Group Blog All Blog
|
กลรักกุนซือกำมะลอ Ling Bao Zhi (หลิงเป้าจือ) เขียน นิยายในหมวดนี้เป็นเรื่องราวความรักระหว่างชายกับชาย
กลรักกุนซือกำมะลอ (2 เล่มจบ) Ling Bao Zhi (หลิงเป้าจือ) เขียน Happy Smile แปล สำนักพิมพ์ BLY ในเครือบงกช 440 บาท 379 หน้า หลังปกภาคต้น กงซุนจ่างซุนข้ามมิติไปเป็นกุนซือของตัวประกอบในหนังสือนิยายที่เขาเคยอ่าน แม้ว่าเขาจะหลงใหลได้ปลื้มในใบหน้าอันหล่อเหลาเกินธรรมดาของพระเอก...เทพเจ้าแห่งสงครามล่อหยี่เฟิง แต่เขาก็ทำได้เพียงเสียใจจนน้ำตาอาบแก้ม เพราะว่าพวกเขาอยู่คนละฝ่ายกัน วันนี้เขาตกเป็นเชลยของล่อหยี่เฟิง ในหัวเขาถึงต้องคิดหาทางเอาตัวรอด... เพื่อการนี้เขาจึงทำให้ล่อหยี่เฟิงเข้าใจผิดว่าในมือเขามีสมบัติของราชวงศ์ก่อน จากนั้นก็แกล้งทำเป็นความจำเสื่อมแล้วนับญาติกับล่อหยี่เฟิง ให้คนแซ่ล่อจำต้องเลี้ยงเขาไว้เพื่อค่อยๆ หลอกถามที่ตั้งสมบัติ เขามองดูล่อหยี่เฟิงที่ต้องแสร้งแสดงความห่วงใยและลดตัวลงมาช่วยดูแลบาดแผลของเขา หรือในยามที่เขาเจอโจร ล่อหยี่เฟิงก็ยื่นมือมาช่วยเหลือและปลอบใจ ในใจเขาเต็มไปด้วยความสุข...เอ๋ เดี๋ยวก่อน! ตรวจสอบว่าข้าบาดเจ็บหรือไม่ก็ตรวจไปสิ เหตุใดต้องแก้ผ้าข้า แล้วนั่นท่านกำลังจับอะไร? หมอนี่ไม่สนใจในตัวบุรุษ แล้วตอนนี้ที่กำลังลวนลามเขาอยู่คืออะไรกัน?! คุยกันหลังอ่าน เรื่องนี้มีสองเล่มจบ แต่แทนที่จะเป็นเล่มหนึ่งกับเล่มสอง จะใช้เป็นภาคต้นกับภาคจบแทน คนเขียนเดียวกับโรงน้ำชาเร้นรัก โอเคยรีวิวเรื่องนั้นไปแล้ว สามารถย้อนกลับไปหาอ่านได้นะคะ คลิก เป็นอีกเรื่องที่มีการทะลุมิติ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทะลุไปในห้วงเวลาความจริง แต่เป็นในนิยาย นายเอกทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่เขาเคยอ่าน ชื่อว่ากงซุนจ่างซุน เป็นกุนซือของตัวประกอบในนิยายเรื่องนั้น สามารถเรียกได้ว่าเขาเป็นตัวประกอบของตัวประกอบอีกที ไร้บทบาทจนแม้แต่ในหนังสือก็ไม่กล่าวถึง ซึ่งคนที่เขาเป็นไปกุนซือให้นั้นอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับพระเอกของเรื่องอย่างล่อหยี่เฟิง เขารู้ทั้งรู้ว่าอย่างไรก็ต้องแพ้พลังแห่งพระเอกนิยาย แต่ไม่ช่วยก็ไม่ได้ เพราะคนนั้นมีบุญคุณช่วยชีวิตไว้ งัดข้อก็พอประมาณ ในที่สุดกงซุนจ่างซุนก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของล่อหยี่เฟิง ตอนแรกล่อหยี่เฟิงโกรธกงซุนจ่างซุนมาก เพราะคนผู้นี้ทำให้เขาเสียเวลา และเกือบเสียบารมีแห่งเทพสงครามที่ไม่มีวันแพ้พ่ายไป แต่ด้วยกลอุบายของกงซุนจ่างซุนบวกกับราศีความงามนายเอกของเรื่อง พระเอกจึงยังไม่ฆ่าทิ้ง ยอมเลี้ยงไว้ดูท่าทีก่อน ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของการเสแสร้ง ปั้นหน้าเป็นคนดี เป็นคนซื่อ ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างพอมองเบื้องหลังออก และเป็นช่วงเกือบ ๆ จะบ้าบอไร้สาระที่ทำให้โอเกือบหยุดอ่านไป ซึ่งโชคดีที่ยังตัดสินใจไปต่อ เพราะหลังจากนั้นโอชอบพล็อต ชอบแนวคิดที่มาของเรื่อง อย่างที่ว่าไว้คือนายเอกทะลุเข้าไปในนิยายที่เคยอ่าน เขารู้เนื้อหาของเรื่องนั้นอยู่แล้ว รู้ว่าตัวละครนั้น ๆ เป็นใคร ปรากฏตัวเมื่อไร จะมีผลต่อเส้นเรื่องอย่างไร แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือสิ่งที่อยู่เบื้องลึกเบื้องหลังที่ผู้เขียนนิยายไม่ได้เล่าไว้ ตัวละครหลายตัวในนิยายที่เขาไม่เคยรู้ที่มา ตอนนี้เมื่อเขาเผชิญจริง ๆ เขาถึงรู้ว่ามันมีความเกี่ยวพันและบทบาทที่ทับซ้อนคัดง้างกันอยู่ สิ่งเหล่านี้ทำให้โอนึกถึงนิยายที่หลายครั้งผู้เขียนไม่ได้เล่าเรื่องบางอย่างที่อยู่ในหัวของผู้เขียน เรื่องที่คนอ่านไม่มีทางรู้ เพราะเรื่องเหล่านั้นไม่ปรากฏอยู่ในหน้านิยาย แต่พอถึงช่วงคุยกับนักเขียนหรือจากใจนักเขียน โอ้โห มาเป็นฉาก ๆ เลย อาจด้วยเหตุผลเรื่องการไม่มีช่องจะใส่ กลัวจะออกนอกเรื่องมากไป จำนวนหน้าไม่พอ หรือลืมก็แล้วแต่ ซึ่งพอผู้เขียนหยิบประเด็นนี้มาเล่น โอจึงชอบมาก กงซุนจ่างซุนจึงเป็นตัวละครที่มาพร้อมท่าไม้ตายเด็ดเทพพยากรณ์ แต่เป็นเทพพยากรณ์ที่ไม่ได้รู้เบื้องหลังทุกอย่าง และหลายอย่างในเรื่องก็เริ่มเปลี่ยนทิศทาง เมื่อเขาทำสิ่งที่ทำให้ผลลัพธ์ในนิยายแตกต่างออกไปด้วย แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่อวยความสามารถตัวเอก ด้วยอุปสรรคที่แทบไม่มี หรือถึงมี ตัวเอกก็จะใช้ความสามารถที่มีผ่านไปได้ง่ายดาย อวยพลังแห่งรักพระนาย ความรักของทั้งคู่แทบจะเรียกได้ว่าโดนประเคนให้จากคนเขียนเลย ความรักที่มีอุปสรรคคืออะไรเราแทบไม่รู้จักคำนี้ อวยความงามแห่งพระนาย หล่อเหลาและสวยงามที่สุด พูดง่าย ๆ นี่เป็นนิยายที่เป็นสูตรสำเร็จฉบับสมบูรณ์เรื่องหนึ่ง สมหวังและสวยงาม ซึ่งถ้าพูดตามตรง ปกติโอจะไม่ค่อยชอบนิยายประมาณนี้ เพราะมันสมบูรณ์พร้อมจนเกินไป แต่คนเขียนเรื่องนี้เก่งนะ เพราะหนึ่ง เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยใช้ความตลกนำ เป็นคอมเมดี้มาเลย เมื่อตลก เราจะไม่คาดหวังความจริงจังของเนื้อเรื่อง เนื้อเรื่องจะเบา หรือจะบ้าบอ เอาคอมเมดี้มาอ้าง แก้ต่างได้มากกว่าครึ่ง สอง ถึงตัวละครจะค่อนข้างเป็นไปในแบบการ์ตูน หรือสูตรสำเร็จ แต่ก็มีชั้นของความคิด มีความลึกตื้น ความคิดจะไม่ได้มีแค่ชั้นเดียว เรื่องมีความสมเหตุสมผลในตัว (เราจะไม่พูดถึงสมเหตุสมผลในความจริงหรือไม่ เราพูดถึงความสมเหตุสมผลในเนื้อเรื่อง เขาสามารถสร้างเหตุผลในเรื่องรองรับได้เพียงพอ) ตัวละครมีลักษณะที่แตกต่างกัน สามารถสร้างสีสันได้ดี สาม ความฉลาดของนายเอกที่เป็นถึงกุนซือ โอว่านายเอกไม่ได้ถึงขั้นฉลาดมาก ๆ ความคิดไม่ได้ซับซ้อนมากมาย มีพลังหยั่งรู้อีก แถมคนเขียนยังอวยด้วย แต่เขามีสิ่งที่เรียกว่าความฉลาดในการใช้คนให้เหมาะกับงาน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่คนฉลาดควรมี เราไม่เก่งด้านนั้น เราจะทู่ซี้ทำทำไม ก็ให้คนที่เขาเก่งทำสิ พอนึกอย่างนี้ กงซุนจ่างซุนก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง แต่พอโอบอกอย่างนี้ โปรดอย่าให้ความคิดว่าเรื่องนี้เป็นแนวชิงไหวชิงพริบมาทำให้ตื่นเต้น ไม่ใช่นะคะ เรื่องนี้เป็นแนวคอมเมดี้ อย่าคาดหวังกับกลเม็ดแผนเด็ดต่าง ๆ ในเรื่องเพราะอาจผิดหวัง ให้สนุกกับเส้นเรื่องดีกว่า นายเอกทำภาพลักษณ์กุนซือในหัวโอแตกออกดัง เพล้ง เพล้ง เพล้ง ติดกันสามครั้งมาแล้ว อย่าไปคาดหวังกับภาพลักษณ์กุนซือที่มักเก็บงำความคิด เงียบขรึม หรือแสดงความเฉลียวฉลาด เพราะนายเอกเรื่องนี้ไม่มี เขาชื่นชอบหนุ่มหล่อ พ่ายแพ้คนหน้าตาดี มีแต่ความคิดลามกในหัว ส่วนพระเอกของเรื่องนี่โอว่าโดนนายเอกทำให้เสียคนนะ พระนายคู่นี้กับความรัก มีส่วนที่โอไม่ชอบ เฉย ๆ ตลกดี รวมถึงชอบนิด ๆ อยู่ ส่วนที่ไม่ค่อยชอบก็อย่างเช่นความหื่นไม่เลือก หรือพลังความหน้าตาดีสะกดใจ ส่วนที่ชอบก็เช่น การที่ทั้งคู่มั่นคงต่อกัน นายเอกคิดเพื่อพระเอกก่อนเสมอ พระเอกก็เชื่อมั่นในตัวนายเอกมาก ตลกตรงที่นายเอกคิดมาตลอดว่าเขาอ่านนิยายชายหญิง ไม่มีประเด็นเรื่องความรักเพศเดียวกันในเรื่อง อย่างไรพระเอกก็ต้องคู่กับนางเอก พระเอกไม่มีทางสนใจตนเองแบบคนรักแน่นอน ไป ๆ มา ๆ พระเอกดันรักตนเองที่เป็นผู้ชายจริง แล้วก็เริ่มมีคู่รักชายชายคนอื่นปรากฏ นิยายที่ตัวเองอ่านอยู่ ๆ ก็เปลี่ยนจากแนวชายหญิง เป็นชายชาย โลกที่เชื่อมั่นมาตลอดพังครืน แถมยังเป็นชายชายที่... สรุปว่าถึงแม้โอจะไม่ได้ชอบทุกอย่างในเรื่อง แต่ก็มีรายละเอียดหลายอย่างที่พอคนเขียนใส่มาแล้วโอรู้สึกว่า เออ ดี พออยู่ในเรื่องมันทำให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์ ในแบบฉบับเรื่องที่ตัวเอกทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ลังเลระหว่างสามถึงสามจุดห้า แต่สรุปเคาะที่ 3 ดาว เรื่องนี้มี e-book ด้วยค่ะ ภาคต้น
ภาคจบ
|
โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
Friends Blog |