<<
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
18 ตุลาคม 2557
 
 
อีป้าแก้ว..พาเที่ยวเมือง Blackpool ประเทศอังกฤษ

อีป้าแก้ว..พาเที่ยวเมือง Blackpool ประเทศอังกฤษ





เมืองแบล็คพูล(Blackpool) เมืองรถม้าซินเดอร์เรลล่าของฉัน

 “ที่รัก ฉันอยากไปเที่ยวเมืองแบล็คพูล” หลังจากที่ฉันมาอยู่ประเทศอังกฤษเข้าปีที่ 4 ฉันก็เอ่ยปากชวนสามีซึ่งป่วยมาได้2-3 ปีแล้ว และตอนนี้สุขภาพของสามีก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ เลยอยากหาเวลาไปพักผ่อนกันสองคนตายาย และสิ่งที่แว๊บเข้ามาในสมองของดิฉันก็คือทะเล



 ดิฉันอยู่เมืองฮัลเดอร์ฟิล(Huddersfield)ตอนเหนือของอังกฤษ ถ้าขับรถไปทะเลเมืองแบล็คพลู ประมาณ 70 ไมล์(113กิโลเมตร) ขับรถประมาณ ชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง  จากบ้านดิฉันไป ซึ่งไม่ไกลกันมาก สามีก็ตอบตกลง และเราก็กะเอาวันที่พยากรณ์อากาศว่าอากาศจะดี


แบล็คพูลจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมแค่ ช่วงเดือน มีนาคม จนถึงเดือน กันยายน  จากนั้นก็จะเข้าสู่หน้าหนาวนักท่องเที่ยวไม่ค่อยมี  ร้านรวงและเครื่องเล่นต่างๆก็จะหยุดและปิดตัวลงไปเพื่อปรับปรุงในช่วง 6 เดือนหลังคือช่วง ตุลาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์  จะมีเปิดแค่ไม่กี่ร้าน  แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถที่จะมาท่องเที่ยวได้ แต่จะมีร้านรวงเปิดไม่กี่ร้าน แต่โรงแรมก็ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

เมื่อถึงวันที่จะออกเดินทางดิฉันก็เตรียมอาหารกล่องขนมและน้ำตุนเอาไว้ก่อน พ่อสอนไว้ว่ากองทัพ
ต้องเดินด้วยท้องได้กินหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งแต่ต้องมีของกินเตรียมพร้อมไว้เสมอเมื่อเราต้องเดินทาง
 เมื่อมาถึงเมืองแบล็คพูล เราก็ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถซึ่งกว้างมากมีให้เลือกจอดแบบสบายใจเพราะเราไปถึงกันประมาณ 10 โมงเช้า ค่าจอดรถ 3 ชั่วโมง ค่าจอด 4.15 ปอนด์(เงินไทยประมาณ 229 บาท) และ 8 ชั่วโมงค่าจอดรถอยู่ที่ 9 ปอนด์ (ประมาณ 495 บาท)เราเลือกที่จะจ่ายราคา 9ปอนด์ เพราะไม่รู้จะกลับกันตอนไหน



ส่วนห้องน้ำสาธารณะก็มีไว้บริการให้นักท่องเที่ยวติดกับลานจอดรถเลย ซึ่งค่าบริการก็ไม่ได้แพง แค่ 20 เพ็นนี แต่ที่สำคัญคือคุณต้องมีเหรียญ 20 เพ็นนี เอาไว้หยอดก่อนเข้าห้องน้ำ เพราะถ้าไม่หยอดเหรียญก่อนประตูก็จะไม่เปิด ยืนหน้าซีดปากเขียวอยู่หน้าห้องน้ำแน่นอน หรือถ้าคุณไม่มีเหรียญสำหรับหยอดเพื่อเข้าห้องน้ำ คุณก็สามารถขอนักท่องเที่ยวท่านอื่น จะขอเฉยๆ หรือขอแลกก็ได้ค่ะ นักท่องเที่ยวที่นี่น่ารักทุกคน


   วันนั้นอากาศดีมากมีแดดแต่ก็เย็นๆนิดๆ สิ่งแรกที่มองจากลานจอดรถก็คือ “Blackpool

Tower” ซึ่งเป็นจุดชมวิวสูงที่สามารถมองเห็นได้รอบเมืองแบล็คพูล แต่ดิฉํนไม่กล้าขึ้นไปค่ะ เพราะกลัวความสูง ก็เลยเดินดูรอบๆหาดด้านล่างน่าจะใช่แนวมากกว่า

 ดิฉันและสามีเดินชมร้านขายของที่ระลึกไปเรื่อยๆจนถึงหาดทราย หาดทรายเมืองฝรั่งไม่มีที่นั่งหรือร่มใหญ่ๆมากางรอนักท่องเที่ยวเหมือนบ้านเรา แต่เป็นชายหาดโล่งๆ มีผู้คนเดินเล่นอยู่ริมหาด และจะมี “Donkey หรือลา” นั่นเอง เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวเช่านั่งพาเดินรอบชายหาด

   หลังจากเดินดูของเดินดูร้านรวงกันเหนื่อย เราสองตายายก็พากันมานั่งเล่นที่ริมหาดซึ่งทางเมืองแบล็คพูลเขาทำที่นั่งบนหาด ให้นักท่องเที่ยวได้นักพักกัน และทันใดนั้นสายตาของดิฉันก็ไปสะดุดกึ๊ก กับรถม้าซิลเดอร์เรลร่า”Ride on Dongkye”  ซึ่งใช้ลาแทนม้า ให้นักท่องเที่ยวเช่านั่งชมรอบเมือง

  คุณพระคุณเจ้า ลูกอีสานอย่างดิฉันเคยเห็นแต่ในหนังการ์ตูน เพิ่งเคยมาเห็นรถม้าตัวเป็นๆ ก็วันนี้นี่เอง เมื่อก่อน อยู่ไทยเคยเห็นแต่รถม้าเมืองลำปาง แต่ก็ไม่ มโหฬาร อลังการเท่ารถม้าเมืองผู้ดีเลย กรี๊ดกร๊าดได้สักพัก ก็หันมาถ่ายรูป โอยตื่นเต้นสุดๆ ไม่สนใจว่าฝรั่งหัวทองจะมอง แคร์ที่ไหน ฮ่าๆๆๆ  ก็คนไม่เคยเห็นนี่นา แต่ดิฉันกับสามีไม่ได้นั่งหรอกนะคะเพราะต่อแถวยาวมาก เลยไม่รอ เสียดายจัง อดเป็นเจ้าหญิงเลย

  หลังจากชื่นชมรถม้าซิลเดอร์เรลล่า และหายเหนื่อยแล้ว ก็พากันเดินต่อไปที่“Promenade” หรือบ้านเราเรียกสะพานท่าเรือนั่นเอง แต่ สะพานท่าเรือของฝรั่ง จะมี เหมือนสวนสนุกให้เด็กๆและผู้ใหญ่ได้เล่นกัน ซึ่งเครื่องเล่นก็จะมี อาทิเช่น ชิงช้าสวรรค์ สวนน้ำสไลเดอร์ รถบั๊ม และยิ่งปืนปาเป้า ซึ่งบรรยากาศเหมือนงานวัดบ้านเราเลย

  เมืองแบล๊คพูลจะมี”Trams  หรือ รถราง ”เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการ พาชมรอบชายหาดแบล็คพูลซึ่งมีความยาวถึง 7 ไมล์(ประมาณ 12 กิโลเมตร)

 ถ้าสังเกตดีดีเมืองแบล็คพูล จะมีร้าน  “Slot Machine” มีไว้ให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเสี่ยงดวง เอาไว้เล่นสนุกๆ แต่ถ้าโชคดีเราก็จะได้เงินกลับบ้านด้วยนะจะบอกให้

   หลังจากเดินชมชายหาด และท่าเรือ เสร็จแล้ว สองตายายก็พากันเดินออกห่างจากชายหาดเข้าไปที่ตัวเมืองของเมืองแบล็คพูล ซึ่งจะมีห้างร้านต่างๆรอให้นักท่องเที่ยวมาจับจ่ายซื้อของที่ระลึก หรือซื้อข้าวของเครื่องใช้ หรือของกินของใช้กัน และเมื่อเดินเข้ามาใกล้จะถึงบริเวณ “Blackpool Tower” 

  ทันใดนั้นเองหูของดิฉันก็ได้ยินเสียงเพลงของชนเผ่าพื้นเมืองอินเดียแดง ซึ่งมาออกร้านขายของที่ระลึก และขายแผ่นซีดีเพลงพื้นเมืองของชนเผ่า และเรี่ยไรเงินจากนักท่องเที่ยว ดิฉันจะเห็นชายเผ่าอินเดียแดงที่แต่งตัวเต็มยศของเผ่าและภรรยา ซึ่งทำหน้าที่ขายของที่ระลึก ตื่นตาตื่นใจกับการเป่าเครื่องเล่นแต่ละอย่างของเขา ซึ่งเขาจะเป่าเครื่องเล่นสลับกันอยู่ 3-4 อัน จนจบ 1 เพลง เป็นเวลาประมาณ 3 นาทีต่อ 1เพลง ฟังไปเพลินเชียว ดิฉันว่าถ้าใครที่ได้ยินเสียงเพลงพื้นเมืองของชนเผ่าอินเดียแดงนี่ไม่ขยับกายย้ายสะโพก นี่ถือว่าหูต้องมีปัญหาแน่นอน

  หลังจากฟังเพลงพื้นเมืองอย่างอิ่มหนำแล้วสองตายายก็พากันไปกินข้าวเย็นที่ร้านแถวๆนั้น จากนั้นก็พากันมุ่งหน้ากลับบ้านที่กระท่อมน้อยบนดอยที่ Slaithwaite,Huddersfield.


ป้าแก้ว ยูเค.





Create Date : 18 ตุลาคม 2557
Last Update : 18 ตุลาคม 2557 0:21:09 น. 0 comments
Counter : 1678 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

ป้าแก้วอังกฤษ
Location :
Huddersfile. United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




Blog นี้จัดทำขึ้น เพื่อ นำ เอาเรื่องราวชีวิต ของสาวไทยที่ได้แต่งงานกับชาวต่างชาติ มีทั้ง แบบมีความสุข และ แบบ ทุกข์ สลับกันไป
เหตุผลที่นำเรื่องราว ต่างๆมาลง เพื่อ
-เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์
-เพื่อไปปรับใช้ในชีวิต
-เพื่อสอนใจตัวเอง
-เพื่อบอกต่อ

ไม่มีเจตนา ต่อว่า ให้ใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนะคะ ถ้าผิดพลาดประการใด กราบขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วย

ป้าแก้ว ยูเค.
พูดคุยกันได้ที่
Facebook ป้าแก้ว ยูเค https://www.facebook.com/kaewchai.holland
New Comments
[Add ป้าแก้วอังกฤษ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com