สวัสดีค่าสาวๆ หายหน้าไปหลายวันเลย

พอดีนิไปแอ่วเมืองเจียงใหม่เจ๊ากระทันหันเลยหายหน้าหายตาไปไม่ได้บอกกล่าว

วันนี้กลับมาพร้อมพลังที่เหลือนิดหน่อย(เหนื่อยสุดๆ)

เลยอยากจะรีวิวไอเท็มใหม่จาก Etude House ให้ชมกันค่า

ตัวนี้เป็นสปอนเซอร์รีวิวนะคะ























Etude House Im Jumbo Pen Liner

































มาดูในส่วนของรายละเอียดนิดนึง อายไลน์เนอร์แท่งนี้ขนาด 2.5g ผลิตที่ประเทศเกาหลี

และมีอายุการใช้งานหลังจากเปิดใช้แล้ว 6 เดือนค่ะ



































มองผ่านๆเหมือนปากกาไวท์บอร์ดเลยค่ะสาวๆ ฮ่าๆๆ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าจัมโบ้

เพราะฉะนั้นจุดขายของไลน์เนอร์แท่งนี้คือความใหญ่ของเส้นที่วาดลงไป ซึ่งใหญ่ขนาดจัมโบ้จริงๆ

อาจจะไม่ดึงดูดใจสาวที่ต้องการเส้นเล็กเรียวเท่าไหร่ แต่มันดึงดูดใจสาวตาหมวยเนื้อตาเยอะแบบนิมากๆค่ะ

ตัวแท่งทำจากพลาสติดสีดำทั้งแท่ง มีพิมพ์ลายชื่อรุ่นและแบรนด์สีขาวไว้ให้ค่ะ





























มาดูตัวปากกาไลน์เนอร์กันหน่อย บร๊ะเจ้า!!!! ปากกาไวท์บอร์ดจริงๆด้วย ฮ่าๆๆๆ

เก๋นะนี่ นิชอบมากเลย ขนาดของปลายปากกาไลน์เนอร์อันนี้อยู่ที่ 5mm เลยค่ะ ใหญ่สะใจสุดๆไปเลย

นิ่ม เขียนง่าย ไม่บาดผิวแต่อย่างใด ควบคุมง่ายมากค่ะ































มาดูเส้นที่ได้กันบ้าง ใหญ่สะใจสุดๆ แต่ความดำสนิทยังไม่สะใจนิเท่าไหร่ค่ะ

สังเกตุที่เส้นขวา นี่คือปาดไปรอบเดียวซึ่งมันบางเบามากทีเดียว

ต้องปาดหลายๆรอบถึงจะเห็นสีเข้มชัดเจน

































ลองเอาน้ำปาดดดด แอบผิดหวังง่า เพราะมันไม่ทนน้ำเลย

ซึ่งนั่นหมายความว่า มันไม่ค่อยทนเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเจอน้ำมันหรือความมันบนผิวเรา

ยิ่งเยิ้มกันเลยทีเดียว เสียดายจุดนี้มากๆ เพราะนิค่อนข้างจะชอบดีไซน์จัมโบ้ของรุ่นนี้ค่ะ

































มาดูผลการปาดลงที่ขอบตากันบ้าง อย่างที่เห็นค่ะว่าไม่ได้ดำสนิทเท่าไหร่

แต่เส้นที่ได้คมกริบดีทีเดียว และปาดไปทีเดียวก็ได้เส้นหนาๆซึ่งเหมาะกับสาวเนื้อตาเยอะแบบนิมาก

ตัวนี้นิเลยจะนำมาใช้ย้ำทับลงไปบนเจลไลน์เนอร์เพื่อให้ดูขอบคมขึ้นเท่านั้น

ใช้เดี่ยวๆแอบเยิ้มระหว่างวันค่ะ



















ให้ 6/10 สำหรับไอเท็มนี้ อย่างที่บอกว่าชอบในส่วนของเส้นหนาๆ และดีไซน์เก๋ๆมาก

แต่มันไม่ดำสนิทพอ และไม่ทนเท่าไหร่เลยรู้สึกว่า เสียดายจังน่าจะติดทนและดำสนิทกว่านี้

ไม่งั้นจะเป็นไอเท็มที่สุดโปรดของนิแน่นอนค่ะ





















จบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณ Etude House

และขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่า