BEAUTY :: REVIEW ปรับรูปหน้าด้วย DYSPORT กับ SMITH CLINIC
สวัสดีจ้า สาวๆทุกคน สำหรับวันนี้นิจะมารีวิวที่นิไปทำการปรับรูปหน้ากับพี่หมอโอ้ค สมิธ ที่ SMITH PRIVE' AESTHETIQUE CLINIC อีกครั้งหลังจากไปมาแล้ว 2 รอบค่ะ
ใครสนใจอยากอ่านครั้งแรก คลิก และสำหรับครั้งที่สอง คลิก
ต้องบอกเลยว่าค่ะว่าไม่ติดใจไม่ทำมาถึง 3 รอบหรอก นิประทับใจในฝีมือพี่หมอมากจริงๆ จนคิดเอาไว้ว่าจะไปปรับรูปหน้ากับพี่หมออีกเรื่อยๆค่ะ
ซึ่งแน่นอนเลยว่าการปรับรูปหน้านี้ ก็คือการใช้โบทูลินั่ม ท็อกซินแบรนด์เดิม ก็คือ DYSPORT นั่นเอง เหมาะกับคนที่อยากจะปรับรูปหน้า หรือในผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเวลาแสดงสีหน้าต่างๆนั่นเองค่ะ ซึ่งข้อมูลของตัวยา นิเคยเขียนในบล็อกเก่าๆแล้ว ขอไม่ลงรายละเอียดลึกมากในบล็อกนี้นะคะ
ทำไมนิถึงติดใจนักติดใจหนากับการไปฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซินกับพี่หมอ เพราะเทคนิคที่ใช้และผลลัพธ์ที่ได้ผลดีที่สุด เทียบจากที่นิเคยไปฉีดมาจากหลายๆที่ค่ะ พี่หมอจะใช้เทคนิคการฉีดที่เรียกว่า Natural Soft Lift ซึ่งจะช่วยในการกระจายตัวยาได้ดีกว่า โดยการนำเข็มสะกิดไปในเนื้อเล็กๆ แล้วค่อยๆฉีดสารเป็นจุดเล็กๆบางๆใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการยกกระชับจากภายใน หรือให้พูดง่ายๆคือจะทำการฉีดละเอียดกว่าเทคนิคของที่อื่น มีการกระจายตัวสารทั่วๆ ผลที่ได้คือ เราสามารถขยับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติกว่าการฉีดสาร เข้าไปแบบเยอะๆในตำแหน่งเดียวนั่นเอง
ในขั้นแรกเลย แน่นอนว่าต้องมีการเข้าไปปรึกษาถึงปัญหาต่างๆของเรา ให้พี่หมอทราบว่าเรามีจุดกังวลตรงไหนบ้าง ซึ่งพี่หมอใจดีอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วค่ะ หลังจากที่พี่หมอทราบถึงปัญหาของเราแล้ว พี่หมอก็จะให้คำแนะนำอย่างละเอียด ว่าสิ่งที่เราควรจะทำมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งจากการพูดคุยกันในขั้นตอนนี้ จึงทำให้ทราบถึงวัตถุประสงค์หลักของพี่หมอ ที่มักจะยึดเป็นหลักในการให้คำแนะนำต่างๆว่า
ทางคลีนิกมีความเชื่อมั่นที่ว่า ผู้หญิงเรามีความสวยอยู่ในตัวทุกคน สิ่งที่พี่หมอจะช่วยดูแล คือการเพิ่มความสวยให้กับเราอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่เรา ยังดูเป็นตัวเราอยู่ สิ่งสำคัญคือการหาจุดเด่น และลบเลือนจุดบกพร่องลงไป สร้างสมดุลของใบหน้า โดยไม่กระทบต่อการแสดงสีหน้าหรือการสื่ออารมณ์ทางใบหน้า ผลที่ได้คือ ยังคงสวยในแบบที่คุณเป็นอยู่นั่นเอง
หลังจากพูดคุยกันไปพักใหญ่เพื่อให้พี่หมอทราบถึงปัญหาที่นิกังวล หลังจากนั้นก็ไปคลีนผิวแล้วก็ทายาชากันค่ะ เป็นที่ทราบกันดีนะถ้าใครเคยฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน คือจะมีความเจ็บขณะที่เดินยา ซึ่งอย่างที่บอกว่า เทคนิคของพี่หมอคือการฉีดกระจายไปหลายๆจุด แน่นอนว่าเจ็บไปหลายจุดแน่นอน เพราะฉะนั้น โปะยาชาไว้เถอะนะชาวเรา ทิ้งระยะเวลาไว้ราวๆ 40 นาที ค่อยล้างแล้วไปทำการปรับรูปหน้ากันจ้า
สำหรับเทรนด์ในการปรับรูปหน้าช่วงนี้ที่พี่หมอแนะนำ จะไม่ได้เป็น V-Shape แบบที่เรารู้จักกันนะ คือต้องยอมรับจริงๆว่า V-Shape มันไม่สามารถจะเป็นกันได้ทุกคน(จากใจ) เพราะใบหน้านิเนี่ยะเป็นตัวอย่างอันดีมากๆที่จะเป็นวีเชฟไม่ได้เลย เพราะด้วยโครงสร้างของกระดูกที่แบบไม่ได้เรียวเล็กมาแต่แรก น่าเศร้าจริงๆ
พี่หมอได้พูดถึง V-Heart Shape ขึ้นมา เป็นสิ่งใหม่ที่อาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่เนาะ ซึ่งพี่หมอแนะนำว่าวีฮาร์ทเชฟจะเป็นลักษณะใบหน้าที่เหมาะกับสาวเอเชียที่สุดแล้ว เพราะใบหน้าคนเอเชียจะมีโหนกแก้ม และกรามที่ชัดเจน(ยกมือเลยว่านี่ชัดมาก) การปรับรูปหน้าลักษณะนี้จึงเป็นการปรับช่วงกรามและรูปคางที่รับกับช่วงโหนกแก้มด้วยนั่นเองค่ะ
มาถึงเวลาจิ้มเข็มกันแล้วววว!!! มีคำถามมาถึงนิเยอะแน่นอนว่า "เจ็บมั้ยคะ?" ต้องขอตอบว่า เจ็บเป็นบางจุดค่ะ เพราะกล้ามเนื้อและชั้นผิวหนังแต่ละจุดไม่เหมือนกันเนาะ บางจุดที่จิ้มลงไปอาจจะเดินยายากกว่าบางจุด เลยทำให้การเจ็บหรือแสบมันต่างกันด้วย ซึ่งตอนเข็มจิ้มนิยังเฉยๆนะ แต่เวลาเดินยานี่สิ บางจุดถึงกับต้องกลั้นหายใจกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ แต่ไม่ได้น่ากลัวขนาดที่คิดหรอกค่ะ ถือว่าชิลมากๆ ถ้ามันทรมานขนาดทนไม่ไหว นิคงไม่มารอบที่ 3 หรอก จริงมั้ย?
คำแนะนำก่อน-หลังจากฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน
ก่อนฉีด 1 สัปดาห์ ควรงดรับประทานยาในกลุ่มแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เพราะจะทำให้เลือดไหลหยุดยากกว่าปกติค่ะ และจะทำให้เกิดการช้ำได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย
หลังฉีดไปแล้วจะมีรอยแดงเกิดขึ้นในบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปหลังฉีดประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้า และกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่สิ่งที่ไม่ควรทำคือ นวดหน้า กดหน้า อบไอน้ำ หรือโดนความร้อนในช่วง 2 อาทิตย์แรก เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของยาเสื่อมลงได้
หลังจากนิฉีดมา นิก็ติดตามผลมาเรื่อยๆค่ะ จริงๆในช่วงวันสองวันแรกก็เริ่มสังเกตุได้ถึงผลลัพธ์แล้วนะ ใบหน้าเริ่มมีการปรับไปทีละนิดๆ บอกเลยว่าถ้าไม่ถ่ายรูปเก็บๆไว้นี่ อาจจะไม่ได้รู้สึกว่า โอ้ววว มันยุบลงไปไวมาก อะไรแบบนี้ ซึ่งนิมองว่าถ้ามันยุบลงไปไวมากๆแบบปุบปับ ส่วนตัวนิว่ามันน่ากลัวนะ แต่แบบนี้คือค่อยเป็นค่อยไป ทีละนิด วันละหน่อย แล้วก็เป็นธรรมชาติมากๆ นี่ไง เหตุผลว่าทำไมนิถึงติดใจฝีมือพี่หมอนักหนา
เพราะนอกจากจะได้ใบหน้าที่ค่อยๆเรียวขึ้นแล้ว ยังเป็นไปอย่างธรรมชาติ และไม่ดูแปลกตาด้วยค่ะ
ซึ่งสังเกตุว่า หลังจากฉีดไปแล้ว 1 เดือน ใบหน้านิดูเรียวขึ้นมากๆ แต่ก็ยังดูเป็นโครงหน้าของนิอยู่เช่นเดิม ประทับใจจจจ!!!
ในส่วนของราคานั้น ต้องบอกก่อนว่าขึ้นอยู่แต่ละบุคคลค่ะ เพราะอย่างที่เล่าไปในตอนต้นว่า เราต้องเข้าไปปรึกษากับพี่หมอก่อน แต่ละคนก็ปัญหาต่างกันเนาะ รูปหน้าก็คนละแบบ พี่หมอจะแนะนำให้อีกทีค่ะ ว่าใครควรทำอะไร จุดไหนบ้าง
แต่ราคาคร่าวๆในส่วนของการยกกระชับ และลดเลือนริ้วรอย คือเริ่มต้นที่ 15,000.- ลดกรามก็ราคาเดียวกันคือ 15,000.- ส่วนการยกกระชับจุดเล็กๆย่อยๆ เช่น หางตา คิ้ว เริ่มต้นที่ 8,000.- ขึ้นไปค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอะไร ติดต่อได้เลยที่
Smith Prive Aesthetique - สมิทธิ์ พรีเว่ เอสเธทีค Call Center : 0-2711-7541 FB : Smithskinclinic IG : smith_clinic
รีวิวนี้นิเขียนขึ้นเพื่อให้เป็นข้อมูลต่อใครหลายๆคน ที่อาจจะกำลังตัดสินใจ และอยากศึกษาเรียนรู้ก่อนตัดสินใจค่ะ ผลที่ได้จะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล ยังไงอยากให้ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน หรือโทรไปนัดคิวทำการปรึกษาพี่หมอได้ ตามข้อมูลที่แจ้งไปนะคะ ศึกษาเยอะๆก่อนดีที่สุดจ้า
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
MINIPANDAZ
Create Date : 16 กันยายน 2558 |
Last Update : 22 กันยายน 2558 10:46:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2227 Pageviews. |
|
|