Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
26 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี กับโรงงานขลุ่ยโลโก้"ธ"


คอลัมน์ ทางเลือกทางรอด

โดย ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

*ชื่อเสียงเรียงนามของอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้เราคงไม่ต้องมาพูดถึงสรรพคุณของปรมาจารย์ด้านขลุ่ยให้มากความ แต่ในมุมหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ อาจารย์ธนิสร์ และผู้ใกล้ชิดคือ คุณเจตนา เถื่อนสว่าง ได้ร่วมกันลงขันทำโรงงานผลิตขลุ่ยเพื่อพัฒนาให้ขลุ่ยไทยสามารถเทียบเสียงกับ ดนตรีสากลได้ ซึ่งในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อาจารย์ธนิตย์จะเปิดตัวขลุ่ยรุ่นที่ 6 ออกสู่สายตาสาธารณะ ในงานคอนเสิร์ต "วันเสียงขลุ่ย" หลังจากซุ่มทำขลุ่ยเวอร์ชั่นล่าสุดมานาน ในวันนี้อาจารย์ธนิตย์จะเปิดสอนจะสาธิตการเป่าขลุ่ยฟรีอีกด้วย

อาจารย์ ธนิสร์เล่าว่า "เมื่อก่อนไม่คิดจะทำโรงงาน แต่พอไปเล่นกับศิลปินที่หลากหลายโดยเฉพาะศิลปินต่างประเทศอึดอัดใจมาก เลยต้องทำโรงงานขลุ่ย พัฒนาขลุ่ยให้เข้ากับสากล เรียกว่าขลุ่ยไทยเทียบเสียงสากลได้ เปรียบเทียบเหมือนกับเราจะติดต่อสื่อสารกับใครในโลกก็ต้องใช้ภาษากลางคือ ภาษาอังกฤษ ดนตรีไทยก็ต้องปรับแต่งให้เข้ากับสากลถึงจะไปเล่นกับเขาได้"

ในการทำโรงงานขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์และคุณเจตนา ทั้งสองยืนยันว่า ไม่ได้คาดหวังกำไรมากนัก แต่อยากจะทำเพื่อให้เด็กไทยได้เป่าขลุ่ยที่ดีมีคุณภาพเทียบเสียงกับดนตรี สากลได้ ซึ่งถ้าเด็กได้รับสิ่งผิดๆ มาตั้งแต่เริ่มเรียนดนตรีไทย จะทำให้แก้ไขลำบาก

การพัฒนาขลุ่ยไทยให้สามารถเทียบเสียงดนตรีสากลได้นั้น อาจารย์ธนิสร์ยอมรับว่า "ใช้เวลาพัฒนาขลุ่ยมาเป็นเดือนเป็นปีดึกแทบทุกคืน ตัวผมเองต้องตั้งสติให้ดี เขาเรียกว่าหูต้องนิ่งที่สุดเวลาจะจูนให้เข้ากับสากลต้องให้ in tune ที่สุด นี่เป็นเรื่องสำคัญ เมื่อทำออกมาได้แล้วผมมีโอกาสดีกว่าผู้ที่ทำขลุ่ยคนอื่น ตรงที่มีโอกาสนำเสนอได้นำไปใช้ไปเล่นกับเครื่องดนตรีอื่นๆ จึงได้รู้ว่าศักยภาพขลุ่ยควรจะพัฒนาไปถึงไหน"

*อีกอย่างเมื่อเป็นขลุ่ยไทยก็ต้องให้คนไทยมาทำเพราะถือเป็นวิถีชีวิตของคนไทย ถ้าคนชาติอื่นมาทำอาจจะผิดเพี้ยนไปได้ หากให้ฝรั่งทำเครื่องดนตรีก็กลายเป็นเครื่องดนตรีฝรั่งไป สำนวนสำเนียงไทยที่จะหลงเหลืออยู่จะไม่มี ดังนั้น ถ้าจะทำให้เป็นสากลความเป็นไทยก็ต้องคงอยู่

ในเมื่อปรมาจารย์ขลุ่ย ลงทุนทำโรงงานขลุ่ย แน่นอนคุณภาพเสียงย่อมรับประกันได้ เพราะแม้อาจารย์ธนิสร์จะไม่ได้ลงมือกลึงขลุ่ยด้วยตัวเอง แต่หลังจากคุณเจตนาและผู้ช่วยอีกคนทำขลุ่ยเสร็จก็เป็นหน้าที่ของอาจารย์ธนิสร์ ที่จะต้องมาตรวจสอบเสียงของขลุ่ยแต่ละเลาว่าตรงตามสเปคที่ต้องการหรือไม่

อาจารย์ ธนิสร์บอกว่า การพัฒนาขลุ่ยนี้ เป็นเหมือนแผนที่เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้พัฒนาต่อไป และถ้ามีโอกาสจะจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ขลุ่ย ซึ่งจะมีการเก็บรวบรวมประสบการณ์ในการทำขลุ่ยให้เป็นที่ทราบกัน

ในเรื่องการทำขลุ่ยนั้น มีคุณเจตนา และผู้ช่วยอีกคน โดยทำกันมานานถึง 15 ปีแล้ว แต่ก่อนอยู่ที่แยกลำสาลี ต่อมาย้ายโรงงานมาอยู่ที่หนองจอก ด้วยความที่คุณเจตนามีงานประจำทำอยู่แล้ว จึงต้องใช้เวลาหลังเลิกงานมาทำ ตั้งแต่หกโมงเย็นถึงสองยามทุกวัน

คุณเจตนาแจกแจงขึ้นตอนให้ฟังว่า "เราใช้เครื่องกลึงไม้ออกมาเป็นรูปขลุ่ย แล้วเจาะเป็นรูนิ้วต่างๆ เสร็จเราก็มาทำเสียง ขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์เป็นงาน แฮนด์เมด 80% คือใช้มือทำใช้เครื่องจักรทำไม่ได้ เช่น การทำปากนกแก้วต้องใช้มือแกะแล้วการทำเสียงก็ใช้มือหมดเลย พอทำเสียงเสร็จนำมาลงโลโก้ ซึ่งก็ใช้ฝีมือ ระบายสีไปแล้วก็มีนัมเบอร์สลักลงไป พอทำเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็นำขลุ่ยมาให้อาจารย์ทดสอบทุกครั้ง ถ้าเพี้ยนเมื่อไรจะคัดออกทันที เพราะว่าถ้าขลุ่ยเสียงเพี้ยนจะแก้ไขไม่ได้"

*ไม้ที่ใช้ทำขลุ่ยเป็นไม้ชิงชัน บางครั้งก็ใช้ไม้นางพญางิ้วดำ แต่ไม้ชนิดหลังนี้คนทำไม่ได้ขายเพราะไม้แพง และหายาก ขลุ่ยที่มีชื่อ "ธ" ติดเป็นโลโก้นั้น ทำมาทั้งหมด 6 รุ่นแล้ว ผู้ผลิตยืนยันว่า รุ่นที่ดีที่สุดคือรุ่น 6 เพราะผ่านการพัฒนามาตั้งแต่รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 จนมาถึงรุ่นที่ 6 รวมใช้เวลาทั้งหมด 15 ปี แต่ในช่วงปี 2549-50 ได้พัฒนาขลุ่ยออกมา 3 รุ่น คือรุ่นที่ 4-6

ที่ว่าขล่ยรุ่นที่ 6 ดีสุดนั้น คุณเจตนาอธิบายสรรพคุณว่า "ขลุ่ยรุ่นที่ 6 เป็นความคิดของอาจารย์ธนิสร์มาตั้งแต่แรกเลยว่าอยากได้ขลุ่ยสมบูรณ์แบบคือ ขลุ่ยมีเสียงต่ำ แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครทำขลุ่ยเสียงต่ำได้ นี่เป็นความฝันของธนิสร์ ผมเองอยากจะสานฝันให้ครบทุกอย่าง เช่น อาจารย์แต่งเพลงเอง เล่นเอง มีเครื่องดนตรีเอง อันนี้ครบวงจร มีคนเดียวในโลกที่เป็นแบบนี้"

เมื่อพูดถึงตรงนี้อาจารย์ธนิสร์เสริมขึ้นว่า "ไม่สามารถสื่อให้เห็นได้ว่า ขลุ่ยรุ่นที่ 6 พิเศษกว่าขลุ่ยธรรมดาอย่างไร

ต้องไปฟัง ที่สำคัญวันนั้นศิลปินหลายคนจะมาเป็นแขกรับเชิญ โดยเฉพาะเสียงขลุ่ยรุ่นที่ 6 จะทำให้ผู้ชมคอนเสิร์ตเห็นเลยว่าขลุ่ยไทยสามารถทำได้ขนาดไหน เด็กๆ เห็นแล้วจะได้ประทับใจเกิดความรักแล้วอยากจะเล่นอย่างผมได้บ้าง วันนั้นจะมีทั้งซีดีและตำราที่สอน ชื่อหนังสือว่าทฤษฎีการเป่าขลุ่ยแนวใหม่ สอนเลยว่าวิธีเล่นแนวใหม่เป็นอย่างไร เป็นครั้งแรกเลยให้เห็นว่าการหายใจตั้งแต่เริ่ม การฟังเสียง การออกเสียงอย่างถูกต้อง เหมือนเราเริ่มเรียน ก ข แล้วค่อยผสมคำ"

สาเหตุที่อาจารย์ธนิสร์ต้องเขียนหนังสือเป่าขลุ่ยขึ้นมาก็เพื่อให้มีตำราที่สอนอย่างถูกวิธี และหวังว่าเมื่อเด็กมีใจรักก็จะเป็นผู้สืบสาน ซึ่งจะทำให้ก้าวไปสู่การเป็นมืออาชีพได้ต่อไป

แม้โรงงานขลุ่ยของอาจารย์ธนิสร์จะมีคนทำแค่ 2 คน แต่เดือนหนึ่งๆ ทำขลุ่ยไม้ได้ประมาณ 300-400 เลา ถ้าเป็นขลุ่ยพลาสติคประมาณ 1,000 เลา ขลุ่ยทั้งสองชนิดนี้ คุณเจตนาและอาจารย์ธนิสร์ยืนยันว่า คุณสมบัติเสียง

พอๆ กัน เพราะขลุ่ยเนื้อพลาสติค ไม่ใช้พลาสติคทั่วไป สั่งเป็นพิเศษเพื่อให้มีความปลอดภัย โดยราคาขลุ่ยพลาสติคเลาละ 350 บาท ส่วนขลุ่ยไม้เลาละ 1,800 บาท ที่สำคัญของแท้ต้องมีโลโก้ "ธ" ฝังอยู่และมี serial Number และได้มีการจดอนุสิทธิบัตรโล บี "low be" ไว้ด้วย

คุณเจตนาบอกว่า ปัจจุบันมีความต้องการมากขึ้นก็ต้องวางแผนว่าจะพยายามผลิตให้ทัน ถ้าต้องการซื้อ โทร.มาได้ที่ 08-1902-5959

วันที่ 2 พฤศจิกายน ถ้าอยากรู้ว่าขลุ่ยยี่ห้อ "ธ" รุ่นที่ 6 เสียงแจ่มแจ๋วแค่ไหนไปพิสูจน์กันได้ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ

*เป็นบทความเก่า เห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาลงให้อ่าน*

Credit : มติชนรายวัน วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551 หน้า 23

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 26 พฤษภาคม 2553
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 22:25:00 น. 5 comments
Counter : 7956 Pageviews.

 
ขลุ่ยพลาสติกที่ขายมีกี่สีครับ มีขลุ่ยคีย์อะไรบ้างครับ


โดย: ศักดิ์ดา IP: 223.205.248.67 วันที่: 23 พฤษภาคม 2559 เวลา:22:22:16 น.  

 
อยากได้ขลุ่ยไม้ดีๆสักเลาไม้อะไรดีครับ
ราคาสัก 1800 บาท และวิธีการสั่งซื้อครับ


โดย: ประสาน เงินนา IP: 182.53.73.185 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:12:22:15 น.  

 
จะซื้อขลุ่ยสั่งได้อย่างไร ขอรายละเอียด


โดย: อิ้น พรหมจันทร์ IP: 182.232.10.168 วันที่: 27 เมษายน 2560 เวลา:22:42:56 น.  

 
สั่งซื้อไงคับ


โดย: วิฑูรย IP: 49.230.214.187 วันที่: 26 พฤษภาคม 2560 เวลา:15:46:05 น.  

 
ผมมีไม้ของผมเองจะให้ช่างทำได้ไหมครับ


โดย: ผมมีไม้ของผมเองจะให้ช่างทำได้ไม๊ครับ IP: 182.232.198.25 วันที่: 15 สิงหาคม 2564 เวลา:14:16:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.