Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

เกาหลี YongPyong Ski Resort เกาะนามิ อุทยานโซรัคซาน etc.









winter love song-Chuh eum boo - ^-^


Unforgetable Love - Korean Drama_Winter Sonata


สืบเนื่องจากกระทู้นี้

//www.ranthong.com/smf/index.php?topic=18720.0

หลังจากเฝ้ารอการเปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตร
หลังจากเฝ้ารอลุ้นมานานอย่างใจจดจ่อว่า จะได้ไป หรือไม่ได้ไป
แต่ในที่สุด 20 ท่าน ก็ได้ไปใช้ชีวิตวัยรุ่นกันที่เกาหลีใต้แดนโสม กันสมปรารถนา...

...........

เข็มกลัดหน้าตาแบบนี้ มีแจกสมาชิกที่ร่วมเดินทางทุกท่าน
สะสม ครบ10 อัน รับของรางวัลพิเศษได้ทันที
เป็นตั๋วเดินไป-กลับกรุงเทพฯ-ธิเบต แดนหลังคาโลก ไม่จำกัดที่นั่ง !!! (ฮา)





***ขอบคุณ spring international travel ที่ทำออกมาแจกนะครับ
และขอบคุณ miss_design ที่ช่วยออกแบบให้โดยไม่คิดค่าไอเดีย (บีบคอแบบนี้ อ้าปากไม่ออกแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ)

........


...
9 ธันวาคม 2008 คณะร้านทองแทรเวลกรุ๊ป เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิกันพร้อมหน้า
แม้ว่าบางท่านจะไม่เคยเจอหน้าค่าตากัน แต่เพียงแค่ได้พบก็เริ่มเม้าท์และถ่ายภาพกันเมามัน

สืบเนื่องมาจากการต้องการระบายผู้โดยสารตกค้างของสายการบิน เอเชียน่าแอร์ไลน์ ที่เราจะเดินทางไป
ทำให้สมาชิกในกลุ่มสองท่าน จำต้องเดินทางแยกไปกับสายการบิน โกเรียนแอร์ ซึ่งจะไปถึงช้ากว่ากรุ๊ปใหญ่ 20 นาที(ตามตารางเวลา)
สองท่านผู้เสียสละนั้นคือ นายแสนดี และ คู่ชีวิต ขอขอบคุณในความอะลุ้มอล่วยช่วยเหลือกันตามสถานการณ์มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ


5-6 ชั่วโมงบนฟ้า
ไม่ช้าไม่นานเกินไป ก็ได้สัมผัสอากาศเย็นเฉียบของสนามบินอินชอน ของ เกาหลีใต้
ด้วยความโอ่โถงกว้างใหญ่ของสนามบินค่อนข้างใหม่แห่งนี้
ทำให้ สองท่านที่ว่า พลัดหลงกับกลุ่มใหญ่ไปกว่าหนึ่งชั่วโมง

กว่าจะได้ผ่านด่านตรวจ ต.ม.เกาหลี
ก็เลยกลายเป็นกลุ่มสุดท้ายของไฟลท์
ได้ลุ้นกันเหนื่อยว่าจะมีเจ้าหน้าที่คนไหนสงสัยในความไม่ชอบมาพากลของพวกเราไหม
แต่สุดท้ายทุกคนก็ผ่านฉลุย
ด้วยความหล่อความสวยของสมาชิก จึงทำให้ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนสงสัยว่าเราจะเข้าไปแฝงตัวทำงานในประเทศเขา นั่นเอง...






เหลียวไปเห็นแว่นสายตา(ยาว)บนแท่นไม้ วางไว้บริการผู้สูงวัย
ผู้ที่ต้องการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ผ่าน ต.ม. แต่มองไม่เห็น
แว่นนี้มีหลายอัน แต่ละอันมีความยาวต่างขนาดกัน

แหม..ไอเดียกิ๊บเก๋เท่ห์จริงๆ เน้อะ



สนามบินนานาชาติอินชอน (Incheon International Airport) เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของ ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้
เพราะว่ามันตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างเกาะสองเกาะคือ Yeongjong-Yongyu Island (ยางจอง กับ ยองยู?)
จากสนามบินจะเดินทางเข้าแผ่นดินก็เลยต้องโดยสารเรือขนานยนต์ขนาดใหญ่แบบนี้



สภาพอากาศที่เกาหลีขณะนั้น ประมาณ 3 องศาเซลเซียส
หมอกหนาทึบ วิสัยทัศน์มีระยะไม่ถึง 500 เมตร โดยประมาณ
(ตอนเครื่องบินแลนดิ้ง ใครมองออกไปนอกหน้าต่างคงตื่นเต้นเกินคนหลับตา เพราะว่าหมอกหนาจนมองไม่เห็นอะไรเลย)


ภาพนี้เป็นแนวราวข้างเรือขนานยนต์ครับ



จากสนามบินอินชอน ไป โซล จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที
แต่เป้าหมายแรกของเราอันดับแรกนี้
คือ เกาะนามิ Nami Island

แต่ นโปเลียน กล่าวเอาไว้ว่า "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง"
เพื่อเป็นการสนองตอบประโยคอมตะของแม่ทัพใหญ่ผู้นี้
คุณเตย ไกด์ไทย กับ คุณพิณ ไกด์สาวชาวเกาหลี จึงพาคณะของเราไปยังภัตตาคารกันก่อน

อาหารมื้อนี้ คือ DUKKALBI หรือไก่ผัดเผ็ดบาร์บีคิวเป็นเนื้อไก่ที่หั่นออกเป็นชิ้นพอคำ คลุกเคล้าด้วยซีอิ๊วเครื่องปรุง และหมักทิ้งไว้จนได้ที่ จึงนำเนื้อไก่และผักมาผัดบนกระทะยักษ์ รับประทานพร้อม กิมจิ ซุปสาหร่าย และข้าวสวย

เห็นทีแรก ทุกคนก็ตกใจ ว่าทำไมกระทะมันใหญ่ เต็มไปด้วยเนื้อหาสาระปานนั้น
ทว่าเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
กระทะใหญ่ๆ ก็เหลือภาพอย่างที่เห็น... ชะเอิงเงิงเงย...




ที่เกาะนามิ
วัยรุ่นทุกคน ก็แปลงโฉมกันเป็นที่สนุกสนาน
เสื้อผ้าสีเปรี้ยวจี๊ดที่อยู่เมืองไทยไม่กล้าใส่เดินตลาด ถูกงัดออกมาผลัดเปลี่ยนกันครึ้กครื้น

อาทิเช่น พี่ๆน้องๆ Colorful Gang ตามภาพ
(แก๊งนี้เฟี้ยวได้ใจจริงๆ ครับพี่น้อง คราวหน้าหากได้ร่วมทริปอีก รับประกันความมันส์ 1000% !!!)



ภาพนี้คือ ทางเดินไปท่าเรือ ที่จะข้ามไปเกาะนามิครับ
หิมะกองกระจายตามพื้น เพราะคืนก่อนจะมา มีหิมะตกปรอยๆ





เกาะนามิเป็นเกาะที่สร้างขึ้นจากการสร้างเขื่อนชองเปียงกั้นแม่น้ำบูฮันชื่อของเกาะนามินั้นถูกตั้งตามชื่อของ นายพลนามิ ซึ่งเป็นนายทหารที่มีชื่อเสียงมากในสมัยราชวงศ์โชซอน

ก่อนหน้าที่ซีรีส์ Winter Sonata หรือเปลี่ยนชื่อแซ่ เป็น Winter Love Song จะโด่งดังไปทั่วจักรวาล
เกาะนามิเป็นเสมือนสวนสาธารณะเล็กๆ ที่ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมายขนาดนี้
แต่พอซีรีส์นี้เรียกน้ำตาผู้คนไปหลายล้านลิตร แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็ถูกสร้างเพิ่มขึ้นมาภายในเกาะ




ที่นี่เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าของฝากชื่อ Have a Good Dream



นี่เป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสาร Information Center น่ารักดี



จากท่าเรือบนเกาะนามิ เดินตรงดิ่งเข้าไปเรื่อยๆ
จะเป็นทิวสนยาวสุดลูกหูลูกตา (ถ้าหมอกหนาทึบนะ อิอิ)
สองข้างทางก็จะเป็นอาคาร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนม พิพิธภัณฑ์ Winter Sonata และ ฯลฯ

และที่สะดุดตามากที่สุดอย่างหนึ่งคือรูปปั้นของพระเอกนางเอก..



ส่วนนี่เป็นภาพแอบถ่าย (หุหุ)
หนุ่มสาวเกาหลีจู๋จี๊หวีทแหววกันบนเกาะโรแมนติก
ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ใกล้ชิดกันหน้ากองไฟธรรมชาติแบบนี้หนอ
อ๊ะ...ขอโซจู มาชนจอกกันสักขวดสองขวดด้วยปะไร...!




อาคารแสดงภาพจาก ซีรีส์ Winter Sonata
สำหรับแฟนๆ โดยเฉพาะ

ใครดูหนึ่งรอบ..มาที่นี่ คงได้ยิ้ม

ใครดูสองรอบ..มาที่นี่ คงได้กรี๊ดด...

ใครที่ดูซีรีส์เรื่องนี้เกิน 3 รอบ คบไม่ได้!
(แสดงว่ามันบ้าไปแล้ว)




มาดูอาหารการกินกิ๊บเก๋กันบ้าง

นอกจากกาแฟนามิร้อนๆ หอมกลมกล่อม (แต่ไม่ค่อยอร่อยลิ้น! อิอิ)
ก็มีขนมแป้งทอดนามิใส้ถั่วร้อนๆ
(อันนี้อร่อยครับ ลองชิมแล้วติดใจ คลับคล้ายคลับคลาว่ามันเรียกว่า ซูโจ or something)



กับหมูปิ้งนามิ
น้ำหมักของเขาหอมดีครับ กินร้อนๆ ตอนหิวจัดๆ จนหน้ามืด รับรองอรอ่ยมาก..(ฮ่าๆ)

ดูหน้าตาของเครื่องปิ้งซะก่อน..




ช่วงธันวาคม ของเกาหลีใต้ ยังไม่มีหิมะตกให้เห็นขาวโพลน
ส่วนใบไม้เปลี่ยนสี ก็เปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว
กิ่งก้านของทิวสน ก็เลยโหลนเลี่ยนเตียนโล่ง อย่างที่เห็น
(แต่ก็ยังสวยนะ)



เดินเลยทิวแรกไปอีกหน่อย จะมีให้เลือกอีกสองทิวสน
เลี้ยวไปทางขวานะครับ จะเจอกับภาพนี้

(กระซิบ..กว่าจะได้ภาพทางเดินว่างๆ มาแบบนี้ ต้องรอจนคนหายไปหมด ไม่ง่ายเลยจริงๆ)



มีโอกาสมาเยือน ขอแนะนำให้มาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
ไม่งั้นก็เดือนกุมภาพันธ์ครับ(เขาบอกมา) จะเจอหิมะขาวโพลน

เดินกันจนเหนื่อยก็แวะทานอาหารกันอีกหน่อย

อันนี้เป็นหมูกับเห็ดสารพัดพันธุ์ ครับ
อากาศหนาวๆ ได้เจอแบบนี้ก็ แจ่มจริงๆ
ได้จิบโซจูชนจอกกันเรื่อยๆ ยิ่งนับว่าสุดยอดจริงๆ... อิอิ



จากโปรแกรมเดิม
มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
โดยเป้าหมายต่อไป จะเดินทางไปยัง ยงเพียงสกีรีสอร์ท โดยไม่แวะที่ไหน
เพราะไกด์พิณ ชาวโกเรียนสาวสวยบอกว่ามันใช้เวลาเดินทางไกลพอประมาณ...

กว่าจะเดินทางถึง ยงเพียง สกีรีสอร์ท
อันเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำ Winter Sonata ก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่ม
อาณาจักรยงเพียง ประกอบไปด้วยรีสอร์ทและตึกคอนโดมากมายหลายตึก
ห้อมลอมลานสกีขนาดใหญ่ สูงและสวยที่สุดในเกาหลี (เขาคุยว่างั้นนะ)

อากาศหนาวเย็น จนหูชาหน้าตึง
แม้ที่นอนจะเป็นแบบปูพื้น (เกาหลีแต๊ๆ)
แต่วัยรุ่นทุกคนในกลุ่มบอกว่า ไม่มีปัญหา
ยังไม่มีใครชรากันสักหน่อย (ฮี่ฮี่)


ผมไม่แน่ใจว่า นอกจากที่พักแบบเป็นหลังๆ สำหรับสมาชิกยงเพียง (ซี่งนักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าพักไม่ได้)แล้ว
จะมีที่พักแบบไหนที่ให้วิวตรงระเบียงได้ดีไปกว่านี้อีกไหม
แต่ได้เท่าที่เห็นนี้ ผมว่ามันห้าดาวแล้วนะครับ...




หลังจากทุกคนนอนหลับกันด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
สมาชิกจำนวนหนึ่งก็ออกมาเดินรับลมหนาวกันขำๆ (แต่หัวเราะไม่ค่อยออก)

เพราะ เทอร์โมมิเตอร์บนเสา บอกว่า ติดลบ 1
!!!



Ski Lines ลานสกีที่ยงเพียงจะแบ่งเป็นหลายระดับ
ตั้งแต่แนวราบแทบจะเรียบ อันนี้เอาไว้หัดเล่น
จนไปถึงระดับโปรฯ ที่ต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปไกลจนถึงยอดเขา


บริเวณรอบๆ ลานสกี
จะมีร้านฮอทดอก แซนวิช และอาหารชนิดอื่นกระจัดกระจาย
และที่ขาดไม่ได้สำหรับคอกาแฟคือ สตาร์บักซ์
ใครเป็นสาวกกาแฟชื่อนี้ต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปบนชั้นสองของตึกทำการฯ

ส่วนชั้นล่างเป็นแหล่งเช่า ski sledge หรือกระดานสกีแบบนั่ง
และ อุปกรณ์สกีอื่นๆ




สนนราคาค่าเช่าชุดสกี อันประกอบไปด้วย สกี รองเท้าสวมก่อนใส่สกี และ ไม้ค้ำ อยู่ที่ประมาณ 30000 วอน ต่อชุดต่อวัน

(10000 วอน = 255-270 บาท แต่รู้สึกจะมีสมาชิกบางท่านแลกมาในอัตรา 10000วอน = 430บาทนะครับ
ฮี่ๆๆ...เอามาแซวให้ช้ำใจเล่น อย่าว่ากันนะคร้าบบบ..ดื่มๆ)

หรือ อาจต่อรองได้มากกว่านี้ถ้าอ้อนเก่งๆ (อิอิ)
อ๊ะๆ ...ได้ข่าวว่ามีบางคนแอบไปถามเจ้าหน้าที่
เขาบอกว่า วันธรรมดาถูกกว่าราคานั้นมาก ยิ่งหากเช่าไม่ถึงวัน จะยิ่งได้ถูกลงอีกนะ



ไกด์กำลังแนะนำสถานที่และวิธีเช่า - คืนชุด




และแล้ว

โรงเรียนสกีระดับอนุบาล ก็เปิดคลาสขึ้นบนพื้นเรียบๆ
มีโค้ชหนุ่มรูปหล่อหนึ่งนายมาช่วยสาธยายลำดับขั้นของการฝึก

ไม่ว่าจะเป็นการวางเท้า การใช้ไม้ค้ำ การเบรค และ วิธีล้มอย่างถูกต้อง!
ด้วยมั่นใจว่า กว่าจะปั่นจักรยานเป็นต้องล้มฉันใด
กว่าจะเล่นสกีได้ก็ต้องมีเจ็บตัวแน่นอน ฉันนั้น

แต่ภาษาอังกฤษของโค้ชหนุ่มเสื้อแดงนี้ เป็น Korean English โดยแท้
ให้ฟังกี่รอบก็แยกแยะไม่ออกว่า คำไหน อังกฤษ คำไหนเกาหลี
ชาวร้านทองแทรเวลคลับ ก็เลยไม่ค่อยจะสนใจว่าแกพูดอะไรเท่าไรนัก
มองท่าและทำตามอย่างเดียวเป็นพอ



ภาพนี้มีบรรยากาศ Contrast เป็นกรณีพิเศษ
สังเกตความแตกต่างของด้านซ้ายและขวาของภาพสิครับ

บอกแล้ววว...ว่า colorful girls gang นี้มีดีที่โพสท์ท่ากับความฮาไร้ขีดจำกัด ฮี่ฮี่ฮี่
เฟี้ยวจริงๆ...




จากบริเวณลานสกี
เข้าไปยังที่ทำการ และขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง
จะมีกระเช้าโดยสาร สำหรับเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาสูงสุดของยงเพียง


ท่ามกลางความหนาวเหน็บของอากาศ
ยังคงมีบรรยากาศสวยๆ ที่ยากจะลืมเลือน ให้ได้เห็นตลอดเส้นทาง 30 นาทีสู่เบื้องบน











เมื่อเดินทางมาจนถึงยอดเขา ก็ได้พบกับความหนาวเหน็บชนิดที่ไม่เคยเจอมาก่อน
หิมะตกนั้นนับว่าหนาวเพียงพอแล้ว แต่ลมกระโชกที่พัดจนตัวแทบปลิวนี้
ทำเอาสมาชิกกระโดดโลดเต้นกรี๊ดกร๊าดกันถ้วนหน้า
ใครมีถุงมือ ที่ครอบหู หมวกไหมพรม ก็จำต้องควักออกมาใช้กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ใครไม่เคยคิดว่าที่ครอบหูมันจำเป็นสักเท่าไร ก็ได้มาประจักษ์ถึงความสำคัญของมันกันก็คราวนี้

เพราะไม่ถึงห้านาทีที่เดินถ่ายภาพ ผมแทบไม่รู้สึกว่ามีใบหูอยู่
มันปวดหนึบ ทว่าชาจนไม่รู้สึกว่ามีการสัมผัส
พอเริ่มหวั่นๆ ว่าติ่งหูจะแข็งและหักร่วง โดนลมพัดหายไป
ก็รีบกวักไม้กวักมือเรียกมิตรสหาย ให้วิ่งหลบหนาวไปพึ่งร้อนข้างในอาคารกันอลหม่าน

แต่เป็นความอลหม่านที่มันสสสสส...พะยะค่ะ..



บริเวณยอดเขา
มีบางพื้นที่ที่อันตราย คือ อาจจะมีหลุมบ่อ ที่หิมะปกคลุมจนมองไม่เห็น
หากไม่ระมัดระวังอาจพลัดร่วงลงไปจนบาดเจ็บก็เป็นได้
ทางเจ้าหน้าที่จึงจัดทำป้ายเตือนเอาไว้

ลองอ่านดูครับ...



ภายในตัวอาคาร
จะมีโมไบล์ต้นไม้ที่มีไว้ให้นักท่องเที่ยวที่เป็นคู่รักเขียนชื่อใส่ริบบิ้นสีต่างๆ แล้วเอาไปผูกไว้
คลับคล้ายคลับคลากับแม่กุญแจรูปหัวใจ ที่กำแพงเมืองจีนและอีกหลายๆ สถานที่
ประหนึ่งว่า ทำอย่างนี้แล้ว คู่รักนั้นจะรักกันนิรันดร ..(วิดวิ้ว)
อีกทั้งยังมี สตอรี่บอร์ด ของที่ระลึกและมุมกาแฟ
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ เกี่ยวข้องกับ Winter Love Song หรือ Winter Sonata ทั้งนั้น
คัตเอาท์ภาพพระเอกกับนางเอก เป็นจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเข้าคิวไปถ่ายเป็นที่ระทึก

บ้างก็ปลอมตัวเป็นนางเอกตากลม
บ้างก็ปลอมตัวเป็นพระเอกตัวกลม...




แม้จะฝึกสกีกันแค่ครึ่งวัน กับ สองชั่วยาม
แต่บางคนก็แอบมากระซิบถามว่าจะขอให้จัดทริปมาสกีอย่างเดียวสักหลาย ๆวันหน่อยจะได้ไหม
เพราะเริ่มจะติดใจ ไถลได้ เลี้ยวได้เป็นที่สนุกสนาน
ผมเริ่มซาวเสียงดูปรากฎว่า มีคนยกมือมากพอสมควร..
...
เพราะฉะนั้น..เพื่อสนองปัญหาคาใจ
ทริปสกีล้วนๆ และเที่ยวสถานที่อื่นๆ เป็นส่วนประกอบ
กำลังจะถูกจัดขึ้นเร็วๆ นี้ครับ
โปรดติดตามตอนต่อไป..
...


เขาว่ากันว่า
พอๆ กับคอสุราที่ไม่ได้ร่ำโซจู เมื่อไปแดนโสม
หากไม่ขึ้นโซรัคซาน ก็เหมือนไปไม่ถึงเกาหลี (อย่างนั้นเลย?)

อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน แดนมหัศจรรย์แห่งขุนเขา โซรัคซานไม่ใช่เขายอดเดี่ยว แต่เป็นหมู่เขาอันสลับซับซ้อน
ฤดูใบไม้ร่วงจะมีสีสันหลากหลาย ฤดูหิมะมันก็จะขาวโพลนไปทั่วทุกทิศทาง
มองเลยออกไปทางด้านหน้าของอาคารชมวิว ก็จะเห็นชายทะเล เห็นขอบฟ้าของเกาหลี


ผ่านประตูเข้าอุทยานฯ ก็จะเจอภาพเหล่านี้







จากเส้นทางนี้ จุดหมายต่อไปคือ

วัดชินฮึงซา วัดเก่าแก่ในนิกายเซน สร้างขึ้นในปีค.ศ. 652 ในระแวกใกล้เคียงกับที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน ต่อมาได้ถูกไฟป่าเผาทำลายวัดลงถึงสองครั้ง จึงต้องสร้างใหม่ในครั้งที่สามในปี 1645 ตัววัดจริงตั้งอยู่บนผาชัน มองลงมาเห็นทัศนียภาพอันงดงามของทิวเขาที่แวดล้อมอยู่โดยรอบ
นอกจากนี้วัดชินฮึงซา ยังมีภาพวาดที่เกี่ยวเนื่องกับลัทธิเต๋า และพุทธศาสนาที่น่าสนใจอีกมากมาย


ทัศนียภาพระหว่างทางครับ...




สะพานข้ามลำธารเล็กๆ ซึ่งเกิดจากน้ำแข็งละลายจากบนยอดเขา










และเมื่อได้นั่งกระเช้าโดยสารขนาดใหญ่ (จุได้หลายสิบคน)
เดินทางขึ้นไปบนยอดเขาของ Seoraksan National Park
หลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่คิดว่ามันจะหนาวได้ใจขนาดนี้"

แม้จะไม่มีหิมะตก แต่กระแสลมที่พัดแรงปานกลาง
โอบเอาความหนาวเย็นจากหุบเขาเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า
เดินเตร็ดเตร่เก็บภาพอยู่ภายนอกได้ไม่นาน
ก็ต้องระหกเข้าไปรับไออุ่นหน้าฮีตเตอร์ภายในตัวอาคารกันถ้วนหน้า

ทัศนียภาพ บริเวณนี้ ณ เวลาประมาณห้าโมงเย็น
เป็นแบบนี้ครับ..




...


อันนี้เป็นบรรยากาศ Sorak Hanwa Resort ตอนเช้าๆ ครับ
ที่นี่ มี Sorak Waterpia อันเป็นบ่อน้ำแร่กลางแจ้งและสระว่ายน้ำในร่ม

ได้ข่าวมาว่า ห้องอาบน้ำแร่ ซาวน่าของทางสุภาพสตรีมีแม่บ้านยืนคุมมาดเข้มอยู่ด้วย
ใครไม่ยอมนู้ด เขาก็จะไม่ให้เข้าไป
ส่วนทางฝั่งผู้ชาย ไม่มีคนยืนคุมอย่างว่า
แต่ทุกสายตาจะหันมามองเป็นตาเดียว ถ้าเราเดินนุ่งกางเกงว่ายน้ำเข้าไป

ว่าจะแอบเก็บภาพบรรยากาศภายในมาฝาก
แต่ไม่สามารถครับ...แหะๆ



ป.ล.
ณ ที่แห่งนี้ ในราตรีที่ผ่านไป
ได้เกิดปาร์ตี้ยาอี...(อีโซจู!) ขึ้น ณ ห้อง 5410 (จำได้ขึ้นใจ)
ประตูห้องก็เปิดไว้ เสียงคนไทยก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งตึก
ด้วยเพราะฤทธิ์โซจูแท้ๆ...
เข้าใจว่า คราวหน้าลูกทัวร์ของไกด์พิณ สาวเกาหลี จะไม่สามารถพักที่นี่ได้อีกแล้วเป็นแน่.. ฮ่าๆๆๆ


ออกจากที่พัก
Ranthong Travel Club Trip Number #1 ก็เดินทางไปหัดทำกิมจิที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลนัก

ดูหัวผักกาดขาวของเขานะครับ..ว่ามันใหญ่โตแค่ไหน
ไม่ใช่แค่โต แล้วกลวงกลางด้วยนะ
กลีบผักแต่ละชั้นอัดกันแน่นมากๆ..




นี่คือส่วนผสมที่ใช้ในการปรุงกิมจิทั้งหมดครับ
อะไรบ้างผมก็จำไม่ได้
รู้แต่ว่ามันมีปลาร้าเกาหลีด้วยล่ะ..เหอเหอ



ทำเสร็จแล้ว หน้าตาจะออกมาเป็นแบบนี้
ความเปรี้ยว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการหมัก หลังจากนี้
(เห็นหน้าแม่ครัวเกาหลีคนนี้แล้ว รับประกันได้ว่า กิมจิที่นี่อร่อยจังกึม)




ภายในสถานที่เดียวกันกับการหัดทำกิมจินี้เอง
ห่างออกมายี่สิบก้าว ชุดฮันบก มากมายก็มีให้เลือกทดลองใส่และถ่ายรูปเป็นที่ระทึก



ท่านใดสนใจชุดฮันบก
เชิญแวะเข้าไปชมเวบนี้นะครับ..

เขาลงรายละเอียดเอาไว้ดีเหลือเกิน

//wanitcha.exteen.com/20071001/entry

..................
ประเทศไทยเป็นเขตร้อน
ไม่เหมาะจะปลูกสตรอเบอรี่สักเท่าไร นอกจากใครที่เคยเดินทางไปภาคเหนือคงได้พบเห็นกันบ้าง บางพื้นที่
แต่สตรอเบอรี่ไทย รับรองว่าผลไม่ใหญ่ หอมและสดเท่าที่เห็นนี้แน่นอนครับ (อยากรู้ว่าหวานหอมแค่ไหน ถามสมาชิกที่เดินทางไปเนาะ..)




นี่ดอกสตรอเบอรี่ครับ



ส่วนนี่เป็นภาพรับประกันความหอมเย้ายวนของสตรอเบอรี่เกาหลี
พวกเราบางคนอดรนทนไม่ไหว
ถึงกับก้มลงไปดอมดมและกัดกินคาต้น ซะอย่างง้านนน...






..........

แม้จะไม่ตรงตามกำหนดในตารางการเดินทางที่เซ็ตไว้ตั้งแต่ทีแรก
เนื่องด้วย ไกด์พิณ สาวเกาหลีขออนุญาตจัดตารางใหม่ เพื่อให้เหมาะสมแก่สภาพอากาศ
และเส้นทางมากขึ้น
แต่ เอเวอร์แลนด์ (Everland) สวนสนุกท่ามกลางหุบเขาสูง โลโก้อย่างหนึ่งของเกาหลี
ก็มาอยู่ตรงหน้าของเราในช่วงบ่ายของวันที่ 12 ธค ในที่สุด

ทุกคนดูจะตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกันมาก กับ ดินแดนแห่งตัวการ์ตูนและสวนสนุกที่ใหญ่โตอลังการปานนี้
เพราะทริปนี้มีแต่วัยรุ่นทั้งนั้นขอร้าบบ....



ไกด์แจกแผนที่และนัดเวลาที่จะกลับมาพบกัน




หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถเดินให้ทั่วได้ภายในหนึ่งวัน
บางคนตั้งปณิธานว่าจะกลับมาอีก และ เจาะลึก เอเวอร์แลนด์เพียงอย่างเดียว! (เอากับเขาสิ!)


ของเล่น ของฝาก ของที่ระลึกมีมากจนเลือกไม่ถูก



ทำนองเดียวกับการท่องเที่ยวเส้นทางหลักอื่นๆ
ว่ากันว่าใครมาเอเวอร์แลนด์แล้วไม่ได้เล่น Express
รถไฟเหาะที่โครงสร้างทั้งหมดทำมาจากไม้แล้วล่ะก้อ...
นับว่ายังมาไม่ถึงเอเวอร์แลนด์ เลยทีเดียวเชียว
(ท่านไหนไปแล้วยังไม่ได้เล่น ขอให้กลับไปเล่นใหม่ มันส์ดีครับ..อิอิ)




เพียงแค่ห้าโมงเย็น เกือบๆ หกโมง
ดวงตะวันก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว
แสงสีในเอเวอร์แลนด์กลับดูน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
เห็นชาวเกาหลีบางคน จูงลูกจูงหลานผ่านประตูมากันตอนนี้

มีบางคนในกลุ่มเราถึงกับกระซิบว่าขออยู่ต่อได้ไหม ใครจะไปไหนก็ไป
เดี๋ยวหาแท็กซี่นั่งตามไปที่โรงแรมเอง

"แล้วรู้ไหมว่าเราพักโรงแรมไหน?"
"ไม่รู้.."
"อืม.. " (แป่ววว..)





ออกจาก EVERLAND
ก็เดินทางเข้าสู่กรุงโซล ครับ

ตลอดระยะเวลาเดินทางกว่าสองชั่วโมง
สมาชิกแทบทุกท่าน นอนหลับกันตามระเบียบ
บอกเป็นนัยๆ ว่า ช่วงที่อยู่เอเวอร์แลนด์นั้น คงไม่ได้หยุดพักให้เสียเวลากันเลย

เข้าสู่กรุงโซล ก็พบกับรถจอดบนถนนกันหนาแน่น
การเดินทางไปรับประทานไก่ตุ๋นโสม จึงมีอันต้องเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

ผขร.ประจำรถ พาดูรถติดอยู่หนึ่งรอบ
ก่อนจะวนกลับไปสถานที่ที่มีการแสดงยอดฮิตของเกาหลีขณะนี้
มันคือ JUMP SHOW!



Jump Show เป็นศิลปะการแสดงละคร ประกอบศิลปะการต่อสู้แบบเทควันโด้แท้ๆ
สอดแทรกมุขตลกให้ได้หัวเราะ ไม่ก็อมยิ้มแทบจะตลอดการแสดง
นอกจากนี้ยังมี Break Out อีกโชว์ในตึกเดียวกัน
(แต่ได้ข่าวมาว่า โชว์นี้ไม่เด็ดเท่า Jump show นะครับ เขาบอกมา)

...
ออกจากโรงละคร Jump Show สามทุ่มกว่า
จากทีแรกที่คาดเดาว่าอาจต้องไปทาน Junk Food ก็ได้พบกับร้านอาหารที่เปิดจนถึงสี่ทุ่มเข้าให้

แม้จะไม่ได้อร่อยห้าดาว
แต่ด้วยความหิวและโหยหา
ก็ทำให้อาหารมื้อนั้น ผ่านไปได้อย่างแฮปปี้
มีเสียงแว่วมาว่า อร่อยกว่าไก่ตุ๋นโสม ไม่รู้จริงไหม...




ติดตามมาด้วยเจ้านี่ครับ..โซจู
สุราเทวะ ..(เทสิวะ เทลงมาอีก...เอิ๊ก...)




เคยมีใครบอกมาก่อนว่า โรงแรมในเกาหลี ไม่มี Bell Boy
ได้ยินแล้วก็นึกขำ ว่าสงสัยโรงแรมที่เขาไปพัก คงเป็นแบบสองสามดาว
ไม่มีเบลบอยอย่างบางโรงแรมในไทย
จนกระทั่งได้ไปพักที่ Ramada สี่ดาว
ถึงได้เข้าใจซาบซึ้งถึงแก่น
ว่าโรงแรมหรูห้องพักดีระดับนี้ ไม่มีเบลบอย จริงๆ แฮะ

ดูอาซ้อ อาเฮีย ทุลักทุเลลากกระเป๋าหนักๆ เต็มไปด้วยเสื้อกันหนาวและของฝากสิครับ
อยู่บ้านมีแต่ชี้นิ้ว
อยู่ที่นี่แม้แต่นิ้วจะชี้ก็ไม่เหลือให้ใช้
เพราะเอาไป ยกของลากกระเป๋าหมด... ฮ่าๆๆ




ออกจากโรงแรม Ramada แต่เช้า
พวกเราก็ไปที่พระราชวังเคียงบ็อก landmarkหรือสัญลักษณ์สำคัญของกรุงโซล
ประมาณว่า เป็นวัดพระแก้วของไทย ว่างั้น...



พระราชวังเคียงบ็อก กว้างใหญ่และมีหลายอาคารมาก
บอกตรงๆ ว่าผมเองก็จำไม่ได้ว่าตึกไหนเป็นตึกไหน
และมีประวัติความเป็นมายังไง
ได้แต่เดินดุ่ยๆ ตามสาวพิณไปเรื่อยๆ
สลับกับการกดชัตเตอร์ให้นายแบบนางแบบที่โพสท์แล้วเรียก ซ้ายที ขวาที

ลองดูบรรยากาศภายในนะครับ...



ตามโถงทางเดินระหว่างอาคาร
มีลักษณะคล้ายๆ กับพระตำหนักซูสีไทเฮายังไงยังงั้นเลยแฮะ



นี่มุมนึงที่จำไม่ได้ว่าอาคารนี้ มีไว้ทำอะไร





แถวนี้ก็จำไม่ได้ครับ แต่สวยดี





อันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ แทบวิ่งถ่าย เพราะตามคนอื่นไม่ทัน..แฮ่กๆ..
ถึงตอนนี้ นายแบบนางแบบหายไปไหนกันแล้วไม่รู้ ผมรั้งท้ายตามเคย



แล้วก็มีคนหลงมาเป็นเหยื่อให้ถ่ายแบบจนได้...
555





อันนี้เรียกว่า Jump Show Special !!!



อะ..
ถ่ายรูปหมูกันหน่อยยย...



อันเนื่องมาจากการเดินทางคราวนี้ มีตรงกับวันเกิดของสมาชิกท่านหนึ่ง
ไกด์สาวทั้งสอง ก็กุลีกุจอ (ตาลีตาเหลือก) ไปหาเค้กวันเกิดมาให้จนได้ในอาหารมื้อสั่งลาก่อนขึ้นเครื่อง
แต่เจ้าตัววันเกิดไม่สะดวกที่จะเปิดเผยตัวตน
ด้วยเกรงว่ามิตรรักแฟนเพลงรู้วันเกิดแล้ว จะหลั่งไหลเอาของขวัญไปให้เต็มบ้านจนไม่มีที่วาง!
จึงขอไม่เอ่ยนามเอาไว้ ณ ที่นี้

อย่างไรก็ขอขอบคุณไกด์น่ารักทั้งสองสาว ณ โอกาสนี้แทนเจ้าของวันเกิดด้วยครับ...


ก่อนขึ้นเครือ่งก็ หาเรือ่งละลายทรัพย์ตามระเบียบ
ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงินกลับนั้น มันหายไปครึ่งหนึ่ง!!!
ใครแลกมาด้วยอัตรา 10000:430 ก็คงต้องใช้ให้หมดเช่นกัน ( 55 ขออีกรอบนะสหาย ดื่มๆ)


ตรงนี้คือ แหล่งช้อปที่เรียกว่า สยามสแควร์ของเกาหลี
มีเครื่องสำอางค์วัยรุ่นราคาถูกกว่าเมืองไทยเกือบครึ่งวางจำหน่าย (เขาว่างั้น ผมไม่รู้หรอก)




นี่ขนมหนวดมังกร
แป้งเส้นหวานบางเฉียบ ห่อไส้ชนิดต่างๆ มีรสหวานกลมกล่อมดีนักแล
คนขายสามหนุ่มจะร้องเพลงประสานเสียง Acapella ในเวลาที่ไม่มีลูกค้ามายืนคุย
ฟังเพลินดีเหมือนกันครับ



ไม่มีการเลิกราใดไม่มีงานเลี้ยงมาก่อน

การดูแลและการบริการที่ดี ย่อมได้รับน้ำใจไปเป็นธรรมดา
พี่สาวหนึ่งในกลุ่ม colorful girls จึงแจกซองผ้าป่า ให้ไกด์สาวทั้งสองเป็นรางวัล !!!

ไกด์สาวร้องกรี๊ด...
แต่จำต้องรับซองนั้นไว้พิจารณาอย่างเสียมิได้

ฮี่ๆๆ



แล้วการเดินทางทริปแรกของ Ranthong Travel Club
ก็จบลงด้วยประการฉะนี้

มีเสียงตอบรับมาว่า
ทริปนี้สนุกมากมาย
จัดอีกขอติดตามไปทุกหนแห่ง ประมาณนั้น...


ตอนนี้ผมกับทีมงาน (ฟังดูหรูเนาะ..ทีมงาน)
กำลังปรึกษากันว่าจะจัดไปไหนอีกดี
ที่มันไม่ทำให้กระทบกระเป๋าสตางค์เรา ในสภาวะร้านทองเงียบเชียบอย่างนี้เท่าไรนัก..

โปรดติดตามเสียงจอกโซจูเอาไว้ให้ดีๆครับ
รับรองว่าทริปหน้าสนุกกว่านี้แน่ๆ...(เร็วๆ นี้)





MERRY CHRISTMAS
and
HAPPY NEW YEAR 2009 นะครับ...


*** ท่านใดหลวมตัวหลงทางเข้ามาอ่านจนจบแล้วเขียนคอมเม้นท์มันๆ เอาไว้
ขออวยชัยให้พรให้รวยๆๆๆ ยิ่งขึ้นๆ มีความสุขความเจริญ มีสุขภาพกายใจแข็งแรงตลอดปีและตลอดไปนะคร้าบ.... ซ้า ธุ...




........




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2551
34 comments
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 11:17:29 น.
Counter : 2990 Pageviews.

 


แวะมาทักทายส่งท้ายปีเก่าจ๊ะ
รู้สึกว่าเราไม่ได้เข้ามา BLOG นี้นานมากๆ เลย
แรกๆ จำได้ว่าไม่เปิดให้แปะภาพ
ยังไงก็มั่งมี ศรีสุขนะคะ
แวะมาเที่ยวด้วยคนจ้า

 

โดย: อุ้มสี 29 ธันวาคม 2551 12:36:35 น.  

 

ตอนผมไปญี่ปุ่นเมื่อกันยายนที่ผ่านมา เพื่อนร่วมทริปที่ไปด้วยกันก็เป็น Colourful Gang เหมือนกันคับ แต่คนละกลุ่มนะ ที่ไปกับผมเป็นสาวประเภทสองทั้งแก๊ง สนุกดีคับ สร้างเสียงหัวเราะได้มากมายเลยคับ

 

โดย: Tua IP: 58.8.52.230 29 ธันวาคม 2551 20:06:20 น.  

 

รูปเยอะสะใจจริงๆ

ปล. สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ

 

โดย: rebel IP: 125.24.163.89 29 ธันวาคม 2551 22:30:41 น.  

 

ไม่ได้หลงมาค่ะ
ไม่ได้หลวมตัวด้วยอ่ะ
เฮียส่งลิ้งค์ให้แล้วบอกว่าคอมเม้นท์แล้วจะอวยพรให้เฮงๆ รวยๆ
เลยหยวนดูรูปจนตาลาย รูปเยอะมากๆค่ะ
สาวๆสวยๆก็เยอะ
ที่เที่ยวก็สวย ถ่ายรูปออกมาสวย หรือว่าที่เที่ยวสวยเองอ่ะเม้นท์ให้แล้ว อย่าลืมอวยพรให้ด้วยล่ะ
อ้อ ขอให้คนอ่านเม้นท์นี้รวยๆเฮงๆด้วยจ้า สาธุ้

 

โดย: ฉันเอง IP: 125.24.16.19 29 ธันวาคม 2551 22:55:13 น.  

 

..

 

โดย: .. IP: 124.120.155.54 30 ธันวาคม 2551 0:31:06 น.  

 

..

 

โดย: .. IP: 124.120.155.54 30 ธันวาคม 2551 0:31:34 น.  

 

..

 

โดย: .. IP: 124.120.155.54 30 ธันวาคม 2551 0:32:06 น.  

 

เจ๋งดีอะ....

สุรา เท(สิ)วะ

555

ทริิปหน้า อย่าลืมบอกนะพี่ จะได้เก็บหอมรอมๆริบๆ ...ลิบๆ ด้วย

.....
.....ป้อน -_____-!

 

โดย: ป้อน IP: 124.120.155.54 30 ธันวาคม 2551 0:46:10 น.  

 


รูปสวยค่ะ



 

โดย: ม ะ ม่ ว ง IP: 124.120.108.42 30 ธันวาคม 2551 10:45:35 น.  

 


พี่นัสใจร้ายไปไม่บอก


เค้าอยากได้ etude house

 

โดย: *Winie IP: 125.25.100.232 30 ธันวาคม 2551 11:19:48 น.  

 

แวะมาสวัสดีปีใหม่ก่อนจะหมดปีเก่า (อารมณ์รีบๆ ไงก็ไม่รู้)


ชอบ colorful girls gang จังเลยพี่หลิว
เกิดอาการนึกถึงอดีต colorful gang ของแพมขึ้นมาตะหงิดๆ

รักษาสุขภาพด้วยนะคะพี่

 

โดย: Pam_Pink 30 ธันวาคม 2551 15:25:21 น.  

 

สวยจังเลยก่า
ข้าน้อยขอคาระวะด้วย
สุระ(เท)วะ คิคิ

สวัสดีปีใหม่ก่า ขอให้ จขท หล๊อหล่อ มีสุขภาพแข็งแรง คิดไรก็สมหวังนะก่า

 

โดย: Benze' kaa IP: 222.123.193.142 31 ธันวาคม 2551 14:47:28 น.  

 

อยากไปบ้าง แต่ไม่มีเงิน ยืมพี่นัสก่อนได้มั้ย อิอิอิ

 

โดย: tae IP: 203.146.147.14 2 มกราคม 2552 10:12:55 น.  

 

อิจฉาอีกแล้ว...
สวัสดีปีใหม่ค่า

 

โดย: miss design เหงาแล้วไง IP: 58.147.6.193 2 มกราคม 2552 14:35:39 น.  

 

รูปสวยมากเลยพี่หลิว เหนแล้วอยากไปเลยอ่ะ เสียดาย

ล่ะก็เพลงเหมาะกับชื่อ หลิว ยอง จุน มาก
กี๊ดด ดาราเกาหลี ๕๕



ปล.ตัวหนังสือตอนพิมใหญ่ดีเนอะ สะใจ

 

โดย: แยมๆ IP: 124.121.76.102 7 มกราคม 2552 0:45:52 น.  

 

อยากเห็นหน้าคนที่เป็นสตอเบอรรีอ่ะ สงสัยจะเป็นคนพิเศาแน่ๆเลยใช่ม้า

 

โดย: guest IP: 203.146.78.203 7 มกราคม 2552 11:51:08 น.  

 

ครึ่งทางแระ แต่อยากเม้นท์ก่อน อิอิ
ไปอ่านต่อแระ เด๋วเม้นตอนจบอีกรอบ

 

โดย: ปอ IP: 58.8.53.79 7 มกราคม 2552 14:11:06 น.  

 

ยายแขกแจกชองสินะ
สนุกๆมากกลุ่มนี้

 

โดย: พี่บุ๋ม IP: 125.26.250.220 10 มกราคม 2552 13:45:22 น.  

 

โอ้ แอบตามไปเที่ยวด้วยคน

=@^^@=

 

โดย: มรกตนาคสวาท 11 มกราคม 2552 12:18:31 น.  

 

มาเเอบดูครับ อิอิ ผมไม่รู้จะมีโอกาสได้ไปบ้างหรือเปล่า อ่านเเล้วเพลินดีเลยครับ

ปล.ผมไม่เคยไปไหนเลย เเต่เเม่ผมซิเเกไปเที่ยวญี่ปุน จีน เเละเเถบนี้กับเพื่อนเเล้ว ลูกขอไปด้วยก็ไม่ไห้ เปลืองตังค์เเก

 

โดย: Dark Secret 11 มกราคม 2552 20:37:06 น.  

 

อยากไปเกาหลี
ตั้งแต่ดูละครเรื่อง
อิมซังอ๊ก ทางช่อง 3
เก็บตังค์ได้ค่ารถไปหนามบินสุวรรณภูมิแล้ว

ช่วงนี้อาศัย ดูบรรยากาศจาก BLOG คุณนัสไปพลางก่อน

สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังด้วยค่ะ

คุณนัส...หัวใจเดินทาง

 

โดย: run to me 12 มกราคม 2552 12:41:41 น.  

 

ตั้งใจเข้ามาอ่านโดยเฉพาะครับ เพราะจะเดินทางไปเกาหลีวันที่ 27 นี้แล้วครับ เช็คจากสภาพอากาศแล้ว ติดลบแล้วครับ

 

โดย: soda IP: 58.9.125.45 13 มกราคม 2552 11:06:29 น.  

 

เพลงเพราะ รูปสวย ฝีมือคับ แวะมาทักทาย ชอบรูปครูหลิว เท่ห์ดี

ตุ๋ง

 

โดย: Thung IP: 222.123.204.201 6 กุมภาพันธ์ 2552 1:43:22 น.  

 

อยากเห็นหน้าสาวสตอเบอรี่ด้วยคนจ้ะ อิๆ
มาอวยพรให้กิจการไปได้สวยนะคะ
แล้วก็แวะมาชวนไปโหลดนิตยสารทำมือที่ทำกันเองได้ที่บล็อกค่ะพี่หลิว

 

โดย: quin toki 7 มีนาคม 2552 12:49:28 น.  

 

รูปสวยมากๆเลยค่ะ เห็นแล้ว อยากไปตอนหิมะตกบ้างจัง

 

โดย: หลงเกาหลี IP: 58.9.31.240 21 มีนาคม 2552 9:53:43 น.  

 

จาบอกว่า..หลงเข้ามาก้อได้คะ..

เหอๆ ..

แต่ก้อเปน..การหลงทาง.

ที่ประทับใจ.. อิอิ..

ชอบๆ มากๆ คะ..

อยากไปเที่ยวจังเยย..

ถ่ายรูปส้วย.สวยอ่ะ..

อยากไปๆ ..

 

โดย: น้ำหวาน IP: 208.184.6.31 12 พฤษภาคม 2552 18:33:14 น.  

 

ทำไมถึงทำ blog ได้สวยขนาดนี้

ขอคำปรึกษาบ้างได้ไหมค่ะ

 

โดย: aojang IP: 125.24.0.135 16 มิถุนายน 2552 12:32:28 น.  

 

เราไปมาหมดเเร้วอ่ะ
สวยดี ๆ

เเต่อยากไปตอนหิมะตกหนัก ๆบ้าง อะ

พาไปหน่อย 5555

 

โดย: ไข้หวัด 2009 IP: 125.24.132.205 12 กรกฎาคม 2552 14:28:35 น.  

 

ฝันหวานนี้ใกล้จะเป็นจิงแล้วค่ะ แต่ไม่รู้จะได้เห็นต้นไม้สีไรบ้าง พ.ย.นี้ค่ะ เห็นแล้ว อยากให้ถึงวันเดินทางเร็วๆ

 

โดย: ฝันหวาน IP: 222.123.184.150 2 กันยายน 2552 0:05:10 น.  

 

เราจะได้ไปเร็วๆนี้เเล้วประมานช่วงปีใหม่อยากให้หิมะตกเยอะๆอากาศจะได้หนาวๆ

 

โดย: nink IP: 125.25.229.205 11 ตุลาคม 2552 22:04:04 น.  

 

ดีค่ะ..เจ้าของบล็อคคะ..เห็นบอกว่าจะมีทริปสกรีอย่างเดียว..ไม่ทราบว่าของปี 52 นี้จัดไปรึยังคะคะ อยากไปด้วยอ่ะค่ะ..

ขอเมลล์ติดต่อกลับได้มั้ยคะ

 

โดย: aoe IP: 114.128.165.138 17 พฤศจิกายน 2552 13:18:31 น.  

 

 

โดย: p_tham 21 ธันวาคม 2552 7:41:48 น.  

 

very good picture ka.

 

โดย: am IP: 125.25.6.160 26 พฤษภาคม 2553 17:28:39 น.  

 

การบรรยายทำได้น่ารักมากค่ะ ตัวเองก็กำลังจะเดินทาง วันที่ 3-8 มึค. 54

 

โดย: PAX IP: 118.173.150.108 2 มีนาคม 2554 16:10:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อะไรดี
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ขี้เกียจแต่ทำจริง เข้มแข็งแต่อ่อนโยน ชอบใช้อารมณ์แต่มีเหตุผล เลือดร้อนแต่ใจเย็น รักสงบแต่อย่าแหยม นิ่งเฉยแต่โรแมนติก ไม่มีตังค์แต่ชอบเที่ยว สายตาไม่ดีแต่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบนั่งเฉยๆ แต่ชอบดูหนังในโรง รักความเงียบแต่ชอบเสียงเพลง นิ้วสั้นป้อมแต่ชอบเล่นกีตาร์ ชอบมองฟ้าแต่รักดำน้ำ ลายมือไม่สวยแต่ชอบเขียนหนังสือ หัวใจหลายห้องแต่มีรักเดียว (กิกิ้ว!) รักเด็กแต่ไม่อยากมีลูก ยังหายใจแต่ชอบสมมติว่าตัวเองตายไปแล้ว ชอบฝันและจินตนาการแต่คลั่งไคล้ความจริง เงียบขรึมแต่จริงใจ หัวไวแต่บ้าและเพี้ยน ผมน้อยแต่ยาว หน้าตี๋แต่เหมือนเต่า เชื่อฟังแต่แอบดื้อ!!!
ขอบฟ้า...ปลายฝัน

๑. รอนแรมไกลสุดฟ้า เพียงใด
ยังไม่อาจเติมเต็มใน ใจข้าฯ
ยิ่งค้นยิ่งห่างไกล หายหมด แรงสิ้น
กลืนกินความเหว่ว้า ล่าถอย คอยรัง

๒. ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง
สรรพสิ่งเคลื่อนไหวดัง ลมร้อน
ทำใจยอมรับฟัง ตั้งอยู่ ในเกณฑ์
เตือนตนอยู่บนเส้น โลดเต้น ตามกรรม

๓. กวาดตามองฟ้าคราม ยามเย็น
กวาดใจมองไม่เว้น หย่อมหญ้า
ค้นหาคำตอบเห็น เป็นอยู่ ความนัย
แต่ใจไยอ่อนล้า ข้าฯบอด ใดกัน

๔. หายใจรดโลกอยู่ นมนาน
ยังไม่เคยพบพาน เช่นเจ้า
ฟ้าลิขิตบันดาล ทางผ่าน บังเอิญ
เกินกว่าคำบอกเล่า เข้าถึง ทางใจ

๕. ความงามของโลกนั้น คงเดิม
ความงามของเจ้าเติม ใจข้าฯ
ดวงตาคู่ใหม่เสริม เติมจิต โดยพลัน
วันใหม่ดูเจิดจ้า ขอบฟ้า ปลายฝัน...
คำเตือนนะ! ขอสงวนลิขสิทธิ์ทั้งหลายในเวบบล็อกนี้และห้ามมิให้ใช้เวบบล็อกนี้เพื่อการอย่างอื่น นอกจากการชมเพื่อความบันเทิงภายในที่พักอาศัยเท่านั้น ห้ามมิให้ทำการเปลี่ยนแปลง ทำซ้ำหรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของเวบบล็อกแห่งนี้ โดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุดเด้อ!...
Google

Free JavaScript from
Rainbow Arch

You AlwaYs WanT WhaT YoU HaveN'T GoT... The Sea Kisses The Beach With The White Slight Waves...
Friends' blogs
[Add อะไรดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.