แฟนฟิคชั่น : กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน (The Hero & The King)
Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
กระบี่สะท้านฟ้าฯ ตอนที่ 21 ฮองเฮา



รุ่งเช้า ณ ตำหนักรับรองผู้เข้าคัดเลือกตำแหน่งฮองเฮา หญิงสาวคนหนึ่งกำลังหงุดหงิดกับชุดที่วางอยู่บนโต๊ะของตน หญิงสาวนางนี้มีหน้าตาอันเลอโฉม ดวงตาของนางกลมโตเป็นประกาย คิ้วทั้งสองข้างคมคายได้รูป จมูกเรียวงามเป็นสัน อีกทั้งริมฝีปากยังบางเบาเป็นสีอมชมพู หากแต่ว่าตอนนี้ใบหน้าอันงดงามนั้นกำลังครุกรุ่นไปด้วยความไม่สบอารมณ์
"นังขี้ข้า!!! พูดไม่รู้เรื่องหรือไง ชุดสีบ้านนอกขนาดนี้ จะให้ข้าใส่ได้ยังไง ไป!!! เจ้าไปหาชุดมาให้ข้าใหม่เดี๋ยวนี้เลยนะ!!!" หญิงสาวโวยวายลั่น แล้วก็ชี้หน้าด่าบ่าวไพร่ด้วยความไม่พอใจ
"ตะ.. แต่... คุณหนูอ๋าวคะ ชุดนี้ไทเฮาเป็นคนสั่งตัดให้บรรดาคุณหนูทั้งหลายนะคะ ข้าไม่กล้าขัดคำสั่งหรอก" นางกำนัลคนหนึ่งพยายามอธิบาย ท่าทางของนางดูหวาดๆ คนตรงหน้า
"ว่าอะไรนะ!!! นี่กล้ายกไทเฮามาขู่ข้างั้นเหรอ รึเจ้าไม่รู้ว่าพ่อข้าเป็นใคร ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่หล่ะก็ ไปหาชุดมาให้ข้าใหม่เดี๋ยวนี้นะพวกโง่!!!" หญิงสาวแผดเสียงดังลั่น จนพวกนางกำนัลวิ่งกระเจิงออกไป

หญิงสาวที่ดุร้ายราวกับเสือคนนี้ ความจริงแล้วคือ อ๋าวเทียนเจียว บุตรีของเสนาบดีอ๋าวป้ายผู้เรืองอำนาจในราชสำนักนั่นเอง ครั้งก่อน ที่อ๋าวป้ายไม่ส่งทหารหลวงไปจับชีเส้าเฟย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ ลูกสาวของเขาเป็นหนึ่งในสาวงามที่จะเข้าชิงตำแหน่งฮองเฮา หากเขาทำให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัย ตำแหน่งฮองเฮาก็อาจจะหลุดมือเทียนเจียวไปได้ง่ายๆ อ๋าวป้ายมั่นใจว่าหากฮ่องเต้ไม่มีอคติ จะต้องเลือกบุตรสาวของเขาขึ้นเป็นฮองเฮาอย่างแน่นอน เพราะนางเป็นสาวสคราญโฉม ใครเห็นเป็นต้องหลงใหล อีกทั้งในราชสำนัก อ๋าวป้ายควบคุมทั้งกำลังทหารและอำนาจบริหาร หากฮ่องเต้เลือกบุตรสาวของเขาเป็นฮองเฮาหล่ะก็ ก็จะช่วยส่งเสริมให้ฮ่องเต้บริหารงานราชกิจได้สะดวกมากขึ้น

ระหว่างที่เทียนเจียวกำลังหงุดหงิดกับเครื่องแต่งกายของตนอยู่นั้น ก็มีหญิงสาวอีกคนเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวคนนี้ หน้าตาหมดจด แววตาดูอ่อนโยน แม้ว่าความสวยจะดูเป็นรองเทียนเจียวอยู่เล็กน้อย แต่อากัปกิริยาของนางก็งดงามราวกับเทพธิดาก็ไม่ปาน
"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าใครทำให้คุณหนูเทียนเจียวอารมณ์เสียงั้นหรือ" หญิงสาวผู้มาเยือนเอ่ยทักแล้วยิ้มให้คนที่นั่งอยู่
"เจ้าเป็นใคร! หึ! แค่ลูกขุนนางเล็กๆ อย่าสะเออะมายุ่งเรื่องของข้า!" คนตอบขมวดคิ้วแล้วมองผู้มาเยือนด้วยหางตา
"ข้าน้อยชื่อฟางเอ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักคุณหนูอ๋าวค่ะ" หญิงสาวแนะนำตัว ความจริงนางคือ สั่วฟางเอ๋อ บุตรีของหัวหน้าเสนาบดีสั่วหนีซึ่งล่วงลับไปแล้ว
"อ๋อ ที่แท้ก็ลูกเสนาสั่วนั่นเอง เจ้ามาห้องข้ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า" พอเทียนเจียวรู้ว่า ผู้มาเยือนเป็นใครก็หันไปค้อนด้วยสายตาแข็งกร้าว
"พอดีข้าได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เกรงว่าคุณหนูมีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ" ฟางเอ๋อยิ้ม
"เฮอะ! นี่เจ้าคิดจะมาเยาะเย้ยชุดเข้าเฝ้าของข้างั้นสิ!" เทียนเจียวทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นมองฟางเอ๋อตาขวาง ฟางเอ๋อเห็นเสื้อที่ถูกฉีกขาดกองอยู่บนโต๊ะก็พอจะเข้าใจเหตุการณ์ นางไม่อยากให้เทียนเจียวสร้างปัญหาจึงเสนอแนะวิธีการให้
"ความจริง หากคุณหนูไม่ชอบชุดนี้ ข้าได้เตรียมชุดมาเผื่อ คุณหนูอยากลองใส่ดูก่อนไหมคะ" คนพูดยิ้มอย่างเป็นมิตร
"ชุดของเจ้างั้นเหรอ แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าไม่ได้เอาของไม่ดีมาให้ข้าใส่" เทียนเจียวเบะปากให้ฟางเอ๋อ นางไม่เชื่อว่าฟางเอ๋อจะหวังดีกับนางจริงๆ
"เจี้ยนๆ จ๊ะ เอาชุดเข้ามาให้คุณหนูอ๋าวดูหน่อยซิ" ฟางเอ๋อยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกวักมือให้คนรับใช้เอาชุดเข้ามาให้เทียนเจียวดู
"ข้าเตรียมมาเองชุดหนึ่ง ส่วนชุดนี้ไทเฮาจัดไว้ให้ เอาอย่างนี้นะ คุณหนูอ๋าวก็เลือกชุดหนึ่ง แล้วข้าจะใส่อีกชุดหนึ่งไงคะ" ฟางเอ๋อเสนอ ฝ่ายอ๋าวเทียนเจียวเห็นว่า ข้อเสนอนี้ นางมีแต่ได้ ไม่มีเสีย จึงพยักหน้าแล้วหันไปเลือกชุดที่นางกำนัลถืออยู่ นางหยิบชุดที่ไทเฮาจัดให้ขึ้นดู แล้วก็เบะปาก คิดในใจว่า ชุดเชยแบบนี้ใครจะไปใส่ แล้วนางก็หยิบอีกชุดขึ้นดู ปรากฏว่าเนื้อผ้าเป็นผ้าไหมอย่างดี การตัดเย็บก็ปราณีต แถมยังเป็นสีเขียวสีโปรดของนางอีกด้วย หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจ
"ข้าเอาตัวนี้แล้วกัน" เทียนเจียวกระชากกล่องเสื้อมาจากนางกำนัล ฟางเอ๋อยิ้มอย่างใจเย็น ก่อนจะพยักหน้าให้นางแล้วพานางกำนัลคนอื่นออกไป

ช่างบังเอิญเหลือเกินที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่คลาดสายตาของไทเฮา ทีแรกนางได้ยินเสียงโวยวายของเทียนเจียวจึงตั้งใจจะเดินมาดู พอดีเห็นว่าฟางเอ๋อเดินเข้าไปก่อน จึงหยุดรอดูเหตุการณ์อยู่ข้างนอก หลังจากฟางเอ๋อเดินออกไปแล้ว ไทเฮาก็มองตามแล้วยิ้มอย่างพอพระทัย
"ขอให้ฮ่องเต้ตาสว่างเลือกแม่นางสั่วเป็นฮองเฮาทีเถิด หากตาบอดเลือกหญิงสาวจิตใจโหดร้ายเช่นอ๋าวเทียนเจียวมาเป็นชายา ราชสำนักคงไม่สงบสุขเป็นแน่" ไทเฮากล่าวแล้วก็เดินจากไป

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ฝ่ายฮ่องเต้เอาแต่นั่งซึมอยู่ในพระตำหนัก บรรดาองครักษ์ต้องเขี่ยวเข็ญกันอยู่นานกว่าจะยอมแต่งตัว หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้วก็มานั่งเหม่อลอยอยู่ที่โต๊ะหนังสือ ขันทีเอาอาหารมาถวายไว้ตั้งแต่เช้า ก็ไม่ยอมแตะเลยแม้แต่นิดเดียว โชคดีที่เมื่อคืนเขายอมกินอะไรไปบ้าง ตอนที่เส่เยี่ยมาเยี่ยม หลินกุเหนียงเห็นฮ่องเต้นั่งซึมเป็นท่อนไม้ก็เอ่ยทักขึ้น
"ฝ่าบาท ฝ่าบาททรงเป็นฮ่องเต้ ในเมื่อไม่อยากแต่ง ก็ไม่ต้องไปหรอกพะย่ะค่ะ" หลินกุเหนียงพูดน้ำเสียงจริงจัง องครักษ์เหอได้ยินเช่นนั้นก็หันไปค้อนให้นางดังขวับ หลินกุเหนียงจึงยิ้มแห้งๆ ให้เขา แล้วเดินไปหลบข้างองครักษ์จั๋ว
"ไม่ได้หรอก เรารับปากเส่เยี่ยเขาไปแล้ว" คนพูดตอบหน้านิ่ง
"งั้นก็ทำหน้าดีๆ หน่อย งานแต่งตั้งฮองเฮานะพะย่ะค่ะ ไม่ใช่งานศพ" คนพูดเอามือเกาหัว คราวนี้เป็นองครักษ์จั๋วที่ทนไม่ได้ เขารีบดึงเสื้อหลินกุเหนียงให้นางรู้ตัวว่าควรหยุดพูดได้แล้ว
"เอาหล่ะๆ เรารู้หน่ะว่าต้องทำยังไง พวกเจ้าก็ไปเตรียมตัวกันเถอะ เราอยากอยู่เงียบๆ สักครู่" คังซื่อเข้าใจว่าพวกองครักษ์เป็นห่วง แต่เขารู้สึกว่ายังไม่พร้อม ยังอยากทำใจอีกสักพัก

หลังจากพวกองครักษ์ออกไปหมดแล้ว คังซื่อก็หยิบปิ่นสีทองขึ้นมาดู ปิ่นอันนี้เคยเป็นขององค์หญิงปิงเยี่ย จากนั้น เขาก็ให้เส่เยี่ยไว้ แต่นางไม่ยอมใส่มัน และได้คืนให้เขา ชายหนุ่มพิจารณาปิ่นปักผมอันนั้น ทบทวนเรื่องเดิมเป็นพันๆ ครั้ง เขาเคยสงสัยมาตลอดว่าระหว่างเขากับองค์หญิงปิงเยี่ยนั้นใช่ความรักฉันท์ชายหญิงหรือไม่ แต่หลังจากที่เขาได้รู้จักกับเส่เยี่ย ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับคำตอบนั้นแล้ว...

คังซื่อและปิงเยี่ยเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก นางเป็นทั้งเพื่อนและน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกเสียใจ เมื่อรู้ว่าตื่นขึ้นมาแล้ว จะไม่ได้พบนางอีกต่อไป หากแต่นี่คือความผูกพันธ์ และความรักแบบพี่น้อง หาใช่ความรักชายหญิงไม่ คังซื่ออาจไม่มีวันรู้ความจริงข้อนี้ หากเขาไม่ได้มาพบกับเส่เยี่ย หญิงสาวที่หน้าตาเหมือนปิงเยี่ยอย่างกับพิมพ์เดียวกัน...

สำหรับเส่เยี่ยแล้ว แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากหน้าตาของนางก็ตาม แต่ความรู้สึกที่คังซื่อมีต่อเส่เยี่ยนั้น ต่างไปจากความรู้สึกกับองค์หญิงปิงเยี่ย เขาไม่ได้อยากเป็นเพื่อน และไม่ได้อยากเป็นพี่ชายของนาง...

นาทีที่เขารู้ว่า ไม่สามารถเคียงคู่กับเส่เยี่ยได้ เป็นนาทีที่เขาทรมานที่สุด หากแต่นาทีที่เขารู้ว่านางเจ็บปวดหรือทุกข์ใจ มันกลับทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่า เขายอมแลกความสุขทุกอย่างของตน เพียงเพื่อได้เห็นรอยยิ้มนั้นของนาง...

การที่คังซื่อตัดสินใจเข้าพิธีอภิเษก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้เส่เยี่ยเดือดร้อน คังซื่อรู้ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หรือว่าฮองเฮาก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่แน่ว่าเส่เยี่ยจะทนกับความกดดันเหล่านี้ได้ และชายหนุ่มเองก็ไม่มั่นใจด้วยว่า จะปกป้องนางได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ยิ่งเขาวางเส่เยี่ยไว้ห่างจากตนเองมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น...

ความจริงการที่คังซื่อได้รู้จักกับเส่เยี่ย ไม่เพียงแต่เขาได้เรียนรู้ถึงคำว่ารัก หากแต่ความคิดความอ่านของเขาก็โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย เขาเริ่มนึกถึงจิตใจของผู้อื่น นึกถึงความถูกต้อง และนึกถึงความเสียสละ.... แน่นอนความเสียสละ วันหนึ่งเขาจะต้องได้เสียสละอย่างแน่นอน...

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ณ สวนหลังจวนอ๋องถูจิ้น

อิเต็งไต้ซือกำลังทำการรักษาอาการตาบอดให้กับเส่เยี่ย

“แม่นางเส่เยี่ย ทำใจให้สบายนะ ข้าอยากให้เจ้าหลับตา แล้วหายใจเข้าออกช้าๆ เป็นจังหวะ” คนพูดกล่าวแล้วก็ยกสร้อยประคำขึ้นมานับ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็พบว่าเส่เยี่ยกำลังนั่งเหม่อ ไม่ได้หลับตาตามที่เขาบอก
“แม่นางเส่เยี่ย แม่นางเส่เยี่ย” ไต้ซือต้องเรียกเส่เยี่ยถึงสองครั้ง กว่านางจะรู้สึกตัว
“คะ คะไต้ซือ” หญิงสาวหลุดจาภวังค์แล้วก็หันมาทางไต้ซือ
“แม่นางเส่เยี่ย หากเจ้ายังไม่พร้อมที่จะรักษา ข้าว่า...”
“ข้าขอโทษค่ะ พอดีข้าคิดอะไรเพลินไปหน่อย” หญิงสาวทำหน้าเศร้าด้วยความรู้สึกผิด
“ข้าว่าเจ้าอย่าฝืนใจเลยดีกว่านะ” ไต้ซือลูบเคราแล้วก็มองเส่เยี่ยด้วยรู้สึกเห็นใจ ดูจากแววตาของนาง เขาก็พอจะมองออกว่า นางได้ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมามากมายแค่ไหน
“แต่ข้ารับปากฝ่าบาทแล้ว ยังไงข้าก็ต้องรักษาค่ะ” คนตอบหน้าเศร้า
“กายอยู่ แต่ใจไม่อยู่ เช่นนี้รักษาไปก็ไร้ผล” ไต้ซือส่ายหน้า เขารู้ว่าเส่เยี่ยกำลังกังวลเรื่องอะไร เส่เยี่ยได้ฟังเช่นนั้นก็ฉุกคิดขึ้นได้ เหตุใดนางจะต้องไปคิดถึงคนที่นางไม่ได้รักคนนั้นด้วย ตอนนี้ที่สำคัญที่สุด คือรักษาดวงตาให้หายก่อน แล้วค่อยหาทางออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด นางจะได้ไม่ต้องมาทนกับความรู้สึกสับสนเหล่านี้อีกต่อไป หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก
“ไต้ซือ ข้าพร้อมแล้วจริงๆ ค่ะ ข้าสัญญาว่าจะตั้งใจ ไม่วอกแวกอีกแล้ว” หญิงสาวพูดอย่างหนักแน่น ไต้ซือเห็นนางท่าทางจริงจังจึงไม่อยากขัด ก็เลยทำการรักษาต่อ
“เอาหล่ะ แม่นางเส่เยี่ย งั้นเจ้าค่อยๆ ทำตามที่ข้าบอกนะ เริ่มแรกให้เจ้าหลับตาลงช้าๆ” ไต้ซือพูดจบเส่เยี่ยก็ค่อยๆ หลับตาลง
“หายใจเข้า หายใจออก ช้าๆ เป็นจังหวะ” เส่เยี่ยหายใจเข้าออกตามที่ไต้ซือกล่าว
“ไม่ต้องเกร็ง ปล่อยตัวตามสบายนะ” ไต้ซือเหลือบเห็นเส่เยี่ยกำมือแน่น ก็เอ่ยบอกนาง
“เอาหล่ะ ต่อไป ข้าอยากให้เจ้านึกภาพต่างๆ ตามที่ข้าบอก ไม่ต้องรีบร้อนนะ” ไต้ซือพูดจบก็หลับตาแล้วยกลูกประคำขึ้นมาสวดเป็นภาษาคล้ายภาษาบาลี
“จงนึกถึงภาพทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ สีเขียว มองไปสุดตา” เส่เยี่ยก็คิดถึงภาพทุ่งหญ้า
“ใบหญ้าเหล่านั้นปลิวไปตามจังหวะของลมที่พัดมา” หญิงสาวสร้างมโนภาพตามที่ไต้ซือบอก แล้วอยู่ๆ นางก็รู้สึกสงบอย่างที่ไม่เคยเรู้สึกมาก่อน นานเท่าไหร่แล้วที่นางไม่ได้เห็นทุ่งหญ้าสีเขียวเหล่านี้
“เจ้าค่อยๆ ก้าวลงไปในทุ่งหญ้านั้น” เส่เยี่ยเห็นภาพของตนเองในชุดสีเหลืองอ่อนเดินเข้าไปในทุ่งหญ้ากว้างผืนนั้น
“เจ้าเห็นภาพตามที่ข้าบอกหรือเปล่า” ไต้ซือถาม เส่เยี่ยก็พยักหน้ารับ
“ดี ต่อไปข้าอยากให้เจ้านึกถึงวัยเด็ก นึกถึงสถานที่ที่เจ้าเคยวิ่งเล่น หรือสถานที่ที่เจ้าชอบไป” เส่เยี่ยก็นึกถึงภาพของตนเองตอนที่ยังเป็นเด็ก นางวิ่งเล่นไปตามทุ่งหญ้า เก็บดอกไม้กำใหญ่ได้ก็ดีใจ
“นึกถึงพ่อและแม่ของเจ้า ช่วงเวลาที่เจ้ามีความสุข” เส่เยี่ยเห็นภาพตนเองวิ่งเอาดอกไม้ไปอวดผู้เป็นบิดา จากนั้น เส่เยี่ยก็เห็นภาพมารดาของนางเดินเข้ามาใกล้ๆ แต่ร่างของมารดาเป็นแสงสว่างจ้า เส่เยี่ยพยายามมองต้านแสงนั้น เพื่อให้เห็นใบหน้าของมารดา แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นชัดได้ หญิงสาวพรึมพรำว่าแม่ออกมาเบาๆ
“เอาหล่ะ ถึงตอนนี้อาจจะยากสักหน่อย เจ้าจงปล่อยตัวตามสบาย หายใจเข้าลึกๆ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น” พอถึงขั้นตอนนี้ น้ำเสียงของไต้ซือก็ดูจริงจังขึ้น
“เจ้าจงนึกถึงเหตุการณ์ก่อนที่เจ้าจะตาบอด วันนั้นเจ้าได้ทำอะไรบ้าง ใจเย็นๆ นะ ไม่ต้องรีบ หากอยากหยุดเมื่อไหร่ก็บอกข้า” ไต้ซือพยายามพูดให้เส่เยี่ยใจเย็นที่สุด เขาพรึมพรำสวดภาษาบาลีเบาๆ หญิงสาวก็ทำตามที่เขาบอก

วันนั้นนางออกไปซ้อมกระบี่ตอนเช้า แล้วก็ทะเลาะกับผู้เป็นบิดา เส่เยี่ยเดินล่องลอยไปจนถึงตลาดแล้วก็ได้พบกับจอมยุทธคนหนึ่งที่ร้านขายพัด จากนั้น นางก็เดินทางกลับเข้าหมู่บ้าน เส่เยี่ยพบภาพบ้านของตนกำลังถูกไฟลุกท่วม เมื่อคิดถึงตอนนี้เส่เยี่ยที่นั่งหลับตาอยู่ก็ขมวดคิ้วแน่น ภาพที่นางเห็นต่อไปคือ ภาพของผู้เป็นบิดากำลังนอนแน่นิ่งจมกองเพลิงอยู่ หญิงสาวพยายามเอื้อมมือไปคว้าบิดาของตน แต่ทว่าร่างของนางกับลอยห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เส่เยี่ยจิกมือกับหัวเข่าของตนแน่น ไม่ นางจะต้องช่วยท่านพ่อให้ได้ หญิงสาวคิด แต่มโนภาพกลับไม่ได้เป็นดังใจหวัง อยู่ๆ ซากปรักหักพังก็ถล่มลงมาทับร่างของซุนซิ่นจนไหม้เป็นจุล
"ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ท่านพ่อ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เส่เยี่ยตะโกนออกมาสุดเสียง จากนั้นก็โพร่งลืมตาขึ้น นางวิ่งเปะปะไปมาอย่างไร้ทิศทาง เจ้าหยาจือกับนางกำนัลรีบวิ่งเข้ามาดูหน้าตาตื่น ฝ่ายไต้ซือใช้วิชาตัวเบาเหาะไปดักหน้าเส่เยี่ยเพื่อสกัดจุดหญิงสาวก่อนที่ลมปราณจะแตกซ่าน แต่ยังไม่ทันถึงตัวเส่เยี่ย หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาพบกับแสงอาทิตย์ นางหรี่ตาลง แล้วก็กุมขมับด้วยความรู้สึกปวดศีรษะราวกับมันจะระเบิด
"โอย... ปวดเหลือเกิน... ข้าปวด..." ยังไม่ทันสิ้นประโยค หญิงสาวก็สลบกองลงไปกับพื้น เจ้าหยาจือและไต้ซือรีบวิ่งเข้ามาประคองร่างของนาง พวกเขาเรียกเส่เยี่ยให้ได้สติอยู่นานแต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าหยาจือใจเสียเริ่มร้องห่มร้องไห้ ไต้ซือบอกว่าเส่เยี่ยยังหายใจอยู่ นางเพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น พวกเขาจึงช่วยกันพาเส่เยี่ยกลับไปพักยังห้องนอนของนาง

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ณ ท้องพระโรง

พิธีคัดเลือกฮองเฮา เริ่มขึ้นตอนเที่ยงตรงของวันนั้น

บรรดาขุนนางที่รออยู่ด้านนอก ต่างนั่งไม่ติดที่ พวกเขาตื่นเต้นว่าบุตรสาวของตนจะได้รับเลือกเป็นฮองเฮาหรือไม่ จากผลสำรวจทั้งด้านหน้าตาและบารมี คะแนนของอ๋าวเทียนเจียวดูจะนำโด่ง หากไม่มีการพลิกโผ นางต้องได้เป็นฮองเฮาแน่ๆ ส่วนคะแนนของหญิงสาวที่ตามมาติดๆ คือ สั่วฟางเอ๋อ บุตรสาวของอดีตเสนาบดีสั่วหนี ผู้ซึ่งมีทั้งความฉลาดและไหวพริบ กิริยามารยาทชดช้อย หน้าตาก็ไม่เป็นรองใคร จะแพ้เทียนเจียวตรงที่ไม่มีบารมีของบิดาส่งเสริมเท่านั้น เพราะเสนาบดีสั่วหนีสิ้นไปได้หลายปีแล้ว คนของเขาก็ไม่มีใครสามารถขึ้นมาทัดทานอำนาจของอ๋าวป้ายได้

ขณะเดียวกัน ด้านในของท้องพระโรง ไทเฮา นางกำนัล และขันทีคนสนิท ต่างพากันตื่นเต้นที่จะได้ยลโฉมของสาวงาม มีเพียงคังซื่อเท่านั้นที่เอาแต่นั่งหน้าเศร้าอยู่บนบัลลังก์ และแล้วขันทีก็พาหญิงงามเข้ามาแนะนำฮ่องเต้ทีละคน

เริ่มจากตัวเต็งอันดับหนึ่ง อ๋าวเทียนเจียว นางมาในชุดอันงดงามสีเขียวอ่อน ซึ่งได้มาจากฟางเอ๋อเมื่อเช้านี้ ท่าทางการเดินของนางกรีดกรายนวยนาถ พาให้ทั้งท้องพระโรงมองตามกันเป็นแถวๆ หลังจากได้รับการแนะนำตัวแล้ว หญิงสาวก็ยิ้มแล้วส่งสายตายั่วยวนให้ฮ่องเต้ คังซื่อพิจารณารูปโฉมของนางแล้ว ก็ยิ้มให้นางพอเป็นพิธี ก่อนที่ขันทีจะพาสาวงามคนต่อไปเข้ามา

คนที่สอง คือ สั่วฟางเอ๋อ นางมาในชุดสีแดงเลือดหมูซึ่งไทเฮาจัดไว้ให้ แม้ชุดจะดูโบราณไปสักหน่อย แต่ก็ไม่สามารถบดบังความงดงามของหญิงสาวได้ ท่าทางของนางชวนให้นึกถึงเจ้าหยาจือ หรือ ถูฮูหยิน กิริยาของทั้งสองช่างงดงามชดช้อยราวกับเทพธิดาก็ไม่ปาน เมื่อได้รับการแนะนำตัวแล้ว หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฮ่องเต้ แล้วก็ยิ้มอายๆ ให้เขา คังซื่อพยักหน้าแล้วยิ้มตอบให้นางพอเป็นพิธี ก่อนที่ขันทีจะพาสาวงามคนต่อไปเข้ามา

คนที่สาม คือ คุณหนูเยี่ยปี้เสีย บุตรีของเสนาบดีเยี่ยปี้หลง นางมาในชุดสีชมพูอ่อน หญิงสาวหน้าตางดงามอ่อนช้อยไม่แพ้สาวงามสองคนแรก แววตาของนางดูมีความทะเยอทะยานไม่ต่างอะไรกับอ๋าวเทียนเจียว หากแต่เทียนเจียวจะดูหยิ่งทรนงมากกว่า คงเป็นเพราะบารมีของเยี่ยปี้หลงถูกบดบังโดยอ๋าวป้ายเสียหมด หลังจากได้รับการแนะนำตัว หญิงสาวก็ยิ้มให้ฮ่องเต้ด้วยความหวังลึกๆ ว่า นางจะได้เป็นฮองเฮา คังซื่อยิ้มกลับให้นางพอเป็นพิธี ก่อนที่ขันทีจะพาสาวงาม ตัวเต็งคนสุดท้ายเข้ามา

คนที่สี่ คือ คุณหนูซูโหย่ว บุตรีของเสนาบดีซูเคอะซ่าฮา นางมาในชุดสีฟ้าอ่อน ในบรรดาสาวงามทั้งสี่ ความงามของคุณหนูซูโหย่วดูจะเรียบๆ กว่าคนอื่น แววตาของนางไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยม ดูเจียมเนื้อเจียมตัว ท่าทางธรรมดาๆ ของนาง ทำให้คังซื่อรู้สึกนึกถึงเสี่ยเยี่ยเป็นอย่างมาก หลังจากขันทีแนะนำตัวแล้ว ซูโหย่วก็ยิ้มให้ฮ่องเต้บางๆ คังซื่อกำลังเหม่อ นึกถึงรอยยิ้มของเส่เยี่ย จึงเผลอยิ้มกว้างให้คุณหนูซูโหย่ว ทำเอาหญิงสาวดีใจจนหน้าแดง เทียนเจียวซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เห็นเช่นนั้น ก็ใช้หางตามองซูโหย่วด้วยความไม่พอใจ

ทั้งหมดนี้คือบรรดาสาวงามตัวเต็ง ที่มีความงดงามและฐานะ เหมาะจะเป็นฮองเฮา แต่จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะชนะใจฮ่องเต้ ส่วนที่เหลือถ้าโชคดีก็จะได้เป็นเจ้าจอม หากโชคร้ายก็อาจได้เป็นเพียงพระสนม

คังซื่อพิจารณาสาวงามทั้งสี่ จากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้ายอยู่หลายครั้ง สาวงามทุกคนล้วนหน้าตาสะสวยไม่แพ้กัน ยากที่จะตัดสินใจ เสมือนหนึ่งดอกไม้ในพระตำหนักที่มีอยู่มากมายละลานตา แต่ละดอกล้วนสวยงาม มีกลิ่นหอม หากแต่ในใจคังซื่อตอนนี้ไม่ได้ต้องการดอกไม้ราคาแพงเหล่านั้น เขาต้องการเพียงดอกไม้ป่าธรรมดาเพียงดอกเดียวเท่านั้น

หลังจากพิจารณาหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่ง ฮ่องเต้ก็กลับมานั่งที่บัลลังก์ เขาถอนหายใจยาว ก่อนจะตัดสินใจยกป้ายชื่ออันหนึ่งขึ้นมาจากโต๊ะ ไทเฮา นางกำนัล และขันทีต่างพากันชะเง้อชะแง้งตามด้วยความตื่นเต้น จากนั้นขันทีส่วนพระองค์ก็ประกาศชื่อของหญิงสาวผู้โชคดี
"ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้คุณหนู..."

โปรดติดตามตอนต่อไป...

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑






Create Date : 30 มกราคม 2552
Last Update : 19 มีนาคม 2560 2:15:57 น. 41 comments
Counter : 1534 Pageviews.

 
ตอนนี้สั้นได้อีกนะเนี่ย


โดย: realtomtam วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:21:18:06 น.  

 
ที่หนึ่งงงงง ก่อนอื่นขอบคุณผู้กินกับต๋อมแต๋มนะคะที่ เข็นตอนที่ 21 มาให้แก้เหงาในช่วงวันหยุดนี้ค่ะ แม้จะสั้นแต่ก็ใช้เวลาในการอ่านนานเหมือนกัน เพราะอ่านไปด้วยจิ้นตามไปด้วย

ตอนนี้รู้สึกสงสารและก็เห็นใจฮ่องเต้คังซื่อมากค่ะ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ต้องทำเพื่อแผ่นดิน เพื่อหน้าที่ อยากได้อะไรก็ไม่ได้ดังใจนึก

ส่วนแม่นางอ้าวเทียนเจียว ก็ร้ายซะ หวาดเจี๋ยวแทนเส่เยี่ยมากค่ะ
แอบหมั่นไส้เส่เยี่ยตอนใจวอกแวกไม่มีสมาธินิดหน่อย (ก็กองเชียร์ลุงชีนิก๊ะ) ตัวอยู่ที่ ใจไปอยู่ที่คังซื่อ ก็หวังว่าเส่เยี่ยจะรักษาดวงตาหาย พบประสบพักตร์อันงามเลิศของคังซื่อ แล้วตกหลุมยิ่งกว่าเดิม หุหุ

แล้วก็กำลังลุ้นตำแหน่งฮองเฮาอยู่เลยค่ะ ผู้กินกับมาจบตอนนี้ซะด้าย ซิกๆ
หวังว่าชื่อที่คังซื่อเลือกขึ้นมาจะเป็น สั่วฟางเอ๋อ นะคะ เพราะท่าทางเป็นผู้ใหญ่ สุขุม เยือกเย็น มีน้ำใจ จิตใจดี เหมาะที่จะเป็นยาใจของฮ่องเต้มากมายค่ะ


โดย: หลินอี้ วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:9:20:18 น.  

 
วี๊ดว๊าย . . ที่ช่วงนี้แต๋มอัพฟิคต่อเนื่องมากๆ
ถูกใจเป็นที่สุดค่ะ ลุ้นระทึกว่าฮ่องเต้จะเลือกใคร
ขอเชียร์สั่วฟางเอ๋อ เพราะว่าเหมาะสมกับตำแหน่งฮองเฮา
ทั้งหน้าตา ฐานะ บุคลิก และสติปัญญา

ตอนที่คัดรูปนะ ได้ไปเปิดูฮ่องเต้บัลลังก์เลือด ช่วงประกวดโคมไฟ
ก็ยิ่งชอบแม่นางฟางเอ๋อ แล้วก็ขำแม่นางเทียนเจียวจริงๆ
คือจริงๆ ตัวละครตัวนี้ร้ายนะ แต่ว่าไม่รู้สึกว่าเกลียดเลย ออกจะขำๆ
ยิ่งเวลาที่แม่นางส่งสายตาปิ๊งๆ ให้ฮ่องเต้ ดูเป็นสาวที่ถูกสปอยแต่น่ารักมากๆ

อ่านตอนนี้ก็ให้รู้สึกสงสารฮ่องเต้ แต่ว่าพอรู้ว่าจะมีฮองเฮาคอยปลอบใจ
ก็สบายใจขึ้นระดับนึงค่ะ อย่างน้อยฮ่องเต้ก็คงไม่เศร้านานเป็นแน่
เพราะงั้นก็เลยเริ่มเอนเอียงไปเข้าข้างท่านลุงชีอีกแล้ว

55 แต๋มทำให้แฟนคลับเส่เยี่ยเป็นพวกตัดไม่ได้ทิ้งไม่ลงจริงๆ
คนนี้ก็รัก คนนั้นก็ผูกพัน โอ้ . . คิดไม่ตก


โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:32:22 น.  

 
ณ สวนหลังจวนอ๋องถูจิ้น



โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:33:49 น.  

 


โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:34:26 น.  

 


โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:36:50 น.  

 


โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:37:16 น.  

 


โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:38:31 น.  

 


โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:39:11 น.  

 


โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:39:42 น.  

 


โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:40:52 น.  

 
ณ ท้องพระโรง

ตอนที่ได้ยินเพลงที่แต๋มเลือกมาครั้งแรก รู้สึกว่าเหมาะกับฉากนี้มากๆ ค่ะ
แล้วก็นึกถึงตอนอาเส่ประกวดมิสฮ่องกง ที่พี่ชายจางมาเป็นแขกรับเชิญ
ทำให้รีบแคปภาพจากคลิปนั้น ทำภาพไปแล้วด้วย คัดพวกนางงามเนี่ยแหล่ะ
แต่พอกำลังจะแปะ ก็นึกได้ว่า . . เฮ้ย ในฮ่องเต้บัลลังก์เลือดก็มีฉากเลือกฮองเฮานี่หน่า
เลยตัดสินใจแคปภาพตัวจริงเสียงจริงดีกว่า จะได้เข้ากับบรรยากาศ





โดย: O-yohyo วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:18:42:04 น.  

 
พี่หลินมลอ่านตอนนี้แล้วยิ่งหลงรักฮ่องเต้มากขึ้นอีกอ่ะ

ประโยตนี้ของฮ่องเต้ ได้ใจมลไปเต็มๆ เลยคะ

"เขายอมแลกความสุขทุกอย่างของตน เพียงเพื่อได้เห็นรอยยิ้มนั้นของนาง"

ทำยังไงดีถ้าตอนจบเส่เยี่ยเลือกลุงชีนี่มลต้องเศร้าแน่ๆ เลย


พี่โหยว เส่เยี่ยคงมีสโลแกนเหมือนน้องเอยแห่งใจร้าวมั้งค่ะ

"ลุงชีคือชีวิตแต่ฮ่องเต้คือลมหายใจ"

เลยตัดไม่ได้ ทิ้งไม่ลงสักที จะรักลุงชีก้อเสียดายฮ่องเต้ :D

ปล.ตอนที่พี่แต๋มเปิดตัวผู้เข้าชิงตำแหน่งฮองเฮาคนที่สี่นี่มลแอบจิ้นเป็นพี่โหยวหละ



โดย: Cipher IP: 58.8.133.87 วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:21:21:16 น.  

 
เห็นภาพปลากรอบของ o-yo แล้วชอบจังค่ะ ได้บรรยากาศงานพิธีเลือกฮองเฮามาก ทำให้จิ้นหน้าตาของตัวละครได้หลายตัวเลยล่ะ ตะแรกก็จิ้นหน้าแม่นางซูโหยวอย่างน้องมลเลยค่ะ คือคิดถึง o-yo (เพิ่งไปโม้ที่บ้านน้องมา มาเห็นเม้นต์ของมล แสดงว่าเราจิ้นออกมาเหมือนกันเลยอ่ะ)

ส่วนแม่นางอ้าวเทียนเจียว จิ้นเป็นหน้าผู้กินกับแต๋มเทียนเจียวเรียบโร้ย

จริงด้วยค่ะ เพลงที่แต๋มใช้ประกอบตอนนี้ เป็นเพลงเดียวกับที่พี่ชายร้องในงานประกวดมิสฮ่องกงตอนยลโฉมเลือกฮองเฮาของฮ่องเต้ โอ้วววว นี่ถ้า o-yo ไม่ทัก หลินกุก็จำไม่ได้อีกแระ เซ็งตัวเองจริงๆเลยอ่ะ แสดงว่าแต๋มก็จำคลิปตัวนี้ได้ ก็เลยใช้เพลงนี้ในตอนเลือกคู่ใช่มั้ยเอ่ย

น้องมล ประโยคนี้ "ลุงชีคือชีวิตแต่ฮ่องเต้คือลมหายใจ" พี่ไม่อยากให้เส่เยี่ยใช้คำนี้เลยค่ะ เพราะเหมือนเส่เยี่ยหลายใจเลยง่ะ โอ้ ไม่นะ คนที่เส่เยี่ยรักต้องมีคนเดียวเท่านั้น แล้วเลือกแทนกันไม่ได้ด้วย ฝากผู้กินกับเลยค่ะ ว่าถ้าจะให้เส่เยี่ยเลือกใคร ก็ขอให้รักคนนั้นคนเดียวนะคะ ถ้าเลือกฮ่องเต้ก็ต้องตัดลุงชี ถ้ารักลุงชีก็ต้องไม่รักฮ่องเต้ด้วยยยย


โดย: หลินอี้ วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:22:07:40 น.  

 
ม่ายเคยเห็นหน้าเจ้าจอมแต๋มเทียนเจียว เลยจิ้นไม่ออก เลยต้องใส่หน้าอ้าวเทียนเจียวไปก่อนคะ

พี่หลินที่เราจิ้นหน้าแม่นางซูโหยวเหมือนกันได้ คงเพราะคำบรรยายของผู้กินกับชิแต๋มมั้งคะ


พี่หลิน ตอนนี้ให้เส่เยี่ยรักพี่เสียดายน้องไปก่อนนะคะ เพราะถ้าเส่เยี่ยเลือกลุงชีเมื่อไหร่ มลก้อคงเริ่มเศร้าแล้วล่ะค่ะ ก้อมลรัก&เชียร์ฮ่องเต้นี่นา ^^


โดย: Cipher IP: 58.8.133.87 วันที่: 31 มกราคม 2552 เวลา:22:27:11 น.  

 
เจ๊ย . . เขินนะเนี่ย ให้เป็นซูโหย่วเชียวเหรอคะ

55 ตัวเองน่ะไม่ได้นึกหรอก เพราะว่าออกเสียงไม่เหมือนกันไง แถมตอนที่อ่านก็มัวแต่ตะลึงในความร้ายกาจของเทียนเจียว นึกถึงแต๋มขึ้นมาทันที ว่ากำลังวางแผนจะกลั่นแกล้งอะไรอาเส่รึเปล่าน้อ


มลกับหลินกุเป็นกองเชียร์คนละฝั่งเลยนะเนี่ย สำหรับ o-yo ไม่ว่าเส่เยี่ยจะรักใครก็ได้ค่ะ แต่อย่างที่หลินกุบอก ขอให้รักแค่คนเดียวเท่านั้น ไม่ชอบคอนเซปต์น้องเอยเท่าไหร่ จริงๆ ตัวเองก็เลือกไม่ได้ล่ะนะ แต่ว่าอยากให้เส่เยี่ยชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเอง คนเราลังเลได้ แต่ว่าเมื่อถึงเวลาอย่าได้มัวอมพะนำ เอาให้เด็ดขาดไปเลยดีที่สุด


โดย: O-yohyo วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:48:50 น.  

 
น้องมล แม้ฮ่องเต้จะผิดหวัง แต่ก็จะมีฮองเฮาที่ทั้งสวย ฉลาด เป็นผู้ใหญ่ คอยดูแลทั้งกายใจของฮ่องเต้แล้วนะคะ ส่วนลุงชี ถ้าอกหัก แม่นางหลินกุก็ไปดูแลลุงชีไม่ได้ เพราะติดพี่จั๋วอยู่ คิๆ เนี่ยค่ะ ลุงชีจะชีช้ำแค่ไหน คิดดู๊~~~ เพราะงั้นน้องมลอย่าเศร้าเลยค่ะ ฮ่องเต้อาจช้ำในไปพักนึง แต่ก็จะดีขึ้นเองล่ะ

ถูกต้องค่ะ o-yo จะเลือกใครก็สุดแล้วแต่เส่เยี่ย แต่ขออย่างเดียว ให้รักเดียวใจเดียว ไม่เผื่อใจให้ใครอื่นอีก ต้องเด็ดขาดเลยค่ะ


โดย: หลินอี้ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:47:15 น.  

 
บางครั้งต่อให้มีเป็นร้อยเป็นพันตรงหน้า แต่ก็ต้องการเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นไงคะพี่หลิน ถึงจะมีสนมมากมายแค่ไหน แต่คังซื่อต้องการแค่เส่เยี่ยนี่นา

ส่วนทั่นหัวหน้าใหญ่เนี่ย มลเข้าใจว่าแม่นางหลินกุไม่ว่าง แต่ยังมีอ้อมหมิงเจิ้นอีกทั้งคนน๊า

แต่ไม่ว่าตอนจบจะเป็นยังไง ก้อแล้วแต่ทั่นผู้กินกับชิแต๋มคะ


พี่โหยว เหมาะกับบทซูโหย่วนะมลว่า อ่านจากที่พี่แต๋มบรรยายแล้วมลก้อคิดว่าเป็นพี่โหยวเลยล่ะ ขอยืมหน้าพี่โหยว+ลักษณะนิสัยมาเป็นต้นแบบในการจิ้นซูโหย่วของมลนะคะ ^.^


โดย: Cipher IP: 58.8.141.46 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:53:26 น.  

 
จริงๆ อยากรับบทลูกสาวหรือน้องสาวมากกว่าค่ะ เพราะว่าจะได้ออดอ้อนคุณแม่คนสวยกับคุณพ่อสุดหล่อได้เต็มที่ ถ้าเป็นซูโหย่ว เชื่อว่าคงยากจะได้ใกล้ชิดคังซื่อ ก็เจ้าจอมแต๋มเทียนเจียวส่งรัศมีหึงพิฆาตมาแต่ไกล ไม่ปลอดภัยต่อสวัสดิภาพเท่าไหร่ เป็นลูกสาว/น้องสาวเนี่ยแหล่ะ จะออดจะอ้อนก็สบายแฮ . .

จุ๊จุ๊ไว้นะ อย่าให้ผู้กำกับได้ยิน เดี๋ยวรู้ความในใจหมด


โดย: O-yohyo วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:07:29 น.  

 
โอเคงั้นไว้มีบทลูกสาวหรือน้องสาวเพิ่มขึ้นมาแล้วมลจะจิ้นเป็นหน้าพี่โหยว แต่ตอนนี้ยังขอยืมใช้หน้าไปก่อนนะคะ อิอิ

ปล.สัญญาเดี๋ยวเกียรติของลูกเสือสำรองเลยคะ ว่าจะไม่บอกผู้กินกับชิแต๋ม


โดย: Cipher IP: 58.8.141.46 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:17:19 น.  

 
มาสุดท้าย ท้ายที่สุด เพราะมัวโดนพี่ม้าดีดไปเมื่อคืนวันศุกร์ แล้วก็มัวจับพี่ถังไปทำโทษเลยมาหาฮ่องเต้น้อยช้าไปหน่อย สาวงามทั้งสี่ต่างมีข้อเด่นข้อด้อยต่างกัน ดูท่าแม่นางเทียนเจียวคนนี้เธอจะร้ายเพื่อมารังแกเส่เยี่ยโดยเฉพาะรึเปล่าเนี่ย น่ากลัวๆ โชคดีที่มีฮองเฮาที่แสนดี ไม่งั้นเส่เยี่ยเสร็จแน่ แต่ยังไงๆถึงจะเชียร์ฮ่องเต้น้อยอยู่บ้างแต่ก็อยากให้เส่เยี่ยเลือกท่านลุงชีค่ะ ดูดิท่านลุงเป็นห่วงเส่เยี่ยขนาดไหน ป่านนี้แก้มยุบไปเยอะแล้ว หวังว่าหลังจากตาหายดี ยายายจะได้ดีใจ รีบไปหาท่านลุงนะคะ อิอิ


โดย: ทับทิม IP: 125.26.38.200 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:31:49 น.  

 
หลินกุตกลงเห็นด้วยหรือไม่ ที่เส่เยี่ยจะมองเห็นเนี่ย

รู้สึกจะมีคนเชียร์แต่คุณหนูเจี๊ยบฟางเอ๋อนะคะ แต๋มเจียวน้อยใจแล้ว ฮือๆ ซิกๆ

ขอบคุณโย่ที่ CAP ภาพสาวงามมาให้นะคะ ภาพเส่เยี่ยระลึกความหลังทำเจ๋งดีค่ะ เห็นด้วยที่ว่าเทียนเจียวใน TCE ตลกมากกว่าน่าหมั่นไส้ แต่ไม่ชอบตอนที่ชีไปนอนกับอ๋องอี้อ่ะ เคือง

ใช่แล้ว แต๋มตั้งใจใช้เพลงนี้สำหรับตอนคัดเลือกฮองเฮาโดยเฉพาะ วางแผนไว้แต่แรกเลย อยากเห็นภาพสาวงามจากเวที Miss HK จัง ไหนๆ ก็ทำแล้ว ช่วยแปะให้ดูหน่อยนะคะ

เรื่องที่เส่เยี่ยกำลังสับสนเนี่ย ผกกเข้าใจเป็นอยากดีค่ะ นึกถึงตอนที่ตัวเองบ้าเล็กเซียวหงส์จัดๆ แต่ก็ยังรักพี่ก๊วยเจ๋งอยู่ ไม่รู้จะเลือกใคร อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคน สุดท้ายเลยโดนถีบตกมาทั้งสองสะพาน กรรรรม


โดย: realtomtam วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:43:14 น.  

 
น้องมลถ้าสามารถชักจูงคนดูที่เหลือมาเข้าข้างเราได้ ไม่แน่ว่าเส่เยี่ยอาจจะเลือกฮ่องเต้ก็ได้นะคะ

เส่เยี่ยจะเลือกใครระหว่าง คนที่ "นางรัก" กับคนที่ "รักนาง"

โอวเพิ่งเห็นทับทิม ขอบคุณมากค่ะที่ตามมาอ่าน กองเชียร์ลุงชีเยอะจริงๆ

เฉลยภาพจากตอนที่แล้ว
1. ซ้ายบน ความจริงคือองค์หญิงปิงเยี่ย ในภาพเธอดูสดใสไปหน่อย หารูปตอนเจ้าสาวหน้าบึ้งไม่ได้อ่ะ เลยเดากันผิด
2. ขวาบน แน่นอนค่ะ รอยยิ้ม+เศร้าๆ แบบนี้ นางเอกของเรา ซุนเส่เยี่ย
3. ซ้ายล่าง สวย ฉลาด นิสัยดี กิริยางดงาม คุณหนูเจี๊ยบฟางเอ๋อค่ะ
4. ขวาล่าง ขาว สวย หมวย เอ๊กซ์ แต่นิสัยไม่ดีเหมือนบิดา อ๋าวเทียนเจียวค่ะ





โดย: realtomtam วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:58:15 น.  

 
จากภาพที่โย่แปะ
1. ซ้ายล่าง คุณหนูเยี่ยปี้เสีย นิสัยไม่ค่อยดีเหมือนกันค่ะ แต่เดี๋ยวจะเข้าพวกกับอ๋าวเทียนเจียว แกล้งเส่เยี่ยเยอะๆ เลย
2. ขวาล่าง คุณหนูซูโหย่ว ทีแรกจะให้ชื่อว่า ซูซู ฮ่าๆๆๆ แต่ว่าจิ้นไม่ออก ก็เลยนึกถึงคนในบ้าน ซูโหย่วจะเข้าแก้งกับเจี๊ยบฟางเอ๋อ นางมีลักษณะคล้ายๆ เส่เยี่ยค่ะ ฮ่องเต้เลยเอ็นดู แต่ว่าคงไม่รัก เพราะคังซื่อรักเส่เยี่ยคนเดียวเท่านั้น



โดย: realtomtam วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:19:35 น.  

 
คราวที่แล้วมีแต่คนบอกว่าภาพวาดการ์ตูนขององครักษ์จั๋วไม่ค่อยเหมือน ไม่หล่อเท่าจื้อหลิน อี้แต๋ม (เริ่มมั่วชื่อ 555) ก็เลยคัดบรรดาชายงามมาให้แม่นางหลินเลือกใหม่ค่ะ



โดย: realtomtam วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:34:21 น.  

 
มีทั้งหมด 12 นาย หวังว่าแม่นางหลิร คงถูกใจสักคนนะคะ



โดย: realtomtam วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:35:41 น.  

 
อ๋องอี้เป็นใคร มาจากไหนคะ (รู้ว่าไม่เกี่ยวกับฟิคแต่อยากรู้) เพราะได้ยินชื่อนี้ทีไรสะดุ้งทุกทีเลย เพราะถ้าพฤติกรรมไม่ดีจะถูกจับไปขังเดี่ยวคะ (ไม่ได้เกี่ยวกันเลย)

ป.ล. อาจจะทำให้งง อ๋องอี้ก็พี่อี้ในลำน้ำจันทร์นั่นละคะ แต่ที่ทับทิมสะดุ้งทุกที เพราะพี่อี้ดันไปโผล่อีกเรื่องของคนอื่น แถมแก่อีกด้วย หยดหยอง กำลังอินๆอยู่ เหมือนตกจากสวรรค์เลยคะ

แต๋มบอกว่าฮ่องเต้เอ็นดูฮองเฮาฟางเอ๋อก็ดีใจนิดๆละคะ แต่ก็น่าสงสารตรงที่เธอคงไม่ได้ความรักจากฮ่องเต้นี่สิ ก็หัวใจของฮ่องเต้มีแต่เส่เยี่ยเท่านั้น ตัวอยู่กับเรา แต่ใจไปอยู่กับคนอื่น อยู่ใกล้หากแต่เหมือนอยู่ไกลเกินเอื้อม น่าสงสาร ชีวิตรันทด


โดย: ทับทิม IP: 125.26.38.200 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:36:56 น.  

 
แม่นางหลินยังไม่มา แม่นางทับทิมขอคัดไว้ให้ก่อนได้ป่ะคะ

ที่น่าจะเข้าตาก็หมายเลข 2 , 4 , 5 , 9 และ 10 คะ นอกนั้นดูเจ้าสำอางไปหน่อยคะ



โดย: ทับทิม IP: 125.26.38.200 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:39:39 น.  

 
แหมแค่ได้ยินชื่ออ๋องอี้แม่นางเทียนอวี้ถึงกับสะดุ้ง อ๋องอี้ในเรื่องฮ่องเต้บัลลังก์เลือดเป็นเชษฐาของฮ่องเต้ค่ะ สมัยนั้นห้ามเชื้อพระวงศ์ข้องเกี่ยวกับงานราชกิจ คังซีสงสารพี่ก็เลยให้คุมตำหนักหลวงแทน คือดูแลเรื่องเล็กใหญ่ในวังหลวง ไปๆ มาๆ ดันไปหลงกล เสียกายให้กับเจ้าจอมหลาน (เทียนเจียว) แล้วก็สนิทกับอ๋าวป้าย จนอ๋าวป้ายคิดจะหนุนให้อ๋องอี้ขึ้นเป็นฮ่องเต้แทนคังซี แต่อ๋าวป้ายโดนจับเสียก่อนค่ะ อ๋องอี้คนนี้จริงๆ ไม่ได้นิสัยไม่ดีหรอกค่ะ แต่ว่าโดนคนชักจูงง่าย หน้าตาก็หล่อพอใช้ค่ะ


โดย: realtomtam วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:10:32 น.  

 
อ๋อ...เป็นเช่นนี้นี่เอง งั้นไม่จับไปขังเดี่ยวเหมือนพี่ถังก็ได้คะ แถมไปพลาดท่าเสียทีเจ้าจอมหลานไปแล้วด้วย ไม่สนๆ ขอบคุณแม่นางอี้แต๋มที่มาช่วยเฉลยนะค่ะ


โดย: ทับทิม IP: 125.26.38.200 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:17:44 น.  

 
มาแล้วค่ะ เห็นกองเชียร์ทั่นลุงชีเพิ่มมาอีก 1 ก็สุดแสนจะดีใจล่ะนะ 555 ทับทิม ลุงชีน่าสงสารเหมือนกันเนอะ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ โถ...

น้องมล ถูกต้องแล้วค่ะ o-yo เหมาะกับบทแม่นางซูโหยวมากมาย จะจิ้นหน้า o-yo เนี่ยแหล่ะ หุหุ


สำหรับประกวดชายงามพี่จั๋วด้านบน แม่นางหลินพิจารณาหลายรอบ มีความเห็นดังนี้ค่ะ
ภาพชุดแรก
1.ดูลึกลับเกินไป
2. หล่อใสน่าเจี๊ยะ ไม่ใช่ๆ
3. ดูหวานดังผู้หญิงไปหน่อย
4.ดูโหดไปติ๊ดดด
5. ดูมีพลังและอำนาจ
6. ออกจะหวานแหว๋วไปอีกแระ


โดย: หลินอี้ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:24:26 น.  

 
ภาพชุดที่ 2

7. โอ๊ะ นี่มันท่านจ้าวโดเรียส พระเอกการ์ตูนสุดโปรดของหลินกุเลยอ่ะ ในเรื่อง ฝากฝันสู่กาลนิรันดร์ค่ะ โดเรียล + ชิบะ ย่อมไม่ใช่พี่จั๋ว คิๆ

8. หนุ่มคนนี้ดูติสยียวนเกินไป ม่ายช่าย
9. โอ้..หล่อเข้ม ขรึม เท่ห์ ถูกใจๆ
10. อันนี้หล่อ+น่าเอ็นดู
11. อันนี้เด็กเกินไปค่ะ ไม่ชอบเด็ก
12. ภาพนี้คล้ายภาพที่ 7 ไม่ใช่ค่ะ

เพราะงั้นสรุปเลือกหนุ่มเบอร์ 9 คือพี่จั๋วค่ะ หล่อเลิศ ดูขี้งอน ชวนให้ง้อ ปิ๊ดดดปิ้วววว


โดย: หลินอี้ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:27:48 น.  

 
ตอนหน้าขอบทพี่จั๋วบ้างนะคะผู้กินกับแต๋มเทียนเจียว คิ๊ดถึงงงอ่ะค่ะ





โดย: หลินอี้ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:31:36 น.  

 
โอวแม่นางหลินมาเลือกแล้ว ทีแรกแต๋มก็สนใจหมายเลข 9 อยู่เหมือนกัน มีส่วนคล้ายพี่จั๋ว ทรงผมก็พอได้ แต่หน้าแอบดุไปหน่อย อยากให้พี่จั๋วแบบว่าดูใจดีๆ (มองดีๆ บางมุมแอบคล้ายภราดร นะ ฮ่าๆๆ)

ตอนนี้ผู้กินกับคิดถึงลุงชีไงคะ เลยต้องรีบ fwd ให้จบเรื่องในวังเร็วๆ บทองครักษ์ก็เลยโดนตัดออกไป แล้วหลินกุจะเอายังไง ระหว่างให้เส่เยี่ยอยู่ในวังนานๆ กับลุงชีมาช่วยเร็วๆ (แต่ต้องแลกกับการอดหวีตกับพี่จั๋วนะ)


โดย: realtomtam วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:03:12 น.  

 
มาเลือกชายในดวงใจ(คนอื่น)ด้วยคนค่ะ

โหวตให้เบอร์ 4 กับ 9 คะ
หนูเห็นเค้าหล่อดีหนูก้อเลยเลือกเค้าค่ะ

ผู้กินกับไม่ต้องห่วงมลนะคะ ถึงชักชวนใครมาเป็นพวกไม่ได้ มลก้อจะมั่นคงรักในคังซื่อตลอดไป (กรี๊ดดดดดด ได้มีโอกาสสารภาพรักสักที )


โดย: Cipher IP: 58.8.149.83 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:27:18 น.  

 
กรี๊ดดดด (ตอบน้องมล) มลน่าจะเกิดเร็วกว่านี้สักติ๊ดนึงนะคะ (สักสองสามร้อยปี ฮ่าๆๆ) พี่จะจัดให้มลเป็นฮองเฮาได้เคียงข้างคังซื่อเลย

ดูเหมือนพี่จั๋วหมายเลขเก้าชนะขาดลอย


โดย: realtomtam วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:48:03 น.  

 
เกิดเร็วสักสองสามร้อยปีมันนานไปหน่อย มลขอแค่เกิดเร็วกว่านี้สักสามสิบห้าปีก้อพอคะ แล้วก้อไปประกวดนางงามแถวๆ ฮ่องกงนี่ท่าจะดี อาจจะมีบุญได้ฝาละมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับคังซื่อก้อเป็นไปนะคะ หุหุ :D


โดย: Cipher IP: 58.8.149.83 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:02:36 น.  

 
น้องมล หากย้อนเวลาได้ พี่อยากเกิดปี 1990 เป็นมิสฮ่องกงไปเลยค่ะ ไม่ต้องประกวด พอจากนั้นก็จะมีสามีหน้าตาเหมือนลุงชี + คังซื่อ + พี่จั๋ว โอ้ยยย แค่คิดก็สติกระเจิง

มานั่งนับนิ้วรอตอน 22 กันดีกว่าเนอะน้องมลเนอะ หยุดอาทิตย์หน้า 3 วัน ผู้กินกับแต๋มเทียนเจียวคงใจดีบ้างล่ะน้า


โดย: หลินอี้ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:41:34 น.  

 
แวะมาเลือกพี่จั๋วให้แม่นางหลินค่ะ

ที่เข้าตาก็มีเบอร์ 2 4 9 10

เบอร์ 2 . . มองไปมองมาถือแส้ด้วยแฮะ เกรงว่าแม่นางหลินอาจไม่ปลอดภัย ไม่เอาดีกว่า

เบอร์ 4 . . ดูแล้ว "เกย์ เริ่ด เชิด หยิ่ง" ได้ใจมากๆ ขอเก็บไว้ส่วนตัวละกัน


เหลือเบอร์ 9 กับ 10 ชิงกัน เมื่อดูๆ แล้วเบอร์ 10 ค่อนข้างหวานไปหน่อย เลยตัดสินใจยกแม่นางหลินให้กับพี่จั๋วเบอร์ 9 ค่ะ


ปล. เรายังไม่รู้ว่าเส่เยี่ยมีใจให้คังซื่อแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ แม่นางมลเยี่ย ตกหลุมเสน่ห์คังซื่อจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วแฮะ


โดย: O-yohyo วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:48:37 น.  

 
อ้อ . . ภาพจากมิสฮ่องกง โละทิ้งไปตั้งแต่วันเสาร์แล้วค่ะ คงแปะให้ไม่ได้แล้วล่ะ


โดย: O-yohyo วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:52:30 น.  

 
พี่โหยว แม่นางมลเยี่ยตกหลุมเสน่ห์ไม่พอนะ

ยังแถมหูหนวกตาบอด หาทางขึ้นจากหลุมไม่ได้อีกต่างหากเนี่ย :D



พี่หลิน มลก้อลุ้นให้เจ้าจอมแต๋มมีเวลาพาคังซื่อมาเจอมลในวันหยุดนี้เหมือนกันคะ


โดย: Cipher IP: 58.8.138.129 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:08:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

realtomtam
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add realtomtam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.