สวัสดีจ้าสาวๆทุกคน

สำหรับวันนี้นิจะมารีวิวคอลลาเจนชนิดผงอีกแบรนด์ที่ตัวนิเอง

และคุณแม่ของนิด้วยปลื้มมากๆ

ทุกวันนี้มีคอลลาเจนมากมายหลายแบบให้เราเลือกทานกัน

จะแบบเจลลี่ ผงชงกับน้ำทานหรือรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย

แต่ตัวนี้ที่นินำมารีวิวเป็นผงที่สามารถผสมกับอาหารอะไรก็ได้

โดยที่ไม่ทำให้รส กลิ่น และหน้าตาของอาหารที่เรานำไปผสมเปลี่ยนแปลงไปจนทานไม่ได้ค่ะ

ถือเป็นรูปแบบของคอลลาเจนที่เหมาะกับนิมากเลยแหละ

เพราะส่วนตัวนิเป็นคนไม่ค่อยทานขนมหรือน้ำชงรสผลไม้เท่าไหร่

เพราะฉะนั้นคอลลาเจนในรูปแบบอื่นๆเลยทำให้นิมักจะลืมทานอยู่เสมอ

จนทำให้เราทานได้ไม่ต่อเนื่อง แต่สำหรับตัวนี้แค่พกติดตัว

แล้วนำไปเทใส่อาหารที่เราทานเป็นประจำอยู่แล้วได้เลยค่ะ

MEIJI AMINO COLLAGEN

+CoQ10 & Rice Germ Extract

สำหรับเมจิรุ่นนี้เป็นรุ่นพรีเมียม คอลลาเจนผงคุณภาพสูง มีผลทำให้ผิวดูสวยสุขภาพดียิ่งขึ้น

ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย ผิวเนียนเรียบ

บำรุงสุขภาพ กระดูกแข็งแรง ซึ่งมาใหม่ในคุณภาพที่เพิ่มขึ้นจากสูตรเดิมค่ะ

โดยเพิ่มส่วนผสมระดับพรีเมียม ได้แก่

- Hyaluronic Acid 60mg. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว

- Coenzyme Q10 เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

- Ceraminde จากจมูกข้าว ซึ่งเป็นคอลลาเจนตามธรรมชาติที่ดี ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เปล่งปลั่ง

สูตรนี้ดีมากๆค่ะให้พลังงานเพียง 27Kcal ต่อ 1 ช้อนเท่านั้น สำหรับใครที่ไดเอ็ทอยู่

ก็สามารถทานได้โดยไม่ต้องกังวลเลย

ราคากระปุกละ 1,590.- มีขายตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไป

Boots และ Watsons ก็มีขายค่ะ

สำหรับแพ็คเกจจิ้งก่อนเปิดใช้ถือว่าทำได้แน่นหนาสะอาดดีจริงๆค่ะ

เป็นซีลพลาสติกก่อน 1 ชั้น มีฝาพลาสติกใส และปิดผนึกไว้อย่างดี

เพราะฉะนั้นถ้าหากเราไปซื้อมาใช้ สามารถตรวจเช็คได้ง่ายเลยว่าบรรจุภัณฑ์ปิดแนบสนิทดีรึเปล่า

เมื่อเริ่มเปิดใช้แล้ว ฝาที่เราจะใช้งานในครั้งต่อไปจะเป็นในลักษณะนี้

เหลือแต่ฝาพลาสติกใสที่ปิดแน่นสนิทดี เวลาเปิดจะไม่ต้องเปิดดึงออกไปทั้งฝา

เพราะมีดีไซน์ของฝาให้ใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย

ในการทาน เราจะทานเพียงครั้งละ 1 ช้อน ซึ่งในกระปุกจะมีช้อนมาให้เรียบร้อย

และต่อ 1 ช้อน จะต้องปาดให้ได้ปริมาณเท่าในภาพ คือ 1 ฝาพอดีไม่พูนและไม่น้อยกว่านี้ 

ซึ่งดีไซน์ของฝาก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยในเรื่องนี้

ถือว่าเป็นดีไซน์ที่ออกแบบมาได้มีประโยชน์ใช้ได้เลย

สำหรับเนื้อของเมจิ อะมิโน คอลลาเจนนี้ จะเป็นผงขาวๆคล้ายผงนมแบบนี้ค่ะ

ในตอนแรกหลายคนมักจะรู้สึกว่า เวลานำไปผสมกับอาหาร น่าจะให้ความรู้สึกคล้ายอาหารจะข้นขึ้น

เพราะลักษณะหน้าตาคล้ายผงนม แต่จริงๆไม่ใช่เลยค่ะ

เพราะคอลลาเจนของเมจิเค้าทำมาให้สามารถผสมกับอาหารได้ทุกชนิดเลย

ไม่ว่าจะเป็นของคาว ของหวาน ของเย็น หรือของร้อน ก็สามารถละลายตัวได้ดี

โดยที่ไม่ทำให้เสียคุณค่าของคอลลาเจนเลย

ที่สำคัญ รสและกลิ่นของอาหารก็ไม่เสียอีกด้วย 

พูดง่ายๆว่า ใส่ไปแล้วไม่ทำให้รสชาติ กลิ่น สี หรือหน้าตาอาหารเปลี่ยนไป

แถมยังละลายได้ง่ายอีกด้วย 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนิถึงบอกในตอนต้น

ว่าคอลลาเจนในรูปลักษณ์แบบนี้ ถึงเหมาะกับนิ

เพราะว่าในรูปแบบอื่นๆเช่นแบบผงชงรสผลไม้ นิมักจะลืมทานค่ะ

เพราะถือเป็นอาหารอีกชนิดที่เพิ่มเข้ามาในระบบการทานของเรา

แต่สำหรับชนิดผงผสมลงในอาหาร เราไม่ต้องทานอะไรเพิ่มเติมจากเดิมที่เคยทาน

ทำแค่ผสมลงไปในอาหารเดิมที่เราจำเป็นต้องทานเป็นมื้อหลักอยู่แล้ว

โดยปกติแล้วนิมักจะผสมเมจิ อะมิโน คอลลาเจนในจานอาหารมื้อหลักของนิ

ซึ่งมักจะเป็นของร้อน เช่นพวก ต้ม แกง หรือก๋วยเตี๋ยว

แต่วันนี้อยากให้เห็นชัดๆว่าเค้าละลายตัวได้ดีแม้ในน้ำเย็น

นิเลยนำมาผสมกับน้ำผลไม้ที่ได้ทานไปเมื่อวันก่อนค่ะ

สังเกตเห็นว่า เมื่อผสมไปแล้ว น้ำผลไม้ในแก้วไม่ได้ดูขุ่นหรือเข้มข้นขึ้นเลย

แถมการละลายตัวยังทำได้ดีมากจนไม่เหลือเศษผงขาวๆติดในแก้วเลยด้วย

รสชาติของน้ำผลไม้ก็ยังสดชื่นและอร่อยเหมือนเดิมค่ะ

ในส่วนของผลลัพธ์หลังจากได้ทานมาราวๆ 2-3 อาทิตย์

สิ่งที่สังเกตุได้ชัดที่สุดคือผิวที่นุ่มลื่นขึ้นค่ะ

ส่วนตัวเป็นคนที่ทานคอลลาเจนหรือพวกอาหารเสริมบ้างอยู่แล้ว

บวกกับการดูแลตัวเองอย่างเต็มที่อยู่เป็นประจำ

ในส่วนอื่นๆเลยอาจจะไม่ได้เห็นผลชัดเจนมาก

แต่เชื่อว่าถ้าใครที่ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองมากเท่าไหร่

ลองมาทานแล้วน่าจะชอบ

เพราะอย่างที่บอกว่าคุณแม่ของนิเค้าก็ชอบมาก 

เพราะคุณแม่ไม่ค่อยได้ดูแลหมั่นทาครีมบำรุงผิวเท่าไหร่

แต่ท่านมักจะชอบผสมคอลลาเจนชนิดผงแบบนี้กับเครื่องดื่มซึ่งคุณแม่ทานกาแฟทุกวัน

ผลลัพธ์ของผิวท่านก็ถือว่าเปล่งปลั่งขึ้นจนเราต้องทักเหมือนกันค่ะ

นิว่าด้วยช่วงอายุของเราที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ร่างกายย่อมมีความสึกหรอที่เกิดขึ้น

อาจจะยังไม่ส่งผลชัดเจน แต่ถ้าเราช่วยเสริมเค้าไว้

ความร่วงโรยย่อมจะชะลอลงไปด้วย เพราะฉะนั้นการทานคอลลาเจนไว้

ถือเป็นการดูแลตัวเองที่ดีที่จะชะลอให้ผิวเราร่วงโรยไปได้ช้าลง

ดีกว่าปล่อยให้เค้าร่วงโรยไปแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลัง

เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ ดูแลตั้งแต่เนิ่นๆก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ 

ยังไงซะนี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนหนึ่งที่นิได้ทดลองทานด้วยตัวเอง

และลองสังเกตผิวของคุณแม่ตัวเองด้วย ในแต่ละคนอาจจะให้ผลลัพธ์ไม่เท่ากัน

เพราะปัจจัยในการดูแลตัวเองทั้งภายนอกภายในของแต่ละคนไม่เหมือนกันด้วย

อยากให้ลองศึกษาข้อมูลจากหลายๆแหล่ง แล้วค่อยตัดสินใจดีที่สุดค่ะ

ขอบคุณมากๆสำหรับการติดตามนะคะ

MINIPANDAZ