|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องของคุณหมอดูลิตเติ้ล (11)
บทที่สิบเจ็ด ศูนย์รวมข่าวแห่งท้องทะเล
ทันทีที่พบขวาน คุณหมอก็รีบฟันประตูเป็นรูใหญ่พอให้ปีนเข้าไปได้
ตอนแรกเขามองไม่เห็นอะไรเลย ข้างในนั้นมืดมาก ดังนั้นเขาจึงจุดไม้ขีดขึ้น
ห้องนั้นเล็กมาก ไม่มีหน้าต่างเลย เพดานก็ต่ำ เครื่องเรือนมีเพียงแค่ม้านั่งตัวเล็กๆ ตัวเดียว รอบๆ ห้องมีถังใบใหญ่วางชิดกำแพงอยู่ ก้นถังถูกตรึงเอาไว้เพื่อไม่ให้กลิ้งไปตามการโคลงเคลงของเรือ และเหนือถังพวกนั้นก็มีเหยือกดีบุกผสมทองแดงสารพัดขนาดแขวนอยู่กับตะขอไม้ มีกลิ่นคล้ายไวน์อยู่แรงมาก และตรงกลางพื้นมีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ อายุประมาณแปดปีนั่งร้องไห้อยู่อย่างขมขื่น
“โอ้โห นี่มันห้องเก็บเหล้ารัมของโจรสลัดนี่!” จิพพูดเสียงกระซิบ
“ใช่แล้ว รัมจริงๆ!” กั๊บกั๊บพูด “กลิ่นมันทำฉันเวียนหัวล่ะ”
เด็กชายตัวเล็กคนนั้นดูตกใจกลัวมากที่ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งมายืนตรงหน้า และมีสัตว์มากมายจ้องมองผ่านรูในประตูพังๆ เข้ามา แต่ทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของจอห์น ดูลิตเติ้ลในแสงไม้ขีด เขาก็หยุดร้องไห้และลุกขึ้นยืนทันที
“คุณไม่ใช่พวกโจรสลัดใช่ไหมครับ” เขาถาม
และพอคุณหมอแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังยาวนาน เด็กชายคนนั้นก็ยิ้มด้วยและเดินมาจับมือเขา
“คุณหัวเราะเหมือนเพื่อนเลย” เขาพูด “ไม่เหมือนโจรสลัด คุณบอกผมได้ไหมครับว่าลุงผมอยู่ที่ไหน”
“ฉันเกรงว่าจะไม่ได้นะ” คุณหมอพูด “เธอเห็นเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไรล่ะ”
“เมื่อวานซืนครับ” เด็กชายพูด “ผมกับลุงออกไปหาปลาในเรือลำเล็กของเราตอนที่พวกโจรสลัดมาจับพวกเราไว้ พวกมันจมเรือหาปลาของเราและเอาเราสองคนขึ้นมาบนเรือลำนี้ พวกนั้นบอกลุงผมว่าต้องการให้เขาเป็นโจรสลัดเหมือนพวกมัน เพราะเขาชำนาญการเดินเรือในทุกสภาพอากาศมาก แต่เขาบอกว่าเขาไม่ต้องการจะเป็นโจรสลัด เพราะการฆ่าคนและปล้นชิงไม่ใช่งานที่เหมาะกับชาวประมงดีๆ จากนั้นหัวหน้าโจร ที่ชื่อเบน อาลีน่ะครับ ก็โกรธมาก ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใหญ่ แล้วบอกว่าจะโยนลุงของผมลงไปในทะเลถ้าเขาไม่ยอมทำตาม พวกมันส่งผมลงไปข้างล่าง แล้วผมก็ได้ยินเสียงสู้กันอยู่ข้างบน แล้วพอพวกมันให้ผมขึ้นไปข้างบนอีกครั้งในวันต่อมา ก็ไม่เห็นลุงผมอยู่ที่ไหนแล้ว ผมถามพวกโจรสลัดว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่มันก็ไม่ยอมบอกผม ผมกลัวมากเลยว่ามันจะโยนเขาลงไปในทะเลให้จมน้ำตายแล้ว”
และเด็กชายก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“เอาล่ะๆ เดี๋ยวก่อน” คุณหมอพูด “อย่าร้องไห้ ไปดื่มชากันในห้องกินข้าวเถอะ แล้วเราจะได้คุยกัน บางทีลุงของเธออาจจะปลอดภัยมาตลอดก็ได้ เธอไม่รู้แน่นี่ว่าเขาจมน้ำไปแล้ว ใช่ไหม แล้วนั่นก็สำคัญนะ บางทีเราอาจจะหาเขาให้เธอได้ก็ได้ ก่อนอื่นเราจะไปดื่มชากันก่อน กับแยมสตรอว์เบอรี่ด้วยนะ แล้วจากนั้นเราจะได้ดูว่าทำอะไรได้บ้าง”
สัตว์ทั้งหมดที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุด และเมื่อพวกมันเข้าไปในห้องกินข้าวของเรือและดื่มชากันแล้ว แด๊บแด๊บก็เดินเข้ามาด้านหลังเก้าอี้คุณหมอและกระซิบว่า
“ถามพวกโลมาสิคะว่าลุงของเด็กนั่นจมน้ำไปหรือเปล่า พวกเขารู้แน่ค่ะ”
“ตกลง” คุณหมอพูดพลางกินขนมปังทาแยมชิ้นที่สอง
“เสียงกระเดาะลิ้นตลกๆ ที่คุณทำนั่นคืออะไรครับ” เด็กชายถาม
“อ๋อ ฉันเพิ่งพูดภาษาเป็ดไปสองสามคำน่ะ” คุณหมอตอบ “นี่คือแด๊บแด๊บ สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งของฉัน”
“ผมไม่รู้เลยว่าเป็ดก็มีภาษาด้วย” เด็กชายพูด “แล้วสัตว์ตัวอื่นๆ ที่เหลือนี่เป็นสัตว์เลี้ยงของคุณเหมือนกันหรือเปล่าครับ แล้วตัวแปลกๆ ที่มีสองหัวนั่นคืออะไรครับ”
“ชู่ว์!” คุณหมอกระซิบ “นั่นคือพุชมี-พูลยู อย่าให้เขาเห็นว่าเราพูดถึงเขากันอยู่นะ เขาจะเขินเอามากๆ เลยล่ะ... ทีนี้บอกฉันซิว่าทำไมเธอถึงไปถูกขังอยู่ในห้องเล็กนั่นได้”
“พวกโจรสลัดขังผมไว้ในนั้นเวลาที่พวกมันออกไปขโมยของจากเรือลำอื่นครับ พอผมได้ยินคนกำลังฟันประตู ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นใคร ผมดีใจมากเลยที่เห็นว่าเป็นคุณ คุณคิดว่าจะหาลุงให้ผมได้ไหมครับ”
“ก็... เราจะพยายามอย่างเต็มที่เลย” คุณหมอพูด “ทีนี้ลุงของเธอหน้าตาเป็นยังไงล่ะ”
“เขามีผมสีแดงครับ” เด็กชายตอบ “แดงมากๆ เลย แล้วก็มีรอยสักรูปสมอเรืออยู่บนแขน เขาเป็นคนแข็งแรง เป็นลุงใจดี แล้วก็เป็นนักเดินเรือที่ดีที่สุดในแอตแลนติคตอนใต้ เรือตกปลาของเขาขื่อว่าซอสซี่ แซลลี่ เป็นเรือใบเสาเดี่ยว”
“ ‘ระบายเสาเดียว’ คืออะไร” กั๊บกั๊บหันไปกระซิบกับจิพ
“ชู่ว! มันเป็นเรือชนิดหนึ่งของพวกมนุษย์” จิพพูด “นายน่ะเงียบหน่อยได้ไหม”
“อ๋อ” เจ้าหมูพูด “แค่นั้นเองเรอะ ฉันนึกว่าเป็นเครื่องดื่มเสียอีก”
ดังนั้นคุณหมอจึงปล่อยให้เด็กชายเล่นกับพวกสัตว์ในห้องกินข้าว ส่วนเขาขึ้นไปชั้นบนเพื่อมองหาโลมาที่ผ่านทางมา
และไม่ช้าโลมาทั้งฝูงก็โลดคลื่นมาระหว่างทางไปบราซิล
พอพวกมันเห็นคุณหมอพิงกราบเรืออยู่ ก็เข้ามาหาเพื่อไต่ถามทุกข์สุข
แล้วคุณหมอก็ถามพวกมันว่าเห็นชายผมแดงที่มีรอยสักรูปสมอเรือบนแขนไหม
“หมอหมายถึงกัปตันเรือซอสซี่ แซลลี่หรือเปล่า” พวกโลมาถาม
“ใช่แล้ว” คุณหมอพูด “คนนั้นแหละ เขาจมน้ำไปหรือเปล่า”
“เรือหาปลาของเขาจมไปแล้ว” โลมาพูด “เพราะพวกเราเห็นมันนอนอยู่ที่ก้นทะเล แต่ไม่มีใครอยู่ข้างในเลย เพราะว่าเราเข้าไปดูมาแล้ว”
“หลานชายตัวเล็กของเขาอยู่บนเรือกับฉันนี่” คุณหมอพูด “แล้วเขาก็กลัวมากว่าพวกโจรสลัดจะโยนลุงของเขาลงทะเลไป พวกเธอจะใจดีพอจะดูให้แน่ใจแทนฉันได้หรือเปล่าว่าเขาจมน้ำไปจริงๆ หรือเปล่า”
“เขาไม่จมน้ำไปหรอกหมอ” โลมาพุด “เพราะถ้าจม เราต้องได้ยินข่าวจากพวกกุ้งปูใต้ทะเลลึกแล้ว เราได้ยินข่าวในน้ำเค็มเสมอนั่นแหละ พวกสัตว์น้ำมีเปลือกเรียกพวกเราว่า ’ศูนย์รวมข่าวแห่งท้องทะเล’ ไม่หรอกหมอ บอกเด็กน้อยนั่นด้วยว่าเราเสียใจที่ไม่รู้ว่าลุงของเขาอยู่ที่ไหน แต่เราแน่ใจทีเดียวว่าเขาไม่ได้จมน้ำในทะเลแน่”
ดังนั้นคุณหมอจึงนำข่าววิ่งลงชั้นล่างไปบอกหลานชาย ซึ่งเขาก็ปรบมืออย่างมีความสุข และพุชมี-พูลยูก็เอาเด็กชายขึ้นหลังและพาเดินรอบโต๊ะกินข้าว ส่วนสัตว์อื่นๆ ก็เดินตามหลัง พากันเอาช้อนเคาะฝาครอบชามให้เหมือนเป็นขบวนพาเหรด
Create Date : 06 กันยายน 2551 |
Last Update : 6 กันยายน 2551 11:54:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 502 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
the grinning cheshire cat
|
|
|
|
|
|