...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

ทองห่อผ้าขี้ริ้ว



ทองห่อผ้าขี้ริ้ว

คนรุ่นย่าน่าทึ่งคะนึงคิด
ผูกภาษิตสำนวนคำให้จำหมาย
“จนทำรวยอาจจมล้มละลาย
อยู่อย่างง่ายแบบจนคือคนรวย”

คนรุ่นปู่อยู่กระท่อมซอมซ่อ
เอาแต่พออยู่ได้ไม่เอาสวย
จุดตะเกียงจุดไต้ไส้เป็นพวย
ร่ำรวยแบบ "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง”


มารุ่นลูกรุ่นหลานอยู่บ้านหรู
มีเตียงตู้วีดีโอโชว์สนอง
เครื่องเสียงแผ่นซีดีมีเป็นกอง
คอมพิวเตอร์เป็นต้องซื้อตั้งโชว์

ที่หน้าบ้านลานจอดรถยนต์นั่ง
ดูดุจดังเศรษฐีมีเงินโข
โทรศัพท์มือถือรุ่นมือโปร
ใช้เงินโตไม่ติดขัดบัตรรูดเงิน


แต่ภายในใครรู้หากดูเห็น
เหมือนไฟเย็นเผากายน่าอายเขิน
ธนาคารรีดดอกเบี้ยเสียจนเพลิน
ความเจริญแบบทาสอนาถใจ

ทาสรับใช้ได้มาชำระหนี้
ทั้งชีวีเป็นทาสนายทุนใหญ่
ต้องผ่อนส่งต้นดอกงอกเรื่อยไป
สังคมใหม่คือทองทาผ้าขี้ริ้ว




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2550
14 comments
Last Update : 1 กรกฎาคม 2550 17:39:33 น.
Counter : 2513 Pageviews.

 

ประกาศ คปป. ฉบับที่ 2

โปรดทราบ...
ขณะนี้ "บ้านกวีสีชมพู" ได้อยู่ในสถานการณืปกติแล้ว ทางคณะ คปป. จึงขอประกาศให้ลูกทีมกลับที่ตั้งมั่นเพื่อคืนอำนาจให้แก่คณะเจ้าของบ้านได้บริหารบ้านต่อไป
โปรดฟังอีกครั้ง...

คณะ คปป. ทั้งหลาย สลายโต๋

 

โดย: ปลายแปรง 2 กรกฎาคม 2550 7:14:53 น.  

 

อ้อ..ลุงบูลย์
ขอเก็บค่าลิขสิทธิ์ด้วยนะ "บ้านกวีสีชมพู"
ได้รับความนิยมเป็นที่แพร่หลายเดี๋ยวจะส่งใบจดสิทธิบัตรพร้อมใบแจ้งหนี้ไปให้นะคะ...
คนหน้าอ่อนกว่าวัย...จ่ายไม่อั้นอยู่แล้วววววววววว

 

โดย: ปลายแปรง 2 กรกฎาคม 2550 7:17:26 น.  

 

มีเรื่องจริงที่น่าปลื้มใจเกี่ยวกับการไปอบรมสัมมนา นักเขียนพานแว่นฟ้าครั้งนี้มากมาย ชนิดที่ในชีวิตของลุงบูลย์ไม่เคยพบเจอและไม่คิดว่าจะมี ขอนั่งพิจารณาดูก่อนว่าสมควรจะนำมาเปิดเผยหรือไม่ เพราะถ้าเปิดเผยจะเกิดผลร้าย
๑ คนที่ไม่ชอบหมั่นไส้(แน่ ๆ)
๒ เขาหาว่า ไอ้นี่ขี้โม้ หลงตัวเอง
๓ อื่น ๆ ซึ่งยังไม่รู้ว่าอะไรบ้าง ตามคำของหลวงวิจิตรวาทการที่ว่า

"อันที่จริงคนเขาอยากให้เราดี แต่ถ้าดีขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้ จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน"


จึงยังต้องรอพิจารณาอนุมัติก่อน แต่ได้เล่าบางส่วนให้คุณหนอนเมืองกรุง ที่เอาลูกเกาลัดถุงใหญ่ ราคาหลายเงินไปฝากและนั่งคุยนั่งกินกันกับนักเขียนอีกสองสามคน จน ๕ ทุ่มจึงจากลา

 

โดย: lungboon IP: 125.27.234.104 2 กรกฎาคม 2550 11:27:06 น.  

 

..ปัจจุบันทันสมัย
อยู่ด้วยใจที่พอเพียง
ฟุ้งเฟ้อต้องหลีกเลี่ยง
ต้องไม่เสี่ยงเพียงสุขกาย
วัตถุที่นิยม
ทำใจขมมามากมาย
ชีวิตหวิดฉิบ..ย
เพียงมุ่งหมายในเงินตรา
พอมีและพอกิน
มีทรัพย์สินพอควรค่า
มุ่งหมายปลายชีวา
มีคุณค่าแก่สังคม..

 

โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 2 กรกฎาคม 2550 11:36:21 น.  

 

เคยมีกลอนบทหนึ่ง ซึ่งลุงบูลย์ จดจำมาแต่เด็ก และอาจจะไม่ถูกต้องนักสำหรับบางคน บางสถานที่ บางเวลาและบางกาละ กลอนบทนั้นว่าไว้ดังนี้

เขาอิจฉาดีกว่าเขาสงสาร
เสนอท่านเป็นเพื่อนไว้เตือนจิต
เขาสงสารเมื่อเราดิ้นลงสิ้นคิด
นึกปลงจิตเวทนาชะตาเรา

แต่คราเราได้ดีมีลาภยศ
เกียรติปรากฏวาสนาเกินกว่าเขา
เขาจะคิดอิจฉาชะตาเรา
แถมจะเฝ้าทำลายให้สิ้นไป

ถ้าอยากให้เขาสงสารหมั่นคร้านเข้า
หยุดไม่เอาธุรกิจชนิดไหน
เขาอาจคิดสมเพชสังเวชใจ
จนใครใครสงสารขานพุทโธ
........

ฟังดูก็ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเป็นการบ่งบอกถึงการแย่งยศ แย่งลาภ แต่ลุงบูลย์ก็โดนแย่งมาแล้วตลอดชีวิต จนเห็นเป็นสัจจะ และได้เขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือเรื่องสั้น "ม่ายแน่...มานอาจจะลีก็ล่าย"

สำหรับลประสบการณ์ที่ได้รับในระหว่างไปอบรมสัมมนา "นักเขียนพานแว่นฟ้า" จึงอาจจะเอาไปใส่ไว้ในบันทึก เรื่องเล่า ข่าว ประจำวัน เพราะอาจจะเป็นประโยชน์แก่นักเขียน หรือนักต่อสู้รุ่นน้องและหลาน ๆ

 

โดย: lungboon IP: 125.27.234.241 2 กรกฎาคม 2550 14:01:44 น.  

 

สวัสดีคะ

บล็อกหวานมาก ๆ เลยคะ ทั้งดอกไม้ สีชมพู และผีเสื้อ
แสดงว่า โลกยังสดใจ


 

โดย: แพรจารุ 2 กรกฎาคม 2550 15:30:50 น.  

 

สวัสดีครับ ยาย หรือ แพร จารุ

ผมชอบสีโทนเหลือง ๆ ส้ม ๆ สว่าง ๆ หรือชมพู ๆ ครับ ถ้ามีให้เลือก เพราะตลอดชีวิต(นักเขียนและราชการ)เคยมีความทุกข์เศร้ามามากแล้ว

ตอนนี้เป็นยุคสุดท้าย คิดว่าน่าจะสิ้นกรรม(ใกล้ตาย)แล้วครับ

 

โดย: lungboon IP: 125.27.234.241 2 กรกฎาคม 2550 16:47:31 น.  

 

...สวัสดีครับลุงบูลย์..
กลอนบทนี้ได้ใจมากครับ...ชอบ..ชอบ

ฝากไว้หน่อย
...อันชาวบ้านชนบทบ่เคยบ่น
ถึงความจนความยากลำบากหน่าย
ทำงานตากแดดแผดเผากาย
ทั้งหว่านไถกล้าดำเพื่อทำกิน

แต่คนกรุงม่งมั่นงานสบาย
หนักก็บ่ายหน้าหนีลี้กันสิ้น
ชอบแต่เพียงงานเบาเข้าทำกิน
ใช้แต่ลิ้นโลมเลียไม่เสียแรง

 

โดย: big-lor 2 กรกฎาคม 2550 17:07:31 น.  

 

สวัสดีครับพี่บูลย์


อ่านกลอนไปด้วย ฟังเพลงนี้ไปด้วย
อันที่จริงผมก็ชอบเพลงนี้ของพี่หงามากเพลงหนึ่ง
เพราะลึกซึ้ง ฟังได้ไม่เบื่อ
ตามปกติผมไม่ใช่นักฟังเพลงหรอก

บางทก็ยังจำชื่อเพลงไม่ได้เลย

รออ่านเรื่องนักเขียน พานแว่นฟ้า ยิ่งทำเป็นออกตัวว่าอย่างโน้นอย่างนี้ยิ่งทำให้อยากอ่านใหญ่


ขอให้มีความสุขกาบการงานทุกชนิดนะครับ

 

โดย: พ่อพเยีย 2 กรกฎาคม 2550 19:00:14 น.  

 

หวัดดีค่ะลุงบูลย์
กลับถึงบ้านปลอดภัยแล้วนะคะ
เปลี่ยนเพลงได้แล้วค่ะ
ลุงบูลย์ฟังไม่ได้ก็ช่างลุง แต่คนอื่นฟังได้นี่นา

ช่วงนี้งานยุ่งๆๆๆๆ
ตามอ่านบล็อกยอดนิยม สองสามบล็อกแทบไม่ทันค่ะลุง

 

โดย: นกแสงตะวัน 2 กรกฎาคม 2550 20:05:38 น.  

 

สวัสดีค่ะอาบูลย์
มากุงเต้บทั้งที ทำไมไม่อยู่นานๆ ทานเกาลัดให้หมดเยาวราชไปเลย

ที่ชุมพรฝนตกทุกวันเหมือนกรุงเทพไหมคะ
ส่วนมากถ้าที่นี่ครึ้มฝนแบบนี้ ชุมพรมักจะหนักกว่าหลายเท่า
ฝนตกทีไรใจแป้วเพราะ ไม่ค่อยมั่นใจว่าไปสาบานกับใครไว้หรือเปล่า...

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.64.146 2 กรกฎาคม 2550 20:20:09 น.  

 

สวัสดีคุณบิ๊กลอ
ที่มาต่อตอบกลอนคำอ่อนหวาน
เรื่องชนบทและกรุงฟุ้งตามกาล
ทุกทุกบ้านแทบร้างเพราะห่างคน

ในชนบทบัดนี้มีคนแก่
คนหนุ่มแท้เข้าเมืองเขื่องทุกหน
ปล่อยทุ่งร้างสวนไร่หลายตำบล
ต่อไปคนต้องกินหินและกินปูน

ไม่มีคนทำนาและทำสวน
ยกขบวนไปรับจ้างร่างหายสูญ
อยู่ตามซอกตรอกตึกนึกอาดูร
ไปเพิ่มพูนพิษภาวะอนิจจัง...

 

โดย: lungboon IP: 125.27.233.42 2 กรกฎาคม 2550 23:27:15 น.  

 

โดม
สงสัยหนูกัดสายลำโพงพี่เสียแล้ว ตอนนี้คนอื่นได้ฟังเพลงแต่พี่เงียบฉี่ เรื่องที่ไปพบในงานพานแว่นฟ้า ใจหนึ่งไม่อยากเล่า เพราะอาจกระทบกระเทือนไปถึงผู้อื่น จึงอาจเล่าได้แต่กับเพื่อนฝูงทางโทรศัพท์หรืออะไรประมาณนั้น

สวัสดี นกแสงตะวัน
บล็อกยอดนิยมคงไม่ใช่บล็อกของลุงหรอกนะ งั้นก็ตามติดไปเถอะถ้าหากว่ามันทำให้เราสิ้นเหงาไปบ้าง ไปกรุงเทพฯเที่ยวนี้ไปสะดวก มาสบาย แถมได้กำลังใจมาเพียบ

สวัสดี ตะเบบูญ่า
อยากอยู่ทานเกาลัดให้หมดทั้งเยาวราชเหมือนกัน ถ้ามีคนซื้อให้ทุกวัน แต่แหมค่าโรงแรมคืนละเป็นพัน คงอยู่ได้ไม่เกินสี่คืน และในความเป็นจริงก็อยู่ไม่ได้ เพราะไม่มีงานที่ชอบให้ทำ สู้กลับมาบ้านดีกว่า พอมาถึงก็เข้าทำงานพร้อมกับตอบในบล็อก

ใช่ครับที่ชุมพรฝนตกทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ตกแล้วหยุดเป็นช่วง ๆ

ขอบคุณทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ คนที่มาฝากไมตรีไว้กับบล็อกสีชมพู

 

โดย: lungboon IP: 125.27.233.42 2 กรกฎาคม 2550 23:38:38 น.  

 

กลับมาเมื่อวาน วันนี้ยังเบลอ ๆ เลยลืมตอบคุณหทัยชนก จึงขอยกมาตอบตรงบล็อกนี้ และขอโทษด้วยที่ลืมตอบ

ขอบคุณนะครับที่มาเยี่ยม กาพย์ยานีของคุณไพเราะมากทำเอาผมตอบต่อไม่ถูก เซ่อไปเลย...

ขอพักสมองสักวันสองวัน ส่วนกลอนที่เอามาโพสต์ทุกวันผมไปยกเอาที่เขียนไว้นานแล้วมาโพสต์

 

โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.233.42 3 กรกฎาคม 2550 0:07:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pantamuang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.