Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
เล่าขานตำนาน 'เชิดสิงโต' สัญลักษณ์โชคลาภ...รุ่งเรือง



     ในเทศกาลตรุษจีนของทุกปี สิ่งหนึ่งที่เรามักเห็นเคียงคู่กับประเพณีไหว้เทพเจ้า การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง การจุดประทัดเสียงดังสนั่น ก็ดูเหมือนจะเป็นการแสดง “เชิดสิงโต” ที่สื่อถึงโชคลาภ และความเป็นสิริมงคล

     นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การเชิดสิงโตมงคลได้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลรื่นเริงต่าง ๆ ของจีน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปัดเป่าวิญญาณร้าย และพลังงานที่ไม่ดีออกไป พร้อมทั้งดึงดูดโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองเข้ามา มีตำนานมากมายเล่าถึงที่มาของ การเชิดสิงโตจีน และตลอดเวลาหลายร้อยปี ลักษณะของสิงโตที่ใช้เชิด รวมทั้งท่วงท่าในการกระโดด และโผนทะยานของสิงโตก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทุกวันนี้การเชิดสิงโตก็ยังคงเป็นที่ติดตาตรึงใจผู้คนมากมาย และคณะสิงโตก็มักจะถูกเชิญหรือว่าจ้างให้ไปร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสแห่งความสุขต่าง ๆ พร้อมกับลูกหลานชาวจีนที่มีสำนึกในวัฒน ธรรมซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลก

     สำนักเชิดสิงโตนั้นมี 2 สำนัก คือ สำนักเชิดสิงโตเหนือ และสำนักเชิดสิงโตใต้ การเชิดสิงโตแบบเหนือ โดยทั่วไปจะเชิดเพื่อความบันเทิงในราชสำนัก สิงโตเหนือจะมีสีแดง ส้ม และเหลือง และบางครั้งก็มีขนสีเขียว สำหรับสิงโตตัวเมีย ลำตัวมีขนยาวรุงรัง และมีหัวสีทอง การเชิดสิงโตแบบเหนือจะมีลักษณะเป็นกายกรรม และใช้แสดงเพื่อความสนุกสนานเป็นหลัก

การเชิดสิงโตแบบใต้จะออกมาในเชิงสัญลักษณ์มากกว่า โดยทั่วไปจะแสดงในพิธีกรรมเพื่อขับไล่วิญญาณร้าย และเรียกโชคลาภมาให้ สิงโตใต้จะมีสีที่หลากหลายออกไป รวมทั้งส่วนหัวมีลักษณะเฉพาะและมีดวงตาใหญ่ มีกระจกบนหน้าผาก และที่กลางศีรษะมีเขา 1 เขา ถิ่นกำเนิดของสิงโตใต้อยู่ที่มณฑลกวางตุ้ง เชื่อ กันว่าสิงโตมีเขาของทางใต้ก็คือ “ปิศาจเหนียน”



     โฝซาน คือ ชื่อเรียกรูปแบบที่สำนักกังฟูหลายแห่งนำมาใช้ ซึ่งเป็นแบบที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวอันทรงพลัง และท่วงท่าที่แข็งแกร่ง สิงโตจึงกลายเป็นตัวแทนของสำนักกังฟู และจะมีแต่ศิษย์ที่มีฝีมือในระดับสูงเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เชิดสิงโตได้

     จังหวะการก้าวเท้าในการเชิดสิงโตนั้น คือ ลีลากังฟูใต้ ศิลปะการต่อสู้ที่ปรากฏอยู่ในการเชิดสิงโต จะผสมผสานการกระโดด กระโจน ปีน การรักษาสมดุล และการเตะเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งล้วนเป็นทักษะที่จำเป็นของศิลปะการต่อสู้กังฟูทั้งสิ้น นอกจากนี้ หัวและเครื่องแต่งกายก็มีน้ำหนักมาก ในการเชิดสิงโตจึงมีการฝึกเรื่องน้ำหนัก ซึ่งเหมือนกับที่พบในการฝึกการใช้อาวุธในวิชากังฟู

*สิงโตที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี มีอยู่ 3 ประเภท คือ เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ทั้งสามนี้ คือ ตัวละครในประวัติศาสตร์จีนที่บันทึกไว้อยู่ในวรรณกรรมคลาสสิกเรื่อง “สามก๊ก” นั่นเอง เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย เป็นพี่น้องร่วมสาบานที่ได้ให้ปฏิญาณร่วมกันว่าจะกอบกู้ราช วงศ์ฮั่น

     ต่อมาก็มีสิงโตอีก 3 แบบเพิ่มเข้ามา คือ สิงโตหน้าเขียวคือ ตัวแทนของจูล่ง (เจ้าจื่อหลง) สิงโตตัวนี้ถูกเรียกว่า สิงโตวีรบุรุษ เพราะว่ากันว่าเขาเป็นผู้ที่ขี่ม้าฝ่ากองทหารนับพันของโจโฉเข้าไปช่วยเหลือบุตร ของเล่าปี่ และต่อสู้กลับออกมา สิงโตสีเหลืองแทนฮองตง (หรือหวงจง) ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นสิงโตนักสู้ยอดคุณธรรม สิงโตขาวคือ ม้าเฉียว (หรือหม่าเฉา) สิงโตตัวนี้ยังรู้จักในชื่อว่า “สิงโตงานศพ” สิงโตประเภทนี้จะไม่นำมาเชิด ยกเว้นสำหรับพิธีศพของอาจารย์ (ซือฟู) หรือหัวหน้าคนสำคัญของคณะ ซึ่งในกรณีเหล่านี้ ก็จะทำการเผาสิงโตหลังจากเสร็จพิธี ปัจจุบันผู้คนจะชื่นชอบการเชิดสิงโตสีทองหรือสีเงินมากกว่า เพราะสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่ง

เครื่องแต่งกายของสิงโตประกอบด้วยรูปทรงที่เป็นสัญลักษณ์มากมาย เช่น เขารูปนกนั้นแทนหงส์ หูและหางคือ กิเลน หน้าผากที่โหนกนูน ซึ่ง มีกระจกประดับไว้จะเบี่ยงเบนพลังที่ชั่วร้ายออกไป ส่วนเคราที่ยาวนั้นคือ ลักษณะของมังกรเอเชียนั่นเอง สิงโตจะเดินกลับไปกลับมาในลักษณะเป็นแนวฟันปลา เพื่อหลอกให้ภูต ผี วิญญาณสับสน เพราะชาวจีนเชื่อว่าวิญญาณไม่ดี เหล่านี้จะเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง



     ปัจจุบันการเชิดสิงโตได้พัฒนากลายเป็นรูปแบบของการกีฬาที่ผู้เชิดจากทั่วโลกมาแข่งขันกันเพื่อตัดสินความเป็นที่ 1 การเชิดสิงโตนำมาซึ่งการสอดประสานที่สมบูรณ์แบบ ความสง่างาม และความกล้าหาญ โดยทั่วไปแล้วคนเชิดทั้งสองจะต้องทำให้สิงโตมีชีวิต คนหนึ่งควบคุมการเคลื่อนไหวส่วนหัว ตา และปาก ส่วนอีกคนหนึ่งแสดงท่วงท่าของร่างกาย คนเชิดคนแรกที่ควบคุมส่วนหัวจะเป็นผู้ตัดสินการเคลื่อนไหว ในขณะที่คนที่สองจะต้องเคลื่อนไหวให้ประสานกับคนแรก

การเชิดสิงโตไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะหัวสิงโตซึ่งตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยพู่ ขน และสิ่งตกแต่งที่แวววาวนั้น มีน้ำหนักตั้งแต่ 9-15 กิโลกรัม ซึ่งเป็นภาระที่หนักมากที่จะเชิดให้สูงขึ้นไปบนอากาศ พร้อม ๆ กับการเคลื่อนไหวอย่างมีชีวิตชีวา หัวสิงโตโดยทั่วไปแล้วเป็นงานปะกระดาษ (เปเปอร์มาเช่) และไม้ไผ่ เข้ารูปเสร็จสมบูรณ์พร้อมกับดวงตาที่กะพริบได้ และปากที่หุบงับได้

     คนเชิดคนแรกจะต้องสามารถควบคุมให้เกิดความสอดประสานที่สมบูรณ์แบบพร้อม ๆ กับรับน้ำหนักของหัวสิงโตไว้ด้วยมือของตัวเอง การเคลื่อนไหวทุกท่วงท่าจะมีจังหวะของเสียงดนตรี ที่เล่นไปตามการเคลื่อนไหวของสิงโต กลองจะตามสิงโต ในขณะที่ฉาบและฆ้องจะตามคนตีกลอง กลองสิงโตจะมีขนาดใหญ่มาก และ ถูกนำมาใช้เฉพาะในการเชิดสิงโตเท่านั้น

*เล็ก โตมร ผู้ฝึกสอนการเชิดสิงโต คณะลูกเจ้าพระยา บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้น มนต์เสน่ห์การเชิดสิงโตของไทยว่า มีการนำเข้ามาเล่นในประเทศไทยเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว และมีเสน่ห์ตรงที่การเชิดที่มีท่วงท่าลีลาไม่เหมือนประเทศอื่น เรียกได้ว่าเป็น สิงโตใจกล้า เวลาเชิดไม่ค่อยกลัวเจ็บ มีการต่อตัวสร้างความตื่นเต้น

การฝึกฝนผู้เชิดส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบ เรียกว่ามีความยืดหยุ่นดีกว่า โดยจะมีการทำพิธีครอบครูให้ ทั้งนี้ผู้เชิดสิงโตส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกหลานของคณะเชิดสิงโต นั้น ๆ ที่สืบทอดมรดกมาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นปู่

     การเชิดสิงโต นับเป็นอีกหนึ่งศิลปะการแสดงตามแบบฉบับและขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวจีน ที่นอกจากจะสื่อถึงความหมายอันเป็นมงคลแล้ว ยังเป็นเสมือนการร่วมกันอนุรักษ์ศิลปะล้ำค่าของจีนให้คงอยู่สืบไปชั่วลูกชั่วหลาน.

*สิงโตแซ่ซ้อง ฉลองตรุษ

ตั้งแต่วันนี้ ถึง 28 มกราคม 2552 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ขอเชิญชมกิจกรรมการละเล่นมงคลฉลองตรุษจีนในชื่อชุด “อลังการงานประลองยุทธ์ สิงโตแซ่ซ้องฉลองตรุษ เสริมสิริมงคลชีวิต รับปีฉลู” พบหลากหลายรูปแบบกิจกรรมมงคล อาทิ การแสดงชุด “เบญจเภรี สะท้านตรุษ” การแสดงการตีกลองเพื่อถือเอาฤกษ์เอาชัยเสริมพลังบารมี และการแสดงเชิดสิงโต ซึ่งในปีนี้ ไฮไลต์ยังอยู่ที่การแสดง “เชิดสิงโตจิ๋ว” ซึ่งจะใช้ผู้เล่นคนเดียวเชิดทั้งหัวและหาง โดยจะใช้ผู้แสดงเป็นคนแคระเป็นผู้แสดงความสามารถในการแสดง

     นอกจากเชิดสิงโตจิ๋วแล้ว การแสดงสิงโตในปีนี้ ยังจัดให้มีการแสดงชุดพิเศษ คือ “การแสดงเชิดสิงโตเบิกฟ้าสะท้านปฐพี” เป็นการแสดงจากเยาวชน อายุ 11-14 ปี จำนวน 60 คน 30 ตัว ซึ่งการเชิดสิงโตแบบพิเศษนี้ เหมาะสำหรับการทำธุรกิจขนาดใหญ่ จะนำโชคด้านธุรกิจที่ดีมาให้ในปีนั้น ๆ ดังเช่น ที่ ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ จีน ไต้หวัน ปักกิ่ง กวางเจา เซี่ยงไฮ้ กระทำกันทุกปีตามธรรมเนียมจีน และที่ขาดไม่ได้สำหรับเทศกาลตรุษจีน คือ กิจกรรมการแข่งขันสิงโตประเภทเสาดอกเหมย และกลองสิงโต ซึ่งห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมจัดขึ้น โดยมีคณะสิงโตชื่อดังจากทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

     ผู้ที่สนใจสามารถชมได้ตั้งแต่วันที่ 16-25 มกราคมศกนี้ โดยการแข่งขันสิงโตประเภทเสาดอกเหมยและกลองสิงโต รอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 มกราคม ศกนี้ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางแค พร้อมชมการแสดงเชิดสิงโตจิ๋ว หรือการโชว์สิงโตเด็ก การแสดงเบญจเภรีได้ระหว่างวันที่ 26-28 มกราคมศกนี้ ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ รามคำแหง, ท่าพระ, งามวงศ์วาน, บางแค, และบางกะปิ ตลอดจนรับแจกส้มมงคลสำหรับเทศกาลปีใหม่ของจีนในปีฉลูนี้.


สุวิมล เชื้อชาญวงศ์: รายงาน

ขอขอบคุณ
ที่มา :
เดลินิวส์ออนไลน์ 22 มกราคม 2552

H O M E




Create Date : 27 มกราคม 2552
Last Update : 27 มกราคม 2552 20:07:55 น. 0 comments
Counter : 3288 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.