Group Blog All Blog
|
Alone in Singapore : ตอน 8 หนึ่งวันอันดราม่า ขาเดี้ยง เท้าพัง [8.2] ความประทับใจในวันที่แสนเหนื่อย :: ALONE IN SINGAPORE :: สวัสดีค่ะ เข้ามาเล่าเรื่องราวในการเดินทางต่อค่ะ หลังจากพักเหนื่อยจนหนำใจแล้ว ตั๊กก็พยายามออกหาของกินค่ะ ในมือมีไกด์บุ๊คหนึ่งเล่ม เลยลองหาดูว่าไปร้านไหนดี แล้วตาก็กวาดไปเจอร้านอาหารเวียดนามแถว Joo Chiat อ๊าาาาา ... ตอนนั้นก็ไม่รู้นึกอะไร ก็ตัดสินใจ ไปค่ะ 555 คือนึกภาพนะค่ะ นั่งจากเกือบสุดสายสีเขียวฝั่งนึง ไปลงอีกฝากนึงของสายเขียว ออกมาถึงสถานี MRT ผลปรากฏว่า ฟ้านี่มืดดำครึ้ม ต่างจากอีกฝากมากๆ ค่ะ ตั๊กพยายามจะเดินไป Joo Chiat ตอนมา มาออกสถานี Paya Lebar ออกทางออก D ในหนังสือบอกว่า จะเดินผ่าน Tanjong Katong Complex จากนั้นถึงถนน Geylang จากนั้น ก็จะเลี้ยวขวาเข้าถนน Joo Chiat เดินไป 450 เมตร ถึง ออกมาจากสถานี พระเจ้า ฝนตกค่ะ ทำไงหล่ะ จะไปไหนดี ขึ้นรถกลับดีมั้ย แต่ก็ตัดสินใจไปต่อค่ะ คือ ยืนขาลากมาตั้งนาน จะถอดใจง่ายๆ คงไม่ไหว ตั๊กเลยตัดสินใจไปถามคนที่ยืนอยู่แถวนั้น เป็นพี่สาวค่ะ เดินไปถามพร้อมหนังสือแล้วถามว่า Tanjong Katong Complex อยู่ที่ไหนค่ะ (ถามเป็นภาษาอังกฤษค่ะ) เขาตอบกลับมาว่า ไม่รู้ค่ะ 5555 ตอนนั้นคือตกใจ เลยตอบพี่เขาว่า Thank You เขาคงงง ฉันพูดภาษาไทยกับแก แล้วแกมาแต้งกิ้วทำไม ตั๊กเดินออกมาแบบงงๆ สักพักนึกได้ จะไป Thank You เพื่อออออออ .... (อายครั้งที่ 1) เดินมาพยายามดูแผนที่ หลงค่ะ เขาบอกให้ไปซ้าย ยัยนี่ไปขวา เดินไปเรื่อยๆ เฮ้ย มันไม่ใช่นะ ยังไงก็ไม่ใช่ถนน Geylang พอไปซ้ายผิด ก็เลยตัดสินใจเดินมาขวา เหมือนสวรรค์เข้าข้างค่ะ เจอ Tanjong Katong Complex ก็เลยเดินตามถนนไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้น เจอฟู้ดคอร์ท เจออะไรก็ยังไม่แวะค่ะ ฉันจะไปร้านอาหารที่ฉันตั้งใจไว้ ไปเรื่อยๆ ไปเจอ ถนน Geylang โอ้ย น้ำตาจะไหล จากนั้นก็เดินไปเจอ ถนน Joo Chiat ค่ะ คือตอนนั้น อารมณ์แบบ ทำได้แล้วเว้ยยยยยยย ..... แต่ๆๆๆ พอเดินเข้าถนน Joo Chiat ฝนตกค่ะ TT ...... โชคดที่เตรียมร่มไป ตั๊กก็เดินไปเรื่อยๆ ในแผนที่คือ บอกสามซอยถึง แต่ตั๊กเดินไปยังไงก้ไม่ถึงสักทีค่ะ แล้วฝนตกหนักมาก ติดฝนอยู่หน้าร้านขายผ้า แงๆๆๆ ชีวิตช่างรันทด กล้องก็จะเปียกทำอะไรไม่ได้ แล้วตั๊กก็เจอ ผู้ชายคนนึงคิดว่าเป็นคนแถวนั้น เลยถามว่า พอจะรู้มั้ยร้านนี้อยู่ตรงไหน เขาทำหน้างงๆ แล้วชี้ไป แต่มันไม่ถูกร้าน 555 ตั๊กเลยขอบคุณเขาไป พอเขาตอบเสร็จ เขาปั่นจักรยานตากฝนออกไปเลย ตอนนั้นคิดในใจ ฉันไปคุกคามอะไรเขามั้ยเนี่ย ทำอะไรไม่ได้ ยืนงงๆ ต่อไป สักพักฝนซาก็เลยเดินต่อค่ะ ไปเรื่อยๆ สามซอย สี่ซอย ในที่สุดก็เจอ แต่ว่า หน้าร้าน ติดป้ายว่า "CLOSED" กิสสสสสสสสสสสสสสสสสสส .... ฉันเดินตากฝนมาทำไม ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้แล้วค่ะ เลยมองไปที่ฝั่งตรงข้ามมีร้านบะหมี่อยู่ พุ่งตรงไปด้วยความเร็วแสง แล้วความฮาปนน้ำตาจะไหลก๊อกสองก็เกิด ในร้านมีคุณลุงกับอาหมวย ตั๊กเดินไป เขาทำท่าทางว่าจะเอาอะไร ไอ้เราก็อ่านป้าย น้องหมวยทำหน้างง ตอนนั้นเริ่มคิด กลับบ้านฉันจะไปเรียนภาษาอังกฤษใหม่ วิธีรอดตามคือ ชูมือขึ้นมา แล้วทำสองนิ้ว 5555 จบ ยัง ยัง ยังไม่จบ ตอนนั้นน้องหมวย พ่นภาษาจีนมา เราก็งงดิ แล้วน้องก็ทำหน้าเซ็งใส่ ตอนนั้นคือ ขุ่นแม่ ช่วยด้วยยยยยย แต่ด้วยไหวพริบ (เหรอ) ก้เลยควักเงินจ่ายไป ได้บิลมา นั่งรอกิน 5555 โอเค กระบวนการมันเป็นแบบนี้ .... อาหารที่สั่งมาคือ บะหมี่แห้ง เกี๊ยวกุ้ง พร้อมด้วยน้ำซุป อยากจะบอกว่า อูมามิ สุด 555 #คุณลุงใส่ผงชูรสกี่ซองเนี่ยยยยยย แต่ก็ฟาดซะเรียบเลยค่ะ ตอนนั้นคือทั้งหิวทั้งเหนื่อยทั้งหนาว หน้าตาบะหมี่แห้งค่ะ อิอิ ... มาพร้อมน้ำซุปร้อนๆ หลังจากทานข้าวเสร็จ ภาระกิจต่อไปคือ การวิ่งสู้ฟัด ให้ถึง MRT ก่อนฝนมา ทุกอย่างเหมือนจะผ่านไปด้วยดีค่ะ จนมาถึง Tanjong Katong Complex ฝนเริ่มลงเม็ดค่ะ ตอนนั้นตั๊กก็เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงทางม้าลาย เตรียมจะเดินข้ามถนน มีคุณลุงคนนึงเดินมา ตอนนั้นฝนเริ่มาเเรงกว่าเดิมนิดหน่อย ซึ่งที่ตั๊กคือคือ เราควรเพิ่งร่มให้ลุงมั้ยนะ แต่อีกฝจนึงก็ ไม่รู้จักกัน เขาจะว่าอะไรเรามั้ย เเล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นค่ะ ฝนตกหนักมากค่ะ ตั๊กเดินเขยิบไปหาคุณลุง แบ่งร่มให้ ลุงหันมาบอกว่า ขอบคุณ จากนั้นก็ถามตั๊กมา แต่ถามเป็นภาษาจีน จากการเดา (อีกแล้วเหรอ) เขาน่าจะถามว่าเป็นคนสิงคโปร์มั้ย ไม่ก็เป็นคนที่ไหน เลยบอกว่า "I'm a traveller" 5555 คุณลุงทำหน้างง จากนั้นถามว่า มจาก Japan เหรอ โอ้ยยยยยยยยลุงงงง หน้าหนูคือไม่ให้เลยค่ะ 55555 เลยบอกไปว่า "I'm from Thailand" ลุงยิ้มแล้วก็บอกว่า อ่อ มาจากประเทศไทย จากนั้นลุงก็จัดภาษาจีนมาอีกสองชุดใหญ่ ก่อนที่ไปเขียวจะมา เราก็เดินไปพร้อมกันค่ะ 5555 พอถึงอีกฝั่งลุงก็บอกว่า ขอบคุณมาก ณ ตอนนั้น คือ รู้สึกว่า ตัวเองเป็นทูตวัฒนธรรม คนไทยใจดีมีน้ำใจนะค่ะ ไรงี้ ตั๊กไม่ได้หวังว่าลุงจะจำหน้าตั๊กได้ แต่ที่ลุงจะจำได้คือ วันนั้นเจอเด็กวัยรุ่นคนไทย แล้วคนคนนั้นก็มีน้ำใจกับลุง แค่นั้นก็รู้สึกดีมากแล้วค่ะ .... (คือเหมือนมโนนิดนึง 5555 ไม่ได้เป็นชาวโลกสวยนะค่ะ) หลังจากฝ่าพายุฝนมาแล้ว ตั๊กก็ต้องรีบไปสนามค่ะ ไปเชียร์น้องเมย์ แต่พอไปถึงสนาม คือฝนตกหนักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตั๊กถอดใจ เลยเดินกลับมา คำถามต่อมาคือจะไปไหน แล้วสิ่งที่แว้บขึ้นมาเลย ไป Garden by the Bay คริคริ ไปถ่ายรูปค่ะ ระหว่างทางที่เดินใน MRT มี ฝรั่งเดินมาถามตั๊กสองครั้งว่า ไป นั่น นี่ ต้องขึ้น MRT สายไหน คำถามที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือ "ดิฉันเหมือนคนท้องถิ่นใช่มั้ยค่ะ" จากนั้นเลยมาดูการแต่งกายของตัวเอง กางเกงขาสั้นประมาณเข่า (ลองนึกสภาพกางเกงบอลค่ะ) เสื้อยืดธรรมดาสุดๆ พร้อมด้วยรองเท้าที่เอิ่มมมม .... คือมันขาดหน่ะ 55555 พร้อมด้วยเป้ที่ค่อนข้างตุง แล้วในมือคือไม่มีแผนที่หรืออะไรเลย (เพราะเก็บในกระเป๋า) เอิ่มมมม ... สมควรรรรรรร ลักษณะแลดูเหมือนออกมาจากบ้านมาซื้อกับข้าว ในตอนที่อยู่บน MRT ตั๊กก็เปิดแผนที่ดู ว่าลงสถานีไหนๆ จากนั้นไปต่อยังไง แล้วก็มั่นใจว่าจำได้ แต่ๆๆๆ นางลงผิดป้ายจ้า จากที่ต้องลง Bayfront นางไปลง Marina Bay ออกมา คือ มองเห็นต้นไม้ยักษ์อยู่ลิบๆ แต่มันไปยังไง ทำไงฉันจะเดินไปถึงแก จากนั้นก็เดินตามฝูงชนมาเรื่อยๆ จนมาอยู่ฝั่ง Marina Bay Sand เลยเอะใจ ควักหนังสือมาดู สรุปลงผิดป้าย เอาไงต่อดี ต้องกลับไปสถานี Marina Bay เหรอ ขาลากมีโอกาสตายก่อนถึง แต่ทันใดนั้นก็เกิดฉลาดขึ้นมา 55555 ก็เลยเดินไปสถานี Bayfront แล้วไปออก ทางออกตามที่เขาบอกหน่ะแหล่ะ ไม่ต้องเสียเงิน (เหมือนจะฉลาด) ตอนมาพิมพ์เหมือนฮา แต่ตอนนั้นคือ ถามตัวเองว่า ทำไมแกไม่อ่านให้มันละเอียด ช้ำใจ นรกมันไม่จบแค่นั้นค่ะ ทางเดินจาก MRT ไปสวนคือไกลมากกกกกกกกกกกก ตอนเดินคือรู้สึกเหมือนแบบ ขากับเท้ามันจะแตกสลายแยกจากกัน แต่สุดท้ายก็ไปถึง ตอนเดินอยู่บนสะพานมีเรื่องฮาอีกแล้วค่ะ 555 เจอหนุ่มสาวคู่นึง เดินอยู่ใต้สะพาน แล้วเขาก็ตะโกนขึ้นมาว่า HELLO !!! ตั๊กเลยหันไปยิ้มโบกมือให้ (แกคิดว่าแกเป็นนางงามหรือไง) 555 แล้วเขาก็ หัวเราะแล้วก็ HELLO มาอีก ตอนนั้นที่คิดคือ ฉันไม่ใช่ตัวฮาใช่มั้ย มองไปอีกฝั่ง เห็น Marina Bay Sand อยู่ไกลๆ แต่ๆๆๆ สิ่งที่ตั๊กตั้งใจจะมาคือ การไปเก็บภาพพระอาทิตย์ตกที่ Marina Barrage ค่ะ พอดีว่าเป็นขาโหด ตัดสินใจเดิน แบบ 4x100 ค่ะ แต่ก็มิวายได้ภาพนี้มา เดินมาประมาณ 15 - 20 นาที สุดท้ายก็ถึงค่ะ แตตั๊กไม่รู้จริงๆ ว่าเขาไปถ่ายกันที่ไหน จากตรงนี้ ถ้าเราขึ้นไปข้างบนก็จะเจอกับสนามหญ้าค่ะ แต่ตั๊กไม่ได้ขึ้นไปค่ะ เดิน เงอะๆ งะ ๆ ลุงยามเห็นเหมือนจะเดินมาถาม แต่พอเดินไปสักพัก็เจอสันเขื่อน เย้ เลยมีโอกาสได้เก็บภาพมาฝากค่ะ มองไปที่ฝั่งทะเลค่ะ จะเจอเรืออยู่เต็มไปหมดเลย ตั๊กชอบมากเลย ตรงนั้นจะได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่ง คือมันบรรยากาศดีมาก ตั๊กเดินไปเดินมา เพื่อรอเห็บภาพค่ะ มองไปทางฝั่ง Marina Bay มองย้อนไปตรงทางที่เราเดินผ่านมาค่ะ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เเสงก็เริมเปลี่ยนไปตามเวลาค่ะ ซูมเข้าไปอีกนิด ^^ มองไปอีกฝั่งกันบ้าง มาดูมุมกว้างๆ อีกครั้งนะ ถ่ายคู่กับทางเดิน 555 ทางเดินกลับค่ะ เราจะกลับกันแล้วนะ ตั๊กใช้เวลาอยู่ที่นี่จนเกือบสองทุ่มค่ะ ตอนที่ถ่ายรูป ก็มีช่างภาพมาประมาณสองสามคนค่ะ มีคนนึงเดินมา แล้วบอกว่า ลองไปถ่ายภาพตรงนั้นสิ มันเป็นมุมพระอาทิตย์ตกที่สวยสุดๆ เลยหล่ะ ตั๊กก็เชื่อนะ แล้วเดินไป 555 แล้วมันก็สวยจริงๆ สักพักมีคุณลุงปั่นจักรยานผ่านมา ลุงบอกว่า จะถ่ายทำไม ถ่ายไปหนูก็จะได้แต่เงานะ 555 ตั๊กแอบยิ้มอยู่ในใจ อยากบอกลุงมากว่า Lightroom ช่วยได้ค่ะ ระหว่างที่ถ่ายรูปก็จะมีคนวิ่งผ่านไปมา ไม่ก็ปั่นจักรยานผ่านไปมาตลอดค่ะ ตั๊กอิจฉาคนประเทศนี้นะ 55 ความปลอดภัยเขาสูงมาก ขนาดที่ว่า จะทำอะไรเวลาไหนก็ไม่ต้องกลัว มาวิ่งตอนเช้า สาย บ่าย เย็น ดึก ก็ทำได้เพราะไม่ต้องห่วงอะไร น่าอิจฉาจริงๆ หลังจากตั๊กเก็บภาพจนหนำใจแล้ว ก็กลับมาที่ Garden by the Bay ค่ะ เอาจริงๆ ตั๊กไม่ได้มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับที่นี่มากนัก ก็เลยเดินดูเรื่อยๆ สัญลักษณ์ของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้น Super Tree จนไม้ยักษ์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า ยืนยันถึงความไม่หยุดนิ่งไม่ยอมแพ้ของคนในประเทศนี้ วันนั้นตั๊กต้องขอบคุณฝน ที่ตกมาในช่วงเย็นๆ เพราะตกค่ำมา ฟ้าสดใส สวยงามมากๆ ค่ะ การมาสิงคโปร์ ตั๊กมีโอกาสได้เจอคนไทยเยอะมากค่ะ 555 เจอทุกที่เลย เพราะงั้นไม่ต้องห่วงว่าจะเหงาเพราะไม่ได้ยินภาษาไทย ตั๊กเดินไปเรื่อยๆ ค่ะ กะว่าจะกลับแล้ว แต่ก็ไปเจอนี่เข้า มันมาเป็นดวงเลยหล่ะค่ะ ^^ ในตอนที่ตั๊กไปถึงและกำลังตั้งใจจะถ่ายภาพ อยู่ดีๆ ไฟต้นไม้ก็ดับลงค่ะ ตั๊กแอบนอย เพิ่งมาถึงจะปิดไฟแล้วเหรอ แต่แล้วสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อน ก็เกิดขึ้น 55 เขามีแสดงแสงสีเสียงกันพอดีค่ะ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น ตั๊กไม่มีข้อมูลมาก่อนว่าเขาแสดงโชว์ พอตั้งตัวได้ก็เลยอัดวิดีโอมาค่ะ จากนั้นก็ถ่ายรูปเล่นต่ออีกสักพัก ตั๊กถ่ายรุป จนแบตกล้องหมด จากนั้นก็หอบขาพังๆ เดินกลับค่ะ ตอนที่เดินๆ วิ่งๆ เพื่อถ่ายภาพ ตอนนั้นเจ็บ แต่ว่ายังทน เพราะมันมีอะไรรออยู่ข้างหน้า แต่ตอนนี้พอจะกลับ แหม่ะ แทบตาย คือเท้ามันปวดมากๆ น้ำตาจะไหล แต่ก็โชคดีที่หอบสังขารมาถึงที่พักได้ค่ะ วันนี้คือเหนื่อยสุดๆ แต่ก้ประทับใจสุดๆ เช่นกัน ถ้าถามว่า Joo Chiat เป็นยังไง ตั๊กจะบอกว่า เป็นย่านที่ตึกสวย ร้านอาหารเยอะมากๆ แถมถ้าเข้าไปในซอยจะเจอบรรยากาศแบบอินเดียๆ ไม่รู้เรียกถูกมั้ยนะ กลิ่นเครื่องเทศ หอมโชย บางทีก็แรงจนเตะจมูก ร้านอาหารอินเดียมีให้เลือกเยอะ และมีร้านอาหารจีนที่มีอาหมวยที่ทำหน้าเซ็งได้น่ารัก และไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษ ถ้ามีใครถามตั๊กว่า ไปสิงคโปร์ไปเที่ยวไหนดี ตั๊กจะบอกเขาว่า ให้ไป Marina Barrage 555 เพราะมันคือสถานที่ธรรรมดาๆ ที่โคตรจะพิเศษเลยค่ะ ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ สวยจัง
โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 26 สิงหาคม 2557 เวลา:12:58:59 น.
เยี่ยมมากเลยค่ะพี่ตั๊ก ภาพสวยมากๆ เล่าเรื่องได้สนุกเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ สุดยอด
โดย: ก้อย IP: 101.109.136.54 วันที่: 26 สิงหาคม 2557 เวลา:18:55:43 น.
ไปมาเหมือนกันคะ แต่หนูไปตอนกลางวัน สวยดี แต่อากาศร้อนไปหน่อยอะ
โดย: น้องผิง วันที่: 27 สิงหาคม 2557 เวลา:10:11:27 น.
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Nepster Travel Blog ดู Blog ตามมาเที่ยวต่อค่ะน้องตั๊ก เล่าเรื่องได้สนุกดีค่ะ เหมือนเดินตามมาเที่ยวด้วยเลย ตอนช่วงที่ไปต้นไม้นี้ยังสร้างไม่เสร็จเลย ถ่ายภาพแสงสี มาได้สวยมากเลยค่ะ โดย: AppleWi วันที่: 29 สิงหาคม 2557 เวลา:23:29:12 น.
อย่างน้อยก็ได้บะหมี่แห้งหน้าตาหน้ากินมาโซ้ยแทนก็ยังดี
เคยได้ยินคนขายพูดภาษาไทย "หมดแล้ว" ตอนไปซื้อข้าวแถวๆสนามบิน ตอนนั้นก็ต่อไม่ถูกเหมือนกัน กรณีคุณตั๊กก็ไม่แปลกหรอกค้าา อ่านแล้วนึกถึงคำว่า วิ่งสู้ฟัด ลอยขึ้นมาเลยยังไงก็ไม่รุ อิอิ ปล.ฝั่งมาริน่า เบย์ สวยมากกกก โดย: กาบริเอล วันที่: 30 สิงหาคม 2557 เวลา:20:56:56 น.
|
Nepster
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกๆคนนะค่ะ :) เจ้าของบ้านชื่อตั๊กแตนค่ะ เป็นคนชอบการเดินทาง ชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับบันทึกการเดินทาง ชอบถ่ายรูป แล้วก็ชอบเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยด้วยค่ะ มีความฝัน อยากไปเที่ยวรอบโลก อยากมีหนังสือบันทึกการเดินทางของตัวเองสักเล่ม แล้วก็อยากพูดได้หลายๆ ภาษา ฮ่าๆ จริงๆ อยากเป็นล่าม หรือไม่ก็นักแปล สนใจภาษาต่างประเทศค่ะ หุหุ ตอนนี้ Bloggang เป็นเหมือนบ้านไปแล้ว เพราะทำให้ตั๊กแตนได้มีโอกาสแบ่งปันข้อความกับเพื่อนๆ และยังทำให้รู้จักเพื่อนใหม่ และได้ความรู้มากมายด้วยค่ะ ถ้าแวะผ่านมาก็ทิ้งข้อความทักทายกันไว้ได้นะค่ะ :)
Friends Blog
|
อ่านบล้อกคุณตั๊กทีไรได้อมยิ้มทุกที
เล่ารื่องสนุกมากค่ะแต่เชื่อว่าในขณะเกิดเหตุก้อจิตตกเหมือนกันนะคะ
ยังงัยก้อได้เก็บภาพสวยๆเป็นที่ระลึกสมใจนะคะ
แถมได้ดูแสดงแสงสีเสียง ถือว่าเป็นรางวัลที่ต้องเดินจนปวดเท้าค่ะ