สวัสดีค่าสาวๆทุกคน สำหรับบล็อกนี้นิจะมาแชร์เรื่องราวของตัวเอง
หลังจากได้เห็นแคมเปญนึงของแบรนด์ดังที่รู้จักกันดี Pantene ค่ะ
หลังจากได้ดูคลิปนี้แล้วมันทำให้นึกถึงช่วงที่ตัวเองเรียนปริญญาตรีเหมือนกันนะ
เพราะว่านิเป็นคนที่เรียนมาไม่ตรงสายการเรียนที่ตัวเองชอบเหมือนกัน
แต่นิกัดฟันสู้เรียนจนจบมา แม้ว่าจะทำได้ไม่ดี มีคราบน้ำตาเยอะมากกก(เพราะเรียนไม่เก่งเลย)
แต่ก็พยายามฝ่าฟันมันมาให้ได้ เพื่อพ่อและแม่ของเราด้วย
สุดท้ายก็เรียนจบ แม้ว่าจะทุลักทุเล แต่เรารู้ว่าพ่อแม่ของเราก็ภูมิใจในตัวเราไม่น้อยเหมือนกัน
ซึ่งตอนนี้ กำลังจะเข้าใกล้การรับปริญญาอีกครั้งในชีวิตของนิ
เพราะจบปริญญาโท ก็ยอมรับว่ายังตื่นเต้นนะคะ
มันก็ยังคงเป็นวันสำคัญอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราประสบความสำเร็จ
แถมครั้งนี้ เลือกเรียนในสาขาที่ตัวเองถนัด แม้ว่าจะไม่ได้เกียรตินิยมอะไรกับเค้า
แต่ก็ถือว่าเรียนได้ดีกว่าสมัยปริญญาตรีเยอะ เพราะมันคือสิ่งที่เราชอบจริงๆ
ในช่วงวันรับปริญญา เป็นช่วงเวลาสำคัญมากๆอีกช่วงหนึ่งของชีวิตจริงมั้ย
ก็เป็นช่วงที่เราอยากจะสวย อยากจะดูดีแน่นอนล่ะ
จะบอกว่าช่วงนั้นนิแต่งหน้าเองได้แล้วล่ะ แต่ไม่ได้เก่ง คือแต่งไปตามประสา
เฉดดิ้ง ไฮไลท์ ไม่รู้จักจ้าาา หายนะชีวิตประมาณหนึ่ง เพราะหน้าจะแป้นๆถ่ายรูป 5555
แต่ก็อย่าได้ไปแคร์ เพราะนิก็ถือว่าดูแลตัวเองประมาณนึงเหมือนกัน
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของผิว รูปร่าง แม้กระทั่งเส้นผมนิยังดูแลเลยนะ
สำหรับทรงผมนิก็ทำเองอีกเช่นกัน
ก็ทำทรงเรียบๆง่ายๆค่ะ ไม่ได้เน้นว่าจะต้องอลังการ
อยากให้วันนี้เป็นวันที่เรามั่นใจและเป็นตัวเองที่สุด ^^
Picture Credit : //www.pooyingnaka.comในส่วนของผิวเอาจริงๆคือนิไม่ได้เป็นคนมีปัญหาผิวอะไร
ก็ดูแลไม่ยากเท่าไหร่ค่ะ พักผ่อนเยอะๆ ทำความสะอาดให้ดี
เลี่ยงแดด และต้องพยายามดื่มน้ำให้เยอะขึ้นหน่อย
เพราะส่วนตัวนิเป็นคนไม่ค่อยทานน้ำ ลืมตลอดเวลาทำอะไรเพลินๆ
เป็นนิสัยที่ไม่ดีเลยนะ แต่โชคดีเป็นคนชอบทานผลไม้และผักมาก
มันเลยทำให้ผิวเราไม่ดูแห้งเหี่ยวเท่าไหร่ คล้ายกับทดแทนกันได้นิดนึง
Picture Credit : //www.goodfoodgoodlife.in.thรูปร่าง ถ้าให้พูดจริงๆนิก็เป็นคนอวบเป็นปกตินะ แต่ช่วงสำคัญแบบนี้
ก็ควรที่จะดูแลตัวเองนิดนึง เพราะชุดครุยเนี่ยะถึงแม้ว่ามันจะคลุมตัวเราทั้งหมด
แต่ไอ้ที่มันคลุมไปทั้งหมดนี่ล่ะยิ่งทำให้ไม่เห็นสรีระส่วนเว้าส่วนโค้งของเราเท่าที่ควร
คือจะดูล่ำๆใหญ่ๆ เพราะฉะนั้นถ้าลดน้ำหนักได้ แนะนำว่าควรอย่างยิ่งเลย
ยิ่งถ้าสาวๆเรียนในมหาวิทยาลัยที่ชุดครุยเป็นชุดขาวๆโปร่งๆนะ
ยิ่งต้องดูแลรูปร่างเป็นพิเศษ เพราะไม่มีอะไรมาพรางเลย แถมเวลาใส่ชุดนักศึกษาข้างใน
มันจะต้องแต่งตัวเนี้ยบ คือชายเสื้อต้องอยู่ในกระโปรง แถมกระดุมต้องติดถึงคอด้วย
ถ้ารูปร่างยิ่งดี ใส่ชุดนี้จะสง่ามากๆ วันที่เราภูมิใจ เราต้องมั่นใจด้วยเนาะ
Picture Credit : //brightlives.th.88db.comมาที่เส้นผมกันบ้าง เป็นจุดที่นิใส่ใจเป็นพิเศษเหมือนกันค่ะ
เพราะวันนั้นจะเป็นวันที่ทุกคนแต่งตัวเหมือนๆกันไปหมด แล้วเราจะดูโทรมมาก
หากเส้นผมของเราไม่เงางาม ยิ่งเวลาไปถ่ายรูปคู่เพื่อนนะ ถ้าเพื่อนผมสวยกว่านี้จบเลย
เพราะฉะนั้น แม้มันจะเป็นจุดที่ดูไม่น่าสำคัญมากอะไร แต่มันสำคัญนะคะ
ในช่วงนั้นนิจำได้ว่าก่อนหน้าช่วงรับปริญญา ผมนิเสียมาก
เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เริ่มจะทำผมด้วยตัวเองเป็นค่ะ โดนความร้อนทุกวัน
เป็นผลทำให้ผมเสียพอสมควรเหมือนกันค่ะ
เคยได้ยินปัญหาผมเสีย 10 ประการกันมั้ยคะ
มันจะมีผมพันกัน ผมไม่เงางาม ผมเปราะขาด ผมแตกปาย
ผมแห้ง ผมอ่อนแอ ผมชี้ฟู ผมลีบแบน และผมจัดทรงยากจะบอกว่าใน 10 ข้อนี้ นิเป็นซะ 9 ข้อ 5555
ขาดแค่ผมลีบแบน เพราะผมนิไม่ลีบแบนค่ะ แต่มันฟูหยอยๆ
Picture Credit : //talkaboutsex.thaihealth.or.thมาดูการดูแลรักษาเส้นผมของนิกันบ้าง
ส่วนตัวนิไม่ใช่คนหนังศรีษะมัน เลยไม่ค่อยมีปัญหาว่าผมจะดูมัน
และนิไม่จำเป็นจะต้องสระผมทุกวันค่ะ
และนิไม่ใช่คนมีตารางชัดเจนในการสระผมว่า จะต้องสระผมกี่ครั้งต่อสัปดาห์
คือเริ่มรู้สึกว่าคันศรีษะ หรือผมเริ่มมันเมื่อไหร่ก็ค่อยสระผมค่ะ
ยกเว้นในกรณีที่นิใช้สารเคมีบนผมนะ
เช่น มูส โฟม จัดแต่งทรงผม ซึ่งถ้านิใช้สารเคมีเหล่านี้
นิจะสระผมทุกครั้งค่ะ เพราะเคยทราบมาว่า การที่เราใช้สารเคมีเหล่านี้บนเส้นผมเรา
มันมีเปอร์เซ็นต์ที่สิ่งสกปรกจะไปอุตตันบริเวณโคนผมได้เยอะ
และเป็นจุดที่ทำให้มีสารเคมีตกค้างบนหนังศรีษะ เป็นสาเหตุของผมร่วงค่ะ
เพราะฉะนั้นควรสระผมทุกครั้งหลังจากใช้อุปกรณ์เหล่านี้
สรุปก็คือ ถ้าเป็นเวลาปกติ นิจะสระผมเมื่อเริ่มรู้สึกว่าผมเหนียว
แต่ถ้าวันไหนใช้พวกมูส โฟมจัดแต่งทรงผม จะสระทุกครั้งที่ใช้ค่ะ
Picture Credit : //www.siamdara.com/ColumnGirl.asp?cid=3197
สาวผมมันหลายคนอาจจะรู้สึกว่า
โชคดีจัง ผมไม่มัน เลยไม่ต้องมาสระผมทุกวัน
แต่ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียค่ะ ข้อดีของการที่ผมไม่มันคือไม่ต้องสระผมบ่อยก็จริง
แต่ข้อเสียที่ตามมาคือ ผมจะแห้งง่ายกว่าสาวผมมันมากอยู่
และยิ่งนิเป็นคนใช้ความร้อนและสารเคมีต่างๆกับผมบ่อยๆด้วย
มันยิ่งทำให้ผมนิแห้งเสียง่ายมาก โดยเฉพาะช่วงปลายผมค่ะ
และอีกสิ่งที่มักจะเป็นเมื่อเจออากาศแห้งๆคือ จะมีรังแคบ้างในบางครั้ง
เพราะหนังศรีษะเราแห้งมาก
เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยซักครั้งเดียวหลังจากที่นิสระผม
ก็คือการใช้ครีมนวดผมค่ะ ไม่งั้นผมนิจะพันกันมาก
และจะแห้งกรังสุดๆ โดยที่นิจะพยายามเน้นไปที่ปลายผมมากกว่าโคนผม
โดยส่วนมากเวลานิบีบครีมนวดออกมา นิจะถูๆที่มือให้ตัวครีมนวดกระจายตัว
แล้วลงไปเน้นที่ปลายผมค่ะ ส่วนที่เหลือติดมือก็จะไปลงช่วงโคน(แต่ไม่ชิดหนังศรีษะนะ)
แล้วค่อยๆใช้นิ้วมือของเรานี่แหละ นวดวนไปที่หนังศรีษะเบาๆ
เป็นการอโรม่า นวดผ่อนคลายไปในตัว
สิ่งหนึ่งที่ได้เพิ่มเติมจากการนวดผ่อนคลายคือการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
จะช่วยให้การทำงานของผิวบริเวณหนังศรีษะทำงานได้ดีขึ้น
และช่วยให้สารอาหารไปบำรุงเส้นผมได้ดี ผมจะยาวเร็วขึ้นได้ค่ะ
และอีกสิ่งที่ชอบทำคือการใช้ทรีทเม้นท์เข้มข้นในการบำรุงเส้นผมค่ะ
ส่วนมากจะใช้อาทิตย์ละครั้ง หรือสองอาทิคย์ต่อครั้ง
เหมือนเป็นการบำรุงที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะถ้าอาทิตย์ไหน
ที่มีงานเยอะๆ นิมักจะต้องใช้ความร้อนกับเส้นผมบ่อยครั้งกว่าอาทิตย์อื่นๆ
นิก็จะใช้การบำรุงด้วยทรีทเม้นท์นี้ เป็นตัวช่วยเสริมในเรื่องของการฟื้นฟูสภาพเส้นผม
ให้แข็งแรงขึ้นค่ะ
ซึ่งนี่ก็เป็นการดูแลเส้นผมแบบฉบับของนิเอง
ไม่ได้มีอะไรมากมายหรือซับซ้อนกว่าปกติทั่วไป
อาจจะมีเพิ่มเติมการเล็มปลายผมเข้าไปด้วยในทุกๆเดือน
เพื่อเล็มเอาปลายผมเสียๆที่เกินจะเยียวยาออกไปค่ะ
จะทำให้ส่วนของเส้นผมที่สภาพดีๆได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่
เท่านี้เอง
แพล่มมาซะยาว มาพูดถึงแคมเปญ
Moment to shine Moment to share กับ
Pantene กันบ้างดีกว่า
คือตอนนี้ทางแพนทีนมีกิจกรรมอยู่ค่ะ
เพียงส่งเรื่องราวช่วงเวลาสุดพิเศษของสาวๆมาที่ https://apps.facebook.com/pantenemoment/
หรือบอกเล่าเรื่องราวสุดพิเศษของตนเอง ผ่านทาง Instagram และใส่ hashtags #PanteneMoment
ระยะเวลาร่วมกิจกรรม 15 กรกฎาคม 13 กันยายน 2556
จะบอกว่าของรางวัลแอบอลังนะขอบอก
รางวัลชนะเลิศ คือ รางวัลเครื่องเพชร จาก Jubilee จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 100,000 บาท พร้อมผลิตภัณฑ์จากแพนทีน มูลค่า 1,000 บาท รวมมูลค่า 101,000 บาท รางวัลประจำสัปดาห์ คือ iPad Mini ขนาด 16 GB มูลค่า 10,900 บาท จำนวน 8 รางวัล (1 เครื่อง/1 สัปดาห์) พร้อมผลิตภัณฑ์จากแพนทีน มูลค่า 1,000 บาทอีก 8 รางวัล รวมทั้งหมด 8 รางวัล รางวัลละ 11,900 บาท รวมมูลค่า 95,200 บาท
จำนวนรางวัลตลอดกิจกรรมทั้งสิ้น 9 รางวัล มูลค่ารวม 196,200 บาท แค่ซื้อผลิตภัณฑ์แพนทีนก็มีสิทธิ์ได้รางวัล ทั้งตั๋วหนัง voucher ร้านอาหารและที่พัก
ก็อย่าลืมเข้าไปแชร์กันเยอะๆลุ้นรับของรางวัลกันเนาะ
สำหรับวันนี้ได้มาระลึกความหลังก็แฮปปี้เบาๆนะ
เพราะนิไม่ได้นั่งดูรูปเก่าๆมานานแล้วเหมือนกัน อิอิ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^^