|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
กระบี่สะท้านฟ้าฯ ตอนที่ 21 ฮองเฮา
รุ่งเช้า ณ ตำหนักรับรองผู้เข้าคัดเลือกตำแหน่งฮองเฮา หญิงสาวคนหนึ่งกำลังหงุดหงิดกับชุดที่วางอยู่บนโต๊ะของตน หญิงสาวนางนี้มีหน้าตาอันเลอโฉม ดวงตาของนางกลมโตเป็นประกาย คิ้วทั้งสองข้างคมคายได้รูป จมูกเรียวงามเป็นสัน อีกทั้งริมฝีปากยังบางเบาเป็นสีอมชมพู หากแต่ว่าตอนนี้ใบหน้าอันงดงามนั้นกำลังครุกรุ่นไปด้วยความไม่สบอารมณ์ "นังขี้ข้า!!! พูดไม่รู้เรื่องหรือไง ชุดสีบ้านนอกขนาดนี้ จะให้ข้าใส่ได้ยังไง ไป!!! เจ้าไปหาชุดมาให้ข้าใหม่เดี๋ยวนี้เลยนะ!!!" หญิงสาวโวยวายลั่น แล้วก็ชี้หน้าด่าบ่าวไพร่ด้วยความไม่พอใจ "ตะ.. แต่... คุณหนูอ๋าวคะ ชุดนี้ไทเฮาเป็นคนสั่งตัดให้บรรดาคุณหนูทั้งหลายนะคะ ข้าไม่กล้าขัดคำสั่งหรอก" นางกำนัลคนหนึ่งพยายามอธิบาย ท่าทางของนางดูหวาดๆ คนตรงหน้า "ว่าอะไรนะ!!! นี่กล้ายกไทเฮามาขู่ข้างั้นเหรอ รึเจ้าไม่รู้ว่าพ่อข้าเป็นใคร ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่หล่ะก็ ไปหาชุดมาให้ข้าใหม่เดี๋ยวนี้นะพวกโง่!!!" หญิงสาวแผดเสียงดังลั่น จนพวกนางกำนัลวิ่งกระเจิงออกไป
หญิงสาวที่ดุร้ายราวกับเสือคนนี้ ความจริงแล้วคือ อ๋าวเทียนเจียว บุตรีของเสนาบดีอ๋าวป้ายผู้เรืองอำนาจในราชสำนักนั่นเอง ครั้งก่อน ที่อ๋าวป้ายไม่ส่งทหารหลวงไปจับชีเส้าเฟย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ ลูกสาวของเขาเป็นหนึ่งในสาวงามที่จะเข้าชิงตำแหน่งฮองเฮา หากเขาทำให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัย ตำแหน่งฮองเฮาก็อาจจะหลุดมือเทียนเจียวไปได้ง่ายๆ อ๋าวป้ายมั่นใจว่าหากฮ่องเต้ไม่มีอคติ จะต้องเลือกบุตรสาวของเขาขึ้นเป็นฮองเฮาอย่างแน่นอน เพราะนางเป็นสาวสคราญโฉม ใครเห็นเป็นต้องหลงใหล อีกทั้งในราชสำนัก อ๋าวป้ายควบคุมทั้งกำลังทหารและอำนาจบริหาร หากฮ่องเต้เลือกบุตรสาวของเขาเป็นฮองเฮาหล่ะก็ ก็จะช่วยส่งเสริมให้ฮ่องเต้บริหารงานราชกิจได้สะดวกมากขึ้น
ระหว่างที่เทียนเจียวกำลังหงุดหงิดกับเครื่องแต่งกายของตนอยู่นั้น ก็มีหญิงสาวอีกคนเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวคนนี้ หน้าตาหมดจด แววตาดูอ่อนโยน แม้ว่าความสวยจะดูเป็นรองเทียนเจียวอยู่เล็กน้อย แต่อากัปกิริยาของนางก็งดงามราวกับเทพธิดาก็ไม่ปาน "ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าใครทำให้คุณหนูเทียนเจียวอารมณ์เสียงั้นหรือ" หญิงสาวผู้มาเยือนเอ่ยทักแล้วยิ้มให้คนที่นั่งอยู่ "เจ้าเป็นใคร! หึ! แค่ลูกขุนนางเล็กๆ อย่าสะเออะมายุ่งเรื่องของข้า!" คนตอบขมวดคิ้วแล้วมองผู้มาเยือนด้วยหางตา "ข้าน้อยชื่อฟางเอ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักคุณหนูอ๋าวค่ะ" หญิงสาวแนะนำตัว ความจริงนางคือ สั่วฟางเอ๋อ บุตรีของหัวหน้าเสนาบดีสั่วหนีซึ่งล่วงลับไปแล้ว "อ๋อ ที่แท้ก็ลูกเสนาสั่วนั่นเอง เจ้ามาห้องข้ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า" พอเทียนเจียวรู้ว่า ผู้มาเยือนเป็นใครก็หันไปค้อนด้วยสายตาแข็งกร้าว "พอดีข้าได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เกรงว่าคุณหนูมีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ" ฟางเอ๋อยิ้ม "เฮอะ! นี่เจ้าคิดจะมาเยาะเย้ยชุดเข้าเฝ้าของข้างั้นสิ!" เทียนเจียวทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นมองฟางเอ๋อตาขวาง ฟางเอ๋อเห็นเสื้อที่ถูกฉีกขาดกองอยู่บนโต๊ะก็พอจะเข้าใจเหตุการณ์ นางไม่อยากให้เทียนเจียวสร้างปัญหาจึงเสนอแนะวิธีการให้ "ความจริง หากคุณหนูไม่ชอบชุดนี้ ข้าได้เตรียมชุดมาเผื่อ คุณหนูอยากลองใส่ดูก่อนไหมคะ" คนพูดยิ้มอย่างเป็นมิตร "ชุดของเจ้างั้นเหรอ แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าไม่ได้เอาของไม่ดีมาให้ข้าใส่" เทียนเจียวเบะปากให้ฟางเอ๋อ นางไม่เชื่อว่าฟางเอ๋อจะหวังดีกับนางจริงๆ "เจี้ยนๆ จ๊ะ เอาชุดเข้ามาให้คุณหนูอ๋าวดูหน่อยซิ" ฟางเอ๋อยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกวักมือให้คนรับใช้เอาชุดเข้ามาให้เทียนเจียวดู "ข้าเตรียมมาเองชุดหนึ่ง ส่วนชุดนี้ไทเฮาจัดไว้ให้ เอาอย่างนี้นะ คุณหนูอ๋าวก็เลือกชุดหนึ่ง แล้วข้าจะใส่อีกชุดหนึ่งไงคะ" ฟางเอ๋อเสนอ ฝ่ายอ๋าวเทียนเจียวเห็นว่า ข้อเสนอนี้ นางมีแต่ได้ ไม่มีเสีย จึงพยักหน้าแล้วหันไปเลือกชุดที่นางกำนัลถืออยู่ นางหยิบชุดที่ไทเฮาจัดให้ขึ้นดู แล้วก็เบะปาก คิดในใจว่า ชุดเชยแบบนี้ใครจะไปใส่ แล้วนางก็หยิบอีกชุดขึ้นดู ปรากฏว่าเนื้อผ้าเป็นผ้าไหมอย่างดี การตัดเย็บก็ปราณีต แถมยังเป็นสีเขียวสีโปรดของนางอีกด้วย หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจ "ข้าเอาตัวนี้แล้วกัน" เทียนเจียวกระชากกล่องเสื้อมาจากนางกำนัล ฟางเอ๋อยิ้มอย่างใจเย็น ก่อนจะพยักหน้าให้นางแล้วพานางกำนัลคนอื่นออกไป
ช่างบังเอิญเหลือเกินที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่คลาดสายตาของไทเฮา ทีแรกนางได้ยินเสียงโวยวายของเทียนเจียวจึงตั้งใจจะเดินมาดู พอดีเห็นว่าฟางเอ๋อเดินเข้าไปก่อน จึงหยุดรอดูเหตุการณ์อยู่ข้างนอก หลังจากฟางเอ๋อเดินออกไปแล้ว ไทเฮาก็มองตามแล้วยิ้มอย่างพอพระทัย "ขอให้ฮ่องเต้ตาสว่างเลือกแม่นางสั่วเป็นฮองเฮาทีเถิด หากตาบอดเลือกหญิงสาวจิตใจโหดร้ายเช่นอ๋าวเทียนเจียวมาเป็นชายา ราชสำนักคงไม่สงบสุขเป็นแน่" ไทเฮากล่าวแล้วก็เดินจากไป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ฝ่ายฮ่องเต้เอาแต่นั่งซึมอยู่ในพระตำหนัก บรรดาองครักษ์ต้องเขี่ยวเข็ญกันอยู่นานกว่าจะยอมแต่งตัว หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้วก็มานั่งเหม่อลอยอยู่ที่โต๊ะหนังสือ ขันทีเอาอาหารมาถวายไว้ตั้งแต่เช้า ก็ไม่ยอมแตะเลยแม้แต่นิดเดียว โชคดีที่เมื่อคืนเขายอมกินอะไรไปบ้าง ตอนที่เส่เยี่ยมาเยี่ยม หลินกุเหนียงเห็นฮ่องเต้นั่งซึมเป็นท่อนไม้ก็เอ่ยทักขึ้น "ฝ่าบาท ฝ่าบาททรงเป็นฮ่องเต้ ในเมื่อไม่อยากแต่ง ก็ไม่ต้องไปหรอกพะย่ะค่ะ" หลินกุเหนียงพูดน้ำเสียงจริงจัง องครักษ์เหอได้ยินเช่นนั้นก็หันไปค้อนให้นางดังขวับ หลินกุเหนียงจึงยิ้มแห้งๆ ให้เขา แล้วเดินไปหลบข้างองครักษ์จั๋ว "ไม่ได้หรอก เรารับปากเส่เยี่ยเขาไปแล้ว" คนพูดตอบหน้านิ่ง "งั้นก็ทำหน้าดีๆ หน่อย งานแต่งตั้งฮองเฮานะพะย่ะค่ะ ไม่ใช่งานศพ" คนพูดเอามือเกาหัว คราวนี้เป็นองครักษ์จั๋วที่ทนไม่ได้ เขารีบดึงเสื้อหลินกุเหนียงให้นางรู้ตัวว่าควรหยุดพูดได้แล้ว "เอาหล่ะๆ เรารู้หน่ะว่าต้องทำยังไง พวกเจ้าก็ไปเตรียมตัวกันเถอะ เราอยากอยู่เงียบๆ สักครู่" คังซื่อเข้าใจว่าพวกองครักษ์เป็นห่วง แต่เขารู้สึกว่ายังไม่พร้อม ยังอยากทำใจอีกสักพัก
หลังจากพวกองครักษ์ออกไปหมดแล้ว คังซื่อก็หยิบปิ่นสีทองขึ้นมาดู ปิ่นอันนี้เคยเป็นขององค์หญิงปิงเยี่ย จากนั้น เขาก็ให้เส่เยี่ยไว้ แต่นางไม่ยอมใส่มัน และได้คืนให้เขา ชายหนุ่มพิจารณาปิ่นปักผมอันนั้น ทบทวนเรื่องเดิมเป็นพันๆ ครั้ง เขาเคยสงสัยมาตลอดว่าระหว่างเขากับองค์หญิงปิงเยี่ยนั้นใช่ความรักฉันท์ชายหญิงหรือไม่ แต่หลังจากที่เขาได้รู้จักกับเส่เยี่ย ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับคำตอบนั้นแล้ว...
คังซื่อและปิงเยี่ยเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก นางเป็นทั้งเพื่อนและน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกเสียใจ เมื่อรู้ว่าตื่นขึ้นมาแล้ว จะไม่ได้พบนางอีกต่อไป หากแต่นี่คือความผูกพันธ์ และความรักแบบพี่น้อง หาใช่ความรักชายหญิงไม่ คังซื่ออาจไม่มีวันรู้ความจริงข้อนี้ หากเขาไม่ได้มาพบกับเส่เยี่ย หญิงสาวที่หน้าตาเหมือนปิงเยี่ยอย่างกับพิมพ์เดียวกัน...
สำหรับเส่เยี่ยแล้ว แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากหน้าตาของนางก็ตาม แต่ความรู้สึกที่คังซื่อมีต่อเส่เยี่ยนั้น ต่างไปจากความรู้สึกกับองค์หญิงปิงเยี่ย เขาไม่ได้อยากเป็นเพื่อน และไม่ได้อยากเป็นพี่ชายของนาง...
นาทีที่เขารู้ว่า ไม่สามารถเคียงคู่กับเส่เยี่ยได้ เป็นนาทีที่เขาทรมานที่สุด หากแต่นาทีที่เขารู้ว่านางเจ็บปวดหรือทุกข์ใจ มันกลับทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่า เขายอมแลกความสุขทุกอย่างของตน เพียงเพื่อได้เห็นรอยยิ้มนั้นของนาง...
การที่คังซื่อตัดสินใจเข้าพิธีอภิเษก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้เส่เยี่ยเดือดร้อน คังซื่อรู้ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หรือว่าฮองเฮาก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่แน่ว่าเส่เยี่ยจะทนกับความกดดันเหล่านี้ได้ และชายหนุ่มเองก็ไม่มั่นใจด้วยว่า จะปกป้องนางได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ยิ่งเขาวางเส่เยี่ยไว้ห่างจากตนเองมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น...
ความจริงการที่คังซื่อได้รู้จักกับเส่เยี่ย ไม่เพียงแต่เขาได้เรียนรู้ถึงคำว่ารัก หากแต่ความคิดความอ่านของเขาก็โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย เขาเริ่มนึกถึงจิตใจของผู้อื่น นึกถึงความถูกต้อง และนึกถึงความเสียสละ.... แน่นอนความเสียสละ วันหนึ่งเขาจะต้องได้เสียสละอย่างแน่นอน...
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ณ สวนหลังจวนอ๋องถูจิ้น
อิเต็งไต้ซือกำลังทำการรักษาอาการตาบอดให้กับเส่เยี่ย
แม่นางเส่เยี่ย ทำใจให้สบายนะ ข้าอยากให้เจ้าหลับตา แล้วหายใจเข้าออกช้าๆ เป็นจังหวะ คนพูดกล่าวแล้วก็ยกสร้อยประคำขึ้นมานับ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็พบว่าเส่เยี่ยกำลังนั่งเหม่อ ไม่ได้หลับตาตามที่เขาบอก แม่นางเส่เยี่ย แม่นางเส่เยี่ย ไต้ซือต้องเรียกเส่เยี่ยถึงสองครั้ง กว่านางจะรู้สึกตัว คะ คะไต้ซือ หญิงสาวหลุดจาภวังค์แล้วก็หันมาทางไต้ซือ แม่นางเส่เยี่ย หากเจ้ายังไม่พร้อมที่จะรักษา ข้าว่า... ข้าขอโทษค่ะ พอดีข้าคิดอะไรเพลินไปหน่อย หญิงสาวทำหน้าเศร้าด้วยความรู้สึกผิด ข้าว่าเจ้าอย่าฝืนใจเลยดีกว่านะ ไต้ซือลูบเคราแล้วก็มองเส่เยี่ยด้วยรู้สึกเห็นใจ ดูจากแววตาของนาง เขาก็พอจะมองออกว่า นางได้ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมามากมายแค่ไหน แต่ข้ารับปากฝ่าบาทแล้ว ยังไงข้าก็ต้องรักษาค่ะ คนตอบหน้าเศร้า กายอยู่ แต่ใจไม่อยู่ เช่นนี้รักษาไปก็ไร้ผล ไต้ซือส่ายหน้า เขารู้ว่าเส่เยี่ยกำลังกังวลเรื่องอะไร เส่เยี่ยได้ฟังเช่นนั้นก็ฉุกคิดขึ้นได้ เหตุใดนางจะต้องไปคิดถึงคนที่นางไม่ได้รักคนนั้นด้วย ตอนนี้ที่สำคัญที่สุด คือรักษาดวงตาให้หายก่อน แล้วค่อยหาทางออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด นางจะได้ไม่ต้องมาทนกับความรู้สึกสับสนเหล่านี้อีกต่อไป หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก ไต้ซือ ข้าพร้อมแล้วจริงๆ ค่ะ ข้าสัญญาว่าจะตั้งใจ ไม่วอกแวกอีกแล้ว หญิงสาวพูดอย่างหนักแน่น ไต้ซือเห็นนางท่าทางจริงจังจึงไม่อยากขัด ก็เลยทำการรักษาต่อ เอาหล่ะ แม่นางเส่เยี่ย งั้นเจ้าค่อยๆ ทำตามที่ข้าบอกนะ เริ่มแรกให้เจ้าหลับตาลงช้าๆ ไต้ซือพูดจบเส่เยี่ยก็ค่อยๆ หลับตาลง หายใจเข้า หายใจออก ช้าๆ เป็นจังหวะ เส่เยี่ยหายใจเข้าออกตามที่ไต้ซือกล่าว ไม่ต้องเกร็ง ปล่อยตัวตามสบายนะ ไต้ซือเหลือบเห็นเส่เยี่ยกำมือแน่น ก็เอ่ยบอกนาง เอาหล่ะ ต่อไป ข้าอยากให้เจ้านึกภาพต่างๆ ตามที่ข้าบอก ไม่ต้องรีบร้อนนะ ไต้ซือพูดจบก็หลับตาแล้วยกลูกประคำขึ้นมาสวดเป็นภาษาคล้ายภาษาบาลี จงนึกถึงภาพทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ สีเขียว มองไปสุดตา เส่เยี่ยก็คิดถึงภาพทุ่งหญ้า ใบหญ้าเหล่านั้นปลิวไปตามจังหวะของลมที่พัดมา หญิงสาวสร้างมโนภาพตามที่ไต้ซือบอก แล้วอยู่ๆ นางก็รู้สึกสงบอย่างที่ไม่เคยเรู้สึกมาก่อน นานเท่าไหร่แล้วที่นางไม่ได้เห็นทุ่งหญ้าสีเขียวเหล่านี้ เจ้าค่อยๆ ก้าวลงไปในทุ่งหญ้านั้น เส่เยี่ยเห็นภาพของตนเองในชุดสีเหลืองอ่อนเดินเข้าไปในทุ่งหญ้ากว้างผืนนั้น เจ้าเห็นภาพตามที่ข้าบอกหรือเปล่า ไต้ซือถาม เส่เยี่ยก็พยักหน้ารับ ดี ต่อไปข้าอยากให้เจ้านึกถึงวัยเด็ก นึกถึงสถานที่ที่เจ้าเคยวิ่งเล่น หรือสถานที่ที่เจ้าชอบไป เส่เยี่ยก็นึกถึงภาพของตนเองตอนที่ยังเป็นเด็ก นางวิ่งเล่นไปตามทุ่งหญ้า เก็บดอกไม้กำใหญ่ได้ก็ดีใจ นึกถึงพ่อและแม่ของเจ้า ช่วงเวลาที่เจ้ามีความสุข เส่เยี่ยเห็นภาพตนเองวิ่งเอาดอกไม้ไปอวดผู้เป็นบิดา จากนั้น เส่เยี่ยก็เห็นภาพมารดาของนางเดินเข้ามาใกล้ๆ แต่ร่างของมารดาเป็นแสงสว่างจ้า เส่เยี่ยพยายามมองต้านแสงนั้น เพื่อให้เห็นใบหน้าของมารดา แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นชัดได้ หญิงสาวพรึมพรำว่าแม่ออกมาเบาๆ เอาหล่ะ ถึงตอนนี้อาจจะยากสักหน่อย เจ้าจงปล่อยตัวตามสบาย หายใจเข้าลึกๆ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น พอถึงขั้นตอนนี้ น้ำเสียงของไต้ซือก็ดูจริงจังขึ้น เจ้าจงนึกถึงเหตุการณ์ก่อนที่เจ้าจะตาบอด วันนั้นเจ้าได้ทำอะไรบ้าง ใจเย็นๆ นะ ไม่ต้องรีบ หากอยากหยุดเมื่อไหร่ก็บอกข้า ไต้ซือพยายามพูดให้เส่เยี่ยใจเย็นที่สุด เขาพรึมพรำสวดภาษาบาลีเบาๆ หญิงสาวก็ทำตามที่เขาบอก
วันนั้นนางออกไปซ้อมกระบี่ตอนเช้า แล้วก็ทะเลาะกับผู้เป็นบิดา เส่เยี่ยเดินล่องลอยไปจนถึงตลาดแล้วก็ได้พบกับจอมยุทธคนหนึ่งที่ร้านขายพัด จากนั้น นางก็เดินทางกลับเข้าหมู่บ้าน เส่เยี่ยพบภาพบ้านของตนกำลังถูกไฟลุกท่วม เมื่อคิดถึงตอนนี้เส่เยี่ยที่นั่งหลับตาอยู่ก็ขมวดคิ้วแน่น ภาพที่นางเห็นต่อไปคือ ภาพของผู้เป็นบิดากำลังนอนแน่นิ่งจมกองเพลิงอยู่ หญิงสาวพยายามเอื้อมมือไปคว้าบิดาของตน แต่ทว่าร่างของนางกับลอยห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เส่เยี่ยจิกมือกับหัวเข่าของตนแน่น ไม่ นางจะต้องช่วยท่านพ่อให้ได้ หญิงสาวคิด แต่มโนภาพกลับไม่ได้เป็นดังใจหวัง อยู่ๆ ซากปรักหักพังก็ถล่มลงมาทับร่างของซุนซิ่นจนไหม้เป็นจุล "ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ท่านพ่อ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เส่เยี่ยตะโกนออกมาสุดเสียง จากนั้นก็โพร่งลืมตาขึ้น นางวิ่งเปะปะไปมาอย่างไร้ทิศทาง เจ้าหยาจือกับนางกำนัลรีบวิ่งเข้ามาดูหน้าตาตื่น ฝ่ายไต้ซือใช้วิชาตัวเบาเหาะไปดักหน้าเส่เยี่ยเพื่อสกัดจุดหญิงสาวก่อนที่ลมปราณจะแตกซ่าน แต่ยังไม่ทันถึงตัวเส่เยี่ย หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาพบกับแสงอาทิตย์ นางหรี่ตาลง แล้วก็กุมขมับด้วยความรู้สึกปวดศีรษะราวกับมันจะระเบิด "โอย... ปวดเหลือเกิน... ข้าปวด..." ยังไม่ทันสิ้นประโยค หญิงสาวก็สลบกองลงไปกับพื้น เจ้าหยาจือและไต้ซือรีบวิ่งเข้ามาประคองร่างของนาง พวกเขาเรียกเส่เยี่ยให้ได้สติอยู่นานแต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าหยาจือใจเสียเริ่มร้องห่มร้องไห้ ไต้ซือบอกว่าเส่เยี่ยยังหายใจอยู่ นางเพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น พวกเขาจึงช่วยกันพาเส่เยี่ยกลับไปพักยังห้องนอนของนาง
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ณ ท้องพระโรง
พิธีคัดเลือกฮองเฮา เริ่มขึ้นตอนเที่ยงตรงของวันนั้น
บรรดาขุนนางที่รออยู่ด้านนอก ต่างนั่งไม่ติดที่ พวกเขาตื่นเต้นว่าบุตรสาวของตนจะได้รับเลือกเป็นฮองเฮาหรือไม่ จากผลสำรวจทั้งด้านหน้าตาและบารมี คะแนนของอ๋าวเทียนเจียวดูจะนำโด่ง หากไม่มีการพลิกโผ นางต้องได้เป็นฮองเฮาแน่ๆ ส่วนคะแนนของหญิงสาวที่ตามมาติดๆ คือ สั่วฟางเอ๋อ บุตรสาวของอดีตเสนาบดีสั่วหนี ผู้ซึ่งมีทั้งความฉลาดและไหวพริบ กิริยามารยาทชดช้อย หน้าตาก็ไม่เป็นรองใคร จะแพ้เทียนเจียวตรงที่ไม่มีบารมีของบิดาส่งเสริมเท่านั้น เพราะเสนาบดีสั่วหนีสิ้นไปได้หลายปีแล้ว คนของเขาก็ไม่มีใครสามารถขึ้นมาทัดทานอำนาจของอ๋าวป้ายได้
ขณะเดียวกัน ด้านในของท้องพระโรง ไทเฮา นางกำนัล และขันทีคนสนิท ต่างพากันตื่นเต้นที่จะได้ยลโฉมของสาวงาม มีเพียงคังซื่อเท่านั้นที่เอาแต่นั่งหน้าเศร้าอยู่บนบัลลังก์ และแล้วขันทีก็พาหญิงงามเข้ามาแนะนำฮ่องเต้ทีละคน
เริ่มจากตัวเต็งอันดับหนึ่ง อ๋าวเทียนเจียว นางมาในชุดอันงดงามสีเขียวอ่อน ซึ่งได้มาจากฟางเอ๋อเมื่อเช้านี้ ท่าทางการเดินของนางกรีดกรายนวยนาถ พาให้ทั้งท้องพระโรงมองตามกันเป็นแถวๆ หลังจากได้รับการแนะนำตัวแล้ว หญิงสาวก็ยิ้มแล้วส่งสายตายั่วยวนให้ฮ่องเต้ คังซื่อพิจารณารูปโฉมของนางแล้ว ก็ยิ้มให้นางพอเป็นพิธี ก่อนที่ขันทีจะพาสาวงามคนต่อไปเข้ามา
คนที่สอง คือ สั่วฟางเอ๋อ นางมาในชุดสีแดงเลือดหมูซึ่งไทเฮาจัดไว้ให้ แม้ชุดจะดูโบราณไปสักหน่อย แต่ก็ไม่สามารถบดบังความงดงามของหญิงสาวได้ ท่าทางของนางชวนให้นึกถึงเจ้าหยาจือ หรือ ถูฮูหยิน กิริยาของทั้งสองช่างงดงามชดช้อยราวกับเทพธิดาก็ไม่ปาน เมื่อได้รับการแนะนำตัวแล้ว หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฮ่องเต้ แล้วก็ยิ้มอายๆ ให้เขา คังซื่อพยักหน้าแล้วยิ้มตอบให้นางพอเป็นพิธี ก่อนที่ขันทีจะพาสาวงามคนต่อไปเข้ามา
คนที่สาม คือ คุณหนูเยี่ยปี้เสีย บุตรีของเสนาบดีเยี่ยปี้หลง นางมาในชุดสีชมพูอ่อน หญิงสาวหน้าตางดงามอ่อนช้อยไม่แพ้สาวงามสองคนแรก แววตาของนางดูมีความทะเยอทะยานไม่ต่างอะไรกับอ๋าวเทียนเจียว หากแต่เทียนเจียวจะดูหยิ่งทรนงมากกว่า คงเป็นเพราะบารมีของเยี่ยปี้หลงถูกบดบังโดยอ๋าวป้ายเสียหมด หลังจากได้รับการแนะนำตัว หญิงสาวก็ยิ้มให้ฮ่องเต้ด้วยความหวังลึกๆ ว่า นางจะได้เป็นฮองเฮา คังซื่อยิ้มกลับให้นางพอเป็นพิธี ก่อนที่ขันทีจะพาสาวงาม ตัวเต็งคนสุดท้ายเข้ามา
คนที่สี่ คือ คุณหนูซูโหย่ว บุตรีของเสนาบดีซูเคอะซ่าฮา นางมาในชุดสีฟ้าอ่อน ในบรรดาสาวงามทั้งสี่ ความงามของคุณหนูซูโหย่วดูจะเรียบๆ กว่าคนอื่น แววตาของนางไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยม ดูเจียมเนื้อเจียมตัว ท่าทางธรรมดาๆ ของนาง ทำให้คังซื่อรู้สึกนึกถึงเสี่ยเยี่ยเป็นอย่างมาก หลังจากขันทีแนะนำตัวแล้ว ซูโหย่วก็ยิ้มให้ฮ่องเต้บางๆ คังซื่อกำลังเหม่อ นึกถึงรอยยิ้มของเส่เยี่ย จึงเผลอยิ้มกว้างให้คุณหนูซูโหย่ว ทำเอาหญิงสาวดีใจจนหน้าแดง เทียนเจียวซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เห็นเช่นนั้น ก็ใช้หางตามองซูโหย่วด้วยความไม่พอใจ
ทั้งหมดนี้คือบรรดาสาวงามตัวเต็ง ที่มีความงดงามและฐานะ เหมาะจะเป็นฮองเฮา แต่จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะชนะใจฮ่องเต้ ส่วนที่เหลือถ้าโชคดีก็จะได้เป็นเจ้าจอม หากโชคร้ายก็อาจได้เป็นเพียงพระสนม
คังซื่อพิจารณาสาวงามทั้งสี่ จากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้ายอยู่หลายครั้ง สาวงามทุกคนล้วนหน้าตาสะสวยไม่แพ้กัน ยากที่จะตัดสินใจ เสมือนหนึ่งดอกไม้ในพระตำหนักที่มีอยู่มากมายละลานตา แต่ละดอกล้วนสวยงาม มีกลิ่นหอม หากแต่ในใจคังซื่อตอนนี้ไม่ได้ต้องการดอกไม้ราคาแพงเหล่านั้น เขาต้องการเพียงดอกไม้ป่าธรรมดาเพียงดอกเดียวเท่านั้น
หลังจากพิจารณาหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่ง ฮ่องเต้ก็กลับมานั่งที่บัลลังก์ เขาถอนหายใจยาว ก่อนจะตัดสินใจยกป้ายชื่ออันหนึ่งขึ้นมาจากโต๊ะ ไทเฮา นางกำนัล และขันทีต่างพากันชะเง้อชะแง้งตามด้วยความตื่นเต้น จากนั้นขันทีส่วนพระองค์ก็ประกาศชื่อของหญิงสาวผู้โชคดี "ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้คุณหนู..."
โปรดติดตามตอนต่อไป...
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
Create Date : 30 มกราคม 2552 |
|
41 comments |
Last Update : 19 มีนาคม 2560 2:15:57 น. |
Counter : 1542 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 31 มกราคม 2552 9:20:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:32:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:33:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:34:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:36:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:37:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:38:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:39:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:39:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:40:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 31 มกราคม 2552 18:42:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.133.87 31 มกราคม 2552 21:21:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 31 มกราคม 2552 22:07:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.133.87 31 มกราคม 2552 22:27:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 1 กุมภาพันธ์ 2552 10:48:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 1 กุมภาพันธ์ 2552 13:47:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.141.46 1 กุมภาพันธ์ 2552 20:53:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 1 กุมภาพันธ์ 2552 21:07:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.141.46 1 กุมภาพันธ์ 2552 21:17:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทับทิม IP: 125.26.38.200 2 กุมภาพันธ์ 2552 20:31:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทับทิม IP: 125.26.38.200 2 กุมภาพันธ์ 2552 21:36:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทับทิม IP: 125.26.38.200 2 กุมภาพันธ์ 2552 21:39:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทับทิม IP: 125.26.38.200 2 กุมภาพันธ์ 2552 22:17:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 2 กุมภาพันธ์ 2552 22:24:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 2 กุมภาพันธ์ 2552 22:27:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 2 กุมภาพันธ์ 2552 22:31:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.149.83 2 กุมภาพันธ์ 2552 23:27:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.149.83 3 กุมภาพันธ์ 2552 0:02:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินอี้ 3 กุมภาพันธ์ 2552 8:41:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 5 กุมภาพันธ์ 2552 6:48:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-yohyo 5 กุมภาพันธ์ 2552 6:52:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cipher IP: 58.8.138.129 5 กุมภาพันธ์ 2552 21:08:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|