ตื่นเช้าชมวิวเก็บภาพถ่ายรอบๆที่พัก ดูเหมือนคนจะบังวิวไปมากทีเดียว ลูกพี่คิดถูกแล้วที่เลือกพักนอกเมืองตลอดทั้งคืนนอนหลับสบายปกติ วันนี้ตื่นแต่มืดดูคล้ายตื่่นเช้าเพราะช้ากว่าเมืองไทย 5 ชั่วโมง ได้มีเวลาเดินเล่นรอบที่พักสูดกลิ่นไอทัสคานี นั่งอยู่ท่ามกลางวิวพาโนรามาหลักล้านเงียบสงบดีจริง
ทั้งคืนและเช้าวันนี้โรงแรมเป็นของเราสี่คนแล้ว นอกจากบุฟเฟต์คลายหิวแล้วยังมีเชฟมาบริการทำอาหารตามต้องการมีเยอะกว่าที่บ้านอีก ฝรั่งงงอีกขอเปิดประตูไปนั่งตากอากาศเย็นๆด้านนอก ( รีบสูดความเย็นเก็บไว้ กลับบ้านร้อนมากนะ )
สน Cypress สัญญลักษณ์ของทัสคานี
โรงแรมยังสภาพใหม่เพิ่งเปิดได้หนึ่งปี ข้าวของเครื่องใช้สะอาดเครื่องนอนนอนสบายมาก มีคนสวนร่างสูงใหญ่กำลังดูแลสวน นึกถึงเมืองไทยเรามีต่างด้าวช่วยงาน แต่ยุโรปทำกันเองเหนื่อยเหมือนกัน เขาก็ค่อยๆทำไป
มีแปลงโรสแมรี่เต็มทั่วบริเวณ เมืองไทยเราขายกอเล็กๆ 200 บาท
ไอริสกำลังเตรียมออกดอก ไม่ทราบสีอะไร
ดอกมัสตาร์ด พบเห็นได้ทั่วไป
บางชนิดไม่รู้จักชื่อ แต่นิยมปลูกกันทั่ว มีกลิ่นหอม
วัชพืชหรือไม้ดอกอะไรไม่ทราบ ขึ้นเองอยู่ทั่วไป สวยงาม
บัวดินฝรั่ง crocus ให้ดอกตามพื้นทั่วไป
ที่ Tuscany นี้ไม่มีใครโดดเด่นเท่าเธอ "มะกอก"
ต้นและใบสวยงาม และเป็นต้นไม้สารพัดประโยชน์ เป็นพืชเศรษฐกิจพบเห็นได้ทั่วไป
ลักษณะคล้าย ต้นมะม่วงของคนไทย แต่ประโยชน์น่าจะประมาณต้นกล้วยคือใช้ประโยชน์ได้หมด
แปลงมะกอกพบเห็นได้ทั่วไป
ออกจากเมือง Pienza ราว 10 นาฬิกาเศษ เพราะต้องเดินทางต่อไปอีก 300 กว่ากิโลเมตร เพื่อ ไปค้างคืน ยัง Monterosso al mare ใช้เวลาขับรถอีกสามชั่วโมงเศษ ตั้งใจจะแวะเที่ยว Firenze หรือ ฟลอเรนซ์ เมืองหลวงของแคว้น Tuscany ขอให้มีความสุขในการรับชมและ โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ลิงก์ตอนก่อนหน้า
"แคว้นทัศคานีขึ้นชื่อว่าที่มีทิวทัศน์ที่งดงาม สภาพพื้นที่เป็นเนินเขาสูงๆ ต่ำๆ มีความสูงระหว่าง 50-200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีประชากรและความเป็นอยู่ที่หนาแน่นตามหัวเมืองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตรเป็นหลัก เราจะพบบ้านพักอาศัยที่กระจายตัวอยู่ในชนบทบนยอดเนินเขา สลับกับฟาร์มและไร่ เป็นทิวทัศน์ที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง ไม่แปลกใจเลยที่การท่องเที่ยวในแคว้นนี้ส่วนใหญ่จะป็นการท่องเที่ยวเพื่อเที่ยวชมศิลปวัฒนธรรมและเที่ยวชมทิวทัศน์ทางชนบท วิถีชีวิตทางการเกษตร แคว้นทัสกานีมีโรงแรมทั้งหมด 11,000 กว่าแห่ง การตั้งแคมป์และการพักที่ฟาร์มดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 40 ล้านคนต่อปี แคว้นก็ได้ลงทุนใช้จ่ายกับการทำให้บริการต่าง ๆ มีคุณภาพมากขึ้น มีการพัฒนาปรับปรุงระบบการคมนาคม ขนส่งตามหัวเมืองเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
เราพูดถึงส่วนสำคัญและเอกลักษณ์ของแคว้นทัศคานีไปแล้ว เรามาพูดถึงเรื่องหลักของสถาปัตยกรรมทัศคานี ต้องกล่าวถึงตั้งแต่การวางผังอาคารทั้งภายในและภายนอกที่สำคัญด้วยคุณลักษณ์ของสภาพอากาศและสภาพทางสังคมในยุคแรกๆอาคารที่เกิดขึ้นเป็นอาคารที่ปิดจากด้านนอกเราจะสังเกตได้จากอาคารที่ทึบและมีช่องเปิดที่น้อยด้วยเหตุผลของความปลอดภัยของตัวอาคาร ที่ใช้ป้องกันภัยจากภายนอกและป้องกันแดดและลมจากสภาวะอาคารที่มีช่วงฤดูร้อนที่ยาวนานในบริเวณพื้นที่แต่อาคารนั้นมีการสร้างพื้นที่ที่เป็นลาน(Court)อยู่กลางพื้นที่ด้านใน ซึ่งเป็นวิธีระบบการระบายอากาศภายใน ให้อากาศร้อนระบายออกได้ดี อาคารจึงให้ความรู้สึกที่เย็นในช่วงฤดูร้อน และสามารถป้องกันความเย็นในช่วงฤดูหนาวได้เป็น มีหอคอยเล็กๆที่เป็นปล่องควันจากเตาผิงที่ใช้ในช่วงฤดูหนาวและสามารถใช้เป็นปล่องลมเพื่อระบายความร้อนในหน้าร้อนได้ในทางเดียวกัน แนวคิดที่ถูกพัฒนา ถือเป็นภูมิปัญญาในการก่อสร้างอาคารให้ทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ และอยู่อาศัยได้ดี อยู่สบายในทุกฤดูกาล
นอกจากเรื่องศิลปวัฒนธรรม วิวทิวทัศน์ ที่มีส่วนสำคัญในแคว้นทัศคานีแล้ว ยังมีเรื่องอาหาร และไวน์ที่เป็นที่กล่าวขานว่าเป็นส่วนสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนที่ไปถึงต้องลอง เนื้อสัตว์สายพันธุ์พื้นเมืองหายากของทัสคานี ยกตัวอย่าง ไก่ดำ และหมูพันธุ์ Cinta Senese เลี้ยงด้วยวัตถุดิบชั้นดี ทำให้เนื้อหมูที่ได้มีรสชาติเข้มข้นมุ่งเน้น การดึงรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ ปรุงด้วยสูตรของอิตาลีแท้ นอกจากนี้ยังมีไวน์ชั้นยอดที่บ่มจากชนบทเช่นไวน์คาร์มินยาโน่ (Carmignano) ไวน์ซานโจเวเซ่-เบส (Sangiovese-based) ไวน์เคียนติ (Chianti) หรือไวน์โมเรลลิโน่ ดิ สคันซาโน่ (Morellino di Scanzano) ไวน์บอนเชียรี่ (Bolgheri) อาหารและไวน์ของแคว้นทัศคานีถือเป็นที่ที่เป็นสวรรค์ของนักชิม" คัดลอกจาก Tuscany facebook
ระเบียงน่านั่ง น่าสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดนะคะ
สวนดอกไม้รวมถึงวัชพืชน่ารัก สร้างความสดชื่นได้มากทีเดียว
ขอบคุณคุณเย็นที่พาเที่ยวค่ะ