6 อย่าของทักษิณ

บัญญัติ “ 6 อย่า” – ทางรอดทางเลือกทักษิณ..

โดย สำราญ รอดเพชร 5 กรกฎาคม 2548 19:14 น.


samr_rod@hotmail.com

คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อฟังเสียงบทความนี้โดยเจ้าของคอลัมน์

คงเพราะว่า..บทความหรือข้อคิดความเห็นที่ส่งมาให้ผมพิจารณานำเสนอตีพิมพ์ มีหลายจุดที่ “ตรงใจ” ผมมากนั่นแหละ “หน้ากระดานเรียงห้า” ฉบับนี้ ผมเลยไม่ลังเลที่จะยกเนื้อที่ส่วนใหญ่ให้แก่ข้อเขียน “ 6 อย่า – เพื่อความอยู่รอดของ(รัฐบาล)ทักษิณ” ของคุณ “ดำรงชัย” ซึ่งเป็นนามปากกาของนักการเมืองอาวุโสท่านหนึ่ง ที่ไม่พร้อมจะเปิดเผยชื่อจริง แต่ยืนยันว่ามีความรักและปรารถนาดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้จริงๆ จึงกล้าที่จะเสนอข้อคิดความเห็นที่ตรงไปตรงมา...เชิญอ่านพร้อมกันครับ..

0 0 0 0 0 0 0

โดยรวมแล้วผมชอบท่านนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่สร้างมิติใหม่ให้กับการบริหารจัดการประเทศไทยในหลายๆ ด้าน แม้ในขณะนี้ท่านนายกฯทักษิณและรัฐบาลจะเผชิญปัญหาหนักหน่วงมากมาย บางคนบอกว่าออกอาการน่าเป็นห่วงไม่น้อย แต่สำหรับผมลึกๆ แล้วยังเชียร์และมั่นใจไม่น้อยว่าท่านจะอยู่ครบเทอม 4 ปีสร้าง และในที่สุดไทยรักไทยจะชนะเลือกตั้งในปี 2552 อีกครั้ง...

แต่ผมมีเงื่อนไขว่า..จะอยู่ครบ 4 ปีสร้าง จะชนะ เลือกตั้งใหญ่อีกครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณและรัฐบาลต้องปฏิบัติการ “6 อย่า” ที่ผมขอเสนอดังนี้

1.อย่าทุจริตคอรัปชั่น - จะมากน้อยแค่ไหนก็อีกเรื่อง แต่ตอนนี้รัฐบาลดูจะย่ำแย่เพราะภาพลักษณ์คอรัปชั่นกำลังระบาดไปในวงกว้าง กรณีCTX 9000 เป็นกรณีชูโรง.. ท่านนายกฯทักษิณต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้เสียก่อน ก่อนที่จะไปจัดการหรือสร้างระบบป้องกันที่อื่น ถ้าใจถึง (ซึ่งน่าจะดี) ต้องตั้งกรรมการเป็นกลางชุดใหม่มาสะสางเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นจะถูกครหาตลอดไป ไปจัดการตรงอื่นก็อาจเหนื่อยแรงเปล่า !

2. อย่าแค่ชินวัตรเอื้ออาทร – การที่ครอบครัวนายกฯ ทำธุรกิจขนาดใหญ่หลายอย่างก็หนักหนาเหลือเกินแล้ว ผู้คนมีคำถามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนพอแล้ว แต่ตรงนี้ก็ว่ากันไป..คำว่ามืออาชีพหรือวิชาชีพพอจะช่วยทำให้บรรเทาเบาบางไปได้บ้าง แต่ประการสำคัญที่สุดก็คือนายกฯต้อง “หยุด”คนที่อยู่ในวงศ์วานว่านเครือที่พยายามแผ่ขยายเครือข่ายในการทำธุรกิจ แม้จะไม่ผิดกฎหมายแต่ส่วนใหญ่จะถูกมองในทางลบ และทำลายภาพลักษณ์ของคนที่เป็นนายกฯ โดยใช่เหตุ

คำว่า นายใหญ่,นายหญิง,เจ๊.... ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดในวันอภิปรายคุณสุริยะ นั้นเป็นเรื่องใหญ่นะครับ อย่ามองข้าม..

3.อย่าการตลาดจ๋า – รัฐบาลกำลังประสบมรสุมเศรษฐกิจ ผมเชื่อว่ายังไม่เกินกำลังการรับมือของรัฐบาลแม้ว่าจะเกิดความปั่นป่วนพอประมาณ แต่สิ่งสำคัญที่สุดข้อหนึ่งก็คือรัฐบาลต้องพูดเรื่องจริงให้ประชาชนรับทราบมากกว่าการโอ้อวดแสดงความมั่นใจ(ล่วงหน้า)ไปทุกเรื่อง เพราะจะส่งผลเสียต่อเครดิต ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลและตัวท่านผู้นำอย่างรุนแรง อย่างกรณีน้ำมัน เป็นต้น

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ในการทำงานอย่าใช้วิชา “การตลาด”ให้มากจนเกินไป เพราะบางครั้งดูเวอร์ บางครั้งดูไม่จริงใจ บางครั้งดูฟุ่มเฟือย – ไร้สาระ ...น่าเสียดายถ้าจุดแข็งตรงนี้จะกลายเป็นจุดอ่อน

4. อย่าล้อเล่นกับปัญหาความมั่นคง - กรณีปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปะทุมาตั้งแต่ 4 ม.ค.47 กว่าท่านนายกฯทักษิณจะ “นิ่ง”ได้ ก็สูญเสียอะไรต่ออะไรไปมากแล้ว มองย้อนไปอีกทีน่าเสียดายที่ท่านนายกฯทักษิณมองปัญหาภาคใต้หยาบหรือประเมินสถานการณ์ต่ำมาก...ระยะหลังแม้จะไม่มีการอุ้มฆ่าและจับตัวคนร้ายได้ตรงตัวมากขึ้นก็จริง แต่รัฐบาลยังต้องใช้กรรมเก่ากรณีอุ้มฆ่า, กรณีตากใบ

ผมพยายามหาข้อมูลจากหลายฝ่ายแล้วอยากสรุปเสนอตรงนี้ว่า นอกเหนือจากต้องจริงจังกับปัญหาความมั่นคงแล้ว นายกฯ ยังต้องเลิกเอียงข้างตำรวจ หรือฟังข้อมูล –ข้อเสนอจากตำรวจมากเกินไป ต้องรำลึกเสมอว่าที่มาของคำว่า “โจรกระจอก” ก็เพราะฟังตำรวจมากไป...ขณะนี้อาจมีการเมืองมาผสมสูง ถึงจะจริงแต่ก็ใจเย็นอดทนที่จะพูด พูดแล้วต้องมีหลักฐานชัดเจน..เรื่องนี้พูดเล่น พูดเรื่อยเปื่อยไม่ได้

5. อย่าเพาะฟาร์มสร้างศัตรู – จริงอยู่ท่านนายกฯ มีบุคลิกเฉพาะตัว คิดอย่างไรพูดอย่างนั้นซึ่งหลายครั้งก็ดูจริงใจดี แต่หลายครั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น ประเด็นนี้จะแก้ได้ก็โดยที่นายกฯ ต้องเปลี่ยนทัศนคติ – วิธีคิด คือ ต้องอดทนให้มากกว่าเดิม อ่อนน้อมรับฟังความเห็นที่แตกต่างจากตัวเองให้มากที่สุด แม้ลึกๆ จะรู้สึกว่าความเห็นนั้นโง่ งี่เง่า ไปบ้างก็ตาม ต้องถือคติว่า “อ่อนน้อมถ่อมตนทำให้คนฉลาด เย่อหยิ่งทำให้คนล้าหลังหรือฉิบหาย”

และแน่นอนที่สุดในเรื่องนี้ นอกจากนายกฯต้องลดความเป็นคน “ปากไวไปทุกเรื่อง” แล้วยังต้องเลิกเล่นบทบาทของโฆษกพรรค บทบาทของคุณสุรนันท์ เวชชาชีวะ ที่จะต้องแลกหมัดกับฝ่ายค้านตามกาลโอกาสที่เหมาะสม

6.อย่าปล่อยให้”หลังบ้าน”ออฟไซด์ – ประเด็นนี้ก็ไม่ควรมองข้าม วันนี้คงต้องยอมรับความจริงกันว่าสังคมภายนอกเขาเริ่มส่ายหน้ากันมากขึ้น ผมเชื่อว่าลึกๆ แล้วสังคมไม่อยากเห็นหลังบ้านท่านนายกฯ มามีบทบาทในเรื่องการบริหารจัดการบ้านเมือง ถึงขนาดมานั่งประชุมที่บ้านพิษณุโลก หรือมีอิทธิพลในการจัดโผครม.เอาคนโน้นออกคนนี้เข้าจนเกิดอาการผิดฝาผิดตัวไปหลายหน เพราะนอกจากไม่ใช่หน้าที่แล้ว ยังเป็นการทำลายความสง่างามของท่านผู้นำอย่างรุนแรงอีกด้วย

ทำอย่างไรให้ “หลังบ้าน” อยู่กับบ้าน..หรืออย่างมากก็อยู่ที่พรรคคอยอำนวยความสะดวก เป็นกำลังใจให้กับการทำงานของฝ่ายการเมืองก็เพียงพอแล้ว

....จริง ๆ แล้ว ผมยังมีอีก 3 - 4 อย่าที่สำคัญๆ แต่หลักๆ แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะบอกกันตรงๆ ด้วยความรักและปรารถนาดีต่อท่านนายกฯ ซึ่งผมไม่เชื่อว่าบรรดาคนรอบข้างที่บอกว่ารักนายกฯ จะหาญกล้าเสนอกันกับความเห็นแบบนี้

ผมค่อนข้างมั่นใจมากๆ ว่าคนที่รู้สึกและคิดแบบผมหรือใกล้เคียง “6 อย่า” ที่ว่ามาน่าจะมีจำนวนมาก ถ้านายกฯได้อ่านข้อเขียนชิ้นนี้ก็ขอได้โปรดพิจารณาดู ผมขอยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ อยากให้นายกฯ อยู่บริหารประเทศต่อไปนานๆ

“ดำรงชัย”
0 0 0 0 0 0

ครับ ยืนยันว่าหลายอย่างผมเห็นด้วยกับคุณดำรงชัย และเชื่อโดยส่วนตัวว่ากระแสความรู้สึกนึกคิดแบบคุณดำรงชัยยังเป็นด้านหลักหรือกระแสหลัก คือยังชมชอบและให้โอกาสพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นการให้โอกาสแบบมีข้อแม้ในใจ ในขณะที่มีคนอีกไม่น้อยเหมือนกันเขาเลิกลุ้นเลิกหวังความเปลี่ยนแปลงกันแล้ว เพราะ “ลุ้น”ไม่ขึ้น...

ก็ไม่เป็นไร ลุ้นต่อไปนะครับคุณดำรงชัย...!?

Create Date : 07 กรกฎาคม 2548 Last Update : 7 กรกฎาคม 2548 4:31:47 น. Counter : 212 Pageviews.		5 comments
Share Tweet