...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
เรื่องสั้นหักมุม(ชีวิตแบบพอเพียง)

ลองเขียนเรื่องสั้นเป็นกลอน เผื่อน้อง ๆ คนใดจะเข้ามาเก็บเกี่ยวงานประพันธ์


ภาพ ขอยืมกระท่อมไม้ไผ่ ของคุณเฟื่องฟ้า เจ้าของเวบไซต์ กลอนธรรมะ มาใช้ คงไม่หวงนะครับ

....ฉันไปนอนบ้านตาตื่นมาเช้า................อากาศหนาวหมอกหนาฟ้าสลัว
ตาก่อไฟเอาไว้ให้ควายงัว......................แต่ตาตัวไม่อยู่ไปกู้ไซ

....ฉันเหมือนแขกแปลกหน้ามาผ่อนพัก.....เพราะใจรักบ้านตาฟ้าสวยใส
แม้ตอนฉันยังเด็กเล็กเกินไป....................ฉันขวักไขว่เรียนรู้อยู่ในเมือง

.....บัดนี้ฉันศึกษาปริญญาผ่าน..................กลับรำคาญสีแสงไฟแดงเหลือง
นึกรังเกียจเมืองใหญ่แสงไฟเรือง...............จึงฝันเฟื่องบ่ายหน้ามาอยู่ดง

.....อยากหาที่สงบจบงานเขียน..................ที่พากเพียรคว้าไขว่ใจประสงค์
ที่ยังทำไม่ได้ดั่งใจจง..............................แต่ยังคงมุ่งหน้าศึกษาการ…

.....เป็นกระท่อมง่ายง่ายอยู่ชายทุ่ง.............ตาตกกุ้งริมท่าเป็นอาหาร
เก็บผักบุ้งริมหนองลำคลองธาร..................กินข้าวสารจากนาเช่าข้าวคนจน

......ตาเป็นม่ายอาศัยสวนติดควนหนอง........มีลำคลองแนบชิดติดถนน
มีนายทุนวุ่นหวังทั้งตำบล...........................เฝ้าเวียนวนติดต่อขอซื้อนา

.....เขาจะทำรีสอร์ท ร้านอาหาร...................บริการแก้ปวดนวดแข้งขา
มีลานจอดรถใหญ่ชนไปมา.........................และขายค้าผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล

.....แต่ตารักปักใจใฝ่สงบ...........................อยากเห็นกบผสมพันธุ์วันชุ่มฝน
อยากเห็นปลาในบึงบัวมีตัวตน.....................อยากรักษ์มลชนบทแบบไทยไท
ฯลฯ

......เพียงหมอกไม่ทันจางตาย่างก้าว.............เหงื่อผุดพราวบนใบหน้าวาจาไข
“มีปลาตายหงายท้องลอยฟ่องใน-................บึงหนองใหญ่โดนยาเบื่อแต่เมื่อคืน

......มันหวังให้ปลาหนองในคลองเน่า.............บังคับเอาที่ดินขายหมายข่มขืน…”
ตกค่ำไม่รอช้าตาแบกปืน............................พอเที่ยงคืนเสียงปืนดัง ปัง! ปัง!..

.....ฉันรีบวิ่งไปดูหูตาแหก...........................ตานั่งแหวกชำแหละหมูอยู่ริมฝั่ง
มีหมูป่ามาขุดมันตาหมั่นระวัง.......................ซากหมูตั้งหงายท้องสิ้นข้องใจ.

เฮ้อ......(ถอนหายใจแบบโล่งใจ)

00000

วิธีหลอกคนอ่านแบบพื้นฐานและง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่ -โดยลุงบูลย์

000000








Create Date : 04 สิงหาคม 2550
Last Update : 4 สิงหาคม 2550 20:24:21 น. 34 comments
Counter : 12192 Pageviews.

 
ฮี่..ลุงบูลย์
สงสัยปลายแปรงจะมือเก่าแฮะเลยตีลังกาอ่าน.....

ส่งช่อการะเกดแล้วเรอะถึงว่างมารุงรังตามบล๊อคได้เนี่ย
กำลังจะไปนอน..
เห็นเสียงคนแก่แง้วๆอยู่แถวๆนี้เลยออกมาดูซะหน่อย

หลับฝันดีค่าลุงบูลย์

ตาสว่างแล้วจะมาป่วนใหม่ก๊า....


โดย: ปลายแปรง วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:21:31:25 น.  

 
อะไรกันนอนแล้ว
ตะกี๊ดูรายการของ astv 7ของสันติอโศก พบคนคุ้นหน้าชื่ออดุล อยู่ตำบลเหมาะ อำเภอกะปง บ้านเดียวกับเธอนี่แหละ ออกรายการเรื่องเกษตรอินทรีย์ เขาสบายมากผลลองกอง มังคุด ในสวนดก เขาไม่กลัวเรื่องราคาถูก ยางพาราของเขาก็น้ำยางออกเยอะ ไม่มีรารบกวน เพราะเขาลงทุนน้อยแต่ได้ผลมาก ไม่ต้องใส่ปุ๋ย ลองไปศึกษาในสวนเขาบ้างซี ลุงดูว่ายอดมาก...


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.236.39 วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:0:01:09 น.  

 
มาบอกขอบคุณอีกทีค่ะลุง

น้านพ ชิ่งอ่านพรายสึนามิจบไปเล่มหนึ่งแล้ว..


โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:4:48:56 น.  

 

...แวะมาอ่านเรื่องสั้นดั้นเป็นกลอน
ช่างสุขโขสโมสรจริงจริงหนา
อยากจะเขียนเลียนแบบแทบอ่อนล้า
ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดี

ด้วยยังอ่อนประสบการณ์ในงานเขียน
จะพากเพียรก็ยัง งง ไม่ประสี
คงได้แค่อ่านเอางานเขาดี
เช่นบทนี้มีชีวิตแบบพอเพียง

งานลุงบูลย์น่าอ่านทุกงานนะ
เลยไม่ละห่างหายยังส่งเสียง
ยังเข้ามาหาบ่อยค่อยมองเมียง
ไม่เคยเลี่ยงหนีห่างจากลุงบูลย์

ขอขอบคุณที่มีไมตรีให้
พร้อมมีใจเอื้อเฟื้อและเกื้อหนุน
คอยสั่งสอนติติงไว้ให้เพิ่มพูน
เขียนบทกลอนอย่างสมบูรณ์อ่านรื่นดี

อยากจะเขียนโต้โคลงแต่ไม่ไหว
ด้วยเป็นเด็กหัดใหม่ไม่ประสี
แค่บทเริ่มก็แทบแย่แย่เต็มที่
ผิดกำหนดบทที่เอกโทวาง

ขอหลานฝึกให้เชี่ยวชาญเสียก่อน
แล้วค่อยต่อจากกลอนเป็นโคลงบ้าง
ยังสนุกกับกานท์กลอนมิจืดจาง
แล้วว่างว่างหลานจะมาหาใหม่เอย...


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:12:18:46 น.  

 
สายัณห์สวัสดีค่ะลุงบูลย์
มิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
----------------------------------------------------
แวะมาอ่าน ออกเสียง งานเีขียนกลอน
ลุงบูลย์สอน อย่างแยบยล หลายคนชอบ
คิดไม่ออก บอกไม่เป็น อยากโต้ตอบ
สาวฯ ชื่นชอบ รจนา ภาษากวี

หทัยชนก เขียนได้ีดี อ่านสนุก
มาครั้งใด อารมณ์สุข สุนทรีย์
ตอบโต้กลอน สอนคนอ่าน ได้ความรู้
สาวฯ ลองเขียน แบบงู งู เป็นปู ปลา
----------------------------
หมายเหตุ : งู งู คือ งง
อะคึ่ ๆ

ปล. กว่าจะเขียนได้....ต่อมจินตนาการทำงานอย่างหนัก



โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:17:55:24 น.  

 
ได้ยินเสียงด้นกลอนสดกัน
เลยชะแว่บมาดู

หนอนฯ หายไปหลายวัน
อาบูลย์ยังคึกคักเหมือนเดิมเลยนะ

การงานคงก้าวหน้าไปเยอะแล้วล่ะสิท่า

เมื่อวันเสาร์หลังจากเสร็จงานประชุมที่โรงเรียนลูกชายแล้วในช่วงเช้า
บ่ายได้แวะไปที่ ป๋วยเสวนาคาร ซึ่งอยู่แถวบ้านหนอนฯ (เดินไปนิดเดียว)
เพราะนัดกะตะเบบูญ่าไว้
เรื่องไปพบปะฟังกวีซีไรท์เล่นเพลง
คุณศักดิ์สิริ มีสมสืบ
ได้ฟังเขาคุยกับนักเรียนที่มาสัมภาษณ์พักใหญ่
ก็ได้ความคิดที่หลากหลายเกี่ยวกับวิถีการดำรงชีวิต
การเขียนบทกวีและการเขียนเรื่องเพิ่มขึ้นค่ะ

ได้ฟังเขาเล่นเพลงไม่กี่เพลง
ก็อิ่มอกอิ่มใจเพราะน้ำเสียงเขาเพราะดีและมีพลังที่ขับจากด้านในค่ะ
ฟังคุณศักดิ์สิริบอกเล่าเรื่องราวและอ่านบทกวี
ประกอบเพลงก็ได้อรรถรสดีค่ะ

หนอนฯ ไม่ได้อยู่ในบรรยากาศอย่างนี้มานานแล้ว
ถ้าเป็นตะก่อนยังวัยรุ่นอยู่...ชอบไปดูนักเขียนนักกวีมาอภิปรายหรือมาเล่นดนตรีแบบนี้ล่ะค่ะ

บ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมาจึงดูแตกต่างจากเสาร์อื่น ๆ ค่ะ เอ้อ...ว่าแต่ว่าหนอนฯ มาเล่าเรื่องผิดบล็อกหรือเปล่านี่ ?

จะบอกว่า ชอบบทกลอนของอาบูลย์ที่เขียนหักมุมแบบนี้ มัน...มันส์...ในอารมณ์ดีเหมือนกันนิ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:19:16:59 น.  

 
...หทัยชนกยกคำหวานผสานศิลป์............ขับเพลงพิณเป็นกวีวจีขาน
ยอยกให้ตกยอพอเหมาะการ..................ลุงขืนฮกจะตกร้าน เพราะหลานชม...

....ชื่อหทัยชนกหัวอกพ่อ.......................คงเก่งจ้อผู้กำเนิดเลิศผสม
ประสบการณ์ชาญเชี่ยวดังเกลียวลม......... เอามาบ่มหมักก่อนย้อนคืนลุง

....อ้างว่าอ่อนประสบการณ์ในงานเขียน.....แต่รัศมีดังเทียนประกายรุ้ง
เหมือนรุ้งสีตะวันเฉิดเลิศอำรุง..................เพิ่มผดุงละลองไอฉ่ำใจชน
....เป็นมณีสีสวรรค์ฟั่นทอฟ้า...................ที่จะฝ่าเมฆคล้ำพายุฝน
เพื่อเป็นคลื่นลูกใหม่ในสกล....................บนถนนนักกวีมณีนิล
.....หทัยชนกยกกระแสเส้นแพรไหม.........มีน้ำใจดุจทิพย์จิบไม่สิ้น
ขอจบกลอนย้อนคืนชื่นสู่จินต์..................สู่หทัยใจถวิลนก-โนอาห์.


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.234.218 วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:22:55:06 น.  

 
พอมาเขียนก็ดันผิดอีกจนได้

ยอยกให้ตกยอพอเหมาะการ..................ลุงขืนงกจะตกร้าน เพราะหลานชม...

ลุงขืนงก


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.234.218 วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:23:00:02 น.  

 
เกือบแล้วจ้ะ สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น ลุงขอแก้ให้นิดหน่อยนะ

แวะมาอ่าน ออกเสียง สำเนียงสมร
งานเีขียนกลอน กับลุงบูลย์ พอเหมาะสม
อย่างแยบยล น่าสนใจ ใครชอบชม
สาวบ้านนอก บอกไม่ขม ชื่นชมกวี

หทัยชนก เขียนได้ีดี อ่านสนุก
มาครั้งใด อารมณ์สุข สุนทรศรี
ตอบโต้กลอน สอนคนอ่าน สารเนื้อดี
สาวฯ ลองเขียน แบบนี้ ได้แล้วนา..

(ช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยไว้ครับ)


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.234.218 วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:23:10:49 น.  

 
หนอนอยู่กรุงเทพฯจึงมีโอกาสพบนักเขียนและศิลปินบ่อย ๆ อาบูลย์อยู่บ้านนอกได้ฟังข่าวก็พลอยปลื้ม

โอ...นี่หนอนเข้ามาเย็นมากแล้วนี่ วันนี้ตอนเช้าอาขัดเกลาเรื่องสั้นเสร็จ ๑ เรื่อง ก็ขับรถไปเยี่ยมอดีตครูใหญ่ ที่ รพ.ในเมืองชุมพร แกหลับในขับรถชนต้นไม้ แต่แค่ขาแขนหัก ส่วนหน้าอกไม่โดนอะไรมาก ยังนอนพูดได้และทำใจดีอยู่

พอกลับมาก็ต้องไปซื้ออาหารที่ร้านมากินเพราะอาผู้หญิงไปเลี้ยงหลาน อาอยู่บ้านคนเดียว พอข้าวสุกนั่งดูละคร อาติดละครมาก ๆ ไม่ดูจะไม่มีอะไรคลายเครียด รสนิยมยังเป็นแบบชาวบ้านอยู่มาก

ละครจบจึงจะมาเข้าบล็อกดูว่าใครมาเขียนอะไรถึงเราไว้บ้าง ขอบใจหนอนที่เข้ามาคุย โทรศัพท์อาเปลี่ยนแบตแล้วแต่ไม่ใช่ของเดิมเลยดับ ๆ ติด ๆ ยังโทร.ไม่ได้ สงสัยจะต้องซื้อใหม่

เท่านี้ก่อนนะหนอนเดี๋ยวไปดูในเวบไซต์ต่อ


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.234.218 วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:23:20:45 น.  

 

โห คิดว่ามีแต่เรื่องสั้นหักมุม กลอนหักมุมก็มีด้วย
สนุกดีเหมือนกัน

แล้วยังเม้นท์กันเป็นกลอน อีกน่ะนะ
นับถือ นับถือ ความสมารถในการใช้ภาษาไทยค่ะ



โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:1:31:42 น.  

 
ชอบมากเลยครับ หักมุมจริงๆ
นึกว่าตา...

"กู้ไซ" หมายถึงอะไรครับ?


โดย: paopae (Green Tea Lover ) วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:2:25:33 น.  

 
เฮ้อ....
พอลุงเรากลับมา...
ไอ้หลานบ้านนอก ลูกทุ่งก็ชักจะยุ่งหัวใจเข้าแล้วไง
ก็เวลาเดินผ่านบ้าน...ร่ายเพลงบรรเลงกลอนกะเขาไม่ค่อยจะถูก...
เฮ้อ...
อีกที....

นู๋นก โนอาห์ก็คงจะว่างอารมณ์มาด้นกลอนกะลุงบูลย์ได้แล้วสิ....เฮ้อ..
ไปนอนเกาสะดือ...ดูลองกองเน่าคาสวนดีกว่า


โดย: ปลายแปรง วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:9:17:24 น.  

 
"มาจะกล่าวบทไป....(ไม่ทราบใครทันได้ศึกษาภาษาไทยเล่มนี้ไหม).....ถึงท้าวสามลเรืองศรี"

เห็นเด็กเด็กเล็กสนใจในกวี และติดที่คำว่า "กู้ไซ"

จำจะต้องขยายการให้หลานรู้ คำว่ากู้คือการยกเปิดปากไข (ปากไซ)
ไซดักปลาเขาจมน้ำตามหนองไง พอยกไซเรียกว่ากู้คือดูปลา

ดูว่าปลาติดไซบ้างไหมหนอ แกงสัมใส่มะละกอพอกินไหม

กับมะนาวบีบสดสดรสถูกใจ จบคำว่ากู้ไซเท่านี้แล
...............


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.236.123 วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:9:50:02 น.  

 
(กาพย์ยานี ๑๑)

......ขอบใจ สาวบ้านนอก................ที่มาบอก ออกจากฐาน
ตอบถ้อย ร้อยเหตุการณ์.................(ไม่)ไปแต่บ้าน หลานปลายแปรง

.......คนแก่ นับวันหงอย..................ขาดคำถ้อย คนแถลง
สาวหนุ่ม เขารุมแรง........................จับกลุ่มคุย แต่วัยมันส์

.......ไม่เป็นไร ใจคนแก่..................ได้อยู่แต่ บ้านสุขสันต์
สงบ จบในวัน................................ปลูกเผือกมัน ทำไร่กิน

.......ได้เขียน นิยายบ้าง..................ทำวันว่างให้เป็นสิน
ขายคิด จิตนั่งจินต์..........................สุขครบสิ้น ฉะนี้แล

ขอร้องเพลงของสุเทพ วงศ์กำแหง ที่ว่า
"ธมโม หะเว รักขะติ ธัมมะ จาริง..... พระพุทธองค์ ท่านทรงตรัสรู้ เป็นสัพพัญญู ตรัสสอนความจริง..."

เวบนี้เริ่มจะติดธรรมะมาจากบอร์ดธรรมะของคุณเฟื่องฟ้า และอาจจะกลายเป็นบอร์ด "ธรรมศิลป์" ในไม่ช้า เพื่อภาวนาให้ใจตนเองสุขสงบ ไม่ไปนั่งเหงาว่า เฮ้อ ไม่มีใครมาเยี่ยม แฮ่ ๆ เข้าท่า ๆ... (สอนตนเอง)


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.236.123 วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:10:08:01 น.  

 
อาบูลย์
ด้นกลอนซะสนุก
เห็นอาบูลย์เพลิดเพลินจำเริญใจกะกาพย์กลอน
พูดจาเป็นกลอนเป็นเรื่องเป็นราว
ระวังจะติดนา
เดี๋ยวพอมากรุงเทพฯ
พูดภาษากลอนกะหนอนฯ
หนอนฯ เป็นใบ้ (เพราะว่ากลอนไม่เป็น) ไม่พูดด้วยล่ะก็แย่เลย

ทำให้คิดถึงอาจารย์ภิญโญ ศรีจำลอง
อาจารย์ที่เคยเป็นอาจารย์สอนวรรรรคดีในวิทยาเขตที่หนอนฯ เรียนน่ะ
ท่านด้นกลอนสดเก่งมากเลย
ชอบเวลามาสอนหนังสือ
ไม่ต้องพกหนังสือมา
เพราะโคลงกลอนทุกคำ ทุกบท ทุกตอน อยู่ในหัวท่านหมดแล้ว
น่าทึ่งไหมล่ะนี่
น่าเสียดาย...ไม่ได้พบท่านอีก




โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 202.28.180.201 วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:11:09:26 น.  

 
รำพึง

......เฒ่าชะแรหมดแง่งามคมความคิด..............ก็คงได้แต่พิศว่าไฉน
หนอนเมืองกรุงจบสิกขาภาษาไทย..................แล้วอย่างไรไม่เก่งบรรเลงกลอน??

......เรื่องอาจารย์ภิญโญแสนโก้หรู...................ครั้งอาบวชนอนเล่นเป็นเณรหนอน
อ่านหนังสือตอนสายบ่ายเขียนกลอน................เคยได้ยินชื่อกระฉ่อน,จารย์ภิญโญ

......เรื่องกลอนสดยากล่าหาตัวมาจับ..............ประกบกับกลอนซีไรท์ใจเหวโหว
แต่พอให้เขียนเปลี่ยนวุฒิโฑ..........................จารย์ภิญโญไม่คมคำทำแปลกใจ

........เคยไปนั่งกินอาหารย่านศูนย์ค้า...............เริงศักดิ์พาไปเลี้ยงเพียงคนใหม่
กับอาจารย์ภิญโญโอ้กร่อยใจ.........................เพราะรู้เป็นผู้ใหญ่ชื่อเสียงดัง

........ท่านเคยชม ไม้เท้าชมพู ว่าหรูหรา............ว่าไม่ดียากหาพิมพ์ซ้ำครั้ง
ทีของท่านพิมพ์ไปไม่ได้ตังค์..........................ขายไปครั้งแล้วก็เหลือเบื่อการพิมพ์

........ข่าวสุดท้ายท่านป่วยเพราะตัวแก่.............เลยไม่แน่ว่าลืมตา... ว่าหลับพริ้ม
หนอนพอรู้บ้างไหมในวงริม............................ท่านภิญโญยังยิ้มหรือหลับตา

ตกข่าว ไม่ค่อยได้ติดตามเลย

all


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:16:49:01 น.  

 

พยายามปล้ำจะให้ตัวเป็นสีฟ้า..........ทดลองร่องไปมาดูน่าขัน
พอพิมพ์ลงเวบถาม ความใดกัน........จะให้ฉันเป็นสีรีบชี้มา

ลุงบอกว่า ออล คือทั้งหมด..............ผลปรากฏคือ ALLตัวเท่าฝา
all ตัวเดียวสีดำที่ทำมา...................สมน้ำหน้าคนอ่อนเวบอักเสบใจ

สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่นรีบแจ้นหน่อย...บอกลุงน้อยเถิดหนาว่าทำไฉน
ตัวจึงเป็นสีอื่นชื่นหทัย....................สีชมพูดูอ่อนใสแต่ม่ายลี... อ่านยาก

(ส่วนบล็อกสีชมพูนะดีแล้วจ้ะ ลุงซอบฮ่ะ)


โดย: lungboon (pantamuang ) วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:17:21:28 น.  

 
คารวะลุงบูลย์ค๊า
-------------------------------------
เริ่มสอนกันเลยนะค่ะ
อ่านตามที่ละบรรทัดนะคะนักเขียน เอ้ย! นักเรียน
(ได้ที) อะคึ่ ๆ

พิมพ์ข้อความตามต้องการ ดั่งใจปรารถนาแล้ว
พิมพ์สั้น-ยาวเป็นวา ไม่ว่ากัน เมื่อพิมพ์จบ
ให้เอาเคอเซอร์ มาวางที่อักษรบรรทัดแรกค่ะ (คลิก)

พิมพ์คำสั่งดังนี้ (เวลาสอนจะแปลงสัญลักษณ์นะคะ)

{font color=blue} พิมพ์เสร็จคลิก Submit ได้เลยค่ะ
คำแนะนำ...
สัญลักษณ์ที่พิมพ์ในบล๊อกฯ จริง
ให้เปลี่ยนจาก { } เป็น < >
ถ้าต้องการเปลี่ยนสีตัวอักษรเป็นสีอื่น ๆ อาทิ
แดง =red
เหลือง =yellow
เขียว =green
ฯลฯ

เสร็จเอาไปส่งที่โต๊ะครูนะค่ะ
(วอนเจอไม้เรียวเคาะกะบาล เสียแล้วตรู)

ปล. หวังว่าภายในวันศุกร์จะได้รับหนังสือคุณเรืองรองค่ะ
......ไปรษณีย์ทำงานรวดเร็ว
.......แต่ จนท.ธุรการ คงใช้เวลาแยกเอกสารนานเกือบสัปดาห์ค่ะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:18:44:58 น.  

 
จิ้งจกขอเปลี่ยนสีอีกแล้วจ๊ะ เหตุผลคือตัวสัชมพูอ่านยาก
อีกอย่างเพื่อให้เข้ากับบรรายากาศ ที่ฟ้าครึ้มและฝนตกทุกวัน





โดย: lungboon (pantamuang ) วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:20:16:11 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณลุงวิบูลย์
มากล่าวทักทายอย่างเป็นทางการ
มาวนเวียนแอบอ่านกลอนตั้งหลายครั้งแล้วค่ะ
แต่ไม่เคยทักทายสักที


โดย: ไลเดเลีย วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:20:20:11 น.  

 
ฟังอาบูลย์ต่อว่าน่าขายหน้า
ไม่ประสากาพย์กลอนอัษรศิลป์
เรียนเอกไทยมิใฝ่งานกานท์กวิน
หนอนฯ ได้ยินจำต้องลองร่ายดู

ด้วยทิ้งร้างห่างฝันนานวันนัก
จะทอถักอย่างไรไม่รื่นหู
จินตนาการ...ความคิด...ปิดประตู
ลืมฤดูดอกไม้บานไปนานแล้ว

เห็นอาบูลย์ครึกครื้นระรื่นจิต
ช่างประดิษฐ์คิดคำกลอนไม่นอนแกร่ว
ฉันทลักษณ์เจนชัดจัดวางแนว
ไม่ "แอ๊บแบ๊ว" "แอ๊บ..." ภาษา...พาหลงทาง

กลอนอาบูลย์อ่านดีมีสาระ
มากศิลปะวาทะคมสมคำอ้าง
มีขันขื่น...มียิ้มหัวยั่วบางบาง
อ่านกระจ่างกระจะใจ...ง่ายและงาม

ถามข่าวครูภิญโญท่าน...นานแล้วหนอ
เขาบอกต่อ...ต้องตัดขาเกินกว่าห้าม
เบาหวานกร่อนสังขารนานเกินปราม
โรคลุกลาม...เป็นอย่างไรไม่รู้เลย

หนอนฯ ด้นกลอนมาได้ใช่ว่าเก่ง
นึกครื้นเครงจึงเขียนกลอนไม่นอนเฉย
จุดประกายฝันไว้ให้คุ้นเคย
รอวันเผยใจพร้อมยอมก้าวตาม (ฝัน)...



โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.177.122 วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:23:09:33 น.  

 
อาบูลย์จ๊ะ

แหม...ถูกเย้ยฟ้าท้าดิน
ก็เลยลองขยับเขยื้อนความคิดความฝันซักเล็กน้อย
เพราะไม่เคยเขียนกลอนเป็นเรื่องเป็นราว
เป็นชิ้นเป็นอันมาเนิ่นนาน...โข...แล้ว
นี่นักว่าเป็นชิ้นยาวในรอบศตวรรษก็ว่าได้
เหอะ...เหอะ...ว่าเข้านั่น

ถึงจะเรียนภาษาไทย
แต่ก็ไม่ได้เน้นเรื่องกาพย์กลอนโคลงฉันท์อะไรหรอก
ส่วนใหญ่จะเรียนเพื่อรู้จักวรรณกรรมซะมากกว่า
เรียกว่าเรียนแต่วิชาที่ตนสนใจ
อะไรไม่สนใจก็ไม่ใคร่ได้ไปดูไปแลนัก
แต่ถึงเดี๋ยวนี้...วิชาการต่าง ๆ ก็ส่งคืนอาจารย์ท่านไปหมดแล้ว
เหลือบางอย่างที่พอจะเอามาทำมาหากินได้
อย่างที่รู้ ๆ เห็น ๆ กันอยู่เท่านั้นแหละ
ไม่พึ่งพาอ้างอิงทฤษฏีอะไร (เพราะไม่มีเหลือให้จำแล้ว)
อาศัย "ความน่าจะเป็น" ซะมากกว่าจ้า

หนอนฯ ว่าไม่ได้เขียนกลอนมานาน เขียนมาร่วมสนุกกะอาบูลย์หนนี้ ก็คงพอใช้ได้นิ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.177.122 วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:23:20:58 น.  

 
อาบูลย์
มาอ่านทวน
มีที่ผิดจนได้ล่ะนะ
บทที่หนึ่งวรรคสุดท้าย ลงด้วย "ลองร่ายดู"

พอมาบทที่สองวรรสุดท้ายเช่นกัน
สัมผัสนอก รับด้วย "ลืมฤดู"

คือสัมผัสด้วย "ดู" อย่างงี้
ถ้าว่าตามฉันทลักษณ์โบราณ...ก็ถือว่าผิด
ถูกหักคะแนนซะแล้ว

แต่สังเกตว่านักกลอนและนักกวีสมัยใหม่
ไม่ถือสาเรื่องสัมผัสซ้ำแบบนี้แล้ว
ก็ไม่รู้ว่าอาบูลย์มีความเห็นอย่างไร

ถ้าเป็นสมัยก่อน
อา ส. เชื้อหอม จะสอนสั่งเรื่องนี้เสมอ
จำได้...จำได้...ค่ะ

นาน ๆ เขียนทีก็มีหลงบ้างเป็นธรรมดาค่ะ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.177.122 วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:23:30:52 น.  

 
นาน ๆ ได้เข้ามาที ลุง ๆ หลาน ๆ อบอุ่นดีจริง
สอนภาษาไทยกันอยู่หรือนี่

เรื่องราวในบ้านนี้เหมือนฉากวรรณกรรมเยาวชน ลุงสอนหลาน ๆ เขียนกลอน และหลานก็แนะนำให้ลุงใส่สีลงไปที่ตัวอักษร ส่วนหลานอีกคนก็ทำเวปให้ลุงอยู่ที่กระบี่

เรื่องราวของหลาน ๆ ก็น่ารัก หลานหนึ่งหนีตายจากสึนามิ (ฮึ...ทะเลเขาไม่เอาจ๊ะ)-พูดเล่น ภาษาเหนือเขาว่าอู้หลอก ๆ

คุยกับหลาน หนอนเมืองกรุงฯของลุงหน่อย อยากบอกว่าโขคดีมาก ๆ เลยที่ได้ไปฟัง"ศักศิริ" และขอบใจมาก ๆ ถ้าเอามาเขียนเล่าให้ฟังด้วยว่า เขาอู้จาอะไรกันบ้าง เราชอบงานของ"ศักศิริ"มาก ๆ ทั้งบทกวีและบทเพลง รวมทั้งตัวตนของเขาด้วย เท่าที่พบและได้คุยในวงสนทนา แต่ไม่ได้
รู้จักกันมาก

ลุงบูลย์มาเชียงใหม่ไหมคะ ในช่วงงานเสวนานักเขียนที่สมาคมนักเขียนจัด วันที่ 25 นี้ พรุ่งนี้เช้าจะเข้ามาฟังคำตอบค่ะ


ปล.แต่ต้องลดอายุตัวละครที่เป็นหลานลงเหลือไม่เกินยี่สิบห้าปี ส่วนลุงไม่ต้องเพิ่มขึ้นเอาอายุจริงได้เลย


โดย: แพรจารุ วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:7:34:59 น.  

 
คุณแพร จารุ จ๊ะ

คุณตะเบบูญ่าแฟนเพลงตัวจริงของคุณศักดิ์สิริได้รายงานบรรยากาศไว้ในบล็อกพ่อพเยียแล้วล่ะจ้ะ

หนอนฯ ไปเสริมนิดหน่อย ปลื้มคุณศักดิ์สิริเหมือนกัน เป็นคนน่ารักค่ะ (ปลื้มเงียบ ๆ ชอบงานเขียนบทกวีและเรื่องของเขาก่อนจึงมาชอบเสียงเพลงค่ะ)

ลองไปอ่านว่าสาวน้อย (แล้ว) ปลื้มนักกวีเขารู้สึกอย่างไร


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 202.28.180.201 วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:10:49:16 น.  

 
มาอ่านเรื่องสั้นที่ปั้นด้วยกลอน
สำนวนอ่อนหวานรับกับเนื้อหา
ทั้งถ้อยความตามเรื่องก็เฮฮา
ดูแล้วน่าสนุกสนานสำราญใจ

...กลอนมันแกนแกนยังไงไม่รู้...สวัสดีครับลุงบูลย์
แวะมาอ่านงานดีดีมีข้อคิดสะกิดต่อมฮา ครับ
(คนอื่นอาจจะไม่ฮา แต่ผมว่าฮา ดี ปั้นเรืองเป็นคุ้งเป็นแควแล้วมาหักมุมจบซะยังงั้น)


โดย: big-lor วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:12:03:29 น.  

 
สายัณห์สวัสดีค่ะลูงบูลย์
มิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
----------------------------------------------
สอนนัก (เรียน) เขียนยังไม่จบหลักสูตรค่ะ
มาเรียนกันต่อเลยนะค๊า

การใช้โค้ดต้องใส่ <>วงเล็บแหลมๆ
แต่ในที่นี้เวลาสอนเราจะใช้ { } ปีกกาแทน
เพราะถ้าเราใช้วงเล็บแบบที่ถูกต้อง มันจะเเสดงคำสั่งให้เห็นเหมือนข้างบนนั้น
ทำให้เพื่อนๆไม่รูว่า เราใช้คำสั่งอะไร

ว่ากันด้วยเรื่องของลักษณะของตัวอักษร
ใช้โค้ดกำกับด้านหน้า <> แล้วต้องใส่โค้ดปิดด้านหลังด้วยทุกครั้ง
สังเกตุดูมันจะมี / เรียกว่าไว้ปิดคำสั่งนะคะ

ตัววิ่ง {marquee}รักนะตัวเอง{/marquee}
ตัวหนา .....{b}คำที่จะเขียน{/b}
ตัวเอียง......{i}คำที่จะเขียน {/i}
เน้นตัวหนังสือ .. {strong}คำที่จะเขียน{/strong}
สี ..........{font color=green}คำที่จะเขียน{/font}
ขนาด ...{font size=?}คำที่จะเขียน{/font} .... ตั้งขนาดได้จาก 1 ถึง 7
จัดข้อความให้อยู่กลางหน้า .....{center}คำที่จะเขียน{/center}

ปล. ได้รับความอนุเคราะจาก คุณบัวอื่น..... วันที่: 07/06/2549



โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:17:59:27 น.  

 
สวัสดีครับพี่บูลย์

ผู้คนคึกคักอย่างนี้ยังบนว่าเหงาอีกหรือครับ ?


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:21:05:39 น.  

 
สรุปว่า อามาทำให้หนอนเป็นนักกลอนขึ้นมาจนได้ ส่วนที่สัมผัสซ้ำนั่น นี่ก็ได้มาจากครู ส.เชื้อหอมชี้แนะ แต่ แฮะ ๆ ของอาบูลย์ที่เยนไว้ข้างบนนี้นิดนึงก็สัมผัสซ้ำเช่นกัน เฮ้อกลอนนี่เผลอไม่ได้ ถ้ามาร่ายในเวบไม่ร่ายในหน้าอื่นก่อน

ดีใจจังที่ได้มาอ่านกลอนที่คมคายไม่ใช่เล่นสมศักดิ์ศรีนักศึกษาเอกไทย คืนนี้อาง่วงแล้วเลยไม่มีอารมณ์ตอบกลอน

สวัสดียาย
วันนี้มาที่นี่ได้นับว่าเป็นฤกษ์ดี พอดีอาก็วันนี้เพิ่งได้เข้ามาบล็อก ยุ่ง ๆ อยู่กับไปทำงานเลื่อนซีให้ครูที่มาจ้าง จะหากะตางค์ซื้อโน้ตบุ๊คสักตัว ฮ่า

ไปเชียงใหม่ไม่ไหว ไกลไป วันก่อนไปนครแล้วพอ เอาเวลามาทำงานบ้าง

สวัสดีคุณ big-lor ขอบคุณที่มาเยี่ยม แต่วันนี้ลุงง่วงของดตอบเป็นกลอน ๑ คืน คุณบิก-ลอร์ก็เขียนดีแล้วนี่ ภาษากลอนย่อมน่าอ่านกว่าคำธรรมดา เพราะผ่านการกลั่นและกรองคำ

สวัสดี ครูคอมพ์สาวบ้านนอก
ขอบคุณอย่างสูงสุดจะขอก็อบไว้ใช้งานตลอดไปครับ ตกลงหนังสือยังไม่ได้รับอีกรึ ทีจองคุณแจม สีน้ำฟ้าได้รับแต่วันเสาร์ ส่งวันศุกร์ได้รับวันเสาร์ แต่ที่โรงพยาบาลขอนแก่นทำไมนานขนาดนั้น ไม่ได้ส่งแบบลงทะเบียนซะด้วยซี เพราะเชื่อในบริการของไปรษณีย์ไทย

สวัสดีโดม
ที่เข้ามามีไม่ดี่คนหรอก แต่ที่ดูยาวเพราะหนอนเล่นเสียคนเดียว ๓ กระทู้ นี่พี่ก็ไม่ได้เข้าไปดูที่ไหนเลยวันนี้ คืนนี้ก็ง่วงแล้วหลังดูละครช่อง ๗ สีจบ ตืดละครพอ ๆ กับติดเวบ แฮ่ แต่คืนนนี้เวบแพ้ ฮ่า ๆ ๆ


โดย: อาบูลย์ IP: 125.27.236.43 วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:23:11:26 น.  

 
ตื่นๆ...ตื่น...ตื่น.....
ตื่นเถิดชาวไทย...อย่ามัวหลับไหลลุ่มหลง
ลุงบูลย์จะเรืองดำรง...ก็เพราะหลานทั้งหลาย.....

มาเคาะหน้าต่าง....ตื่นยังเนี่ยลุงเรา
ช่วงนี้ไม่มีมะเขือเผา....เอาหยวกก่อนไหม
บ้านนี้เริ่มเป็นหมู....เมนูหยวกทุกวัน..
เพราะป้าพิศนั้น ตักกล้วยเช้าเย็น....

เปิดเตาตั้งกะทะ...มามะ..มาเลย...
อย่ายืนเฉยๆ...
ไปหยิบเคยมาผัดกัน....
เอาจิ้งจั้งมาตำ....หยำน้ำชุบไคร

เร็วๆ...ไวไว....หุงข้าวหรือยัง...

ตื่รน...ลุงบูลย์...ตื่นได้แล้ว...
มากินข้าวกับผักหยวกกันเร็ว...


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:8:15:25 น.  

 
สวัสดีค่ะ ลูงบูลย์
----------------------------------------------
สาวบ้านนอกฯ ได้รับหนังสือ
"บันทึกอิสระของคนสามัญธรรมดา"
เรียบร้อยแล้วค่ะ ณ เวลานี้ (8/8/2550)

ขอบพระคุณมากค่ะ
ในความเมตตาจากลุงบูลย์

ปล. จะเอาใส่เป้ ไปพร้อมโครงการสัญจรฯ (15-17 ส.ค.50)
......เอกเขนกนอนอ่านที่ หาดจอมเทียน (พัทยา) ค่ะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:11:31:35 น.  

 
ห้องพักที่เกาะเกร็ด เป็นกระท่อมไม้ไผ่ มีอาหารเช้าให้ด้วย0818320637


โดย: เกาะเกร็ดเกสเฮาส์ IP: 124.121.93.24 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:05:48 น.  

 
ผ่านมาพบประสบดีมีกลอนเล่น
ขอเพียงเป็นฝึกฝนคำนำอักษร
ช่างยากแท้เคี่ยวเข็ญเป็นคำกลอน
ประดับก่อนคุ้นเคยและเลยลา


โดย: กุหลาบเวียงพิงค์ IP: 202.28.25.182 วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:11:52:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pantamuang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.