|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
-●- คำขอโทษของอาจาร์ย ปราโมทย์ นาคทรรพ -●-
คำขอโทษ? โดย ปราโมทย์ นาครทรรพ 11 กุมภาพันธ์ 2550 19:33 น. ::://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000016962CommentComment:::
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ปู่ผมชื่ออุ้ย มีพระราชทินนามครั้งสุดท้ายว่า อดุลยเดช สยาเมศวรภักดีพิริยพาหะ เมื่อยังเยาว์คุณปู่เป็น เด็กรับใช้ อยู่ในพระบรมมหาราชวัง สมัยรัชกาลที่ 5 พ่อผมเป็นนักเรียนแพทย์ปริญญารุ่นแรก เป็นศิษย์คนโปรดของสมเด็จพระบรมราชชนก ผมต้องไปเกิดที่เชียงใหม่ เพราะพระอาจารย์รับสั่งไว้ว่า แกต้องไปเชียงใหม่ เพื่อทำให้การแพทย์สมัยใหม่เป็นที่ยอมรับ พ่อผมเลยไม่มีโอกาสปรนนิบัติดูแลปู่ซึ่งชราภาพและป่วยอยู่ที่อุดรธานี ผมเคยทำงานใกล้ชิด (ที่สุด) กับอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ท่านอาจารย์เคารพในหลวง และพูดว่า ถ้าในหลวงสั่งให้ไปตาย ก็จะไปตาย ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวที่เกิดมาเป็นข้าของราชวงศ์จักรี แต่นั่นมิใช่เหตุสำคัญที่ทำให้ผมเป็นห่วง ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ความเป็นห่วงอย่างลึกซึ้งของผมเกิดขึ้น เพราะผมเป็นนักวิทยาศาสตร์สังคม ผมได้วิเคราะห์ดีแล้วว่าการปกครองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย คือระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การปกครองดังกล่าวกำลังเสี่ยงต่อการถูกทำลาย โดยบุคคลที่ต่อสู้กันอยู่ 2 กลุ่มที่เป็นเจ้าของวาทกรรมที่ผมเรียกว่า หน่ายกษัตริย์-กำหนัดเลือกตั้ง ฝ่ายหนึ่ง กับ หน่ายเลือกตั้ง-คลั่งกษัตริย์ อีกฝ่ายหนึ่ง คนส่วนใหญ่ที่มิได้สังกัดและไม่เห็นด้วยคนทั้งสองกลุ่มนี้ ถ้าหากเป็นคนขี้เกียจคิดและไม่รู้จักติดตาม ก็จะกลายเป็นแนวร่วมมุมกลับ หรือเป็นเครื่องมือให้กับคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจะทำให้อันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพิ่มขึ้น ผมเป็นคนไม่เห็นด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ผมเป็นคนเขียนบทความ การล้มล้างรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมในทัศนะพุทธ ในผู้จัดการเมื่อ 9 ธ.ค. 48 และเรื่อง การล้มล้างรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมในทฤษฎีสัญญาประชาคม เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2548 ผมเห็นว่าการกระทำของคณะทหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ชอบแล้วกับทฤษฎีในบทความทั้ง 2 แต่ถ้าหากในกาลปัจจุบัน คมช.พลาดไป ปล่อยให้คนไทยส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของพวกวาทกรรมทั้ง 2 ก็จะเป็นเรื่องที่สุดแสนเสียดาย ผมเห็นว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายของประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแล้ว เราจะพลาดไม่ได้ ตามปกติ ผมไม่มีเวลาจะไปติดตามอ่านปฏิกิริยาของท่านผู้อ่าน แต่คราวนี้มีผู้ตระหนกตกใจรีบมาบอกผมให้รีบขอโทษ คำขอโทษนั้นพูดไม่ยาก แต่จะมีประโยชน์อะไร ท่านผู้อ่านที่มีความรู้สึกโกรธขึ้งผมอย่างรุนแรง สู้เอาพลังงานของท่านไปติดตามนักวิชาการชั้นนำของประเทศที่กำลังเขียนและกำลังพิมพ์วาทกรรมประเภทที่ 1 อยู่อย่างแข็งขันจะไม่ดีกว่าหรือ คนพวกนี้เขาเขียนเก่ง ทำตัวเป็นเจ้าทฤษฎีที่สอดคล้องและโดนใจฝรั่ง พวกที่เอะอะอะไรก็จะเลือกตั้ง ให้เวลาผมไปแก้อวิชชาให้กับนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวชาวต่างประเทศที่หลงคารมพวกนี้จะไม่ดีกว่าหรือ ลองไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ เพื่อขอซื้อหนังสือชื่อ ฟ้าเดียวกัน มาอ่าน แล้วมาช่วยผมคิดจะดีกว่า ผมไม่เห็นด้วยที่ศูนย์หนังสือจะ ไม่ยอมขายหนังสือเล่มนั้น ผมเคารพเสรีภาพของบุคคลที่ผมไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง ผมเห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ของนักวิชาการเหล่านี้ เขียนในคราบของวิชาการ มีการอ้างประวัติศาสตร์และทฤษฎี ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเลื่อมใส แต่ถ้าพิสูจน์กันจริงแล้วก็จะบิดเบือนทั้งประวัติศาสตร์และทฤษฎี แถมทฤษฎีต่างประเทศที่นำมาอ้างก็ยังจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง นำมาอธิบายสถาบันกษัตริย์ของไทยไม่ได้ ผมอยากจะบอกนักวิชาการที่ปักใจคุมแค้นด้วยว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมเคย ร้อนตัว ไปเข้าเฝ้า พระองค์รับสั่งว่าจะเดือดร้อนไปทำไม นี่ (หมายถึงพระองค์) อยู่เฉยๆ ยังถูกกล่าวหาว่าทำโน่นทำนี่นับไม่ถ้วน ผมอยากจะกล่าวว่าการที่มีคนนำไปอ้าง ในหลวงทรงมีโอกาสที่จะรับหรือปฏิเสธเหมือนกับคนอื่นๆ หรือ พระมหากษัตริย์ไทยมิใช่ เทวราชา อย่างพระเจ้าแผ่นดินที่อื่นๆ ทั้งตะวันออกและตะวันตก แต่เป็น ธรรมราชา ซึ่งทรง ทศพิธราชธรรม ขึ้นมาได้และอยู่ได้ด้วย อเนกนิกรสโมสรสมมติ เหนือกว่าทฤษฎีการเมืองใดๆ ของตะวันตก ผมอยากจะเรียนท่านผู้อ่านด้วยความจริงใจมิใช่โอ้อวด ผมเข้าใจวัฒนธรรมและความคิดของผู้นำทางการเมืองและวิชาการของฝรั่งดี ผมเคยนั่งแถวหน้าและสั่งสอนพวกนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ความไม่เดียงสาเรื่องเมืองไทยจะทำให้พวกนี้ตกเป็นเหยื่อ ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ(ไทย) ของทักษิณได้ง่ายๆ โดยอาศัยวาทกรรมหน่ายกษัตริย์- กำหนัดเลือกตั้งของนักวิชาการเหล่านี้เป็นเครื่องอ้างอิง ท่านผู้อ่านจำได้หรือไม่ว่าเอกอัครทูตอเมริกันมาเรียกร้องให้เรารีบร่างรัฐธรรมนูญจะได้เลือกตั้งเร็วๆ อเมริกาเขาไม่มีกษัตริย์ เขามีแต่ผลประโยชน์เป็นอภิมหาอำนาจทุนนิยม เวลาฟังทักษิณกับนักวิชาการอรหันต์พวกนี้เขาจึงขานรับทันที ผมได้เขียนเรื่องพระราชอำนาจมาแล้วร่วม 40 ปี ไม่ใช่เพิ่งมาพูด ผมได้เห็นคนที่แสดงอาการ คลั่งกษัตริย์ มานับไม่ถ้วน จำต้องตั้งข้อสังเกตอย่างตรงไปตรงมาว่า พวกรักในหลวงแต่ปากเหล่านี้แหละ มีทั้งพวกที่จงใจและพวกที่จะทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสียโดยไม่รู้ตัว คำว่า คลั่งกษัตริย์ เป็นคำที่นักวิชาการกำหนัดเลือกตั้งนำมาด่าผมทั้งในที่ลับที่แจ้ง โดยส่วนตัวผมไม่ถือและไม่เจ็บร้อน เพราะผมเคารพในเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ในขณะเดียวกัน ผมก็ตาไม่บอดจนกระทั่งมองไม่เห็นว่ามีคนอีก 2 พวก พวกหนึ่งเป็นพวกที่จาบจ้วงคิดทำลายสถาบันแต่ทำทีเป็นจงรักภักดีถึงขนาด คลั่ง และอีกพวกหนึ่ง คือสมุนของอำนาจนิยมที่ไม่ยอมรับการมีส่วนร่วมของประชาชน อ้างว่าประชาชนโง่ ไม่มีวันเป็นประชาธิปไตยได้ การเลือกตั้งและนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งไม่เหมาะสมกับการเมืองไทย พวกเผด็จการที่แอบอ้างพระมหากษัตริย์ ก็อาศัยเสียงของพวกนี้ ผมมิได้เป็นต้นตำรับ ราชประชาสมาสัย ผมบอกไม่รู้กี่หนแล้วว่า เจ้าตำรับคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ กับ ดร.ชัยอนันต์ แต่ผมเห็นด้วยกับท่านทั้งสองว่า สมควรใช้เอกลักษณ์ของประเทศและสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นเครื่องสร้างระบอบประชาธิปไตยของไทย ผมจึงพยายามไป ถอดรหัส เพื่อจะเสนอในบทความตอนจบว่า ทำอย่างไรหรือมีกระบวนการและขั้นตอนอย่างไรบ้าง จึงจะเกิด ได้ และ เป็น ราชประชาสมาสัย บังเอิญผมป่วยเสียก่อน และมีคนโทร.มาจี้จุดให้ผมต้องเขียนเรื่อง กำหนัด หรือหน่ายเลือกตั้ง ขึ้นมา ถ้าคณะบุคคลที่หน่ายหรือกำหนัดเลือกตั้งนั้น จะไม่เล็งเป้าหมายหรือกระทบกระเทือนถึงสถาบันกษัตริย์ ผมก็คงไม่ต้องเขียนอะไร ผมเขียนอย่างนั้น ก็เพื่อจะเตือนพวกเราที่มิใช่ทั้ง 2 พวกนี้ ให้รีบลุกขึ้นมาคิด ลุกขึ้นมาทำ มามีส่วนร่วมในการสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ถ้าอยู่เฉยๆ เราจะตกเป็นแนวร่วมมุมกลับของพวกที่ทำลายสถาบันโดยไม่รู้ตัว ถ้าจะต้องขอโทษ ผมอยากจะขอโทษที่ผมยังเขียนไม่ทัน ยังเขียนไม่พอ และยังเขียนไม่หมดเปลือก ทำให้ท่านเข้าใจผิด ผมขอโทษด้วยที่ทำให้พวกแนวร่วมมุมกลับลุกฮือขึ้นมา ผมขอโทษด้วยที่ไม่สามารถชี้แจงให้พวกเราเข้าใจ ปล่อยให้ตกไปเป็นแนวร่วมมุมกลับของพวกเขาโดยมิได้ตั้งใจ กลับมาร่วมกันเถิดครับ เรามาช่วย คมช.สร้างราชประชาสมาสัยและประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขกันดีกว่า อย่าหลงกระแสการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง และอย่ากำหนัดการเลือกตั้งที่จะเป็นการบั่นทอนสถาบันกษัตริย์นักเลย รู้ไว้เถิด คลื่นใต้น้ำระลอกนี้ใหญ่หลวงนัก
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2550 |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2550 4:03:56 น. |
|
1 comments
|
Counter : 737 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แตนต่อย วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:02:43 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ส่วน คนชั่ว คนขายชาติ ขายวิญญาณรับใช้ทรราชย์ โกงชาติ คิดวางแผน และ กระทำการบั่นทอน ล้มล้างสถาบัน จงประสบความเสื่อมอย่างรวดเร็ว สมบัติ และเกียรติที่ได้มาสูญสลายย่อยยับ ลูกหลานออกมาชั่ว ทำลายวงศ์ตระกูลของตนเอง พบแต่ความทุกข์ทรมานทั้งกายใจ เป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย ไม่ตายดี เป็นผีตายโหง ตกนรกหมกไหม้ขุมลึกสุดไม่ได้ผุดได้เกิด วิญญาณบรรพบุรุษทุรนทุรายไม่สงบสุข
ขอให้ชาวไทยทุกคนรวบรวมพลังจิตอธิษฐาน
กรุณาช่วยกันส่งต่อด้วยเพื่อเพิ่มแรงอธิษฐาน