ครั้งหนึ่งแมวถูกยกขึ้นเป็นเทพเจ้า และบัดนี้มันก็ยังไม่ลืมเรื่องนั้น (หึหึ //เลียอุ้งเท้า)
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
12 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
ในอีกพันปี

ฮานส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซ่น เขียน



แน่แท้เทียว! ในอีกพันปีข้างหน้าคนเราจะใช้ปีกจักรไอน้ำบินไปในอากาศ บินไปเหนือมหาสมุทร ผู้คนหนุ่มสาวที่อยู่ในอเมริกาจะมาเยี่ยมเยือนยุโรปที่เก่าแก่ พวกเขาจะมาชมอนุสรณ์สถานและนครอันยิ่งใหญ่ที่นี่ ซึ่งในตอนนั้นจะเหลือเพียงซากปรักหักพังเช่นเดียวเมื่อผู้คนในยุคของเราเที่ยวสัญจรแสวงบุญไปในท่ามกลางซากแห่งความรุ่งเรืองในเอเชียใต้ อีกพันปีข้างหน้าจะเป็นเช่นนั้นแน่

ในตอนนั้น ทั้งแม่น้ำเทมส์ ดานูบ และไรน์ก็จะยังหลั่งไหล ยอดเขามองต์บลองก็ยังยืนหยัดอยู่ใต้หิมะที่ปกคลุมยอดอยู่ขาวโพลนเช่นนั้น และแสงเหนือก็ยังส่องแสงอันนุ่มนวลอยู่เหนือดินแดนทางเหนือ แต่ทว่าผู้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้กลายเป็นเถ้าธุลีเสียสิ้นแล้ว ผู้ที่เคยเรืองอำนาจอยู่ชั่วยุคหนึ่งต่างก็ถูกลืมเลือน เช่นเดียวกับที่ลืมผู้ทอดกายอยู่ใต้เนินเขาซึ่งพ่อค้าผู้ร่ำรวยเลือกเป็นจุดจัดสร้างเก้าอี้ยาวไว้นั่งชมทุ่งนาของตนพลิ้วไหวในสายลม

“ไปยุโรปกันเถิด!” บุตรหลานแห่งอเมริกาจะร่ำร้องเช่นนั้น “ไปยังดินแดนของบรรพบุรุษเรา ดินแดนที่รุ่งเรืองด้วยความทรงจำและสิ่งน่าชม ไปยุโรปกันเถิด!”

เรือเดินอากาศจะมา แน่นขนัดด้วยผู้คน เพราะการเดินทางเช่นนี้เร็วกว่าทางทะเล สายแม่เหล็กไฟฟ้าใต้ท้องสมุทรได้ส่งโทรเลขบอกจำนวนคณะเดินทางทางอากาศมาก่อนแล้ว ยุโรปอยู่ตรงหน้านี่เอง จะมองก็เห็นชายฝั่งไอร์แลนด์ได้ แต่ผู้โดยสารต่างก็ยังหลับใหลกันอยู่ และจะไม่ถูกปลุกจนกว่าจะอยู่เหนือแผ่นดินอังกฤษโดยแท้แล้ว ณ ที่นั้นพวกเขาจะได้เหยียบย่างลงบนชายฝั่งยุโรปเป็นก้าวแรก ลงบนแผ่นดินของเช็คสเปียร์ดังที่ผู้ทรงภูมิรู้เรียกขาน หรือบนแผ่นดินแห่งรัฐกิจ แผ่นดินแห่งเครื่องกล อย่างที่เรียกขานโดยคนอื่นๆ

พวกเขาจะอยู่ที่นี่ตลอดหนึ่งวัน ซึ่งเป็นเวลาเท่าที่กลุ่มชนผู้ร้อนรนวุ่นวายนี้จะอุทิศแด่ดินแดนอังกฤษและสก็อตแลนด์ทั้งหมดได้ ต่อจากนั้นพวกเขาจะพากันเดินทางลอดอุโมงค์ใต้ช่องแคบอังกฤษไปยังฝรั่งเศส ดินแดนแห่งชาร์ลมาญและนโปเลียน มีผู้กล่าวถึงชื่อโมลิแยร์ เหล่าผู้มีการศึกษาสนทนาถึงสกุลศิลปะแห่งยุคโบราณไกลโพ้น มีเสียงชื่นชมและร้องกล่าวขานนามวีรชน กวี และนักวิทยาศาสตร์ผู้ไม่เป็นที่รู้จักในยุคของเรา แต่จะถือกำเนิดในยุคถัดจากนี้ ณ ปารีส อันเป็นศูนย์กลางแห่งยุโรป และในที่อื่นๆ อีก

จักรไอน้ำเดินอากาศจะเหินข้ามประเทศต้นทางของโคลัมบัส แผ่นดินเกิดของคอร์เตซ และที่ซึ่งคัลเดอรอนเคยขับขานลำนำบทละคร เหล่าสาวงามผู้มีดวงตาสีเข้มยังคงอาศัยอยู่ในหุบเขาที่เบิกบานไปด้วยดอกไม้ และบทเพลงเก่าแก่โบราณยังคงขับขานถึงเอลซิดและป้อมปราการแห่งอัลลัมบรา

และจากนั้นพวกเขาก็จะเดินอากาศข้ามทะเลไปยังอิตาลี ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของกรุงโรมอันจะคงอยู่เป็นนิรันดร์ แต่บัดนี้มันได้สูญสลายไปสิ้นแล้ว ที่ราบคัมปันญาถูกทิ้งร้าง กล่าวกันว่าซากกำแพงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่เป็นของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ แต่ก็ยังถกเถียงกันอยู่ว่าจะเป็นของจริงละหรือ

จากนั้นก็จะไปยังกรีซ พักค้างคืนในโรงแรมใหญ่บนยอดเขาโอลิมปัส เพื่อจะได้กล่าวอ้างได้ว่าเคยมาที่นี่แล้ว จากนั้นก็จะเดินทางต่อไปยังช่องแคบบอสฟอรัส ลงพักสักสองสามชั่วโมง ดูสถานที่ที่เคยเป็นอาณาจักรไบแซนไทน์ และตรงที่ตำนานเล่าว่ามีเคยมีฮาเร็มอยู่ในยุคของพวกเติร์ก บัดนี้มีเพียงชาวประมงยากจนกำลังทอดแห

เหนือซากปรักหักพังชองหลากหลายนครยิ่งใหญ่ริมฝั่งดานูบ นครซึ่งผู้คนในยุคของเราไม่รู้จักนั้น เหล่านักเดินทางเพียงแต่เหินข้ามไป แต่ในบริเวณอันอุดมสมบูรณ์ที่จะเกิดขึ้นในกาลข้างหน้านั้น บ้างครั้งคณะเดินทางก็ลงจอด และเดินทางจากไปอีกครั้ง

ที่เบื้องล่างนั้นคือเยอรมัน ที่ครั้งหนึ่งเคยโยงใยถี่ยิบไปด้วยข่ายทางรถไฟและลำคลอง เป็นแถบถิ่นที่ลูเธอร์เคยเทศนา ที่เกอเธ่เคยขับขานบทกวี และโมสาร์ทเคยถือคทาอยู่เบื้องหน้าวงดนตรี มีนามผู้ยิ่งใหญ่มากมายทั้งในทางศาสตร์และศิลป์ เปล่งประกายอยู่ที่นี่ แต่เป็นนามซึ่งเราไม่ได้รู้จักเลย พวกเขาสละเวลาหนึ่งวันเต็มเที่ยวชมเยอรมัน และอีกหนึ่งวันเพื่อเที่ยวชมทางเหนือ ดินแดนของนักวิทยาศาสตร์เรืองนามเช่นเออร์สเต็ดและลินเนอัส และนอร์เวย์ ดินแดนแห่งวีรชนโบราณและเผ่านอร์แมนฉกรรจ์ แล้วจากนั้นจะแวะไอซ์แลนด์ตอนขากลับ ที่นั่นไม่มีน้ำพุร้อนพวยพุ่งอีกแล้ว ภูเขาไฟเฮคลาก็ดับแล้ว แต่เกาะหินตะปุ่มตะป่ำนั้นยังคงมั่นอยู่กลางฟองคลื่นทะเล เป็นเสมือนอนุสาวรีย์นิรันดร์แห่งตำนานและบทกวีขับขาน

“ที่ยุโรปนี่มีอะไรให้ดูมากจริงๆ” ชาวอเมริกันผู้อ่อนเยาว์คนหนึ่งกล่าวขึ้น “แล้วเราก็ได้ดูมาแล้วในหนึ่งสัปดาห์เหมือนอย่างที่นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ (ถึงตอนนี้เขาเอ่ยชื่อบุคคลร่วมสมัยผู้หนึ่ง) แนะไว้ในงานเขียนเลื่องชื่อของเขา ชมยุโรปให้ครบในหนึ่งสัปดาห์


ฮานส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซ่น (1805-1875) เป็นที่รู้จักในฐานะนักเขียนเทพนิยายที่สำคัญที่สุดในโลก (หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นนัก “เขียน” เทพนิยายอย่างจริงจังเพียงคนเดียวในโลกก็ได้) แต่แท้ที่จริงนักเขียนชาวเดนมาร์คผู้นี้มีผลงานเขียนมากมาย ทั้งบทกวี บทละคร นวนิยาย สารคดีท่องเที่ยว และบันทึกความทรงจำ และเรื่องนี้ซึ่งคุณคงเห็นแล้วว่ามันเป็นนิยายวิทยาศาสตร์


Create Date : 12 มิถุนายน 2551
Last Update : 12 มิถุนายน 2551 3:05:24 น. 9 comments
Counter : 645 Pageviews.

 
“ที่ยุโรปนี่มีอะไรให้ดูมากจริงๆ”
โดยเฉพาะช่วงนี้มียูโร 555+

=)


โดย: hunjang วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:9:11:31 น.  

 
อยากทำแบบนี้มั่งจัง "ชมยุโรปให้ครบในหนึ่งสัปดาห์”
จริงๆ อยากชมมากว่าหนึ่งสัปดาห์

สำนวนดีนะคะคุณน้อง


โดย: grappa วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:10:12:48 น.  

 
อ่านมาแล้วเจอพยานคนที่ 1

แทบตกเก้าอี้ ---


ปล. สวิสบ้า ทำฉันขาดทุนห้าแสน


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:10:53:15 น.  

 
และในอีกหนึ่งพันปี
ผู้ที่เขียนเรื่องนี้
จะกลายเป็นตำนาน


โดย: jonykeano วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:13:00:57 น.  

 
อ่านแล้วเสียดาย ที่มีโอกาสและไม่ได้
คว้าโอกาสเพราะกะตังค์ไม่มีเที่ยวรอบยุโรป ..
6-7 ปีที่นั่นเที่ยวได้ไม่กี่ที่ แต่ว่าทำเอาอิน
ไปนานเหมือนกันนะคะ ...


โดย: JewNid วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:17:51:20 น.  

 
ในอีกหนึ่งพันปี...
ยังจะมีโลกมนุษย์เหลืออยู่อีกหรือคะ...

จินตนาการเหลือร้าย...


โดย: แม่ไก่ วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:19:25:56 น.  

 
ในอีกพันปี จะเป็นไงต่อ ?


โดย: rebel วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:20:29:07 น.  

 
ตอนนี้มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆแล้วเนอะ ไม่ต้องรอถึงพันปี คุณฮานส์แกแม่นจริงๆเลย ถ้าลองเปลี่ยนเป็นนักท่องเที่ยวจีนดูคงจะเข้ากับยุคสมัยนี้ดีพิลึก 555

แต่อ่านแล้วนึกถึงพวกทัวร์ยุโรป 7 วัน 32 ประเทศยังไงไม่รู้อ่ะ เคยได้ยินมาว่ามันฮิตมากในบ้านเราขนาดข้าราชการชั้นผู้น้อยต้องกู้เงินไป เที่ยวแล้วกลับมาผ่อนจ่ายเป็นงวด


โดย: อ๋อย IP: 58.10.33.92 วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:11:39:25 น.  

 
อิอิ แวะตามมาอ่าน แบบอยากไปด้วยอีกคนนึง อะจ๊ะ


โดย: zMee วันที่: 14 มิถุนายน 2551 เวลา:21:57:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the grinning cheshire cat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ปีศาจแมวอายุ 1,700 ปี บำเพ็ญตบะจนแปลงร่างเป็นคนได้ กำลังศึกษาวิถีชีวิตแบบมนุษย์ แต่รู้สึกว่ายากจัง เพราะยังคิดอะไรแบบแมวๆ อยู่เลย
Photobucket LMJ recommends


Photobucket
เต๋าแบบหมีพูห์ (The Tao of Pooh)
Benjamin Hoff เขียน
มนต์สวรรค์ จินดาแสง แปล
มติชน พิมพ์

หนังสือ Tao (หรือ Dao) spin-off ที่ไม่งี่เง่า และคนเขียนรู้จริงจริงๆ ทั้งเรื่องเต๋าและเรื่องหมี

Photobucket
ฅ.คน ฉบับ 41 มี.ค. 52

เจ้าหญิงพอลล่า:
หัวใจเธอมันน่ากราบ
กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง:
ยังไงปลาทูก็เจ๋งกว่าโรงถลุงเหล็ก
สัมภาษณ์อ. นิธิ เอียวศรีวงศ์:
ฉบับลำแต้ๆ

เมฆาสัญจร
เมฆาสัญจร (Cloud Atlas)
เดวิด มิทเชลล์ เขียน
จุฑามาศ แอนเนียน แปล
มติชน พิมพ์

เหนือคำบรรยาย (เพราะตัดสินใจเลือกคำบรรยายไม่ถูก ฮา)

ยูโทเปีย และ 1984
ยูทเปีย
เซอร์โธมัส มอร์ เขียน
สมบัติ จันทรวงศ์ แปล
1984
จอร์จ ออร์เวลล์ เขียน
รัศมี เผ่าเหลืองทอง
และ
อำนวยชัย ปฏิพัทธเผ่าพงษ์ แปล
สมมติ พิมพ์

หนังสือเปิดหูเปิดตาระดับตัวพ่อ แถมปกสวยระดับตัวแม่อีกต่างหาก โอ๊ว

เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
(The God of Small Things)
อรุณธตี รอย เขียน
สดใส แปล
โครงการสรรพสาส์น
ของสำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก พิมพ์

เรื่องเล่าโค-ตะ-ระอัศจรรย์จากอินเดีย

นายธนาคารเพื่อคนจน
นายธนาคารเพื่อคนจน
โมฮัมหมัด ยูนุส เขียน
สฤณี อาชวานันทกุล แปล
มติชน พิมพ์

อัตชีวประวัติฉบับกึ่งสุขกึ่งเศร้า บางครั้งก็เกือบเคล้าน้ำตา ของหนุ่มนักเรียนนอก กับธนาคารหลังคามุงหญ้า (บานประตูก็ไม่มี) ของเขาและลูกศิษย์ ที่หาญกล้าพุ่งชนทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงจนๆ จำนวนมากในบังคลาเทศยืนหยัดด้วยขาของตัวเองได้

(อันที่จริงเราควรจะแนะนำว่า นี่เป็นหนังสืออัตชีวประวัติของนักเศรษฐศาสตร์ที่แก้ปัญหาความยากจนในบังคลาเทศจนได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2006 แต่ม่ายอ่ะ ทำงั้นแล้วจะได้อะไร คุณจะรู้เหรอว่าหนังสือเล่มนี้ทั้งสนุกเป็นบ้าและ insightful ขนาดไหน กริๆ)



I'm reading




Potjy's currently-reading book recommendations, reviews, favorite quotes, book clubs, book trivia, book lists


100+ TBR 2010



2010 reading goal

Friends' blogs
[Add the grinning cheshire cat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.