สวัสดีค่ะ วันนี้นิมาเขียนแชร์ประสบการณ์ครั้งแรก
ของการปรับแก้ไขรูปหน้าที่ Siam Dermatiks ค่ะ
คุณหมอที่เป็นเข้าของคลีนิกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
คุณหมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุลนี่เอง
คลีนิคของคุณหมอโอ๊คเปิดมาแล้วถึง 10 ปี
มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวละผมค่ะ ซึ่งจะเน้นดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ
คลีนิคเป็นลักษณะ Private ถ้าหากต้องการพบคุณหมอ ต้องทำการนัดล่วงหน้าเสมอ
สาขาที่นิไปครั้งนี้อยู่ตรงอาคารไทยซิน BTS สถานีพระโขนง
ซึ่งคุณหมอจะเข้าสาขานี้เฉพาะวันจันทร์ ศุกร์ เสาร์เท่านั้นค่ะ
สำหรับการปรับรูปหน้าที่นิศึกษาในครั้งนี้เรียกว่า Happy Soft Lift
เป็นการฉีด Dysport เทคนิคใหม่ โดยการฉีดสารคลายกล้ามเนื้อเป็นจุดเล็กๆบางๆใต้ผิวหนัง
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการยกกระชับจากภายใน จากกลไกที่ตัวยาทำให้คอลลาเจนหดตัว
และคลายกล้ามเนื้อแบบกระจายตัวไม่เป็นจุดค่ะ
จะให้ผลลัพธื์ที่เป็นธรรมชาติกว่าเพราะไม่ใช่การบล็อคกล้ามเนื้อแบบเก่าๆ
- ช่วยให้ใบหน้าได้รูป เรียวกระชับ
- แก้ไขรูปคิ้ว
- แก้ไขรอยย่นจมูก
- ทำให้ใบหน้าดูสดชื่นเป็นธรรมชาติ
Dysport คือ โบทูลินั่มท็อกซิน จากอังกฤษ (สารลดเลือนริ้วรอยชนิดฉีด)
มีต้นกำเนิดตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1986 ซึ่งได้รับ อย.จาก EU, US, และไทย แล้วเรียบร้อย
และเป็นที่ยอมรับและเป็นที่นิยมใน ยุโรป USA เกาหลี และไทย
เพราะฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยนี่คือ ปลอดภัยค่ะ
คำว่า ปลอดภัย ณ ที่นี้ พูดถึงลักษณะของตัวยานะคะ ของแบบนี้ต้องศึกษาให้ดีก่อนว่ายาที่ใช้มีคุณภาพผ่านมาตรฐาน และคุณหมอจบด้านนี้โดยตรงจริงๆเพราะหากคุณหมอไม่เชี่ยวชาญ ก็อาจเกิดอันตรายได้เช่นกันค่ะ Dysport สามารถใช้ได้หลายวัตถุประสงค์ เช่น ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า
ยกคิ้ว ลดเหงื่อ(ที่มือหรือรักแร้) ปรับรูปกล้ามเนื้อขา ลดอาการปวดบริเวณไหล่
ที่เรียกว่าออฟฟิศซินโดรม(ชั่วคราว)
ซึ่งในครั้งนี้นิได้ทำการปรับรูปหน้า ยกกระชับ ยกคิ้ว และลดริ้วรอยบริเวณหน้าผากค่ะ
เพราะฉะนั้นนิจะต้องทำการคลีนหน้าให้สะอาดซะก่อน แล้วก็ทายาชา
สำหรับบางคลีนิกจะมีให้ใช้น้ำแข็งโปะทิ้งไว้เฉยๆก็ได้
แต่สำหรับเทคนิคนี้ จะต้องฉีดหลายจุด การใช้ยาชาจึงดีกว่าค่ะ
นิบล็อคยาชาไว้ประมาณ 40 นาทีค่ะ บอกเลยว่าชายันลิ้น 555
พูดมากไปหน่อย ยาชาเข้าปากค่ะ = ="
หลังจากปรึกษาปัญหารูปหน้ากับคุณหมอแล้ว ก็ทำการปรับแก้รูปหน้ากัน
นิเป็นคนกรามใหญ่ เป็นในส่วนของโครงสร้างกระดูกด้วย กล้ามเนื้อด้วย
ซึ่งหากจะให้ดูเรียวสวยหน้ารูปไข่เลย นิอาจจะต้องตัดกราม เพราะเป็นคนกรามเหลี่ยมค่ะ
แต่โชคดีที่คางแหลม เลยมีมุมที่เรียวอยู่บ้าง แต่การฉีด Dysport นี้ก็สามารถแก้ไขได้
ขั้นตอนนี้นิฉีดกรามค่ะ สอบถามคุณหมอแล้ว ข้างละ 80 ยูนิต ไม่น้อยเลยนะ 555555
ส่วนขั้นตอนนี้เป็นเทคนิคที่พูดถึงค่ะ เป็นการยกกระชับทั่วใบหน้า
โดยการฉีดไล่ไปตามจุดต่างๆของใบหน้าเพื่อเกิดการดึกยกกระชับขึ้น
จะฉีดตามกรอบหน้าไล่ไปจนถึงหน้าผาก ของนิมีการฉีดบริเวณใต้คิ้วเพื่อปรับรูปคิ้ว
แล้วฉีดบริเวณข้างสันจมูกระดับเดียวกับโหนกแก้มด้วย
คุณหมอบอกว่าหน้าไม่ได้ใหญ่ แต่โหนกแก้มมันกว้างออก เลยฉีดให้โหนกแก้มด้านในดูเต็มขึ้น
เพื่อให้มิติบนใบหน้าดูโฟกัสมาที่จุดกึ่งกลางมากขึ้น หน้าจะดูมีมิติขึ้นค่ะ
ส่วนอันนี้เป็นจุดที่นิรีเควสคุณหมอเอง คือนิมีรอยย่นที่หน้าผากค่ะ
คิดว่ามาจากการที่เวลานอนนิจะชอบเอาผ้ามาปิดหน้าไว้ เลยเกิดริ้วรอยก่อนวัย
และด้วยการแสดงอารมณ์ของเราที่เป็นนิสัย ทำให้เกิดรอยได้ง่าย
คุณหมดเลยจัดการให้ทุกจุดเลย
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเจ็บมั้ย รู้สึกอย่างไรบ้าง
ขอบอกก่อนว่าเจ็บค่ะ บางจุดเจ็บมาก บางจุดเจ็บน้อย
นั่นเพราะใต้ผิวหนังเรามันมีบางจุดที่ยากต่อการแทรกซึมของตัวยา
ถ้าเจ็บมากนั่นแปลว่าคุณหมอใช้แรงเยอะกว่าจุดอื่นๆในการดันยาค่ะ
แต่ก็ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ได้ เพราะเรามียาชาที่บล็อคเอาไว้ตอนต้น
และคุณหมอมีลูกบอลให้บีบสู้ฟัดค่ะ 55555 เจ็บเหมือนสิวอักเสบอ่ะค่ะ ทนได้
มาดูผลกันดีกว่า สำหรับวันนั้นที่นิไปทำคือวันที่ 22 มิถุนายน 2556
ซึ่งนิได้ถ่ายรูปเก็บเอาไว้แล้ว และอีกรูปเป็นของวันที่ 2 กรกฎาคม 2556
10 วันพอดิบพอดี ก็ออกมาประมาณนี้ สำหรับเทคนิคนี้คุณหมอบอกไว้ว่า
มันจะไม่ได้เห็นผลแบบเปลี่ยนแปลงสุดๆ แต่จะค่อยๆเปลี่ยนไปทีละนิดละหน่อยค่ะ
นั่นถึงได้บอกว่าเทคนิคนี้ค่อนข้างจะเป็นธรรมชาติ
ในภาพที่นิเปรียบเทียบให้ดูนี่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
แต่จะเห็นว่ามีการยกกระชับเล็กน้อยของใบหน้าค่ะ หน้าเริ่มดูเรียวขึ้นนิดหน่อย
ส่วนมากแล้วโบทูลินั่ม ท็อกซิน จะเห็นผลเริ่มชัดเจนประมาณ 1 เดือนหลังจากนี้
ภาพนี้ถ่ายวันที่ 14 สิงหาคม 2556 นับจากวันที่ทำ 53 วัน
เกือบๆ 2 เดือนค่ะ จะเห็นว่าโครงรูปหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ดูเรียวขึ้นมาก และไม่ได้ดูผิดรูปร่างหรือแปลกตาอะไร
เวลาเจอตัวจริงกันก็ดูไม่แตกต่างจนน่าตกใจ คือมันค่อยๆลดลงอย่างเป็นธรรมชาติจริงๆ
แต่ส่วนนี้เป็นส่วนที่เห็นชัดเจนค่ะ
คือช่วงหน้าผากที่นิบอกว่านิมีรอยย่นอยู่ อันนี้ชัดเจนว่าหายไปเลย
คือเลิกคิ้วขึ้นแล้วก็ยังไม่เห็นค่ะ รูปคิ้วดูโค้งมนมากขึ้นด้วย
ทำให้ไปหน้าดูอ่อนหวานและดูเด็กลงค่ะ
แต่นิแอบรู้สึกตึงนะเวลาเลิกคิ้ว ยังมีตึงๆอยู่เหมือนกันค่ะ
คนมองมาอาจจะมองไม่เห็น แต่มันรู้สึกข้างในว่ามีตึงๆหน่อยๆ
ปกตินิจะยั้กคิ้วข้างเดียวได้ทั้งสองข้างสลับกัน แต่อันนี้แอบทำลำบาก
ซึ่งเป็นส่วนที่นิไม่ชอบเท่าไหร่ มันแอบลำคาญนิดๆค่ะ
และปัญหาอย่างอย่างหนึ่งที่นิเป็นคือ
ตาทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากันค่ะ หนังตาอีกข้างลืมตาไม่ค่อยขึ้น
เหมือนหนังตาจะตกกว่าอีกข้างนึงเยอะจนรู้สึกได้
อันนี้สอบถามสาเหตุจากคุณหมอแล้ว
คุณหมอบอกว่า อาจจะเป็นเพราะพฤติกรรมโดยปกติของเรา
เกี่ยวกับการใช้ดวงตา
คือโดยทั่วไปแล้วคนเราจะมองตรงปรกติ
แต่พฤติกรรมส่วนตัว(โดยที่เราไม่รู้ตัวว่าเราทำแบบนั้น ทำจนชิน)
นิอาจจะเป็นคนชอบเบิกตากว้างตลอดเวลา ชอบเลิกคิ้วขึ้นไป
มันเลยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากถูกใช้งานบ่อยๆ(เป็นสาเหตุทำให้มีริ้วรอยที่หน้าผาก)
ทีนี้ พอนิทำการฉีดเพื่อลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
มันจะทำให้หน้าผากนิไม่สามารถขยับได้ ส่งผลให้เวลาเราพยายามจะ
เลิกคิ้วขึ้นเพื่อเบิกตาให้กว้าง
หนังตามันเลยโดนผิวบริเวณหน้าผากที่ควรจะยกขึ้นไปด้วยแต่มันไม่ยก
ดันลงมา ทำให้หนังตาดูตกลงค่ะ
กรณีนี้เป็นกรณีส่วนตัวมากๆที่เกิดเฉพาะบุคคล
เพราะแต่ละคนมีพฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อแต่ละส่วนต่างกัน
อย่างกรณีของนิ สามารถแก้ไขได้โดย
หากต้องการฉีดหน้าปผากครั้งต่อไป ให้ฉีดสูงขึ้นไปอีกนิด
และปล่อยให้กล้ามเนื้อบริเวณคิ้วสามารถงานได้ปกติค่ะ
สำหรับ Siam Dermatiks นั้น จะไม่มีเรทราคาตายตัวนะคะ
คือคุณหมอจะดูให้ Case by case เลย เพราะฉะนั้นถ้าสนใจจริงๆ
ควรนัดและปรึกษาคุณหมอเองโดยตรงจ้า นิสอบถามคุณหมอแล้ว
ราคาเริ่มต้นของการปรับรูปหน้าของนิอยู่ที่ประมาณ 15,000.-
และราคาลดกรามของนิอยู่ที่ประมาณ 15,000.- เช่นกันค่ะ
รีวิวนี้ไม่ได้ต้องการชี้นำสาวๆว่าควรจะไปทำนะคะ
อยากให้อ่านกันเพื่อเป็นข้อมูลศึกษาก่อนตัดสินใจค่ะ
ราคาไม่ใช่ถูกๆในการทำแต่ละครั้ง
และอย่างที่บอกในตอนต้น ต้องศึกษาว่าของได้คุณภาพ
ผ่านมาตรฐาน และคุณหมอได้ Certificate เฉพาะทางมาโดยตรงเท่านั้นค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ