ครั้งหนึ่งแมวถูกยกขึ้นเป็นเทพเจ้า และบัดนี้มันก็ยังไม่ลืมเรื่องนั้น (หึหึ //เลียอุ้งเท้า)
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
6 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
เรื่องของคุณหมอดูลิตเติ้ล (11)

บทที่สิบเจ็ด
ศูนย์รวมข่าวแห่งท้องทะเล

ทันทีที่พบขวาน คุณหมอก็รีบฟันประตูเป็นรูใหญ่พอให้ปีนเข้าไปได้

ตอนแรกเขามองไม่เห็นอะไรเลย ข้างในนั้นมืดมาก ดังนั้นเขาจึงจุดไม้ขีดขึ้น

ห้องนั้นเล็กมาก ไม่มีหน้าต่างเลย เพดานก็ต่ำ เครื่องเรือนมีเพียงแค่ม้านั่งตัวเล็กๆ ตัวเดียว รอบๆ ห้องมีถังใบใหญ่วางชิดกำแพงอยู่ ก้นถังถูกตรึงเอาไว้เพื่อไม่ให้กลิ้งไปตามการโคลงเคลงของเรือ และเหนือถังพวกนั้นก็มีเหยือกดีบุกผสมทองแดงสารพัดขนาดแขวนอยู่กับตะขอไม้ มีกลิ่นคล้ายไวน์อยู่แรงมาก และตรงกลางพื้นมีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ อายุประมาณแปดปีนั่งร้องไห้อยู่อย่างขมขื่น

“โอ้โห นี่มันห้องเก็บเหล้ารัมของโจรสลัดนี่!” จิพพูดเสียงกระซิบ

“ใช่แล้ว รัมจริงๆ!” กั๊บกั๊บพูด “กลิ่นมันทำฉันเวียนหัวล่ะ”

เด็กชายตัวเล็กคนนั้นดูตกใจกลัวมากที่ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งมายืนตรงหน้า และมีสัตว์มากมายจ้องมองผ่านรูในประตูพังๆ เข้ามา แต่ทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของจอห์น ดูลิตเติ้ลในแสงไม้ขีด เขาก็หยุดร้องไห้และลุกขึ้นยืนทันที

“คุณไม่ใช่พวกโจรสลัดใช่ไหมครับ” เขาถาม

และพอคุณหมอแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังยาวนาน เด็กชายคนนั้นก็ยิ้มด้วยและเดินมาจับมือเขา

“คุณหัวเราะเหมือนเพื่อนเลย” เขาพูด “ไม่เหมือนโจรสลัด คุณบอกผมได้ไหมครับว่าลุงผมอยู่ที่ไหน”

“ฉันเกรงว่าจะไม่ได้นะ” คุณหมอพูด “เธอเห็นเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไรล่ะ”

“เมื่อวานซืนครับ” เด็กชายพูด “ผมกับลุงออกไปหาปลาในเรือลำเล็กของเราตอนที่พวกโจรสลัดมาจับพวกเราไว้ พวกมันจมเรือหาปลาของเราและเอาเราสองคนขึ้นมาบนเรือลำนี้ พวกนั้นบอกลุงผมว่าต้องการให้เขาเป็นโจรสลัดเหมือนพวกมัน เพราะเขาชำนาญการเดินเรือในทุกสภาพอากาศมาก แต่เขาบอกว่าเขาไม่ต้องการจะเป็นโจรสลัด เพราะการฆ่าคนและปล้นชิงไม่ใช่งานที่เหมาะกับชาวประมงดีๆ จากนั้นหัวหน้าโจร ที่ชื่อเบน อาลีน่ะครับ ก็โกรธมาก ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใหญ่ แล้วบอกว่าจะโยนลุงของผมลงไปในทะเลถ้าเขาไม่ยอมทำตาม พวกมันส่งผมลงไปข้างล่าง แล้วผมก็ได้ยินเสียงสู้กันอยู่ข้างบน แล้วพอพวกมันให้ผมขึ้นไปข้างบนอีกครั้งในวันต่อมา ก็ไม่เห็นลุงผมอยู่ที่ไหนแล้ว ผมถามพวกโจรสลัดว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่มันก็ไม่ยอมบอกผม ผมกลัวมากเลยว่ามันจะโยนเขาลงไปในทะเลให้จมน้ำตายแล้ว”

และเด็กชายก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง

“เอาล่ะๆ เดี๋ยวก่อน” คุณหมอพูด “อย่าร้องไห้ ไปดื่มชากันในห้องกินข้าวเถอะ แล้วเราจะได้คุยกัน บางทีลุงของเธออาจจะปลอดภัยมาตลอดก็ได้ เธอไม่รู้แน่นี่ว่าเขาจมน้ำไปแล้ว ใช่ไหม แล้วนั่นก็สำคัญนะ บางทีเราอาจจะหาเขาให้เธอได้ก็ได้ ก่อนอื่นเราจะไปดื่มชากันก่อน กับแยมสตรอว์เบอรี่ด้วยนะ แล้วจากนั้นเราจะได้ดูว่าทำอะไรได้บ้าง”

สัตว์ทั้งหมดที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุด และเมื่อพวกมันเข้าไปในห้องกินข้าวของเรือและดื่มชากันแล้ว แด๊บแด๊บก็เดินเข้ามาด้านหลังเก้าอี้คุณหมอและกระซิบว่า

“ถามพวกโลมาสิคะว่าลุงของเด็กนั่นจมน้ำไปหรือเปล่า พวกเขารู้แน่ค่ะ”

“ตกลง” คุณหมอพูดพลางกินขนมปังทาแยมชิ้นที่สอง

“เสียงกระเดาะลิ้นตลกๆ ที่คุณทำนั่นคืออะไรครับ” เด็กชายถาม

“อ๋อ ฉันเพิ่งพูดภาษาเป็ดไปสองสามคำน่ะ” คุณหมอตอบ “นี่คือแด๊บแด๊บ สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งของฉัน”

“ผมไม่รู้เลยว่าเป็ดก็มีภาษาด้วย” เด็กชายพูด “แล้วสัตว์ตัวอื่นๆ ที่เหลือนี่เป็นสัตว์เลี้ยงของคุณเหมือนกันหรือเปล่าครับ แล้วตัวแปลกๆ ที่มีสองหัวนั่นคืออะไรครับ”

“ชู่ว์!” คุณหมอกระซิบ “นั่นคือพุชมี-พูลยู อย่าให้เขาเห็นว่าเราพูดถึงเขากันอยู่นะ เขาจะเขินเอามากๆ เลยล่ะ... ทีนี้บอกฉันซิว่าทำไมเธอถึงไปถูกขังอยู่ในห้องเล็กนั่นได้”

“พวกโจรสลัดขังผมไว้ในนั้นเวลาที่พวกมันออกไปขโมยของจากเรือลำอื่นครับ พอผมได้ยินคนกำลังฟันประตู ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นใคร ผมดีใจมากเลยที่เห็นว่าเป็นคุณ คุณคิดว่าจะหาลุงให้ผมได้ไหมครับ”

“ก็... เราจะพยายามอย่างเต็มที่เลย” คุณหมอพูด “ทีนี้ลุงของเธอหน้าตาเป็นยังไงล่ะ”

“เขามีผมสีแดงครับ” เด็กชายตอบ “แดงมากๆ เลย แล้วก็มีรอยสักรูปสมอเรืออยู่บนแขน เขาเป็นคนแข็งแรง เป็นลุงใจดี แล้วก็เป็นนักเดินเรือที่ดีที่สุดในแอตแลนติคตอนใต้ เรือตกปลาของเขาขื่อว่าซอสซี่ แซลลี่ เป็นเรือใบเสาเดี่ยว”

“ ‘ระบายเสาเดียว’ คืออะไร” กั๊บกั๊บหันไปกระซิบกับจิพ

“ชู่ว! มันเป็นเรือชนิดหนึ่งของพวกมนุษย์” จิพพูด “นายน่ะเงียบหน่อยได้ไหม”

“อ๋อ” เจ้าหมูพูด “แค่นั้นเองเรอะ ฉันนึกว่าเป็นเครื่องดื่มเสียอีก”

ดังนั้นคุณหมอจึงปล่อยให้เด็กชายเล่นกับพวกสัตว์ในห้องกินข้าว ส่วนเขาขึ้นไปชั้นบนเพื่อมองหาโลมาที่ผ่านทางมา

และไม่ช้าโลมาทั้งฝูงก็โลดคลื่นมาระหว่างทางไปบราซิล

พอพวกมันเห็นคุณหมอพิงกราบเรืออยู่ ก็เข้ามาหาเพื่อไต่ถามทุกข์สุข

แล้วคุณหมอก็ถามพวกมันว่าเห็นชายผมแดงที่มีรอยสักรูปสมอเรือบนแขนไหม

“หมอหมายถึงกัปตันเรือซอสซี่ แซลลี่หรือเปล่า” พวกโลมาถาม

“ใช่แล้ว” คุณหมอพูด “คนนั้นแหละ เขาจมน้ำไปหรือเปล่า”

“เรือหาปลาของเขาจมไปแล้ว” โลมาพูด “เพราะพวกเราเห็นมันนอนอยู่ที่ก้นทะเล แต่ไม่มีใครอยู่ข้างในเลย เพราะว่าเราเข้าไปดูมาแล้ว”

“หลานชายตัวเล็กของเขาอยู่บนเรือกับฉันนี่” คุณหมอพูด “แล้วเขาก็กลัวมากว่าพวกโจรสลัดจะโยนลุงของเขาลงทะเลไป พวกเธอจะใจดีพอจะดูให้แน่ใจแทนฉันได้หรือเปล่าว่าเขาจมน้ำไปจริงๆ หรือเปล่า”

“เขาไม่จมน้ำไปหรอกหมอ” โลมาพุด “เพราะถ้าจม เราต้องได้ยินข่าวจากพวกกุ้งปูใต้ทะเลลึกแล้ว เราได้ยินข่าวในน้ำเค็มเสมอนั่นแหละ พวกสัตว์น้ำมีเปลือกเรียกพวกเราว่า ’ศูนย์รวมข่าวแห่งท้องทะเล’ ไม่หรอกหมอ บอกเด็กน้อยนั่นด้วยว่าเราเสียใจที่ไม่รู้ว่าลุงของเขาอยู่ที่ไหน แต่เราแน่ใจทีเดียวว่าเขาไม่ได้จมน้ำในทะเลแน่”

ดังนั้นคุณหมอจึงนำข่าววิ่งลงชั้นล่างไปบอกหลานชาย ซึ่งเขาก็ปรบมืออย่างมีความสุข และพุชมี-พูลยูก็เอาเด็กชายขึ้นหลังและพาเดินรอบโต๊ะกินข้าว ส่วนสัตว์อื่นๆ ก็เดินตามหลัง พากันเอาช้อนเคาะฝาครอบชามให้เหมือนเป็นขบวนพาเหรด



Create Date : 06 กันยายน 2551
Last Update : 6 กันยายน 2551 11:54:29 น. 0 comments
Counter : 502 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the grinning cheshire cat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ปีศาจแมวอายุ 1,700 ปี บำเพ็ญตบะจนแปลงร่างเป็นคนได้ กำลังศึกษาวิถีชีวิตแบบมนุษย์ แต่รู้สึกว่ายากจัง เพราะยังคิดอะไรแบบแมวๆ อยู่เลย
Photobucket LMJ recommends


Photobucket
เต๋าแบบหมีพูห์ (The Tao of Pooh)
Benjamin Hoff เขียน
มนต์สวรรค์ จินดาแสง แปล
มติชน พิมพ์

หนังสือ Tao (หรือ Dao) spin-off ที่ไม่งี่เง่า และคนเขียนรู้จริงจริงๆ ทั้งเรื่องเต๋าและเรื่องหมี

Photobucket
ฅ.คน ฉบับ 41 มี.ค. 52

เจ้าหญิงพอลล่า:
หัวใจเธอมันน่ากราบ
กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง:
ยังไงปลาทูก็เจ๋งกว่าโรงถลุงเหล็ก
สัมภาษณ์อ. นิธิ เอียวศรีวงศ์:
ฉบับลำแต้ๆ

เมฆาสัญจร
เมฆาสัญจร (Cloud Atlas)
เดวิด มิทเชลล์ เขียน
จุฑามาศ แอนเนียน แปล
มติชน พิมพ์

เหนือคำบรรยาย (เพราะตัดสินใจเลือกคำบรรยายไม่ถูก ฮา)

ยูโทเปีย และ 1984
ยูทเปีย
เซอร์โธมัส มอร์ เขียน
สมบัติ จันทรวงศ์ แปล
1984
จอร์จ ออร์เวลล์ เขียน
รัศมี เผ่าเหลืองทอง
และ
อำนวยชัย ปฏิพัทธเผ่าพงษ์ แปล
สมมติ พิมพ์

หนังสือเปิดหูเปิดตาระดับตัวพ่อ แถมปกสวยระดับตัวแม่อีกต่างหาก โอ๊ว

เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
(The God of Small Things)
อรุณธตี รอย เขียน
สดใส แปล
โครงการสรรพสาส์น
ของสำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก พิมพ์

เรื่องเล่าโค-ตะ-ระอัศจรรย์จากอินเดีย

นายธนาคารเพื่อคนจน
นายธนาคารเพื่อคนจน
โมฮัมหมัด ยูนุส เขียน
สฤณี อาชวานันทกุล แปล
มติชน พิมพ์

อัตชีวประวัติฉบับกึ่งสุขกึ่งเศร้า บางครั้งก็เกือบเคล้าน้ำตา ของหนุ่มนักเรียนนอก กับธนาคารหลังคามุงหญ้า (บานประตูก็ไม่มี) ของเขาและลูกศิษย์ ที่หาญกล้าพุ่งชนทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงจนๆ จำนวนมากในบังคลาเทศยืนหยัดด้วยขาของตัวเองได้

(อันที่จริงเราควรจะแนะนำว่า นี่เป็นหนังสืออัตชีวประวัติของนักเศรษฐศาสตร์ที่แก้ปัญหาความยากจนในบังคลาเทศจนได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2006 แต่ม่ายอ่ะ ทำงั้นแล้วจะได้อะไร คุณจะรู้เหรอว่าหนังสือเล่มนี้ทั้งสนุกเป็นบ้าและ insightful ขนาดไหน กริๆ)



I'm reading




Potjy's currently-reading book recommendations, reviews, favorite quotes, book clubs, book trivia, book lists


100+ TBR 2010



2010 reading goal

Friends' blogs
[Add the grinning cheshire cat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.