"ผมไม่ใช่อย่างใครคิด" (วิญญ์ ชวาทิต)

เรื่องราวสะท้อนถึงสถาบันครอบครัว สังคม เพศสภาพ

ผู้ที่คิดว่ารู้จักตัวเองและคนใกล้ตัวดีแล้ว...ควรอ่าน

ผู้ที่ยังไม่รู้จักตัวเอง ยังไม่เข้าใจคนใกล้ตัวยิ่งควรอ่าน!!








ผมไม่ใช่อย่างใครคิด / ผู้เขียน : วิญญ์ ชวาทิต / ประเภท : นิยาย


ขนาดหนังสือ A5 จำนวน 472 หน้า

ราคา : 280 บาท (รวมค่าจัดส่งแบบสิ่งพิมพ์ลงทะเบียน)

(รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายหนังสือเล่มนี้

หักเข้าโครงการทุนการศึกษาเพื่อเด็กเรียนดีแต่ด้อยโอกาสทางการศึกษา)







เขาไม่ใช่อย่าง (ที่) ฉันคิด...b>






เกือบสิบปีที่ดิฉันได้รู้จักกับคุณวิญญ์ ชวาทิต (นามแฝงของนักเขียนท่านหนึ่ง) โดยเริ่มแรกรู้จักมันคือการรู้จักแต่ฝ่ายเดียวจากการได้ยินคนรอบตัวบางคนพูดถึงเขา และงานเขียนของเขาอยู่บ้าง กระทั่งวันหนึ่งดิฉันได้ยินผู้ใหญ่ในวงการน้ำหมึกที่ดิฉันเคารพบางท่านออกปากเอ่ยชมฝีไม้ลายมือการเขียนของคุณวิญญ์ว่าเป็นนักเขียนหนุ่มรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ฉันจึงเริ่มรู้สึกสนใจ และอยากทำความรู้จักกับบุคคลนี้ผ่านเนื้องานของเขา, อยากรู้ว่าเขามีการสื่อความคิดของตัวเองผ่านงานเขียนอย่างไร แต่ครั้นหลังจากสืบเสาะหาผลงานเล่มที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในเวลานั้นพบ ดิฉันตอบได้อย่างซื่อตรงว่า เพียงไม่ถึงสามนาทีที่หยิบหนังสือเล่มนั้นออกมาจากชั้นวางในร้านขายหนังสือ แล้วใช้สายตามองปกแบบผ่าน ๆ ก่อนกรีดดูตัวอักษรที่เรียกว่าเนื้อหาอย่างคร่าว ๆ ดิฉันก็วางหนังสือเล่มนั้นกลับเข้าที่เดิมของมัน แล้วเดินเลยผ่านไปหาหนังสืออื่นเพื่อซื้อติดมือกลับบ้าน พร้อมกับนึกคิดในใจว่า “งานของเขาคงดี แต่ไม่ใช่แนวที่คนอย่างเราจะเข้าถึง หรือย่อยข้อมูลเนื้อความที่เขาต้องการสื่อได้”





เวลาผ่านไปอีกหลายปีชื่อของคุณวิญญ์ยังคงแวะเวียนผ่านเข้าหูให้ดิฉันได้ยินอยู่บ้างเป็นครั้งคราว จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตานำพา ผสมกับความตั้งใจของดิฉันนั่นจึงทำให้เราได้รู้จักกันอย่างแท้จริง ซึ่งนับได้ว่าการรู้จักกันของเรานั้นเป็นการรู้จักกันโดยตรงมิได้ผ่านการสัมผัสกันทางเนื้องานเลยสักนิด





“คุณวิญญ์เป็นคนที่มีความคิดประหลาด” ดิฉันเคยนึกอย่างนั้น ไม่ใช่การนึกแบบไม่ชอบใจหรือให้ร้ายโจมตี แต่เป็นการนึกถึงตัวตนของคนที่เราเคารพนับถืออย่างทำความเข้าใจ และการขยายความของคำว่าประหลาดที่ดิฉันหยิบยกนำมาใช้นั้นหมายถึงทัศนคติ ความคิด มุมมองของคุณวิญญ์ ที่มีต่อสังคม วัฒนธรรม จารีต ประเพณี การเมือง และเซ็กส์ อันที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมนุษย์





ในขณะที่ดิฉันกำลังศึกษาเรียนรู้ให้ความสนใจเกี่ยวกับประเด็นทางเพศ และมุ่งมั่นกับการสื่อความด้วยงานในรูปแบบอิโรติก หลายต่อหลายครั้งคุณวิญญ์คือผู้ที่ให้ความเห็นพร้อมคำปรึกษา ซึ่งขณะเดียวกันนั้นคุณวิญญ์ก็ส่งไฟล์นิยายเรื่อง ผมไม่ใช่อย่างใครคิด มาให้ดิฉันได้ลองอ่านโดยกำกับว่า “เรื่องนี้พี่เขียนเก็บไว้ ลองอ่านดู แล้วถ้ามีสำนักพิมพ์ไหนสนใจงานแบบนี้ฝากลองส่งไปให้เขาพิมพ์ด้วยเลยแล้วกัน” และนั่นคือครั้งแรกที่ดิฉันได้อ่านงานของคุณวิญญ์ (ซึ่งเป็นคนละรูปแบบกับงานเล่มที่ถูกกล่าวถึงในข้างต้น)





จากการไล่เรียงอ่านงานชิ้นนี้จากตัวอักษรไปสู่ตัวอักษร จากประโยคไปสู่ประโยค จากย่อหน้าไปอีกย่อหน้า ดิฉันค้นพบว่าตัวเองถูกดูดเข้าไปอยู่ในเนื้อหาจนมองเห็นตัวละครต่าง ๆ ในเรื่องออกมาเคลื่อนไหวราวกับดิฉันกำลังเสพภาพยนตร์ หรือละคร ที่มีคนจริง ๆ สวมบทบาทแสดงให้ดู มีการสอดแทรกความรู้ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีเชิงจิตวิทยา ทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์ – การแพทย์ การพูดถึงปรัชญาเมธี การอ้างอิงถึงภาพยนตร์ - บทเพลง ผ่านวิธีการเล่าแบบเรื่อย ๆ สบาย ๆ ด้วยภาษาง่ายๆ ที่ไม่ยากต่อการจินตนาการและการย่อย ทั้งหมดนั้นคือการการันตีฝีมือของคุณวิญญ์ในเรื่องชั้นเชิงการเขียนเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดี และมันคือสาเหตุที่ ณ วันนี้ดิฉันจึงเลือกงานของคุณวิญญ์มาเผยแพร่อย่างตั้งใจ





ผมไม่ใช่อย่างใครคิด ถือเป็นนิยายที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักเรื่องหนึ่งที่สะท้อนความรักเกือบแทบทุกรูปแบบของมนุษย์โดยไม่แบ่งแยกหญิง หรือชาย ซึ่งดิฉันคงบอกเล่าอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ ถ้าหากคุณอยากรู้ว่าตกลงชิ้นงานนี้มีดีอย่างไร ดิฉันตอบได้อย่างเดียวว่า “ต้องอ่านถึงจะรู้” โดยขอย้ำฝากอีกคำว่า “เปิดใจ” แล้วคุณจะพบว่าถ้าเรายกเอาการแบ่งแยกออกไปจากหัวใจ ลบการจัดประเภทออกไปจากสังคม สุดท้ายแล้วเราจะพบว่า “ความรักก็คือความรัก และในความเป็นมนุษย์นั้นต่างคนล้วนเท่าเทียม”







ด้วยหัวใจที่พร้อมจะเปิดรับ

ไพลิน เจนเกียรติ’

บรรณาธิการ



...............



ตัวอย่างงาน



“เราจะเลิกเป็นตุ๊ด” เชอรี่เอ่ยขึ้นมาดื้อ ๆ หลังจากที่ผมได้สอบถามอาการและพูดคุยกับเธอมาได้ครู่หนึ่ง ผมเลิกคิ้วเหยียดหลังขึ้นตรงแล้วจ้องหน้าเธออย่างไม่เชื่อหูด้วยไม่เคยคิดว่าตุ๊ดโดยกำเนิดคนไหนจะตัดสินใจเลิกเป็นด้วยตัวเองได้หากไม่โดนบังคับ และถึงอย่างไรมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จู่ ๆ คิดจะเลิกเป็นก็สามารถเลิกได้ทันที จิตใจของผู้หญิงที่ฝังแน่นมันเป็นอะไรที่จมลึกยิ่งกว่าคนติดยาเสพติดเสียอีก เพียงประโยคเดียวที่เธอเอ่ยออกมาก็หนักหนาเพียงพอที่ผมจะสามารถคาดเดาต่อไปได้เองว่า เธอจะต้องเผชิญและต่อสู้กับตัวเองอีกมากมายเพียงใดในอนาคตข้างหน้า





เชอรี่เล่าให้ผมฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวเล็ก ๆ ของเธอ เธอบอกว่าสารพันปัญหามันโยงใยมาจากการที่พ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องการที่ลูกชายเป็นลักเพศ พวกเขาขอร้องให้เธอเลิกติดต่อกับเพื่อนเก่าที่เป็นตุ๊ดทุกคน และสุดท้ายเธอจะต้องถูกย้ายโรงเรียนย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น เพื่อให้พ้นจากสภาพเดิม ๆ ที่คุ้นชินมาตั้งแต่เด็ก แน่นอนด้วยจิตใจคล้ายแม่พระเธอรับคำพ่อแม่ในทุกกรณี





เพื่อนรักของผมพยายามกำชับให้ผมลืมเหตุการณ์อันแสนเลวร้ายของเธอไปเสีย เธอจะทำอย่างนั้นแล้วเริ่มต้นใหม่เช่นกัน เธอรู้ว่าผมไม่ใช่คนที่นิยมความรุนแรง แต่ยอมไม่ได้กับความอยุติธรรม ผมพยักหน้ารับปากเธอไปอย่างนั้นโดยที่ไม่ได้หลุดปากบอกไปว่าเจ็ดในเก้าคนที่ทำร้ายเธอตอนนี้มันนอนหยอดข้าวต้มอยู่ในโรงพยาบาลกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมยิ้มให้กับตัวเองอย่างสะใจขณะมองไปที่ร่องรอยของบาดแผลของเธอ มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมใช้อำนาจของการเป็นลูกชายอธิบดี สั่งการให้ผู้ติดตามของพ่อไปสืบหา ตั้งศาลเตี้ยแล้วเล่นงานพวกนั้นอย่างสาหัส เพื่อนรักของผมถูกทำรุนแรงถึงเพียงนี้จะรอให้สวรรค์ลงโทษรอให้พวกมันชดใช้กรรมอย่างนั้นหรือ ? เมื่อไรกันล่ะ? ผมไม่รอให้มันนานไปจนถึงวันนั้นหรอก ผมนี่แหละคนที่จะยื่นกรรมไปให้พวกนั้นจำต้องแบกรับกันชนิดที่ไม่อาจปฏิเสธ





เป็นเรื่องน่าแปลกที่ผมสนิทมาก ๆ กับเพื่อนคนไหนในไม่ช้าคนคนนั้นจะต้องจากผมไปไกล ก่อนหน้าเชอรี่ก็มีเพื่อนชายคนหนึ่งเขาต้องย้ายโรงเรียนตามครอบครัวไปไกล มาถึงวันนี้ผมจำทุกอย่างของเขาได้ แต่ก็ทำได้เพียงแค่จำเท่านั้น เช่นเดียวกับผึ้ง เช่นเดียวกับเชอรี่ในขณะนี้





ก่อนจะลงไปส่งเธอข้างล่าง เราสองคนโอบกอดกระชับกันแน่น ด้วยความรู้สึกประหนึ่งว่าชาตินี้อาจจะไม่ได้พบเจอกันอีก ผมได้ยินเสียงสะอื้นของเธอได้รับความรู้สึกสั่นไหวของความโศกเศร้าที่หน้าอก สัมผัสในผืนหลังที่ฝ่ามือของผม มันช่างบอบบางอ่อนนุ่มประหนึ่งร่างกายของสาวน้อยแรกรุ่นอย่างไรอย่างนั้น จินตนาการในความรู้สึกของผมกำลังหวนย้อนไปคิดถึงผึ้งในวันที่เราใกล้ชิดกันแบบนี้อีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ





เชอรี่บอกว่าผมเป็นเพียงคนเดียวที่เธอจะคิดถึงตลอดเวลาแม้ว่าในวันหนึ่งเธออาจจะกลายเป็นผู้ชายไปแล้วก็ตาม ผมแค่นหัวเราะยั่วเย้าเมื่อได้ยิน





“ผู้ชายจะคิดถึงผู้ชายด้วยกันได้มากมายสักแค่ไหน ถ้าหากผู้ชายทั้งสองคนนั้นไม่ใช่คู่รักกัน” เธอหัวเราะตอบ แต่มันเป็นเสียงหัวเราะที่ฟังดูหดหู่พิลึก





สักครู่เธอก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาผม มันเป็นแววตาของผู้หญิงที่โอบอ้อมอารีอย่างยิ่ง ในเวลานี้ผมนึกไม่ออกเลยว่าเธอจะกลายเป็นผู้ชายไปได้อย่างไรในเมื่อเธอมีความละเอียดอ่อนและงดงามถึงเพียงนี้ เพศนั้นสำคัญไฉนบางทีผมก็ตอบตัวเองไม่ได้ บางทีสังคมคงจะต้องมาสร้างมาตรฐานการชั่วตวงวัดความเป็นมนุษย์กันใหม่แล้วกระมัง โดยเอาความดี ความงดงามและคุณประโยชน์นำหน้าสิ่งอื่นใดทั้งหมด



...................


สั่งซื้อหนังสือ - -> คลิกตรงนี้ครับ!

หรือ...ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยครับ..


สั่งซื้อหนังสือกรุณาโอนเงินเข้าบัญชี :

ธนาคารกสิกรไทย สาขาซีคอนสแควร์ 2

ชื่อบัญชี นายพงศ์เทพ เลิศพิภพภากร



บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 635 - 2 - 10912 - 4



ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาซีคอนสแควร์ 2

ชื่อบัญชี นายพงศ์เทพ เลิศพิภพภากร

บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 223 - 221 - 943 - 5





แล้วส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่

e-mail : wemakeyoudo@gmail.com

Fax : 02-875-4356

โดยระบุชื่อหนังสือ จำนวนที่สั่งซื้อ



ที่อยู่ในการจัดส่ง ชื่อ - นามสกุล (จริง) ผู้รับ





ข อ บ คุ ณ ค รั บ

 

Create Date : 09 มีนาคม 2553		5 comments
Last Update : 18 สิงหาคม 2553 15:47:58 น.
Counter : 10106 Pageviews.
Share Tweet