เกิดความสงบสุข จึงได้มีการประสานออกอากาศทางสถานีช่อง 5 ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชนที่ให้ความสำคัญกับข่าวสารด้านความมั่นคง ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวไม่ใช่การดำเนินการในรูปแบบส่วนราชการ ซึ่งจะไม่มีผลผูกพันอย่างเป็นทางการ สำหรับการดำเนินการของกองทัพบกต่อการแก้ปัญหาความไม่สงบยังคงยึดนโยบายทางเดิม คือ การใช้สันติวิธีและกฎหมายให้เกิดความยุติธรรมในพื้นที่ควบคู่กับการพัฒนาพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

“เรืองโรจน์”บอกดีเห็นเป้า

ด้าน พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และอดีตผบ.สูงสุด กล่าวว่า เรื่องนี้วิจารณ์ยากเพราะต้องดูสถานการณ์ในพื้นที่ไปอีกซักระยะหนึ่ง แต่ยอมรับว่ามีความสงสัยเช่นเดียวกับหลายฝ่ายที่ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติ แต่หากเป็นเรื่องจริงก็ ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทย เมื่อถามว่าพล.อ. เชษฐา ได้นำเรื่องดังกล่าวมาหารือก่อนหรือไม่ พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า พล.อ.เชษฐา ไม่ได้นำเรื่องนี้มาพูดคุยกับตน ซึ่งเท่าที่ทราบผู้บัญชาการต่าง ๆ ก็ไม่ทราบเรื่องกันสักคน จึงได้แต่แปลกใจไปตาม ๆ กัน อย่างไรก็ตามถือว่ากรณีนี้ยังมีส่วนดีอยู่คือ การได้เห็นเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นว่าเป็นใคร มีเป้าหมายอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานด้านการข่าวต้องติดตามข้อเท็จจริงต่อไป

“พันธมิตรฯ”เผยมีการจัดฉาก

ส่วนที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นาย สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเหตุการณ์ณ์ดังกล่าวมีนักการเมืองคนหนึ่งเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นคนออกแบบเรื่อง โดยมีการพูดคุยกันที่ประเทศเยอรมนี และถ่ายทำวิดีโอเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ก่อนจะเดินทางกลับมาในวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยการดำเนินทั้งหมดมีมูลนิธิแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนีให้การสนับสนุนด้วย ทั้งนี้ ผอ.สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ต้องแสดงความรับผิดชอบที่นำภาพออกมาเผยแพร่.

ขอขอบคุณ
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์

H O M E

Create Date : 19 กรกฎาคม 2551

Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 0:09:26 น.

0 comments

Counter : 972 Pageviews.