|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
14 พฤศจิกายน 2554
|
|
|
|
Thailand Mega Flood 2011 : ขอบคุณชาวนนทบุรี
วันนี้ไปรับน้องแอปเปิ้ลเขียวจากเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์มาจอดที่ทำงาน หลังจากต้องไปตากแดดบนชั้นดาดฟ้า มาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2554 จำได้ว่าคืนนั้นนั่งรถสาย 18 กลับมาแล้วพบว่า มีการปิดถนนไปจรัลสนิทวงศ์ เนื่องจากกำแพงบ้านซอยจรัล 80 ริมน้ำเจ้าพระยาพังลงมากว่า 40 เมตร
เศร้าใจที่คนๆ หนึ่งไม่ยอมให้ กทม สร้างคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ แล้วทำให้คนทั้งเขตต้องจมอยู่ใต้น้ำ แต่สิ่งหนึ่งที่มากไปกว่านั้นก็คือ เมื่อ กทม ขนกระสอบทรายมาเพื่อจะทำการปิดซอยไม่ให้น้ำออกมาที่ถนน ชุมชนที่อยู่ในซอยนั้นรวมตัวกันประท้วง ไม่ยอมให้มีการดำเนินการใดๆ
เหตุผลก็คือข้างในเป็นบ้านชั้นเดียว ถ้ากั้นแล้วน้ำคงท่วมหนักทั้งชุมชน คนที่บ้านน้ำไม่ท่วมอย่างผมคงพูดแทนคนที่บ้านน้ำท่วมไม่ได้ แต่ก่อนหน้านั้น ฝั่งพระนครก็มีคันกั้นน้ำแตกหลายจุด ที่เป็นข่าวออกทีวีคือที่โรงเรียนราชินีบน
น้ำทะลักบนถนนเขียวไข่กา แต่สิ่งที่ชุมชนทำก็คือช่วยกันเอากระสอบทราย มากั้นที่ปากซอยไม่ให้น้ำมาท่วมถนน เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ระดมกันหา กระสอบทรายในพื้นที่ใกล้เคียงมาเสริม และลำเลียงคนออกมาภายนอก
พวกเค้ายอมเสียสละที่จะปิดกั้น เพื่อรอความช่วยเหลือที่มาตามถนนใหญ่ และสุดท้ายเมื่อน้ำลดระดับลง ก็มีการเข้าไปการกั้นกระสอบทรายในโรงเรียน โดยยอมปล่อยให้บางส่วนจมน้ำ ในซอยก็กั้นกระสอบทรายแล้วสูบน้ำออก ทุกอย่างจบลงที่ถนนกลับมาแห้งเหมือนเดิม และคนที่อยู่ภายนอกไม่ต้องอพยพ
ที่นี่ไม่ใช่ที่แรกที่ทำเช่นนี้ ทุกปีคนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำก็โดนน้ำท่วม อยู่เป็นประจำ และก็เป็นเรื่องปรกติที่ชุมชนริมน้ำจะยอมให้บ้านน้ำท่วม ขังน้ำไว้ในพื้นที่จำกัด แล้วทอดสะพานในซอยเพื่อจะเดินออกมาที่ถนนหลัก วัดปากน้ำที่อำเภอเมืองหรือวัดสลักเหนือที่ปากเกร็ดก็ถูกน้ำท่วมมานานนับเดือน
สิ่งที่ทำให้การเสียสละของคนเหล่านี้ ไม่กลายเป็นความสูญเปล่า ก็คือการทำงานอย่างหนักของเทศบาลเมืองนนทบุรีและนครปากเกร็ด และการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ทั้งสอง เช่น การกรอกกระสอบทราย
ผมเองแม้จะไม่ใช่คนจังหวัดนี้ แต่การทำทุ่มเทของคนจังหวัดนนทบุรี ก็เหมือนปราการคุ้มภัย จาก อบต หลักหกที่ยังคงเหนียวแน่นทางเหนือ เลาะเรื่อยผ่านแนวกระสอบทรายทางทิศตะวันตกมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา จนถึงคันดินกั้นน้ำริมคลองประปามิให้ไหลทะลักเข้ามาจากแนวตะวันออก
หากจังหวัดนนทบุรีไม่สามารถปกป้องพื้นที่เอาไว้ได้ เขตบางซื่อที่ต่ำลงมา ก็คงท่วมไปแล้ว เพราะแนวคันกั้นน้ำที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญวาดสวยหรูในทีวี ว่ากรุงเทพจะมีถนนนั้นถนนนี้เป็นตัวปกป้อง วันนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าแม้ถนน นั้นจะสูงเพียงใด สุดท้ายน้ำก็สามารถจะหาจุดอ่อนและผ่านไปได้ทุกครั้ง
สิ่งที่เป็นความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่ปกป้อง กทม มิให้จมน้ำอย่างได้ผล ก็คือคันกั้นน้ำในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ยังคงแบกรับมวลน้ำมหาศาลอยู่ริมสองฝั่งน้ำเจ้าพระยาอย่างทรหด สมดั่งที่พระองค์ได้ตั้งพระราชหฤทัยไว้ หลังน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้
ผมคิดว่าจะไปลงชื่อถวายพระพรพระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราชสักครั้ง
แต่สิ่งที่ผมตอบแทนชาวนนทบุรีได้โดยไม่ไต้องรอหลังน้ำลด คือการไปกรอกกระสอบทรายที่วัดหงษ์ทอง ในวันที่ 30 ต.ค. 2554 เนื่องจากการไปทำงานเลอะๆ จึงไม่ได้คิดว่าจะเอากล้องไปถ่ายรูปเอง จึงต้องขอยืมรูปมาจากสมาชิกที่ไปในวันนั้น
ในรูปที่สองนี้ ถ่ายติดผมด้วยล่ะ
@@ภาพชุดล่าสุดที่วัดหงษ์ทอง ของจิตสาอาป้องกันปากเกร็ด@@
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554 |
|
5 comments |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 16:54:24 น. |
Counter : 1423 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
ผู้ชายในสายลมหนาว |
|
|
|
|