12 เมย 61      วันนี้เขียนบันทึกยาวสักหน่อยค่ะ  แบ่งเป็นส่วนที่หนึ่งบันทึกประจำวัน เมื่อคืนไปรับพี่สาวที่สนามบินคนมหาศาลบานทะโลก หายใจรดต้นคอ  รถยนต์รอเข้าคิวจอดในอาคารยาวเหยียด  บางส่วนก็ออกมารอรับบนถนนเต็มไปหมดโดยเฉพาะรถตู้จอดรอรับผู้โดยสารกันบนถนนซะงั้น  น่าจะมีบริเวณให้ผู้โดยสารรถตู้ไปขึ้นเช่นลานจอดรถจะดีกว่ามาจอดบนถนนและรอกันกว่าจะครบ

         เช้านี้พาพี่ขับรถตั้งใจเที่ยวอยุธยาและทำธุระที่ต่างจังหวัด ปริมาณรถยนต์สายเหนือมาก  รถยนต์มากมายล้านแปดทำความเร็วได้เพียง 50 กม./ชม. สบายไปอย่างที่ไม่โดนใบสั่งแน่  เรื่องจะแวะเที่ยวนั่นโน่นนี่ยกเลิกไปก่อนถ้าขืนแวะเห็นทีจะมืด  ดีใจนะคนไทยเดินทางเที่ยวเมืองไทยกันเยอะมาก  จะไปที่ไหนก็ตามกลับบ้านพบครอบครัว  หรือท่องเที่ยวก็แล้วแต่  ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นญาติพี่น้องอยากจะร้องไห้  มาทำงานอำนวยความสะดวกตลอดทาง  ท่ามกลางแดดร้อนจนแสบไปทั้งตัว  ไม่ทราบจะได้พักผ่อนกันหรือเปล่า  ในกรุงเทพตั้งด่านตรวจตลอดทั้งคืนทั่วทั้งกรุง   เป็นสิ่งที่ดีป้องปรามผู้คิดการไม่ดีในทางต่างๆ

             ที่ไม่อยากเขียนละเอียดก็คือไม่อยากสนับสนุนการเที่ยวต่างประเทศหรือโปรโมทเลยแม้แต่น้อย   และการท่องเที่ยวของเราก็ไม่ใช่ชนิดทัศนศึกษาที่รู้ทุกซอกมุมเก็บทุกรายละเอียด      เป็นแค่เก็บบรรยากาศผ่านๆเที่ยวไปกินไปเน้นพักผ่อนกินนอนให้สะดวกสบาย  เพราะคุณแม่เดินไม่สะดวกหลายแห่งก็ต้องข้ามไป   จะเขียนผ่านๆคนอ่านก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรสักเท่าไหร่ หรืออาจเกิดค่านิยมผิดๆว่าต้องท่องเที่ยวต่างประเทศ  แต่เพื่อนพี่ก็บอกว่านั่นแหละ  อยากได้ว่าทัวร์ที่มีผู้สูงอายุรถเข็นไปส่วนตัวไปยังไง  ที่ไหนดีไม่ดีช่วยวิจารณ์มาด้วย ....จะพยายามค่ะ 

            ถึงทุกวันนี้ก็ยังชอบเที่ยวเมืองไทยเวลาที่อากาศไม่ร้อนมากนัก     แต่ต้องยอมรับความจริงว่า ราคาค่าโรงแรมในเมืองไทยราคาสูงมากถึงสูงที่สุดสำหรับคนไทยเมื่อเทียบกับค่าครองชีพหรือรายได้ของคนไทย   หรือเราอาจไม่ยินดีจ่ายเมื่อเทียบกับต่างประเทศในราคาเท่ากัน   เพราะถ้าจะเที่ยวเมืองไทยนอนโรงแรมจ่ายด้วยเงินรายได้คนไทยทุกคืนคงกระเป๋าฉีก    โรงแรมราคาถูกหรือปานกลางก็ยังบกพร่องเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย      จะพักแบบสุภาพสะอาดปลอดภัยราคาก็สูงลิ่ว             

              อัพภาพท่องเที่ยวสงกรานต์ปีนี้ต่อค่ะ  จากมิลานขับรถไปประมาณหนึ่งชั่วโมง จะถึงทะเลสาบโคโม่   รอบทะเลสาบโคโม่มีเมืองท่องเที่ยวหลายแห่งค่ะ 

                ก่อนหน้านี้ลูกพี่บอกว่า ไปเที่ยวมาแล้วคงเขียนบันทึกได้อีกเป็นเดือน  ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดของลูกพี่จะเป็นจริง   จนถึงวันนี้ยังดูภาพไม่หมดจากหลายกล้องหลายคนหลายพันภาพ  สรุปว่าเลือกเฉพาะภาพจากกล้องตัวเองก็พอ   ดูภาพคนอื่นทำไมดีจังภาพเดียวบรรยายได้หลายภาพ  แสงสีมุมจุดเด่นอะไรได้หมด  เป็นเรื่องเป็นราว  แต่มันไม่ใช่ตัวตน  เป็นแบบที่เป็นนี่แหละที่ชอบค่ะ 

                ตั้งแต่ฝันว่า ถูกแวมไพร์กัดหลายๆอย่างยังไม่เข้าสภาพดี  ตั้งแต่ความเจ็บป่วยอ่อนเพลีย  แม่บ้านและคนสวนลาออก  กว่าจะจัดการไปได้แต่ละเรื่องยิ่งทำให้อ่อนเพลียยิ่งขึ้นไปอีก  ผ่านไปอีกกว่าหนึ่งเดือน  หูซ้ายที่ช่างสระผมคนใหม่ใช้น้ำยาสระผมผลักดันเข้าไปในหู   ยังไม่ปกติดี  แม้ว่าจะเริ่มดีขึ้นมาได้สักสองสามวัน   อดทนเพราะไปหาหมอหูมาสองหมอสี่หนแล้ว  หมอจะรำคาญได้   บางอย่างก็ต้องปล่อยให้ร่างกายค่อยๆรักษาตัวหายไปเอง   ยังมีเพียงเสียงจิ้งหรีดตัวเล็กๆร้องระงมในหู   ชาติก่อนคงตบบ้องหูมาหลายคน 

                 เลือกพักที่เมือง Varenna   เมืองริมทะเลสาบโคโม่  บรรยากาศแต่ละเมืองคล้ายๆกัน  เมืองท่องเที่ยวเล็กๆน่ารักริมทะเลสาบ   มีบ้านและโรงแรมอัดแน่นติดกันอยู่ในเมืองและริมทะเลสาบ

                โรงแรมที่พักอยู่ติดทะเลสาบมีชายหาดอยู่ริมทะเลสาบ   มีคนนั่งนอนเล่นหลายกลุ่ม   เมืองท่องเที่ยวของอิตาลี  ตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงาม  โดยเฉพาะ วิสทีเรีย สีม่วง สีขาว และสีชมพูที่กำลังให้ดอกสวยงามค่ะ  

                อากาศเย็นสบาย  ยามเย็นเดินเล่นไปบนถนนรอบทะเลสาบ  วันหยุดอีสเตอร์ผู้คนแน่นขนัด   เรามาเดินเก็บภาพอีกครั้งยามเช้า  และสำรวจท่าเรือข้ามฟาก  ที่จะนำรถยนต์ข้ามทะเลสาบไปยังอีกฝั่งของทะเลสาบเพื่อเป็นทางลัดกลับไปสวิตเซอร์แลนด์โดยไม่ต้องขับอ้อมไปรอบทะเลสาบ

               ที่ท่าเรือ  มีผู้คนและรถทุกชนิด รถบัส รถยนต์ รวมถึงรถจักรยานมาเตรียมขึ้นเรือข้ามทะเลสาบ   ไปยังเมืองอื่น  ได้แก่ Bellagio และ Menaggio  

เรือโดยสารกำลังมา