ไปเที่ยวกันดีกว่า..ไปมะ
จริง ๆ เขียนเรื่องไปหนองขะแตะหมู่บ้านลีซอมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อซักเดือนกุมภาพันธ์นี่เอง คราวนั้นติดสอยห้อยตามไปกับโครงการเทศบาลสัญจรเขา แต่เรื่องและภาพมีอันต้องมลายหายไปด้วยน้ำมือของตัวเอง เสียดายที่สุดก็ตอนเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาว 4 ตอน เฮ้อ!!หรือต้องเดินขึ้นดอยอีกซักครั้ง....... จำได้ว่าเขียนเรื่องราวแบบนี้ที่ Blog แห่งหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ราวสองปีกว่า แต่ได้ความคับข้องหมองใจ จึงเก็บข้าวของที่จำเป็นหนีเตลิดมา (หมายถึงลบเรื่องที่เขียนไว้ราว 150 เรื่อง) เหลือข้าวของไว้เล็กน้อย เผื่อต้องซมซานกลับไป เพราะมิตรที่ดียังมีอยู่... แต่ที่นี่ กำลังจะครบขวบปีอยู่แล้วเชียว ดัน (ทะลึ่ง) อยากจะไปจัดการบางสิ่งบางอย่าง เผลอไปลบเรื่องราวกว่า 50 เรื่อง ...เสียดายจริง ไม่เป็นไร ถ้ากู้ไม่ได้ก็อยู่มันอย่างนี้ เก็บเล็กผสมน้อย ค่อยเป็นค่อยไป ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป.... เมื่อวานเพื่อนมาจากกรุงเทพฯ คุยกันหลายเรื่องที่ร้านเหล้า..... "กูได้เห็นภาพโง่ ๆ ของมึงที่โพสขึ้นทางเน็ตแล้ว" มันว่า โง่หรือ? เออ! โง่มาก ภาพไร้สีสัน ไร้สติ เอ้อ! คือมันห่วย "งั้นสิ้นเดือนมาอีก เอาความฉลาดมายัดใส่ให้หน่อย" เราบอก เออ........ ไปหนองขะแตะกันดีกว่า แม้อาจจะจืดจากการซ้ำรอยเดิม แต่คราวนั้นนายกเทศมนตรี จัดให้เราเดินขึ้นดอย ทุลักทุเลแทบเป็นแทบตาย... คราวนี้ไอเดียใหม่ ชวนกันขี่มอเตอร์ไซด์ขึ้นไป น่าสนุก แต่แน่นอนว่านอกจากได้ความสำราญจากการแอ่วดอยแล้ว ทีมงานเทศบาลได้จัดเตรียมข้าวของจำเป็นไปมอบให้ชาวบ้านเช่นเคย อาทิ เบี้ยยังชีพ วัคซีน เสื้อผ้า จนขนมนมเนย... เส้นทางออกจากอำเภอไปทางวัดถ้ำเชียงดาว ถนนเส้นที่จะไปตำบลเมืองคอง ที่ฝรั่งชอบนั่งรถกระบะมา แล้วนั่งแพกลับไปขึ้นบกที่อำเภอแม่แตง เส้นทางที่สวยงามและรีสอร์ทหลายแห่งในละแวกนี้ มาแล้ว สิงห์นักบิดค่อย ๆ ทะยอยมาถึงแยกที่จะไปหนองขะแตะ ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงจากที่ว่าการอำเภอ ถ่ายรูปร่วมกัน ตรงนี้เป็นตีนดอยหลวงเชียงดาวอีกด้านหนึ่ง เมื่อทุกอย่างพร้อม เสียงมอเตอร์ไซด์ก็คำรามลั่นดอย ไปตามเส้นทางลัดเลาะ ขึ้นดอยลงดอย และด้วยเหตุที่มอเตอร์ไซด์ของผมเรียบร้อยที่สุด..... ก็เขาให้เตรียมมอเตอร์ไซด์คันหนึ่ง ผมก็ยืมมอเตอร์ไซด์จ่ายตลาดมาจากข้างบ้าน ทั้งเตี้ยและดอกยางเรียบ ๆ จนต้องวิเคราะห์กันว่าจะไหวไหม ของคนอื่นงี้ เล่นมอเตอ์ไซด์ยกสูง คำรามกันฮึ่ม ๆ แต่งคาวบอยกันสุดฤทธิ์ สุดเดช ฮือ ๆ ไม่บอกกันบ้างเลย....... ผมขี่ลงสองเนินแรก ใจงี้หล่นไปถึงตาตุ่ม คือรถมันเบาจนจะคุมไม่ได้ ก็ไม่ถึงกลัวเป็นกลัวตายหรอก แต่ถ้าพลาดไป มือขาถลอกปอกเปิก เดี๋ยวก็เป็นภาระคนอื่น เหมือนคราวก่อนอีก.... มากันได้ซักครึ่งทางก็ได้เวลาอาหารเที่ยง เราก็ได้มีมติปิดถนนเส้นนี้ตลอดแนว เพื่อเรียกร้อง เอ๊ย! เพื่อหุงหาอาหาร นักดนตรีของเราก็เริ่มบรรเลงเพลงให้ฟัง นี่ไม่ใช่เล่นฟรีนะครับ สังเกตุดูมีการใส่ตังค์ด้วย ไม่เคยขาดตกซักครั้ง กับการกินการอยู่ ในกระบอกไม้ไผ่มีทั้งไก่และไข่ เรียกว่าหลามไก่ ไข่ สำหรับมื้อเที่ยงนี้ ช่วงนี้ เริ่มมีแอลกอฮอล์เข้าร่างกาย ทำให้รู้สึกฮึกเหิมปนโรแมนติก เสียงเพลง เสียงคุยกันด้วยเรื่องที่เบาใจที่สุด ทุกสีหน้าไม่บ่งบอกว่ามีใครแบกทุกข์มาด้วย จนเราอยากจะตะโกนให้ลั่นป่าว่า ความทุกข์อยู่ไหนโว้ย!!! มาหากันหน่อย แน่จริงมาหาสิ.... เราถูกไล่ให้เดินทางต่อ ด้วยสภาพรถอย่างที่บอก (แหม แต่ละคนดูเก่งกว่าเราทั้งนั้น...เชอะ!) ก่อนหน้าเพื่อนชี้ให้ดูพื้นที่ภูเขาที่ชาวบ้านเตรียมทำการเกษตร และเปรย ๆ ว่า ทำลายป่ากันเข้าไป ไม่รู้สำนึก เราตอบเชิงสนทนาว่า... แหมชาวบ้านชาวดอยเหล่านี้ ทำก็เพื่อแค่ได้อยู่ได้อาศัย ไม่เหมือนชาวเมือง ชาวกรุง (น้ำเสียงสะบัดนิด ๆ เชิงประชดประชัน) ที่ปากอ้างความเป็นธรรม ต้องช่วยกันรักษ์โลก ลดโลกร้อน แต่จริง ๆ ชีวิตซับซ้อน และสุดท้ายคือคำว่ากำไร มีไหมล่ะที่ชนบททำร้ายโลกมากกว่าคนเมือง มีแต่คนชนบทนี่แหละที่ถูกทำร้ายเสมอมา... ช้ำกันแล้วก็ช้ำกันอีก ถึงตรงนี้ชักเครียดแล้วใช่ไหมล่ะ ก็บอกแล้วนี่ว่าแอลกอฮอล์เริ่มเข้าสู่ร่างกายแล้ว ขี่รถไปเรื่อย ๆ คนเดียวเลยไม่มีใครมากดดัน มีเวลาลงไปถ่ายวิวทิวทัศน์ และนี่ไง รถจ่ายตลาดของเรา บ่ายแก่ ๆ ก็มาถึงหมู่บ้านในหุบเขานี้ที่ชื่อว่าบ้านหนองขะแตะ อากาศที่นี่เย็นสบายอย่างที่ไม่เจอมานานนับเดือน เราทักทายชาวบ้านเล็กน้อยตามมารยาท นี่เขาหาผมหงอกกันนะ ไม่ใช่หาเหา ถามเราว่าจะถอนผมหงอกให้ไหม ไม่เอาละ ถ้าถอนผมหงอกหมด หัวคงเป็นนกตะกรุมแน่ ๆ ชาวเทศบาลไปดูแลชาวบ้านตามภารกิจ แต่พี่พลอยอย่างเรา (คือพลอยมากับเขาทุกครั้ง) ก็ร้องรำทำเพลงอยู่ที่พัก ฝูงวัวเริ่มกลับคอก คงแปลกใจว่าฝูงคนพวกนี้มาทำอะไรกันที่นี่ เย็นนี้บนดอยฝนตกชุ่มฉ่ำชุ่มใจมาก กำลังจะเขียนเรื่องแห่นางแมวขอฝนอยู่แล้วเชียว... คืนนี้ต้องอยู่บนบ้านพักรับรองกันหมด เพราะดินแฉะมาก เต๊นท์ที่เตรียมมากันเป็นอันไม่ต้องใช้... อัญชลีพาครอบครัวมาร่วมสนทนาด้วย เราเลยสนใจแม่ผมหยิกคนนี้เป็นพิเศษ อายุสองขวบเศษเอง เจ้าหล่อนไม่สนใจใคร ทั้งกินทั้งดื่มไม่หยุด ดูลีลาการใช้ตะเกียบซะก่อน สุดท้ายก็เกาะอยู่บนหลังอย่างที่เห็น นี่ถ้าเป็นลูกหลานคนไทยเรา อายุแค่นี้ คงเป็นคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น...... คืนนี้ งานเลิกตอนไหนนะ เราเมาไปหน่อย ต้องขออภัยโตยเน้อ... เช้าแล้ว.... บางคนตื่นมาลองเครื่องรถ กาแฟ มาม่า แกงเห็ดถอบอยู่บนเตา ยังมีกิจกรรมพบปะชาวบ้านอีก เจอกันอีกจนได้นะหล่อน..... เฮ้ย...กล้องนี้มั่งสิ ดูเธอยิ้มให้กล้อง..... นี่เขียนจนเหนื่อยมาก ถือโอกาสลงจากดอยถึงอำเภอซะเลย ไม่รู้จะบอกไงต่อ ดูภาพ ฟังเพลง กันก่อน ก่อนแยกย้ายกันตามอัธยาศรัยนะครับ ป.ล. 1. ขอบคุณน้องจิน (Jinny Tent) ที่แนะนำโปรแกรมจัดการรูป กำลังปรับตัวให้เข้าที่อยู่ครับ กรอบรูปใส่ซะหลายสี เพราะใช้เครื่องหลายเครื่อง ลืมปรับแต่ง 2. ไม่มีอะไร...มึน
Create Date : 06 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 16:27:29 น. |
|
35 comments
|
Counter : 2315 Pageviews. |
|
|
ว่าแต่เสียดายเน้อพี่ถ้ากู้คืนไม่ได้... เค้ารู้จักบล็อกพี่ครั้งแรกก็จากบล็อกเที่ยวดอยนี่ล่ะค่ะ พี่ไม่ได้เซฟลงเวิร์ดไว้บ้างหรือคะ?
ว่าแล้วก็เข้าเรื่องเที่ยว อิน้องเองก็ชอบแนวนี้นะ แต่ยังไม่มีโอกาสสักที ไว้มีโอกาสจะไปขอให้พี่เป็นไกด์กิตติมาศักดิ์ให้บ้างจะได้ไหมคะ อิอิ เห็นมีไก่หลาม ไข่หลาม (อันนี้ฟังแล้วน่ากลัว.. เค้ากัวไอ้หลาม)
จากบล็อก อิอิ อิน้องกำลังทำการบันทึกย้อนหลังน่ะจ๊ะพี่ แบบว่าดองข้ามปี แต่ก็ได้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำบันทึกทริปที่ผ่านๆ มาให้เสร็จ (สงสัยปีหน้ากว่าจะเสร็จ) ซึ่งก็จะเหลือไม่กี่ทริปส่วนใหญ่ก็เป็นทริปเมืองไทยค่ะ ทริปเหล่านี้ซ๊ามีร้องขอให้ทำให้เสร็จ อิอิ
ว่าไปแล้วก็มีเรื่องอยากปรึกษาพี่อยู่เหมือนกันนะ เรื่องทำหนังสือน่ะค่ะ.........