...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
23 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
คนเลี้ยงควาย ควายเลี้ยงคน



คนลี้ยงควาย - ควายเลี้ยงคน
(เรื่องจริงจากชุมพร)


คนเลี้ยงควาย นายกระบือ ชื่อตานุ้ย
มีควายทุย อยู่ร้อยตัว ปล่อยทั่วหน
มีอาชีพ นาไร่ จึงหายจน…
กลับมีคนเอาทุ่งทำสนามบิน

แกต้องย้ายควายฝูงไปทุ่งใหม่
ตามเงื่อนไขทุนนิยมสังคมถวิล
จะส่งเสริมการเที่ยวท่องจ้องหากิน
เลิกยุคหินสิ้นสมัยใครเลี้ยงควาย..

แกย้ายควายทั้งฝูงไปทุ่งร้าง
บึงรอบข้าง ไร้ค่า ทุ่งนาหาย
เพราะชาวนา ทิ้งนา ไปหาสบาย
ไปเลียแข้งขานายอยู่ในเมือง

ลูกชาวนาค่านิยมสังคมหรู
ขายนาปู่ ซื้อทาวน์เฮาส์ สีขาวเหลือง
แล้วซื้อรถกระบะผ่อนนอนหมดเปลือง
ไปหลงเฟื่องอยู่สองปีหนี้รุงรัง…

ธุรกิจติดขัดวิบัติสิ้น
บ้านที่ดินซื้อไว้ กลับหงายหลัง
ธนาคารยึดไปหัวใจพัง
ต้องเซซังกลับฐานบ้านเก่าควาย…

แต่ตานุ้ยอยู่ทุ่งไม่ยุ่งไขว่
ทำสวนไร่ปลูกข้าวมะพร้าวขาย
ใครมาชวน ไปไหน แกไม่อาย
แกมีควายพูนเพิ่มเติมทุกปี

แกไม่มีหนี้สินกินของสด
ข้าวไม่อดมีเงินตรามีราศี
เศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงแกดี
ทุกชีวีในบ้านแกแบกะดิน…

พอสนามบินร้างทุกอย่างหยุด
ลานบินทรุดถนนหายเสียดายสิน
ไร้ฝรั่ง จีน ไทย ดังใจจินต์
สนามบินเหลือแค่แต่อาคาร

ทุ่งนาร้างข้างถนนคนแบกไถ
จูงควายใหญ่ตัวดำทำหัวผาล
คือตานุ้ยคนดีหนี้ไม่บาน
คนฟุ้งซ่านเห่อฝรั่งนั่งเสียใจ…

ควรรีบกลับสู่ยุคใหม่เป็นไทยแท้
ตามกระแสพระดำรัสตรัสแก้ไข
สังคมคนพ้นวิกฤตชีวิตไทย
เศรษฐกิจทฤษฎีใหม่ คือ พอเพียง
0000000

วันนี้เอาเรื่องเบา ๆ ตลก ๆ มาสับเปลี่ยนครับ อ่านแล้วเอาแต่สาระอย่าคิดมาก


Create Date : 23 มิถุนายน 2550
Last Update : 23 มิถุนายน 2550 10:14:10 น. 13 comments
Counter : 7449 Pageviews.

 
งึมๆ..เหนภาพตามฮับ..หนามบินที่รกร้าง ห่างไกลความฝัน..

แหะๆ...เปนคนชุมพร...ขัดใจกะหนามบินมานานแระล่ะ...


โดย: floral_flory วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:12:43:56 น.  

 
เหอ...เหอ..เหอ...
คนชุมพรทันซิหมัยกว่าหนองงูเห่ามาตั้งนานแล้วไม่ยักกะรู้นิ....เสียดายนะที่เอาไว้ทำไร่ข้าวโพดเหมือนสนามกีฬาจังหวัดไม่ได้ สนามกีฬาเกือบทุกที่นะเลี้ยงควาย เลี้ยงวัวกันทั้งนั้นแหละตานุ้ยเอ้ย....
มาดูแถวกั่วป่ามั่งดิ๊...ก่อนสึนามิเห่อฝะหรั้งกันจะตาย ตอนนี้ตายหมดแย้ว....เกือบๆจะมีสนามบินเล็กที่เกาะคอเขาเอาไปลงรีสอร์ตใครก็ไม่รู้ คนใหญ่คนโตเมื่อสองสามปีก่อน...แอบดีใจที่สึนามิมากวาดเอาอารยธรรมตะวันตกออกไปเสียได้....กั่วป่าก็ยังเป็นกั่วป่าของคนกั่วปา เอาปลาไปปิ้งย่างที่หน้าหาดบางสักได้...ไม่ต้องเกรงใจสายตาฝะหรั้งว่าสะเหร่อ....ดีใจจังเล้ย

กลับมาแล้วก๊า....วิญญาณเพิ่งกลับลงร่างมารำไร ไม่รู้ชวงนั้นลอยหายไปไหน สงสัยจะไปกะสากครกแน่เลย ผีแม่นางสากพาขวัญหายไปด้วย...กลับมาแล้วเจ้าข้าเอ้ย

ฝากสากใหม่ไว้ทีลุงบูลย์ก่อนนะ...หาตังค์ค่าน้ำมันรถก่อน จะพาแรงงานไปขน กะไปแค่ค่าน้ำมันไปกลับพอ...ใจคอจะปล่อยให้ลูกหลานอดตายคาปะทิวให้คนเขาฉาวทั้งเมืองก็ช่างเถอะ.....
อ้อ...ตานุฝากถามว่าเดี๋ยวนี้อยู่เฝ้าเน็ตทั้งวัน ไหนว่าจะไปอยู่เชียงใหม่ไม่ใช่เหรอ


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:13:30:07 น.  

 
สวัสดียามบ่ายจ้า

คนเลี้ยงควายควายเลี้ยงคน
กลอนบทนี้โดนใจชะมัด

จำได้ว่าตอนไปชุมพร
ครั้งนึง อาบูลย์พาพวกเราไปดูสนามบินชุมพร
ที่เงียบเหงา

สมัยนี้หาคนอย่างตานุ้ยก็คงจะหาได้ไม่มาก
รากหญ้าเดี๋ยวนี้ก็มีหนี้สินไม่น้อยไปกว่าคนเมือง
เป็นปัญหาบ้านเมืองอยู่ในตอนนี้
ก็ต้องแก้ไขกันไป...

เรื่องราวบ้านเมืองตอนนี้
ทำให้หนอนฯ นึกถึงเรื่อง "เมืองผีดิบ" ของอาบูลย์น่ะแหละ
และที่คุณสุชาติเคยพูดถึง เมืองผีดิบ ของอาบูลย์ในคอลัมน์ของแกที่เนชั่นนะ
ถ้าว่ากันในเชิงสัญลักษณ์ ก็พอเทียบเคียงกันได้
จริง ๆ อาบูลย์เขียนเรื่องนี้มานานแล้วนะ
จะว่าเรื่องสั้นก็สมัยช่อการะเกดโน่นแน่ะ
มาขยายเป็นนิยายยาวก็เมื่อไม่กี่ปีก่อน

แหะ แหะ...ไม่มีไรหรอก
จะชมว่า อาบูลย์ของเราก็มีวิสัยทัศน์กว้างสายตายาวไกลข้าม....ปี (ไม่ถึงกะข้ามภพ) เหมือนกันนะเนี่ย
เอ...แต่ถ้ามองอีกที หรือเป็นว่า สังคม...บ้านเมืองเราพากันเดินถอยหลังกลับไปเยือนยุคกระโน้นก็ไม่รู้แฮะ





โดย: หนอนฯ IP: 58.9.170.63 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:13:56:23 น.  

 
คุณ floral_flory ได้ใช้บริการกะเขาเปล่าล่า สนามบินชุมพรนะ ลุงเคยใช้บินไปกลับเพื่อศึกษาบรรยากาศเหนือเมฆ ว่าเพราะเหตุใดคนจึงชอบยกเมฆกัน สุดท้ายก็ได้

แต่พอลุงกลับมา ๓ วัน บริษัทแอร์อันดามันเลิกบินเลย เขาทนขาดทุนไม่ไหว เรื่องนี้ต้องโทษคนชุมพร ที่เขามาสร้างให้แล้วไม่ไปใช้ ดีกว่านอนในช่องบันไดรถไฟเยอะเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.234.78 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:13:58:51 น.  

 
หนอน
ตานุ้ยมีตัวจริงนะ แกเล่าเรื่อง วิมานจอมปลวกให้อาฟัง นิยายเรื่องนี้พิมพ์น่าจะเสร็จแล้ว กำลังรอลงแผงต่อจาก พรายสึนามิ ในชื่อชุด "แผ่นดินปิศาจ"

ลูกชายตานุ้ยอาสอนมาทุกคนตั้งแต่สิบกว่าปี่แล้ว แกเป็นครอบครัวตัวอย่างจริง ๆ ไม่มีเทคโนโลยีใดไปเปลี่ยนแกได้ แกมีควายร้อยกว่าตัว อีกคนชื่อตาฮอด มี ๘๐ ตัว แต่ตาฮดอตายเสียแล้ว ตายด้วยถนนที่ตัดใหม่ตอนสร้างสนามบิน รถบรรทุกเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำ ทันแกตายคาที่...


โดย: lungboon IP: 125.27.234.78 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:14:25:13 น.  

 
โอ สวัสดีปลายแปรง กู้วิญญาณกลับมาได้แล้วรึ รู้มั้ยหายไปเป็นห่วงนะ คิดจินต์ไปสาระตะว่าคงโดนแบนเพราะการโต้ตอบในบล็อกเสียแล้ว

มีข่าวดี แย้ม ๆ หน่อย ว่าเวบบล็อกของลุงกำลังจะพัฒนาขึ้นไปเป็นเวบไซต์ pantamuang.com แล้วนะ

เป็นการก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ทีเดียว(มีผู้ใจบุญศรัทธาบริจาค)


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.234.78 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:14:30:13 น.  

 
สวัสดียามหัวค่ำ (ของหนอนฯ แหละ)

อ่านเรื่องตานุ้ย
ก็ให้ชื่นชมแกอยู่ในใจ

กรุงเทพฯ ฝนตกหนัก (เป็นหย่อม ๆ เพราะที่บ้านอีกแห่งฝนไม่ตก)
กลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัวก่อนเวลาอันควร
เนื่องเพราะฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจ
ก็ดีตรงที่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเป็นยังไงต่อไป...

นึกถึงเมืองผีดิบ และเรื่องตอนต่อ ๆ จากนี้ไป คงน่าอ่านมิใช่น้อย

คุยกะอาบูลย์แค่นี้ก่อนจ้า
เดี๋ยวหนอนฯ ต้องกลับบ้านโน้นแล้ว (คนหลายบ้านน่ะ)
เพราะราชรถกำลังจะมาเกย
ขี้เกียจฟังพี่ท่านบ่นอุบอิบน่ะจ้ะว่าชักช้าร่ำไร มัวทำไรอยู่

(อ้อ...มานั่งเมนต์นั่งเมาต์กะนักเขียนอีกแล้ว เฮ้อ... )


โดย: หนอนฯ IP: 58.9.170.63 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:21:34:56 น.  

 
ฮ่าฮ่า...ลุงผม..ลุงผม..ไม่ใช่ย่อยนะเนี่ย จะรอติดตามการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ครับ
ขอให้ลุงเบิกบานกับทุกอย่างที่ลุงเป็น-อยู่-คือ
อ้อ...คุยกับป้าบ้าง
มีเรื่องหนึ่งที่ลุงสอนผม แล้วผมนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
คือ การใช้ชีวิตคู่
ผมมองผู้มาก่อน พยายามก้าวตามอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่ตามทุกก้าว
ชีิวิตคู่น่ะ เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
ผมเคยถามลุงว่า ลุงยังจำ 'ความหวาน'เมื่อแรกเริ่มรักได้ไหม
ลุงตอบว่า จำได้แม่นยำ
เวลาหงุดหงิดโมโห จึงแทนที่จะระเบิดอารมณ์นั้น ผมเลือกที่จะถอยห่าง
แล้วระลึกถึง...ความหวาน
ไม่รู้สิ มันอาจเป็นวิธีการไม่ถูกต้องก็ได้
แต่ชีวิิตคู่ ผมว่ามันเป็นสัมพันธภาพที่่มีเพียงเส้นบางๆเชื่อมต่อกันอยู่
เมื่อใดเส้นนั้นขาด โอกาสต่อติดดังเดิมนั้น แทบเป็นไปไม่ได้
เอ๊ะ..คุยเรื่องอะไรเนี่ย!


โดย: ธารดาว IP: 203.146.63.185 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:4:46:43 น.  

 
..แวะ เหมือนเคย..


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:9:31:19 น.  

 
สวัสดีตอนสาย ๆ ค่ะ

คุณลุงลองไปดูตัวอย่างตรงนี้ก่อนนะคะ.. ถ้ามีปรับปรุงแก้ไขอะไร ก็บอกกัน

น้านพทำเสร็จเมื่อคืน (เห็นฟื้นจากไข้มานั่งทำก๊อกแก๊กๆ เพิ่งนอนเมื่อตอนสว่างนี่เอง..ผลัดกะ..ฮิฮิ)

//www.phiphitoday.com

ออนไลน์สำรองไว้ก่อนนะคะ ยังไม่ได้จดทะเบียนชื่อให้ลุงเลยค่ะ (ไม่รู้จะใช้ชื่ออะไรดี)

ลองดูค่ะ ลองดู..


โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:10:38:26 น.  

 
ลุงบูลย์คะ
แวบไปอ่านจุดประกายวรรณกรรมวันนีด้วยสิ...มีเรื่องสั้น"ตลาดหุ้น"ของใครก็ไม่รู้กำลังลงอยู่ฉบับนี้
ฮี่...ฮี่...ฮี่...ไม่ต้องเฉลยปัญหานะคะว่าของใคร
อยากอวดกะคนเป็นบานกะตูง่ะ


โดย: ปลายแปรง วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:12:45:31 น.  

 
สวัสดีหนอน สวัสดีหลานธารดาว สวัสดีคุณหทัยชนก สวัสดีสีน้ำฟ้า

วันนี้ลุงแย่แต่กลายเป็นเยี่ยมในตอนหลัง

แย่คือพอเปิดคอมเข้าเน็ตเวบบล็อกทำท่าจะโพสต์กลอนบทใหม่ หน้าจอคอมดับพึบ รีบยกไปหาช่างไปด้วยความโมโหจะซื้อใหม่อีกคัว (เงินไม่มีหรอกมีอยู่ราวหมื่นกะตฃจะผ่อน)

เวลา ๙ โมง ลากสายคอมไปให้ช่างดูด้วย ว่าสงสัยสายมันอาจจะเสีย ช่างดูปับเห็นปลายเสียบมีรอยไหม้ ถามว่าปลั๊กคอมลุงหลวมหรือเปล่า เออน่าจะใช่ ช่างเช็คเป็นชั่วโมงคอมไม่ดับ เปลี่ยนสายใหม่ ๒ ชุด หมดเงินไป ๓๐๐ กว่าบาท

๑๑ โมงกลับมาบ้านจะเสียบทำงานต่อ เพื่อที่เป็นเจ้าของแผงขายหนังสือในตลาดมาหา มาติดฝนพอดี นาน ๆ มาทีคุยกัน ๒ ชั่วโมงกว่า

พอเพื่อนกลับลนลานเข้ามาต่อสายใหม่ เข้าเวบต่อ
ส่วนที่เยี่ยมก็คือ สีน้ำฟ้ามาโพสต์บอกให้เข้าไปดูตัวอย่างเวบไซต์ที่เขาถวาย เอ๊ย บริจาคมาให้แก่นักเขียน จน จ๊น จน... คนหนึ่ง ซึ่งยินน้อมคารวะรับไว้ด้วยหัวใจ เพราะทุกอย่างฟรีหมด อะไรจะเยี่ยมปานนี้ในชีวิตของลุงบูลย์ ไม่มีแล้ว

สรุปวันนี้ไม่ได้โพสต์กลอนบทใหม่ เร่งซะจนข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กินเลย เมื่อเช้ากินมาม่าต้มแต่เอาหมูใส่ด้วย โพสต์ตอบหลาน ๆ ทุกคนเสร็จขอไปกินข้าวต่อนะ ตอนค่ำ ๆ จะได้อ่านกลอนบทใหม่ แต่เดี่ยวขอเช้าไปดูตัวอย่างเวบไซต์นิดกนึ่ง

มาถึงบ้านจะเสียบทำงานต่อ


โดย: lungboon IP: 125.27.234.41 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:16:34:24 น.  

 
ลืมตอบ ดีใจกับเรื่องสั้นใหม่ของปลายแปรง คนฝีมือดีมันได้ลงบ่อยอยู่แล้ว แต่ลุงว่าเธออน่าจะรีบไปเอาดีมางเขียนนิยายลงในขวัญเรือนหรือสกุลไทยนะ จะได้ร่ำรวยเสียที ไม่งั้นไส้แห้งอยู่อย่างลุงนี่แหละ อย่าเอาอย่างเลย


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.234.41 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:16:36:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pantamuang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.