...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ตอบกลอนคุณหทัยชนก


(ภาพหยดน้ำจากดอกไม้ มาจากอีเมล์ของคุณอุเทน พรหมแดง)
...อาบูลย์ขา นกต่อกลอนสุนทรพจน์
โดยกำหนดฉันทลักษณ์สลักแน่น
ไม่สนใจรางวัลใดให้ตอบแทน
หรือเป็นแก่นสารใดไม่สงกา

เขียนกวีเพราะมีใจใฝ่ในรัก
มุ่งปกปักวจนภาษา
ดำรงไว้เอกลักษณ์อักษรา
มีคุณค่าเกินกว่าจะปล่อยวาง

แต่สังคมผันเปลี่ยนวนเวียนหมุน
มิใคร่หนุนดำรงไทยให้สืบสาน
ใครชื่นชมความเป็นไทยในแต่กาล
ก็อาจพาลว่าแก่แย่จริงเรา

นกเป็นสาวรุ่นใหม่..ใช่ลบหลู่
ชอบเรียนรู้เทคโนฯโก้เหมือนเขา
แต่ก็รักอักษราภาษาเรา
โดยเฉพาะบทเก่ากวีกานท์

พนมมือด้วยเคารพนบผู้ใหญ่
ความเป็นไทยมิอาจจบลบเลือนผ่าน
ถูกสอนสั่งมาดังนี้ทุกวี่วาร
ยังตระการในใจไม่รู้ลืม

ขอทักทายผ่านมายังพี่สาว
ด้วยยึดเอาเป็นพี่ น้องนี้ปลื้ม
สวัสดี พี่ปลายแปรง ไม่แกล้งลืม
น้องด่ำดื่มสำนวนพี่ที่มาลง

ประมวลคำที่กล่าวมาคิดว่าใช่
อายุไขนกเป็นน้องต้องประสงค์
แต่ใช่อ่อนเยาว์วัยให้งวยงง
อีกสองปีจะแก่ลงเลขสามไป

ถ้าเข้าใจผิดพลาดบังอาจเอื้อม
ขอโปรดเชื่อมไมตรีที่มีให้
แก้ข้อมูลถ้าน้องคิดผิดจริงไป
ช่วยแก้ไขจะขอบคุณหนุนเป็นทาน

ก่อนจะกลับขอหันมาหาอีกหน
สุขเหลือล้นนะคะเจ้าของบ้าน
ไปนอนอ่านนิยายท้ายสวนนาน
สนุกสนานกับผีดิบเสียจนเพลิน

สงสัยคงต้องหาเมืองผีดิบอ่าน
จะได้ต่อเนื่องกาลเมื่อนานเนิ่น
ไว้วันว่างจะไปเดินหาให้เพลิน
ร้านหนังสือคงเผอิญจะเจอมัน

แล้วจะรออ่านต่อเมืองเทวดา
ตอนที่หกคงจะมาโพสดังฝัน
เจ็ด แปด เก้า ตามติดต่อเนื่องกัน
แล้ววันนั้นคงมาถึงอีกไม่ไกล

วันนี้คงแค่นี้ขอลี้ก่อน
พรุ่งนี้จะมาอ้อนอาบูลย์ใหม่
กราบ..ขอบคุณอาบูลย์ที่มีใจ
ให้เด็กน้อยฝึกใหม่ได้ต่อกลอน...

ตอบกลอนคุณหทัยชนก



เยี่ยมเลยหลานหทัยชนก...
ที่ต้องการปักปกอักษรสาร
สมัยก่อนคนไทยใช้มานาน
เขาเรียกขานเพลงยาวคงเข้าใจ

กลอนที่ว่าของสาว ณ ขอนแข่น
หาใช่กลอนจากแดนถิ่นใต้ไม่
คำอะคึ อะคึ หึหึไง...
เธอเป็นไกด์นำเที่ยวเมืองอุบล

แต่หทัยชนกยกว่าเยี่ยม
สำนวนกลอนอ้อนเปี่ยมไม่สับสน
แต่ก็มีนิดหน่อยถ้อยคำวน
ด้วยว่ากลสัมผัสพลัดหลงตา

"เขียนกวีเพราะมีใจใฝ่ในรัก
มุ่งปกปักวจนภาษา (ตรงนี้เพราะมาก)
ดำรงไว้เอกลักษณ์อักษรา
มีคุณค่าเกินกว่าจะปล่อยวาง

แต่สังคมผันเปลี่ยนวนเวียนหมุน
มิใคร่หนุนดำรงไทยให้สืบสาน
(ตรงนี้ต้องใช้สระอา-ง-เช่นสืบสร้าง อะไรประมาณนี้ครับ)
ใครชื่นชมความเป็นไทยในแต่กาล
ก็อาจพาลว่าแก่แย่จริงเรา"

ซึ่งไม่ผิดมากมายให้อายเขิน
เพียงแต่เพลินลืมไปใจง่วงเหงา
เพราะภาระงานนั้นไม่บรรเทา
จะมาเกลากลอนใหม่ใช่ว่างนัก

แต่หากเขียนบ่อยบ่อยจะค่อยแน่น
จะเป็นแก่นวัฒนธรรมนำศิลป์ศักดิ์
เป็นศิลป์ศักดดิ์ชาติไทยด้วยใจภักดิ์
เป็นเสาหลักให้รุ่นหลานสืบสานไทย

(ขออนุญาตเอากลอนของหทัยชนก ยกเป็นบทกวีใหม่ในบล็อกนะครับ ท่านผู้ใดจะมาช่วยต่อก็ยินดีครับ)



Create Date : 16 กรกฎาคม 2550
Last Update : 16 กรกฎาคม 2550 10:54:29 น. 13 comments
Counter : 1811 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ แวะมาดูอา-หลาน ตอบกลอนกันสนั่นจอ

ต้องขออภัยลุงบูลย์นะคะ ในความล่าช้าของเว็บ
ตอนนี้แจมก็หนีเที่ยว.. แวะมาขอความรู้จากพี่ ๆ ที่เชียงใหม่น่ะค่ะ

กลับคืนนี้แหละ ไปรถไฟ ถึงกรุงเทพฯ อาจจะต่อรถทัวร์
เดี๋ยวดูอีกทีก่อน กระบี่ไม่มีรถไฟนี่ลำบากคนชอบนั่งรถไฟจังค่ะ

อิอิ มีบ่น ๆ

แจมมาเลียนทำเว็บเพิ่ม ได้ความรู้ไปอีกเพียบค่ะลุง

เดี๋ยวยังไงจะได้เอาไปปรับปรุง พัฒนา ให้คนอื่นพอได้ประโยชน์บ้าง

คิดถึงลุง และพี่ปลายแปรง
นี่ดีใจจัง.. มาลงคอมเม้นท์ได้ก่อนใครเพื่อน

(อยู่ร้านเน็ตคาเฟ่ หน้าเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว เชียงใหม่)



โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:17:16 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงบูลย์

หทัยชนกส่งบทกลอนถึงลุงบูลย์
ลุงบูลย์ต่อกลอนตอบถึงหทัยชนก
อ่านแล้วเพลิดเพลินดีจัง
อ่านออกเสียงดัง ๆ ยิ่งไพเราะจับใจ

ไม่กล้าอ่านออกเสียงดัง ในที่ทำงานค่ะ
อะคึ่ ๆ







โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:18:05 น.  

 
...ได้อ่านกลอนสุนทรสารทั้งหลานอา
ที่โต้ตอบไปมาวาจาหวาน
มธุรสคำถ้อยร้อยจำนรรจ์
ที่เสกสรรนำมาใช้ล้วนได้ความ

จึงมาร่วมดีใจกับไทยด้วย
มีคนช่วยรักษาภาษาสยาม
ให้กระเดื่องเลื่องลือระบือนาม
แต่งกลอนตามฉันทลักษณ์ถูกหลักการ

แม้นเป็นคนรุ่นใหม่แต่ใจเก่า
อนุรักษ์ของไทยเราไม่หักหาน
รักษาแบบแนบคำตามอาจารย์
ขอกราบกรานในน้ำใจที่รักษ์ไทยจริง


โดย: big-lor วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:44:12 น.  

 
สวัสดีดีครับพี่บูลย์

ฮะแอ้ม... แหม แต่งกลอนเก่งกันจังเลยครับ

ผมแต่งกลอนไม่เป็น (ถ้าลูกบิดพอได้บ้าง)


เลยได้แต่อ่านไปยิ้มไปในอารมณ์สุนทรีย์ของคนแต่ง


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.20.175 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:53:20 น.  

 
สวัสดี สีน้ำฟ้า มาก่อนเพื่อน
ตัวไปไกลแต่ใจเยือนถึงนี่
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่นแสนดี
บิ๊ก-ลอร์ต่อจี้กลอนจับใจ...

ส่วนโดมมาที่สามงามในจิต
เพราะไม่คิดว่าจะมาหาพี่ได้
ด้วยภาระแม่ยกหนักอกใน
ตอบไม่หวัดไม่ไหวในกระทู้...

เจ้าของบ้านวันนี้มีลูกฟลุก
พอต่อกลอนตอนสนุกก็คุกคู้
ประตูบ้านพาลปิดติดในรู
ก็ไม่รู้ว่าเหตุเภทอันใด...

และคงจะอีกหลายหลายคน
ที่กังวลกับบ้านเข้าไม่ได้
ส่วนพี่พอเจ้ามาก็ว่าไป
ขอขอบใจทุกท่านที่เมตตา.

พูดภาษาธรรมดาบ้าง เดี๋ยวเกิดตายขึ้นมาจะย้อนยุคกลับไปเกิดในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนต้นถึงตอนกลาง คงจะเพริดกันน่าดู
แบบ "แหวนนี้ท่านได้แต่ใดมา" นายประตูวังถาม
ศรีปราชญ์ตอบว่า "เจ้าพิภพโลกา ท่านให้"

หรืออย่างตอน(ศรีปราชญ์)จะถูกเจ้าพระยานคร สั่งตัดคออยู่แล้ว ก็ยังเอาหัวแม่เท้าเขียนลงบนพื้นทรายว่า "ธรณีนี่นี่ เป็นพยาน เราก็ศิษย์อาจารย์ หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร เราชอบ" แต่ลุงบูลย์คงไม่ชอบ ผิดไม่ผิดก็ต้องว่า เราถูก ไว้ก่อน ฮะแฮ่ม

เอ้อ ตกลงว่าขอบคุณทุก ๆ สำนักบล็อกละครับที่เข้ามาเยี่ยม แม้ว่าบางท่านจะไมมาเมนท์ไว้ (เพราะด้วยรู้สึกหมั่นไส้หรือเกรงใจก็ตามที)

เมื่อเช้าดูยอดคนเข้าตอนนี้เกือบ ห้าพันแล้ว แต่สำหรับโดมวันละเป็นร้อย... ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้มาทำบล็อกเพื่อหาคะแนนลงสมัคร สส.สักหน่อย อะคึ ๆ ๆ (หัวเราะแบบสาวบ้านนอก ณ ขอนแก๊น)


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.233.170 วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:10:28 น.  

 
มาออดอ้อน..อาบูลย์..นกพูนสุข
ด้วยสนุก ตอบโต้กลอน อักษรสาร
มีคนอ่าน มีคนยอ ต่อเหตุการณ์
ส่งเมื่อวาน พอวันนี้ มีโพสลง

พร้อมสอนสั่งว่าสัมผัสยังขัดเขิน
ด้วยบังเอิญไม่ชำนาญจึงพาลหลง
งั้นคงต้องแก้ไขใฝ่บรรจง
จะได้ส่งเสริมศักดิ์อักษรา

"เขียนกวีเพราะมีใจใฝ่ในรัก
มุ่งปกปักวจนภาษา
ดำรงไว้เอกลักษณ์อักษรา
มีคุณค่าเกินกว่าจะปล่อยวาง

แต่สังคมผันเปลี่ยนวนเวียนหมุน
มิใคร่หนุนดำรงไทยให้สืบสร้าง
ใครชื่นชมความเป็นไทยในบรรพ์บาง
บอกว่าอย่างนี้แก่แย่จริงเรา"

บ้านกวีสีชมพูดูสดชื่น
คนหยิบยื่นไมตรีร่วมหยอกเย้า
มาแวะเวียนเพียรตอบคำพร่ำพริ้มเพรา
ก็เพราะเจ้าของบ้านนั้นใจดี

จึงมีคนล้อมหน้าและล้อมหลัง
เปรียบดุจดังนักเขียนใหญ่วิไลศรี
แม้ชอบบอกว่าตนไม่ใช่กวี
แต่คนที่มีดี..มักถ่อมตน..


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:21:03 น.  

 
โอย...ไม่ยอม..ไม่ยอม...

มาเรียกสาวเลขสามว่าแก่....กำลังจะคบหาอยู่เชียวนะ..เลิกคบไหมเนี่ย..
ใครบอกว่าขึ้นสามแล้วแก่..ขอโต๊ด...เข้าสู่วัยสะพรั่งดอกไม้บาน เมื่อก่อนบอกใครๆเสมอว่าชีวิตเริ่มต้นตอนเลขสาม...เข้าใจไหม เพราะตอนเรียนแก่เสียก่อนเพื่อนความแก่เลยอยู่แค่นั้น ในขณะที่ตอนนี้เพื่อนๆแก่กันไปแล้ว...เราก็ยังคงความสาวเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วไว้ได้ไง...เข้าใจยัง

แต่ก็โชคดีนะ..ที่ยังไม่แก่ถึงขึ้นร่ายเพลงยาวคุยกัน

เนอะ..พี่โดมเนอะ...อย่าพยายามแก่อย่างเขาเลย เรายังรุ่นๆกันอยู่เลย....เปลี่ยนข้างเลยเรา

ลุงบูลย์..อยากได้ไอ้ตัวฆ้อนทุบหัวก็นู๋แจมเขาส่งมาให้ตั้งนานแล้วทำไมไม่เปลี่ยนล่ะ...ก๋ส่งมาให้พร้อมกันแล้วนะ...
สงสัยจะเมลล์เยอะจนหาไม่เจอนิ...

วันนี้ไฟลุกแล้วค่ะ...จะไปทำงานมั่งละ ไอ๊หยา....ฟังดูดีพิลึก จะทำงาน
โอย...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด..ข้าพเจ้าจะทำงานจ้า...
ทุกทีไม่เคยทำงานน่ะ..
จะปลูกผัก...ไปถากหญ้า....ใส่ปุ๋ยยาง...เลยไม่รู้ทำงานทำยังไงนิ

นก โนอาห์จ๋า...
ช่วงนี้ลุงบูลย์ขาดรายได้นะ ธารดาวเขาบอกเลิกเช่าชั่วคราว...มาเช่าสิเดี๋ยวจะเก็บค่าเช่าให้ลุงบูลย์เอง (ชัก 10 %...อะเหอ...อะเห...)


โดย: ปลายแปรง วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:07:31 น.  

 
ลุงบูลย์ดังใหญ่แล้วมีคนเอากลอนลุงมาศึกษาด้วย
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jantarakupt&month=16-07-2007&group=2&gblog=2

เห็นเขาเขียนว่าเป็นงานที่โรงเรียนน่ะครับ
แอบไปอ่านมา เห็นว่าเป็นของลุงเลยเอามาให้ดูครับ


โดย: big-lor วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:06:51 น.  

 
ขอบคุณคุณ Big-lor อย่างยิ่งครับ
ลำพังผม ๆ ไม่รู้หรอกว่ากลอนของผมถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษา

กลอนบทนี้ผมเคยส่งให้นิตยสาร ที่พ่อนักเขียนใหญ่เขียนอยู่แต่ ไม่ผ่าน พอดีผมรวบ ๆ ส่งสกุลไทยไปเป็นปึก กับที่นำมาลงในเวบบล็อกนี่ผมส่งประกวดที่ โลกสีเขียว โดยทำเป็นหนังสือทำมือ มีภาพประกอบ เหมือนอย่างที่ผมเอามาลงในบล็อก

ก็รู้สึกสบายใจครับที่ว่า มีผู้เห็นความดีของบทกวี เอ๊ยกลอน ผมไม่ค่อยกล้าเรียกตัวเองว่ากวี และผลงานกลอนว่ากวี เพราะบทกวีจริง ๆ ที่เขาเขียนกัน ผมอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง
คุณ big-lor ไปเจอได้ไงครับ


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.234.90 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:32:47 น.  

 
ชอบๆ ชอบกลอน


โดย: tirannor (tirannor ) วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:05:50 น.  

 
คุณ หทัยชนกครับผมใช้นามสกุลกาพย์ศรี เหมือนกัน บ้านเดิมอยู่วัดสะตือ ตำบลท่าหลวง ท่าเรือ อยุธยา ผมจำได้ว่าปู่ผมคนเดียวที่แตกนามสกุลมาจาก อังกาบศรี พ่อผมชื่อสมนึก ผมจึงสงสัยว่าคุณคงเป็นลูกของอาผมคนใดคนหนึ่งแน่ๆ เพราะพ่อผมเป็นลูกชายคนแรกของปู่ ลืมไปปู่ชื่อแป๊ะ ย่าชื่อกุหลาบ อาผมมี อานัส อาแจ๋ว อาน้อย เดิมผมชื่อดณูมารัลจ้างสอนเด็กให้รัฐบาลเขาที่ขุขันธ์ ศรีสะเกษเกือบ30ปีแล้วไม่ค่อยกลับไปเยี่ยมบ้านเลยไม่รู้ข่าวคราวญาติๆเลย แล้วที่เห็นในwebอีกคนก็ ก้องภพ กาพย์ศรี ไม่รู้ลูกใครอีกหมือนกัน


โดย: นัษฎา กาพย์ศรี IP: 61.19.66.155 วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:13:59:24 น.  

 
สวัสดีครับพี่นู คนที่ชื่อก้องภพ กาพย์ศรี คือพี่โจ้ครับ ลูกลุงแจ๋ว+ป้าตุ๊กครับ ว่าแต่พี่นูกับครอบครัวสบายดีนะครับ ไม่ได้ข่าวคราวและไม่ได้เจอนานมากๆ


โดย: ลูกชายคนเล็กของอาน้อยครับเองครับ IP: 61.90.19.122 วันที่: 29 เมษายน 2553 เวลา:2:15:00 น.  

 
ไฟท์เหรอ พี่ไม่ได้กลับบ้านนานๆกลับที ไฟท์บวชพี่ไม่รู้เลยไม่ได้ไป พี่สบายดี ไฟท์ละมีเมียหรือยัง


โดย: ดณู กาพย์ศรี IP: 61.19.66.167 วันที่: 7 มิถุนายน 2553 เวลา:15:51:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pantamuang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.