Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 

Xiling, Heaven on Earth (A Lover's Concerto-OST-Original Sound Trip) Part1

สวัสดีปีใหม่ 2551 ครับ
มีบทความดีๆ มาให้อ่าน
ขอบคุณน้องตู่ ที่ส่งมาให้นะครับ

ทุกข์เพราะคนรักหนีจากไป


โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
วัดป่าสุนันทวนาราม
บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี


..... สามีภรรยาคู่หนึ่งรักใคร่กันดี แต่พอประสบปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี ก็เริ่มมีปากเสียงกันและมากขึ้นๆ จนภรรยาทนไม่ได้ขอกลับไปอยู่กับแม่ ต่อมาเมื่อสามีได้อ่านหนังสือ “ทุกข์เพราะคิดผิด” ก็ได้คิดสำนึกรู้ตัวว่าตัวเองก็ผิดมากเพราะใช้อารมณ์และบ่นมากไป จึงไปเจรจาขอให้ภรรยากลับบ้าน แต่ภรรยาไม่ยินยอม คงพูดถึงเรื่องเก่าๆ ด้วยความเจ็บใจ สามีก็เป็นทุกข์เพราะทั้งห่วงและหวงภรรยา จึงมีจดหมายมาปรับทุกข์กับพระอาจารย์

พระอาจารย์สอนว่า

..... ..... อาตมาได้รับจดหมายจากคุณโยมแล้ว รู้สึกว่าเห็นใจคุณโยมเหมือนกัน แต่ว่าคุณโยมก็ควรพิจารณาให้เข้าใจ และยอมรับความจริงของชีวิต คุณโยมคงจะรู้สึกเป็นทุกข์และคิดว่าตัวเองเป็นคนที่โชคร้ายมากคนเดียวในโลก แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่คุณโยมกำลังประสบอยู่ก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกชีวิต ไม่มากก็น้อย ไม่ปัจจุบันก็ในอนาคต ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ความรู้สึกผิดหวัง ไม่สมปรารถนา เสื่อมลาภ ทุกข์ เป็นโลกธรรมฝ่ายที่ให้โทษ แต่ทุกคนก็ล้วนต้องประสบ ถ้าเราศึกษาพุทธประวัติ จะพบว่าแม้แต่พระพุทธองค์เองก็ประสบเหมือนกัน เมื่อครั้งพระพุทธองค์เสด็จหนีออกจากวังไปบวชเพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์ เพื่อช่วยตนเองและผู้อื่นนั้น แม้ว่าเป็นเจตนาที่ดีก็ตาม แต่เมื่อดูความรู้สึกของพระบิดา พระมเหสี พระโอรส และพระญาติของพระองค์ ก็คงมีความรู้สึกเหมือนคุณโยมในปัจจุบันนี้เช่นกัน

นอกจากนั้น ลูกศิษย์ของพระองค์เองคือ พระเทวทัต ก็ได้พยายามฆ่าพระองค์อยู่หลายครั้ง และมีช่วงหนึ่งพระราชาผู้ซึ่งเป็นโยมอุปฐากของพระพุทธองค์มีเหตุให้ต้องยกกองทัพไป ฆ่าพระญาติของพระองค์ทั้งหมด พระพุทธองค์ได้ทรงห้ามถึง 3 ครั้ง จนถึงครั้งที่ 4 พระองค์ทรงพิจารณาแล้วว่าเป็นกรรม ไม่สามารถห้ามได้ เป็นเหตุให้ราชวงศ์ศากยะถูกฆ่าหมด พระพุทธองค์หมดสิ้นพระญาติตั้งแต่บัดนั้น และครั้งหนึ่งพระองค์เสื่อมเอกลาภถึงขนาดที่ทั้งพระองค์และหมู่ภิกษุต้อง ฉันอาหารที่ใช้เลี้ยงม้าตลอดทั้งพรรษา

ในบางพรรษา ลูกศิษย์ของพระพุทธองค์มีเรื่องขัดแย้งถึงแตกสามัคคีกัน พระองค์ทรงห้ามอย่างไรก็ไม่เชื่อฟัง พระองค์จึงเสด็จหนีไปจำพรรษาอยู่ในป่าตามลำพัง อีกครั้งหนึ่งที่โลกธรรมฝ่ายที่เป็นโทษเกิดแก่พระพุทธเจ้า คือเมื่อ พระองค์ถูกชาวเมืองนินทาว่าร้าย เพราะถูกนักบวชนอกศาสนาใส่ความว่า พระองค์ทำให้อุบาสิกาตั้งท้อง

ให้คุณโยมน้อมพิจารณาดู แม้แต่พระพุทธองค์ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาบุรุษของโลก ชีวิตของพระองค์ก็ไม่ราบรื่นเช่นกัน พระพุทธองค์ก็ได้ตรัสสอนว่า “ชีวิตเป็นทุกข์”

“ทุกข์สัจจะ” ได้แก่

1. ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นทุกข์
2. ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่ชอบใจ ก็เป็นทุกข์
3. ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์
4. ความผิดหวัง ไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ ก็เป็นทุกข์

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความจริงของชีวิต
เราจึงควรยอมรับความจริงเหล่านี้
ไม่มีชาวโลกคนใดจะหนีพ้นได้

ปัญหาคุณโยมกับภรรยานั้น ถ้าพูดถึงความถูกผิดแล้ว
ต่างก็ผิดเหมือนกัน ถูกผิดเท่ากัน
ดังนี้ ต่างคนควรหาข้อเสียของตัวเอง

สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นความพอดีกับการกระทำที่แต่ละคนได้ทำมา
ถ้าผิดฝ่ายเดียว ปัญหาคงไม่เกิด
เหมือนกับตบมือข้างเดียว เสียงย่อมไม่ดัง

ดังนั้น สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ

ประการที่หนึ่ง ..... ทำความรู้สึกปล่อยวาง เพื่อให้ใจสงบ

ประการที่สอง ..... เจริญเมตตา พยายามส่งกระแสใจที่เป็นความปรารถนาดี เป็นความรักที่บริสุทธิ์ให้แก่ภรรยา อาจใช้วิธีนึกเห็นมโนภาพ เห็นหน้าเห็นตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใจของเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนกับใคร ขอให้เขามีความสุข ให้พยายามเจริญเมตตา คิดดี พูดดี ทำดี ทั้งแก่ตัวเราเองและแก่ภรรยา ผลก็คือ ตัวเราก็จะเกิดความสุขด้วย

ประการที่สาม ...... ถ้าพูดในระยะยาวถึงเรื่องภพชาติแล้ว คุณโยมและภรรยาคงเคยผูกพันกันมาตั้งแต่อดีตชาติ จึงเป็นเหตุให้ชาตินี้ได้เป็นสามีภรรยากัน และต่อไปในชาติหน้าก็อาจจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันอีก

ถ้าคุณโยมไม่แก้ปัญหาให้เกิดความเข้าใจกัน
ไม่ได้ให้อภัยและอโหสิกรรมให้แก่กันในชาตินี้
ชาตินี้เป็นอยู่อย่างไร ชาติหน้าก็จะเป็นเหมือนกับที่เป็นอยู่ในชาตินี้เช่นกัน

ใครได้เปรียบในชาตินี้ ชาติหน้าก็จะเสียเปรียบ
ใครเสียเปรียบในชาตินี้ ชาติหน้าก็จะได้เปรียบ

เรื่องกรรมก็เป็นเช่นนี้
ใครฆ่าเราในชาตินี้ ชาติหน้าเราก็ฆ่าเขา

ถ้าชาตินี้เขาทอดทิ้งเรา ชาติหน้าเราก็ทอดทิ้งเขา
ถ้าชาตินี้ใครนอกใจเรา ชาติหน้าเขาก็จะถูกนอกใจเช่นกัน

เรื่องที่คุณโยมประสบอยู่ในขณะนี้
ชาติก่อนคุณโยมอาจเป็นฝ่ายทำเขาก่อนก็เป็นได้

ดังนั้น ถ้าเรามองจากทั้ง 2 ฝ่ายในระยะยาวแล้ว
ต่างคนจึงต่างเป็นผู้ผิด
เหมือนไก่กับไข่ซึ่งไม่มีเงื่อนงำว่าอะไรเกิดก่อนกัน
ในเรื่องนี้ก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครผิดก่อนกัน

เมื่อเราเข้าใจเช่นนี้แล้ว พิจารณาดูจะเห็นว่า
สิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัว
เพราะถ้ายังอยู่ในสภาพนี้ ชาติต่อๆ ไป ก็จะเป็นเช่นนี้เรื่อยไป
ทำให้ต้องทุกข์ต่อไปหลายภพหลายชาติ

ผู้ที่ไม่ประมาทจึงควรแก้ปัญหาในชาตินี้
ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ คือคิดแก้ปัญหาที่ตัวเราก่อน แก้ที่ใจเรา

สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ

(1.) ยอมรับความจริงดังกล่าว
(2.) ปล่อยวางอดีต ให้เหมือนกับไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
(3.) ให้อภัย เจริญเมตตา ไม่ถือโกรธ ไม่อาฆาตพยาบาทเขา
(4.) ทำใจเราให้สงบ

เมื่อทำได้เช่นนี้จริงๆ เราจะอยู่ด้วยกันในชาตินี้ก็ดี ชาติหน้าก็ดี
ก็อยู่ด้วยกันอย่างปกติสุขได้

การคืนดีกันในชาตินี้ จะได้หรือไม่ ไม่ควรถือว่าสำคัญ
ขอให้เรามีจิตใจที่จะคืนดีแก่เขาอยู่ในตัวเราก่อน
ปฏิบัติตนเป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี
จนเขารู้จัก เข้าใจ และเห็นใจเรา
และควรจะปฏิบัติให้มีการอโหสิกรรมแก่เขา
ซึ่งก็เหมือนช่วยตัวเองด้วย อย่างน้อยเราก็จะมีชีวิตที่เป็นสุขได้

ในเรื่องภรรยาและลูกก็ไม่ต้องห่วงอะไรมากนัก
ขณะนี้เราอาจจะมีความรู้สึกว่าเขาหนีจากเราไป
ถ้าลองเปลี่ยนความคิดดู “พลิกนิดเดียว”
ลองคิดว่า เราจะหนีจากเขาบ้าง
ลองมาบวชดูชั่วคราว
หรือจะบวชตลอดไปก็ได้ ถ้ามีความสุข
เพราะความสุขความสบายจากการอยู่คนเดียวก็มีเหมือนกัน

อย่างที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า

“การไม่มีภรรยา เป็นลาภอันประเสริฐ”

ถึงจะอยู่คนเดียว ก็พยายามอยู่ให้มีความสุข
เขาจะกลับมาก็ได้ ไม่กลับมาก็ได้

สุดท้ายนี้ ขอให้คุณโยมพิจารณาให้ดีๆ
ปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพุทธธรรม สมเหตุ สมผล
และขอให้บรรเทาทุกข์ พ้นทุกข์โดยเร็วๆ นี้
ขอให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป….. เจริญพร

ที่มา : หนังสือพลิกนิดเดียว โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ
(ที่มา //blog.hunsa.com/papamama/blog/20819)





(ทำบล็อกภาค 2 ก่อนภาค 1 ดูรูปหรืออ่านจนจบ
จะมีลิงค์ไปอ่านภาค 2 เขาหิมะสวยๆ ที่ด้านล่างสุดนะครับ)




Artist : Kelly Chen
Title : Lover's concerto



* How... gentle is the rain
That falls softly on the meadow
Birds high above in the trees
Serenade the flowers with thier melodies oh oh oh...

[Repeat *]

See there beyond the hill
The bright colors of the rainbow
Some magic from above
Made this day for us
Just fall in love

** You'll hold me in your arms, and say once again you love me
And if your love is true
Everything will be just as wonderful

Now I belong to you
From this day until forever
Just love me tenderly
And I'll give to you every part of me oh oh oh...

Don't ever make me cry
Through long lonley nights without love
Be always true to me
Keep it stay in your heart eternally

[Repeat **]

(เครื่องเล่นพวกนี้
ถ้าเลื่อน่ลงไปดูเนื้อหาข้างล่าง มันอาจจะหยุดเล่น
แนะนำให้ คลิกที่เครื่องเล่นเพื่อเปิดหน้าใหม่ ยังเวบของมัน
จะได้ฟังไป ดูไปนะครับ)
หรือไม่ก็ ตามลิงค์นี้ไปเลย

http:files.myopera.com/chuonggionho/files/loversconcerto.swf





เผื่ออันบนไม่เล่นเพลงก็คลิกอันนี้ครับ


............

ไปเที่ยว "จีน" มาครับ
ทีแรกก็ไม่คิดว่าจะอัพบล็อกอีกนาน
แต่ทิวทัศน์ที่ไปคราวนี้มันสุดจะบรรยายจริงๆ
ทนไม่ไหว เลยทำรูปมาแบ่งกันชมซะ 111 รูป (เอาให้ตายไปข้างนึง!)

โปรแกรมคราวนี้ มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่
เฉินตู ธารน้ำแข็งไห่โหลวโกว ง้อไบ๊ เล่อซานและยอดเขาหิมะ ซีหลิง

6:30 a.m. ตามเวลาท้องถิ่นของจีน
พวกเราก็เดินทางถึงสนามบินนานาชาติเฉินตูตามกำหนด ดังรูป...



เอ๊า! นั่นมัน คุณหมิงนี่ !?!

แหะๆ..จริงๆ แล้ว ที่เฉินตู เมืองในหมอก มีหมอกมากตามสมญานามในเช้าวันนี้
สภาพอากาศปิดจนกระทั่ง ทางด่วนก็ต้องปิด แล้ว สนามบินจะเหลืออะไร..

สมาชิกกิติมศักดิ์ก็เลยต้องพักเมื่อยบนเก้าอี้ VIP อย่างที่เห็น



ก่อนขึ้นเครื่อง
พนักงานสายการบิน ไชน่าแอร์ไลน์ เอาหมี่ผัด กับ ผีกกาดดองในซองเก๋ๆ มาแจก
ทุกคนได้นำมันไปทานกันอย่างเอร็ดอร่อยบนเครื่องบินไฟลท์ต่อไป
แล้วจึงเข้าใจจุดประสงค์ของการแถม "คุณหมิง" ในครั้งนี้ทันที
ที่แท้..ไกด์สาวของเราอยากให้มากินบะหมี่แสนอร่อย ขึ้นชื่อ
อย่างนี้...นี่เองงง...




กว่าจะมาถึงเฉินตูจริงๆ ก็เกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว
แต่ไม่มีใครบ่นอะไร เพราะเข้าอกเข้าใจว่า สิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอในการเดินทาง
(ไม่หรอก จริงๆ แล้วเพราะได้หมี่อร่อยมาทดแทนต่างหาก หงับๆๆ..)

เฉินตู...เป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของจีนครับ
ลองดูสภาพบ้านเมืองเอาดีกว่านะ










หลังอาหาร เช้า+เที่ยง ที่ภัตตาคารสุดหรู
ก็มาเดินตลาดใต้ดินกัน
แรกที่ได้ยิน ก็นึกว่าเป็นอะไรที่คล้ายๆ ตลาดมืดของไทย ที่ขายของถูก หนีภาษีหรือแอบๆ ขาย
พอมาถึงทางเข้า ก็ให้ตะลึง
ตลาดใต้ดิน มันอยู่ใต้ดินจริงๆ เหรอเนี่ย...




เจ้าของร้านและคนขาย ที่นี่
มีคำโฆษณา เหมือนกันหมดทุกร้าน

ไม่ว่าคุณจะเดินผ่านร้านไหน เขาก็จะบอกว่า
"สวยชริงๆ.." "สวย นี้ สวย" "สวย มาก สวย ชริงๆ"

ส่วนเวลาต่อราคา
ก็เหมือนกับการช้อปตามย่านการค้าของจีนอื่นๆ ทั่วไปครับ
กรุณาต่อราคาสินค้าอย่างน้อย 2เท่าตัวขึ้นไป
ต่อไม่ได้ ให้เดินหนี
แล้วเขาก็จะตามมาง้อเราเอง..
(ไม่เหนื่อยกันบ้างหรือไงนะ )




ร้านนี้เท่ห์มาก
เขียนประกาศแบบไม่เกรงใจเจ้าของยี่ห้อกันบ้างเล้ย...เหอเหอ



หลังช้อปกันสบายใจ
ได้เสื้อกันหนาวใหม่ไว้เตรียมใส่ลุยหิมะสมใจ

ก็ไปกินกันต่อ

อาหารหลักๆ ที่ได้พบแทบทุกมื้อก็คือ ปลาก้าง!

ผมไม่รู้หรอกว่ามันชื่อปลาอะไร แต่เรียกมันว่าปลาก้าง เพราะก้างเยอะจริงๆ
นึ่งมากับซีอิ๊วผัดต้นหอม (ไม่มีรูปให้ดูนะ)

ส่วนข้างล่างนี้คือ ตลาดคนเดิน หรือ ไนท์บาซ่าร์ นั่นเอง
ไม่หรอก ถนนเส้นนี้ชื่อ ถนนคนเดินจิงหลี่ ครับ
สองข้างทางเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมจีนโบราณ
เห็นแล้วอยากให้เมืองไทยทำถนนสักจังหวัดละเส้น ให้เป็นแบบนี้ซะจริงๆ












ฝั่งขวาเป็นร้านอาหาร โบราณ ชนิดต่างๆ
ฝั่งซ้ายเป็นเก้าอี้นั่งโบราณ ใต้ร่มโบราณ
คนนั่งโบราณ คนเดินโบราณ
ต้นไม้โบราณ อากาศโบราณ
คนถ่ายภาพนี้..วัยรุ่นปีห้าหนึ่ง!



ศิลปะดินปั้นเหมือนคนจริง

ปั้นตามรูปก็ได้ หรือ ขยันและมีเวลาพอ ก็นั่งให้เขาปั้นเดี๋ยวนั้นเลยก็ได้

ว่าจะลองให้เขาปั้นให้เหมือนกัน
แต่คงจะง่ายไปหน่อย ไม่คุ้ม

เพราะเค้าคง ปั้นมาให้เป็นกลมๆ อ้วนๆ
เอาไม้จิ้มๆ เป็นตา จมูกปาก เอาแว่นตามาใส่ แล้วก็จบ
(เนี่ยแหละ หน้าผม)



ร้านนี้ขายหุ่นทำจากฟาง น่ารักมาก
แต่ไม่มีเวลาแม้กระทั่งเดินเข้าไปดูใกล้ๆ

กลัวจะเดินไม่ทั่วน่ะครับ ไม่ใช่อะไร เพราะมันกว้างมาก
เดินสองวันยังไม่รู้จะทั่วหรือเปล่า


อาเฮียคนนี้แกเพ้นท์ภาพและตัวหนังสือบนน้ำเต้า
ไม่ว่าจะเอี้ยวตัวก้มหยิบหรือหันไปคุยกับใคร
มือซ้ายจะอยู่กับที่เสมอ
มีอีกภาพที่ลองถ่ายตอนแกเคลื่อนไหว
ลำตัวเบลอไปหมด แต่มือซ้ายกับน้ำเต้า คมชัดด้วยความนิ่ง
(ไม่ได้เอามาลง เพราะขี้เกียจ)




อากาศหนาวๆ
คนรักมาเดินถนนสายนี้
เดินจูงมือดูศิลปวัฒนธรรมกัน

มันจะมีอะไรดีกว่านี้อีกหน๊อ...




เบื้องหน้า
และเบื้องหลัง
ของภาพยนตร์หุ่นเชิดโบราณ ประกอบ ละครวิทยุ


(คนเล่น แสดง กับคนขาย เป็นคนเดียวกัน ถ้าลูกค้าจะซื้อ
ไม่รู้ว่าละครจะต้องเบรคก่อนหรือเปล่า)







แถวนี้ดูคล้ายๆ ผับ
ตกแต่งรอต้อนรับคริสต์มาสกันถ้วนหน้า



บ้านเรา ก็คงเป็นยิงปืน ที่มีลูกเป็นจุกยาง
แต่บ้านเค้า เป็นหน้าไม้ขอรับกระผม!! (โหดหน่อย แต่มันดี)



เดินกันจนเมื่อยตุ้ม
ก็เลยมานั่งให้ช่างแคะหู ทำความสะอาดหูให้กัน ขำๆ
พยายามถ่ายภาพใบหน้าของลูกค้าในอารมณ์สยิวกิ้ว เพราะหูถูกไม้ปั่นนุ่มละมุนหมุนติ้วในหุมาเหมือนกัน

แต่ถ่ายไม่ติด
ก็เลยได้แต่ภาพนี้มา




อันนี้เป็นโรงอุปรากรณ์ครับ
บริการชาร้อน เมล็ดถั่วลิสงและเมล็ดแตง แทะกันเพลินๆ




การแสดงมีหลายชุดมาก
เล่นกับเงา ด้วยมือสองมือ ก็เป็นชุดหนึ่งที่ผู้ชมตั้งอกตั้งใจดูกันเหลือเกิน



เอ่อ..
อาเฮียคนนี้ ปะป๊า ใครไม่ทราบครับ
อยู่ๆ ก็ถูกลากขึ้นไปเป็นเหยื่อ ตัวประกอบการแสดงซะอย่างนั้น
หารู้ไม่ว่า นี่แหละ ตัวจริง !!! ฮะเหยๆ...



ปิดท้ายด้วยงิ้วและโชว์เปลี่ยนหน้ากาก
มาเที่ยวจีน ไม่ว่าเมืองไหน ได้ดูโชว์เปลี่ยนหน้ากากทุกเมือง
เพราะนี่คือ วิทยายุทธ์ทางศิลปะของเขาครับ...เยี่ยม จริงๆ เร็วมาก..




สืบเนื่องมาจาก
ระหว่างเดินทางมาจากเมืองไทย พวกเราแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน
เสร็จสิ้นจากการแสดงชุดนี้
ทุกคนหลับเป็นตายในโรงแรม ที่เฉินตู

ไกด์หนุ่ม น้อง"ชาติชาย" เห็นว่าพวกเราคงอ่อนล้ากันมาก
จุดหมายแรกของวันนี้ก็เลยเป็นร้านสมุนไพรจีน ครับ (ฮา)

ระหว่างทาง มีภาพเก๋ๆ เล็กน้อย มาฝาก..

เกาะกลางถนนนี้วางเอาไว้กั้นอะไรเอ่ย?..




นี่ไงเฉลย..





เหมือนตุ๊กๆ ไหมครับ?



อันนี้ก็เหมือนสามล้อปั่น
แต่ประทานโทษ..คนปั่นบางคน ใส่สูทผูกไท้นะคร้าบ..




เมื่อเดินทาง มาถึงร้านขายยา

(การเดินทางกับทัวร์ในจีน เขามีข้อกำหนดว่าต้องพาลูกทัวร์
ไปเยี่ยมชม และ ซื้อสินค้าตามแหล่งต่างๆ เหล่านี้ครับ
อย่างน้อย 4-5 แห่ง ถ้าได้ไปก็ควรทำใจไว้นะครับ

เห็นใจไกด์หน่อย ไม่งั้นเขาตกงานจริงๆ แต่เราจะซื้อหรือไม่ มันเรื่องของเราเนาะ)


มีโรงเรียนอนุบาลอยู่ข้างๆ
เช้าๆ แบบนี้คุณครูใจดีก็เลยพาเด็กๆ ออกมาเต้น เรียกเหงื่อ




แหม..เด็กๆ จีนนี่น่ารักน่าหยอกดีจริงๆ นะครับ!(^_^')



ออกจากร้านยา ก็มุ่งหน้ายังจุดหมายต่อไป คือ ไห่โหลวโกว
ระหว่างทางก็สวยครับ ภูเขาสูงใหญ่ ตระหง่าน รอบทิศเลยทีเดียว







หลับบ้าง ตื่นมาแซวกันบ้าง
เฮฮากับเรือ่งเล่าขำๆ ของไกด์สาวไทย "เตย" ไกด์จีนหนุ่ม "ชาติชาย" กันบ้าง
จนกระทั่งมาถึงบ้านชาวเขาหลังหนึ่งซึ่งปลูกผักกาดเขียวต้นเท่าบ้านเอาไว้ (สวยจริงๆ พับผ่าสิ)





สวยจนทนไม่ได้
ก็เลยต้องขอซื้อเอาไว้ต้นหนึ่ง
ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเอามันไปทำอะไร..(เขาเรียกว่า หัวใจสะออน)



นี่เป็นโฉมหน้าอุโมงค์เอ้อหลางซานยาว 4 กิโลเมตร

ระหว่างปลายอุโมงค์ด้านนี้ กับ อีกด้านทางฝั่งกระโน้น
มีความแตกต่างของสภาพภมิอากาศกันราวกับคนละโลก (จริงๆ)

เขาเรียกว่า ด้านนึงเป็น หยิน อีกด้านเป็น หยาง
ฝั่งหนึ่งอาจแดดเปรี้ยงๆ อีกฝั่งอาจหมอกครึ้มหนาวจัด

ถ้าไม่มีข้อมูลตรงนี้บอกล่วงหน้า รับรองว่า ผ่านอุโมงค์ออกอีกด้านแล้วอึ้งครับ
อากาศมันคนละเรือ่งเลยจริงๆ




ใกล้ๆ กับทางเข้าอุโมงค์ ครับ




นี่เป็นร้านจำหน่ายถั่วจีนชนิดต่างๆ

วางขายอยู่หน้าอุโมงค์ครับ
นัยน์ว่าอากาศข้างหน้าหนาวเหน็บ ชายวัยฉะกันผู้รอนแรมเดินทางผ่านไป
คงต้องหิวกระหายสุราร้อนๆ มาร่ำเป็นแน่

พ่อค้าหัวใสเลยเอาถั่วมาล่อแมลง
ล่อสำเร็จเสียด้วยสิ ฮ่าๆๆ






เย็นวันนั้น ก็เดินทางมาถึง Pearl Garden Hotel ครับ
อากาศดีสุดๆ ใกล้เคียง ศูนย์องศาเซลเซียส
พูดออกมาเป็นไอ จนต้องหายาแก้ไอมาจิบเลยเชียว! ( แป่ว!)




เย็นย่ำจนค่ำเหยียบ ก็เดินเยื้องย่างไปบนถนนสายเล็กๆ ของเมือง

แวะซื้อผลไม้ และอาหารว่าง ชิมกันบ้างตามประสา
ผมเดินไปเดินมาหน้าร้านนี้หลายรอบ
คำนวณในใจว่า ควรจะทดลองมันดีหรือไม่
ผลสุดท้ายก็ไม่ได้ลองครับ ไม่กล้า

เพราะเกิดเป็นอะไรมา ด้วยฤทธิ์ดีกรีแผลงๆ 58 ดีกรีในถังแดงๆ นี้แล้ว
การเดินทางครั้งนี้เป็นอันหมดความสวยงามลงทันที

(กลับห้องไปจิบไวน์กันดีกว่าเรา)





บรรยากาศยามเช้า ที่ Pearl Garden Hotel ครับ
สวยสุดๆ
(แต่ยังไม่สุดๆ ของทริปนี้ อิอิ)







ที่ด้านข้างของโรงแรม
เป็นทางเข้าสู่เขตของธารน้ำแข็ง ไห่โหลวโกว (Hailougou Glacier)

ซื้อบัตรซื้อตั๋วแล้วก็รอคิวขึ้นรถโดยสารของทางอุทยานฯ

ทีแรกก็คิดอยู่ว่าทำไมต้องนั่งรถเค้า เอารถเราขึ้นไปได้ไหม

พอพบกับฝีมือการขับอันชำนิชำนาญทาง
แล้วก็ถนนบนยอดเขาที่เปียกและมีน้ำแข็งปกคลุม ก็เลยเข้าใจ


นี่เป็นวิวระหว่างทางครับ
ขณะแวะให้พักเข้าห้องน้ำ

(ห้องน้ำที่จีน เดี๋ยวนี้เค้าทำดีครับ มีน้อยมากที่จะเป็นแบบ ราง รุ่นก่อนๆ)








ธารน้ำแข็ง ไห่โหลวโกว เป็นยังไง ดูตามรูปเลยครับ
มองเผินๆ ก้คล้ายกับลำธารน้ำทั่วไป เพียงแต่นี่เป้นน้ำแข็ง
มันไม่ได้ไหล ทว่าหยุดนิ่ง แล้วทำไมมันถึงได้มีลักษณะเหมือนกับกำลังไหลอย่างนั้น
แล้วทำไมมันถึงมีน้ำแข็งไปวางอยู่บนตัวลำธารได้เหมาะเจาะอย่างนั้น

ผมเดาเอานะ..
ว่านานมาแล้ว พื้นที่แถบนี้อยู่ที่ต่ำ ธารน้ำก็มีน้ำไหลนั่นแหละ
แต่เวลาผ่านไป เปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลง ยกตัวขึ้น
คล้ายๆ กับบริเวณเทือกเขาหิมาลัย
ธารน้ำธรรมดา ก็เลยกลายเป็นธารน้ำแข็งดังที่เห็น (นี่ผมเดาเอานะ ไม่ใช่ข้อมูลอ้างอิง)




















สารภาพดีกว่า ว่าตอนนี้ชัก งงๆ

ว่า ขั้นตอนการเดินทางไป ยังไงที่ไหนต่อบ้าง
(ฮะๆ)
คั่นเวลาด้วยการเอา ด้านท้ายของธารน้ำแข็งไปดูพลางๆ นะ
(แชทถามป๋าชิตก่อน)



ได้คำตอบมาแล้ว
ว่าหลังอาหารกลางวัน
เราเดินทางไปง้อไบ๊ทันที (เอีะ นี่ผมได้ไปกับทริปนี้หรือเปล่านะเนี่ย ทำไมมันเลอะๆ เลือนๆ)

แต่จากไห่โหลวโกว มาง้อไบ๊ ใช้เวลาหลายชั่วโมงมาก
กว่าจะมาถึงก็มืดซะแล้ว
หลายๆ จุด แม้แต่กระทั่งบ่อน้ำพุร้อน
เราก็ไม่ได้ไปเยือน
แต่มีเสียงเพือ่นกระซิบมาว่า ไม่เป็นไรหรอก
ยอดเขาจินติ่ง กับ ซีหลิงซาน จะทำให้อิ่มเอมไปเอง..

ตื่นแต่เช้าที่โรงแรมในง้อไบ๊
มีรถโดยสารมารับถึงที่ ทั้งๆ ที่ความจริงเราต้องเดินทางกันไปเอง
อันนี้ยกความดีความชอบให้การประสานงานของไกด์หนุ่ม"ชาติชาย" กับไกด์สาวสุดสวย "เตย"นะคร้าบ..

ขึ้นเขาเลี้ยวโค้งหักศอกมาได้สักระยะ
จะพบเจ้าหน้าที่สามสี่นาย ยืนถือโซ่ เตรียมฟาดอย่างซาดิสม์ๆใส่พวกเรา!

ไม่ช่าย..
เขาเตรียมเอามาใส่โซ่ให้ล้อน่ะครับ
โซ่นี้ก็มีเฉพาะรถแต่ละคัน แต่ผมเห็นมีบางคันไม่เตรียมมา เจ้าหน้าที่ก็เอาที่มีไปใส่ให้
เพราะทางข้างหน้านั้นอีกยาวไกล
ไหนจะมีหิมะจับพื้นผิวถนนจนกลายเป้นน้ำแข็งนั่นอีก
หากไม่ใส่โซ่ มีหวังได้ลื่นกันสนุก..






คนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำป้อมบนยอดเขาจินติ่ง
จากจุดนี้มีทางเดินขึ้นกิโลกว่า
แต่เราเป็นคณะวีไอพีตัวแทนเยาวซนจากประเทศไทย
ทางการจีนเลยสั่งให้เจ้าหน้าที่คนนี้ เปิดไม้กั้นให้เรานั่งรถขึ้นไปได้!

(มีเยาวซนบางคนส่งเสียงดีใจ หันไปเยาะเย้ยคนเดินเท้าข้างทาง
ที่ต่างเดินกันเหนื่อยหอบ..เดินขึ้นเขากิโลกว่าบนที่สูงขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆนะครับ ขอบอก)








ไม่รู้ว่าหิมะจับขนาดนี้
มันยังสามารถใช้การได้ไหม
ไม่แน่..อาจจะโทรแล้ว หายตัววับไปโผล่ที่ The Matrix !!!




ทิวทัศน์มุมหนึ่ง




อีกมุมหนึ่ง




และอีกมุมหนึ่ง
บนยอดสูงสุดจินติ่ง (3,077m)อันเป็นสถานที่สักการะบูชาของผู้คน



นี่ไงครับ
จุดหมายปลายทางที่รอนแรมมาจนถึงสถานที่แห่งนี้
พระโพธิสัตย์ผู่เสียนทรงช้าง(สมัตภัทธโพสัตย์)
พระพักตร์ 10 ทิศ สูง 48 เมตร
โดยรอบประกอบไปด้วย ตำหนักทอง ตำหนักเงิน ตำหนักสำริด และ ตำหนักเหล็ก
ประหนึ่งว่าได้จำลอง 4 พุทธคีรีมาไว้ ณ ที่นี้ ..
(ลอกมาจากเอกสารนำเที่ยวของ Spring International Travel Service(Tha)Ltd.ทุกเม็ด)




ข้างในเป็นแบบนี้



สิงโตหน้าโบสถ์ (เขาเรียกว่าผี่ซิ่ว ผี่เซียะใช่ไหม?)



ภาพนี้ เหมือนจะเคยเห็นในเมืองไทย
แต่บนเขาสูง ในสภาพอากาศแบบนั้น
ได้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเมืองไทยครับ..
(ชัวร์)




ไกด์สาวสุดสวยบอกว่า ยอดเขาจินติ่งสวยแล้ว
แต่ซีหลิงสวยกว่านี้อีก..
แหม..อย่าราคาคุยนะน้องง

อันนี้เป็นป้ายบอกทางครับ
ดูแล้วงงไหม?
ผมงง ล่ะ ขำดี





เขาเขียนมาว่าตำหนักทอง สำหรับภาพนี้











นี่ผมเก็บมาฝากทุกช็อตที่เดินเลยนะครับ
ตอนนี้กำลังเดินลงจาก วิหารทองคำ (ตำหนักทองนั่นแหละ)




ไม่อยากจะบรรยายอะไรมาก
เพราะคำพูดบางทีมันทำลายความสวยของภาพนะ





เขาบอกว่า คนรักกัน
มาคล้องกุญแจเขียนชื่อเอาไว้ด้วยกันที่นี่
จะครองรักกันยืนยาวชั่วกัลปาวสาน!
(เฮ้อ..ขอถอนหายใจแบบไม่มีคำบรรยายกับเรื่องนี้หน่อยนะ)



นี่คือภาพที่ถ่ายจาก หอนั่งกระเช้า
กำลังจะเดินทางลงจากยอดเขาแล้ว


...



...To Be Continued...
คลิกเลือกในคอลัมน์ซ้าย ครับ สำหรับภาค 2
หรือ
คลิกไปอ่านภาค2ที่นี่เลย




 

Create Date : 21 ธันวาคม 2550
46 comments
Last Update : 1 มกราคม 2551 14:55:47 น.
Counter : 2017 Pageviews.

 

ว้าว สวยจังเลยค่ะ

 

โดย: P R I N C E S S IP: 58.8.85.111 21 ธันวาคม 2550 0:40:30 น.  

 

ไปไม่ชวนเล้ย....

 

โดย: แม่อ้อ IP: 58.9.187.24 21 ธันวาคม 2550 0:47:26 น.  

 



มาฟังเพลงเพราะๆแล้วเสพรูปสวยๆ

 

โดย: ดาวทะเล 21 ธันวาคม 2550 1:01:52 น.  

 

ขอสมัครเป็นแฟนBlogด้วยคนน่ะค่ะ รูปสวยมากๆๆๆๆๆ ชอบๆๆ ดูแล้วเพลินดีรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลย

 

โดย: Little Rabbit IP: 124.120.207.234 21 ธันวาคม 2550 1:15:55 น.  

 

ย๊าววว ยาว พี่หลิวชอบเขียนอะไรยาวอยู่แล้วแถมรูปเยอะสะใจดีจริงๆ รูปสวยดีจัง เม้นท์ไว้ก่อน เดี๋ยวไปอ่านต่อเด้อ

 

โดย: J-Nap IP: 117.47.76.81 21 ธันวาคม 2550 1:54:22 น.  

 

ขอตามพี่ใหญ่ไปเที่ยวนะคะ

วันนี้น้องเล็กไป ปาร์ตี้ เลดี้ไนท์เอ้าม์ค่ะ มึน นิดน่อยค่ะ

ไวน์เพียบเลยค่ะ

จากเซ้าท์อออฟ ออสเตรเลียค่ะ

 

โดย: น้องเล็ก IP: 84.64.218.244 21 ธันวาคม 2550 6:24:15 น.  

 

นั่งอ่านอยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ
ดูภาพในหมอกแล้วชอบ เพราะอ่านไปสั่นไป คือตอนนี้หนาวมากๆ อุ่นขึ้นมา 2 วันแล้วกลับมาหนาวอีก ตอนนี้หน้าบ้านก็มีหมอกมองอะไรไม่เห็นเลยค่ะ พอจินตนาการว่าที่นั่นหนาวอย่างไร ก็เลยหนาวเข้าไปอีก

ภาพสวยดีค่ะ นี่ครบ 111 ภาพแล้วเหรอ ยังไม่จุใจเลยนิ * - *

 

โดย: wad IP: 222.123.65.73 21 ธันวาคม 2550 7:59:42 น.  

 

ถ่ายสวยมากๆ น่าเที่ยวจิงๆ

 

โดย: hua IP: 58.9.25.238 21 ธันวาคม 2550 9:23:49 น.  

 

บรรยากาศสุดยอดเลยครับ

 

โดย: sigy IP: 125.24.50.29 21 ธันวาคม 2550 9:25:47 น.  

 

อยากกินผักในรูป มันเขียวอวบดีแท้....

 

โดย: missdesign IP: 58.147.6.195 21 ธันวาคม 2550 9:27:28 น.  

 

สุดยอด ศิษย์พี่
ดูเพลินเยย รุปงามมั๊กๆค่ะ

อยากลองใช้บริการปั่นหู 5555

 

โดย: Michiyo 21 ธันวาคม 2550 9:31:30 น.  

 

สวยๆ น่าไปเที่ยวจริงๆ ไว้จะจัดทริปไปมั้ง

 

โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) 21 ธันวาคม 2550 10:07:28 น.  

 

รูปสวยดีน่ะ บรรยากาศดี...แต่เหมือนขาดอะไรไปป่าว...อ้าวดื่ม....ฮิฮิ

 

โดย: zatanโคราช IP: 117.47.75.70 21 ธันวาคม 2550 10:14:30 น.  

 

ไปเที่ยวอีกแล้วสินะน้อง
ขอให้มีฟามสุขอะ

 

โดย: อินทรีทองคำ 21 ธันวาคม 2550 10:21:59 น.  

 

ชอบภาพตู้โทรศัพท์สาธารณะจัง
ตอนแรกมองผ่านๆ นึกว่ากล่องไปรษณีย์หน้าบ้าน

^^

 

โดย: I am just fine^^ 21 ธันวาคม 2550 11:32:47 น.  

 

ทำนานไหมนี่ บล็อคนี้

คุณเหยื่อรายที่ 7 ที่ชม.หนาวด้วยเหรอคะ อยากให้เมืองกรุงหนาวบ้าง เซ็ง ...อยากหนีเที่ยว

ตามมาดูรูป มีทั้งหมดกี่ภาคหว่า

 

โดย: quin toki IP: 202.142.193.15 21 ธันวาคม 2550 11:54:44 น.  

 

สวยเว้ยยยย
อยากไปอีกอ่ะ
คราวหน้าอย่าลืมที่ตกลงกันนะ
จิ่วไจ่โกว
เหอๆๆๆๆๆ

 

โดย: Pa Chit IP: 124.120.116.220 21 ธันวาคม 2550 12:23:03 น.  

 

ว้าว น่าอิจฉาเจงๆ ขอบพระคุณที่ส่งลิงก์ให้ตามมาชมค่ะ โชคดีๆ

 

โดย: k IP: 117.47.64.225 21 ธันวาคม 2550 18:17:34 น.  

 

ฝีมือการถ่ายภาพ..ถือว่าเยี่ยมมากค่ะ..ภาพสวยทุกรูปเลย...

 

โดย: aryah IP: 61.47.23.113 21 ธันวาคม 2550 18:41:07 น.  

 

สวยมากทุกรูปเลยค่ะ

 

โดย: whitelady 21 ธันวาคม 2550 19:17:52 น.  

 

เฮียหลิวถ่ายรูปไม่ธรรมดาเลย สวยครับ เรื่องสนุก มุมมองเยี่ยม รวมแล้วเต็ม 10 ให้11

 

โดย: ตลกดี IP: 58.9.231.35 21 ธันวาคม 2550 19:36:35 น.  

 

สวยมากๆๆ หนุอยากไปมั้งจัง

 

โดย: MIMI IP: 117.47.155.209 21 ธันวาคม 2550 20:45:46 น.  

 

สีสันจัดจ้านดีนะคะเมืองจีน

ว่าแต่..ห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวเมืองจีนเขาพัฒนากันหรือยังคะ

 

โดย: ju IP: 117.47.164.20 22 ธันวาคม 2550 10:37:31 น.  

 

เห็นแล้วอยากไปเดินลุยหิมะบ้างจัง

 

โดย: oh IP: 58.8.83.111 22 ธันวาคม 2550 14:17:26 น.  

 

สวยไม่มีที่ติเลยจริงๆๆ

 

โดย: Four_9999 IP: 125.25.54.88 22 ธันวาคม 2550 22:05:49 น.  

 


สวัสดีครับ แวะมาทักทายกันนะครับ
ใกล้ปีใหม่แล้ว ก็ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ

 

โดย: คนสวน (land_scape_man ) 23 ธันวาคม 2550 2:09:55 น.  

 



รอนานเลยกว่าจะโหลดรูปดูได้หมด แต่ก็คุ้มเพราะภาพสวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ

คริสต์มาสและปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ขอให้มีความสุขมากๆ
สุขภาพแข็งแรง ได้พบแต่สิ่งที่ดีงามในชีวิตและโชคดีตลอดปีค่ะ

 

โดย: haiku 23 ธันวาคม 2550 4:59:42 น.  

 

วันที่ 13-17 มกราปีหน้า

ผมจะไปคุณหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง

แล้วจะเก็บภาพมาฝากครับท่าน


ดื่มมมมม

 

โดย: ปะหล่อง IP: 58.137.30.254 23 ธันวาคม 2550 19:33:15 น.  

 

ขอบคุณสวรรค์ที่ประทานดวงตาคู่นี้ให้เห็นความงดงามของโลกที่เหนือคำบรรยาย
ขอบคุณช่างภาพที่ถ่ายภาพได้งดงามเสียเหลือเกินค่ะ 555

 

โดย: My Private Angel IP: 124.121.104.43 24 ธันวาคม 2550 14:31:46 น.  

 

อยากไปด้วยจังเลย อิจฉาสาวๆเยอะดี แต่ติดตรงที่...นะครับเฮีย เอาไว้คราวหลังไปได้แน่นอนครับ

 

โดย: กล๊อฟ สีซอ IP: 210.203.161.75 25 ธันวาคม 2550 10:40:17 น.  

 

สวยงามมากเลยค่ะ
อยากไปบ้างค่า

 

โดย: Pa IP: 58.8.83.111 25 ธันวาคม 2550 23:38:54 น.  

 

 

โดย: รักบังใบ 28 ธันวาคม 2550 9:59:13 น.  

 



ปีใหม่นี้ขอให้มีความสุขมากๆ
สุขภาพแข็งแรงและโชคดีตลอดปีนะคะ


 

โดย: haiku 28 ธันวาคม 2550 11:44:02 น.  

 

ข้าน้อย น้องแพม แวะมาสวัสดีปีใหม่ท่านพี่
(ออกแนวเจ้ายุทธภพเล็กน้อย)

มีความสุขในปีใหม่นี้นะพี่นะ ทั้งปีเลยก็ได้ถ้าไม่กลัวความสุขมันล้นใจ
มีสุขภาพที่แข็งแรง บ่เจ็บบ่ปวด บ่เป็นตับแข็งเด้อ

แอบอิจฉาอ่ะ เที่ยวอีกแล้ว
แต่อย่างว่าเนอะ ว่าแต่เค้าไอ้เราก็เที่ยวจังเหมือนกัน

 

โดย: Pam_Pink 29 ธันวาคม 2550 9:54:47 น.  

 

สวยมาก ถึงมากที่สุดค่ะ เห็นแล้ว อยากไปจังเลย บรรยายได้ แบบว่า ถึงว่าไปเที่ยวเองเลยค่ะ อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจัง

 

โดย: look gade IP: 125.24.102.213 29 ธันวาคม 2550 14:57:16 น.  

 


 

โดย: เนตรนภัส 31 ธันวาคม 2550 18:35:56 น.  

 

ขอให้มีความสุขทุกวันในปีใหม่นี้ครับ

ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในชีวิตครับผม

Photobucket

 

โดย: พ่อน้องโจ 1 มกราคม 2551 2:37:51 น.  

 

Wishing you good times, good health, good cheer

Happy New Year Comments


 

โดย: แอ๊ป IP: 61.7.160.60 2 มกราคม 2551 13:02:09 น.  

 

มา BLOG คุณนัสวันนี้ สุดคุ้มเลยค่ะ

ได้อ่านเรื่องราวดีดี
พร้อมชมภาพสวย ๆ จากเมืองจีน

หนิงแวะมาสวัสดีปีใหม่ค่ะ


 

โดย: run to me IP: 58.147.44.65 2 มกราคม 2551 13:44:03 น.  

 

บล็อคยาวมากกกกกกกกเลยค่ะ เราขอตามไปเที่ยวจีนดีกว่า

ป้ายร้านของก๊อปปี้นี่กะทำเอามาตีหัวคนไทยเข้าร้านเลยนะคะเนี่ย

รูปธารน้ำแข็งสวยมากมาย

 

โดย: LEE (lyfah ) 16 มกราคม 2551 23:18:39 น.  

 



ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้
Happy Chinese New Yearค่า

พาไปเที่ยวจีนแต่ละแห่งสวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ


 

โดย: haiku 6 กุมภาพันธ์ 2551 21:27:51 น.  

 



 

โดย: run to me 14 กุมภาพันธ์ 2551 9:33:21 น.  

 

Valentine Comments
Valentine Comments



Happy Valentine's Day na ka...

 

โดย: lek IP: 67.159.45.91 14 กุมภาพันธ์ 2551 10:08:08 น.  

 



สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะ


 

โดย: haiku 14 กุมภาพันธ์ 2551 23:07:31 น.  

 


พี่หลิวๆขาขาขาขา อัพบล๊อคได้แล้วค่า

 

โดย: Kimura IP: 58.137.68.4 18 กุมภาพันธ์ 2551 14:17:01 น.  

 

ได้ข้อคิดดีๆ เเละ มุมมองจากการท่องเที่ยว ภาพได้บรรยากาศมากครับ

 

โดย: Dark Secret 1 มีนาคม 2551 21:20:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อะไรดี
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ขี้เกียจแต่ทำจริง เข้มแข็งแต่อ่อนโยน ชอบใช้อารมณ์แต่มีเหตุผล เลือดร้อนแต่ใจเย็น รักสงบแต่อย่าแหยม นิ่งเฉยแต่โรแมนติก ไม่มีตังค์แต่ชอบเที่ยว สายตาไม่ดีแต่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบนั่งเฉยๆ แต่ชอบดูหนังในโรง รักความเงียบแต่ชอบเสียงเพลง นิ้วสั้นป้อมแต่ชอบเล่นกีตาร์ ชอบมองฟ้าแต่รักดำน้ำ ลายมือไม่สวยแต่ชอบเขียนหนังสือ หัวใจหลายห้องแต่มีรักเดียว (กิกิ้ว!) รักเด็กแต่ไม่อยากมีลูก ยังหายใจแต่ชอบสมมติว่าตัวเองตายไปแล้ว ชอบฝันและจินตนาการแต่คลั่งไคล้ความจริง เงียบขรึมแต่จริงใจ หัวไวแต่บ้าและเพี้ยน ผมน้อยแต่ยาว หน้าตี๋แต่เหมือนเต่า เชื่อฟังแต่แอบดื้อ!!!
ขอบฟ้า...ปลายฝัน

๑. รอนแรมไกลสุดฟ้า เพียงใด
ยังไม่อาจเติมเต็มใน ใจข้าฯ
ยิ่งค้นยิ่งห่างไกล หายหมด แรงสิ้น
กลืนกินความเหว่ว้า ล่าถอย คอยรัง

๒. ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง
สรรพสิ่งเคลื่อนไหวดัง ลมร้อน
ทำใจยอมรับฟัง ตั้งอยู่ ในเกณฑ์
เตือนตนอยู่บนเส้น โลดเต้น ตามกรรม

๓. กวาดตามองฟ้าคราม ยามเย็น
กวาดใจมองไม่เว้น หย่อมหญ้า
ค้นหาคำตอบเห็น เป็นอยู่ ความนัย
แต่ใจไยอ่อนล้า ข้าฯบอด ใดกัน

๔. หายใจรดโลกอยู่ นมนาน
ยังไม่เคยพบพาน เช่นเจ้า
ฟ้าลิขิตบันดาล ทางผ่าน บังเอิญ
เกินกว่าคำบอกเล่า เข้าถึง ทางใจ

๕. ความงามของโลกนั้น คงเดิม
ความงามของเจ้าเติม ใจข้าฯ
ดวงตาคู่ใหม่เสริม เติมจิต โดยพลัน
วันใหม่ดูเจิดจ้า ขอบฟ้า ปลายฝัน...
คำเตือนนะ! ขอสงวนลิขสิทธิ์ทั้งหลายในเวบบล็อกนี้และห้ามมิให้ใช้เวบบล็อกนี้เพื่อการอย่างอื่น นอกจากการชมเพื่อความบันเทิงภายในที่พักอาศัยเท่านั้น ห้ามมิให้ทำการเปลี่ยนแปลง ทำซ้ำหรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของเวบบล็อกแห่งนี้ โดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุดเด้อ!...
Google

Free JavaScript from
Rainbow Arch

You AlwaYs WanT WhaT YoU HaveN'T GoT... The Sea Kisses The Beach With The White Slight Waves...
Friends' blogs
[Add อะไรดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.