1 มีค 61 ตะพาบ - "ทำบุญ" แจกหัวพลับพลึงกทม.จนกว่าจะหมด
วันพระใหญ่ มาฆบูชา ร่วมงานตะพาบ ตามหัวข้อของ อาจารย์สุวิมลค่ะ เมื่อกล่าวถึงการทำบุญ คนมักจะคิดถึงเฉพาะการทำทานมาก่อน ทั้งที่จริงบุญสามารถทำได้ถึงสิบวิธีการดังข้างล่าง
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ คือ สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ หรือกล่าวอย่างง่ายๆว่า การกระทำที่เกิดเป็นบุญ เป็นกุศล แก่ผู้กระทำดังต่อไปนี้
๑. บุญสำเร็จได้ด้วยการบริจาคทาน (ทานมัย) คือการเสียสละนับแต่ทรัพย์ สิ่งของ เงินทอง ตลอดจนกำลังกาย สติปัญญา ความรู้ความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นโดยส่วนรวม รวมถึงการละกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ออกจากจิตใจ จนถึงการสละชีวิตอันเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเพื่อการปฏิบัติธรรม
ประเภทของทาน - อามิสทาน คือการให้วัตถุสิ่งของ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ข้าว(อาหาร)และน้ำเป็นทรัพย์โดยปรมัตถ์ สิ่งอื่นเป็นทรัพย์โดยบัญญัติเพราะเกิดจากการสมมุติของของคนที่ทำให้เกิดความจำเป็น เช่น เสื้อผ้าถ้าใส่กันอาย เงินทองเพชรที่กินไม่ได้และไม่มีประโยชน์ (อามิสแปลว่าวัตถุสิ่งของ)
- ธรรมทาน คือการให้ที่ไม่เป็นวัตถุสิ่งของ ได้แก่ ให้สติ ให้ธรรมะ สอนคุณธรรม ให้กำลังใจ ให้อภัย(อภัยทาน) ให้วิทยาทาน
- อภัยทาน คือการยกโทษด้วยการไม่พยาบาทจองเวร บัณฑิตกล่าวเป็นทานที่ให้ได้ยากที่สุด โดยเฉพาะการให้อภัยศัตรูหรือผู้ที่ทำร้ายตนอย่างสาหัส
๒. บุญสำเร็จได้ด้วยการรักษาศีล (สีลมัย) คือการตั้งใจรักษาศีล และการปฏิบัติตนไม่ให้ละเมิดศีล ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ หรือศีล ๘ ของอุบาสกอุบาสิกา ศีล ๑๐ ของสามเณร หรือ ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุ เพื่อรักษากาย วาจา และใจ ให้บริสุทธิ์สะอาด พ้นจากกายทุจริต ๔ ประการ คือ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ ละเว้นจากการลักทรัพย์ ละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม และเสพสิ่งเสพติดมึนเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท วจีทุจริต ๔ ประการ คือไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดปด ไม่พูดเพ้อเจ้อ และไม่พูดคำหยาบ มโนทุจริต ๓ ประการ คือ ไม่หลงงมงาย ไม่พยาบาท ไม่หลงผิดจากทำนองคลองธรรม ๓. บุญสำเร็จได้ด้วยการภาวนา (ภาวนามัย ) คือการอบรมจิตใจในการละกิเลส ตั้งแต่ขั้นหยาบไป จนถึงกิเลสอย่างละเอียด ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นโดยใช้สมาธิปัญญา รู้ทางเจริญและทางเสื่อม จนเข้าใจอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค เป็นทางไปสู่ความพ้นทุกข์ บรรลุมรรค ผล นิพพานได้ในที่สุด ๔. บุญสำเร็จได้ด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ (อปจายนมัย) คือการให้ความเคารพ ผู้ใหญ่และผู้มีพระคุณ ๓ ประเภท คือ ผู้มี วัยวุฒิ ได้แก่พ่อแม่ ญาติพี่น้องและผู้สูงอายุ ผู้มี คุณวุฒิ หรือคุณสมบัติ ได้แก่ ครูบาอาจารย์ พระภิกษุสงฆ์ และผู้มี ชาติวุฒิ ได้แก่พระมหากษัตริย์ และเชื้อพระวงศ์ ๕. บุญสำเร็จได้ด้วยการขวนขวายในกิจการที่ชอบ (เวยยาวัจจมัย) คือ การกระทำสิ่งที่เป็นคุณงามความดี ที่เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนรวม โดยเฉพาะทางพระพุทธศาสนา เช่น การชักนำบุคคลให้มาประพฤติปฏิบัติธรรม มีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น ในฝ่ายสัมมาทิฎฐิ ๖. บุญสำเร็จได้ด้วยการให้ส่วนบุญ (ปัตติทานมัย) คือ การอุทิศส่วนบุญกุศลที่ได้กระทำไว้ ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งปวง การบอกให้ผู้อื่นได้ร่วมอนุโมทนาด้วย ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ ได้ทราบข่าวการบุญการกุศลที่เราได้กระทำไป ๗. บุญสำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนา (ปัตตานุโมทนามัย) คือ การได้ร่วมอนุโมทนา เช่น กล่าวว่า สาธุ เพื่อเป็นการยินดี ยอมรับความดี และขอมีส่วนร่วมในความดีของบุคคลอื่น ถึงแม้ว่าเราไม่มีโอกาสได้กระทำ ก็ขอให้ได้มีโอกาสได้แสดงการรับรู้ด้วยใจปีติยินดีในบุญกุศลนั้น ผลบุญก็จะเกิดแก่บุคคลที่ได้อนุโมทนาบุญนั้นเองด้วย ๘. บุญสำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม (ธัมมัสสวนมัย) คือ การตั้งใจฟังธรรมที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อน หรือที่เคยฟังแล้วก็รับฟังเพื่อได้รับความกระจ่างมากขึ้น บรรเทาความสงสัยและทำความเห็นให้ถูกต้องยิ่งขึ้น จนเกิดปัญญาหรือความรู้ก็พยายามนำเอาความรู้และธรรมะนั้นนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สู่หนทางเจริญต่อไป ๙. บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม (ธัมมเทสนามัย) คือ การแสดงธรรมไม่ว่าจะเป็นรูปของการกระทำ หรือการประพฤติปฏิบัติด้วยกาย วาจา ใจ ในทางที่ชอบ ตามรอยบาทองค์พระศาสดา ให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่บุคคลอื่น หรือการนำธรรมไปขัดเกลากิเลสอุปนิสัยเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา มาประพฤติปฏิบัติธรรมต่อไป ๑๐. บุญสำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ตรง (ทิฏฐชุกัมม์) คือ ความเข้าใจในเรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ สิ่งที่เป็นแก่นสารสาระหรือที่ไม่ใช่แก่นสารสาระ ทางเจริญทางเสื่อม สิ่งอันควรประพฤติสิ่งอันควรละเว้น ตลอดจนการกระทำความคิดความเห็นให้เป็นสัมมาทิฏฐิอยู่เสมอ บุญกิริยาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการนี้ ผู้ใดได้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือยิ่งมากจนครบ ๑๐ ประการแล้ว ผลบุญย่อมเกิดแก่ผู้ได้กระทำมากตามบุญที่ได้กระทำ ยิ่งได้มีการเตรียมกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ ตั้งใจจรดเข้าสู่ศูนย์กลางกาย หยุดในหยุด เข้าไปแล้วก็ยิ่งได้รับบุญมหาศาลตามความละเอียดประณีตที่เข้าถึงยิ่งๆ ขึ้นไป
สัปดาห์นี้ รื้อแปลงพลับพลึงกทม. หรือพลับพลึงแมงมุม ปลูกมาเป็นสิบปี ให้ดอกเรื่อยๆกลิ่นหอมหวาน กว่าจะปลูกจนได้เต็มแปลงแน่นขนัดก็ใช้เวลานานโข แต่เมื่อเวลาผ่านไปอยากปรับเปลี่ยนลุคของสวนบ้านบ้าง ขุดออกได้หัวหลายพันหัว คล้ายได้ยินเสียงหัวพลับพลึงร้องไห้ คิดถึงก็คิดถึงครั้งหนึ่งเคยรักกันให้ความสวยงาม แต่ทุกสิ่งในโลกมีการเปลี่ยนแปลงต้องยอมรับ ถ้ามีที่ไปดีมีคนรักก็อยากให้เธอได้ไปดี ไปอยู่กับคนใหม่ที่เขารัก และพร้อมจะดูแลต่อ
ท่านใดอยากได้หัวพลับพลึงกทม. ไปปลูกเป็นแถวเป็นแนวขอบที่ดินเพิ่มความสวยงาม กรุณาหลังไมค์ที่อยู่และปริมาณที่ต้องการ มาด่วนภายใน เที่ยงวันอาทิตย์นี้ค่ะ เพราะหลังจากนี้หัวคงไม่ค่อยดีแล้ว ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะเป็นการทำบุญ เข้ากับหัวข้อตะพาบค่ะ
วันนี้ทำบุญไปสองรายการแล้ว กล้องถ่ายภาพ canon 60 d ใช้งานน้อยมาก อยู่ๆเกิดเสียกดติดบ้างไม่ติดบ้าง จะเอาไปไหนก็ไม่ไว้ใจเพราะภาพถ่ายเป็นเวลาสำคัญแค่ช่วงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เมนบอร์ดเสียค่าซ่อม 5,500 บาท ตั้งใจทิ้งไม่ซ่อมแล้ว ช่างชอบมากอยากได้สภาพดี รุ่นนี้ใช้งานดีขอซื้อ 4,500 จัดไปครบชุดดีกว่าวางทิ้งเฉยๆ ได้ความสุขทั้งสองฝ่ายค่ะ
|
ขอบใจที่แวะไปบอกครู มาอ่าน ตะพาบ กิโลเมตรที่ 198 หัวข้อ "ทำบุญ" จ้ะ
เขียนเรื่องของ "บุญ" ตามหลักศาสนาพุทธ ได้ละเอียด
มากเลยจ้ะ การทำบุญ แบ่งเป็น 10 ประเภท เช่น การบริจาค
การรักษาศีล การภาวนา ประพฤติดี อ่อนน้อม ใฝ่หากิจกรรมที่
ชอบ ให้ส่วนบุญอุทิศส่วนกุศล การอนุโมทนา ฟังธรรม แสดงธรรม และเข้าใจเรื่อง บาปบุญคุณโทษ
ทั้ง 10 ข้อ ดังกล่าวข้างต้น ใครทำได้ ก็ได้บุญและ
โอกาสที่จะเดินทางไปสู่ การหลุดพ้นจาก วัฏสงสาร ได้ง่ายขึ้น
จ้ะ ครูเชื่อเช่นนั้น ข้อที่ ครูก็ยังทำไม่ได้ อิอิ คือ การภาวนา ข้อ อื่น ๆ ก็ทำได้พอสมควร เท่าที่โอกาส จะอำนวยให้ทำได้จ้ะ
ส่วนการแจกหัวพลับพลึงแก่สมาชิกเพื่อน ๆ ชาวบล็อก
โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะถือเป็นการทำบุญ ตามหัวข้อ
ตะพาบครั้งนี้ เข้าลักษณะ การให้ทานแบบ อามิสทาน เนาะ
น่าเสียดายบ้านครูเป็นตึกแถว ปลูกไม่ได้ ไม่งั้นจะมารับ ทาน
ครั้งนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ขออนุโมทนาในความตั้งใจดีของ
น้องเย็นด้วยนะจ๊ะ แค่นี้ นองก็ได้บุญแล้วจ้ะ
โหวดหมวด ข้อคิดและธรรมะ