Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
7 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

Snow Falling on Cedars



เป็นนิยายเรื่องแรกของ David Guterson และก็ได้รับรางวัลมากมาย
- รางวัล PEN/Faulkner ประจำปี 1995
- รางวัล American Booksellers Association Book of the Year
- รางวัล Pacific Northwest Bookseller Association Award

นิยายเรื่องนี้มีหลายรส ทั้งฆาตกรรมประเภท whodunit การพิจารณาคดี ฉากในศาล เรื่องรัก สงครามและผลของสงคราม การเหยียดผิว ฯลฯ

ฉากเป็นเกาะสมมุติชื่อ San Piedro Island อยู่นอกฝั่งรัฐวอชิงตัน เริ่มเรื่องเป็นเหตุการณ์ในปี ค.ศ. 1954 เมื่อชาวประมงเชื้อสายเยอรมันชื่อ Carl Heine ตายอย่างน่าสงสัยบนเรือหาปลาของตัวเอง สถานการณ์แวดล้อมชี้ไปที่ชาวประมงเชื้อสายญี่ปุ่นชื่อ Kabuo Miyamoto ซึ่งอยู่บริเวณนั้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เกิดเหตุ แถมแม่ของ Heine ยังมีประวัติว่าแย่งชิงที่ดินของครอบครัว Miyamoto ไปในช่วงเวลาที่ชาวญี่ปุ่นบนเกาะนั้นถูกกวาดต้อนไปเข้าค่ายกักกันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่เพียงเท่านั้น Carl Heine ยังจัดเป็นประชากรตัวอย่างของเกาะด้วย เพราะเป็นคนดี ทำงานหนักเพื่อครอบครัว ผู้คนก็เลยให้ความสนใจในเรื่องนี้กันมาก คือต้องหาคนทำผิดมาลงโทษให้ได้ ว่างั้นเถอะ

ในที่สุด Kabuo ก็เลยถูกจับในฐานเป็นฆาตกร แล้วถูกเอาตัวขึ้นศาล คือเมื่อเรื่องเริ่ม คนหนึ่งที่มานั่งฟังการพิจารณาคดีคือ Ishmael Chambers เป็นนักข่าวและผู้พิมพ์หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวของเมืองชื่อ San Piedro Review

เรื่องท้าวความไปในอดีต ช่วงก่อนสงคราม คือประมาณปี ค.ศ. 1940s แสดงภาพการอยู่ร่วมกันระหว่างคนท้องถิ่นของเกาะนั้นกับผู้อพยพชาวญี่ปุ่น ถึงแม้จะเข้ากันไม่ค่อยจะได้ แต่ก็อยู่กันด้วยดี จนญี่ปุ่นโจมตี Pearl Harbor และชาวญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นผู้ก่อสงคราม ผู้คนบนเกาะจึงเริ่มต่อต้านชาวญี่ปุ่น และมองชาวญี่ปุ่นบนเกาะนั้นอย่างดูถูกดูแคลน แม้คนญี่ปุ่นบนเกาะหลายๆคนจะอยู่อาศัยมานานเป็นสิบๆปี แถมหลายคนอาสาสมัครไปร่วมรบกับกองทัพอเมริกันด้วยซ้ำ

เรื่องซับซ้อนขึ้นเมื่อ Ishmael มีรักแรกในวัยรุ่นกับ Hatsue ซึ่งต่อมาถูกจับให้แต่งงานกับ Kabuo ทั้งคู่แต่งงานกันในช่วงเวลาที่ถูกกักกันอยู่ในค่าย ต่อมาตัว Ishamael เองก็ไปร่วมรบในสงคราม และถูกยิงแขนขาด พกพาเอาความขมขื่นกลับมา ทั้งขมขื่นที่รู้ว่าคนรักไปแต่งงานกับคนอื่น ยังยอมรับการสูญเสียนั้นไม่ได้ ขมขื่นที่เสียแขนไป แต่เสียแขนก็ยังไม่สร้างความขมขื่นได้เท่าที่เสียคนรักไปในครั้งนั้น เมื่อต้องมานั่งฟังการพิจารณาคดีคนซึ่งกลายเป็นเป็นสามีของรักแรกของตัว ก็เกิดเป็นความขัดแย้งภายในใจมากมาย ยิ่งเมื่อไปเจอหลักฐานที่จะเอามายืนยันได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ฆาตกรรม ก็ต้องตัดสินใจอยู่นานว่าควรทำอย่างไร

ว่าไปแล้วเรื่องนี้ไม่น่าจะมีพระเอก นางเอก ไม่มีใครเป็นผู้ร้าย ตัวละครทุกตัวมีความลึก มีมิติ การกระทำในปัจจุบัน เป็นผลมาจากประสบการณ์ที่เคยมี ตัว Hatsue เองก็ไม่ใช่นางเอกที่แสนดี (ถ้าจะนับว่าเป็นตัวละครหญิงเพียงตัวเดียวที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นนางเอก) เมื่อครั้งเด็กๆก็เคยเบื่อความเป็นญี่ปุ่นของตัว ต่อต้านขนบประเพณีแบบญี่ปุ่น มีความอับอายที่ถูกมองเหมือนเป็นประชากรชั้นสอง แต่ในที่สุดก็ขัดความต้องการของพ่อแม่ ขัดประเพณีไม่ได้ ยอมแต่งงานกับผู้ชายซึ่งตัวไม่รู้จักมาก่อนตามประเพณีสมัยนั้น แต่งแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีมาได้ตลอด แม้เมื่อเจอคนรักเก่า ก็ยังซื่อสัตย์และทุ่มเทชีวิตจิตใจให้สามีอย่างเดิม

ตัว Kabuo ก็ไม่น่าจะใช่พระเอก (ถ้า Ishmael ไม่ใช่พระเอกเสียแล้ว) แม้ว่าจะมีลักษณะที่เป็นอุดมคติของผู้ชายญี่ปุ่นซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศอื่นก็ตาม คือเป็นคนที่มีความอดทน อดกลั้น เก็บความรู้สึก ภาคภูมิในความเป็นญี่ปุ่นของตัว ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร แม้จะรู้ว่าตัวไม่ได้ทำความผิด แต่ถ้าผลออกมาว่าตัวผิด ก็ยินดียอมรับการลงโทษ แต่จะไม่มีวันยอมรับว่าตัวทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำ

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เคยอ่านที่สร้างบรรยากาศและใช้บรรยากาศเป็นเหมือนตัวละครตัวหนึ่งของเรื่องได้อย่างไม่มีที่ติ มีคนบอกว่าเกาะ San Piedro ในเรื่องคือแบบจำลองของเกาะ Bainbridge ซึ่งอยู่นอกฝั่งรัฐวอชิงตันจริงๆ ตามเนื้อเรื่อง ช่วงเวลาที่มีการพิจารณาคดีฆาตกรรมนั้นกำลังมีพายุหิมะ เกาะถูกตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่ไปเลย ตลอดเหตุการณ์ในเรื่อง มันให้ความรู้สึกหนาวเยือกเย็นได้อย่างบอกไม่ถูก พายุหิมะไม่เพียงตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่เท่านั้น แต่ความเยือกเย็น และความหนาวเหน็บ ยังตัดขาดผู้คนออกจากกันและกันอีกด้วย

บทรักในเรื่องมีน้อยมาก แต่ก็สอดแทรกลงไปได้อย่างเหมาะเจาะ อ่านแล้วรู้สึกถึงความผูกพันที่ Ishmael และ Hatsue มีต่อกัน หรือที่ Hatsue มีกับ Kabuo

จะมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องฆาตกรรมที่ต้องหาตัวผู้กระทำก็ได้ แต่ถ้ามองให้ลึก เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่มีต่อกันมากกว่า สงครามทำลายหลายๆอย่าง รวมทั้งจิตวิญญาณของคนเรา และความสัมพันธ์ที่เรามีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เหมือนอย่างที่ Ishmael เรียนรู้ในเรื่องนี้ คือนอกจากจะเรียนรู้การยอมรับคนอื่นอย่างที่เขาเป็นเท่านั้น ยังเรียนรู้ที่จะยอมรับความสูญเสียของตัวเอง และตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องในท้ายที่สุดอีกด้วย

นิยายเรื่องนี้เอามาทำเป็นหนังครั้งหนึ่งแล้วค่ะ มี Ethan Hawke นำแสดงเป็น Ishmael


(ภาพจาก Yahoo! movies)

คิดว่า Ethan Hawke เหมาะสมกับบทนี้ เพราะเป็นนักแสดงที่มีรูปร่างบอบบาง เหมือนความบอบบางของ Ishmael และไม่มีความมั่นใจในอะไรสักอย่าง เป็นคนที่ยึดติดอยู่กับความหลัง มีความเจ็บปวดและขมขื่นซ่อนอยู่ในสีหน้าตลอดเวลา

อีกคนที่คิดว่าเหมาะสมกับบทคือ Rick Yune เล่นเป็น Kabuo คือดูเป็นคนเงียบๆ มีความภาคภูมิในตัวเองตามแบบที่ Kabuo เป็น


(ภาพจาก Yahoo! movies)

แม้หนังจะถ่ายทอดหลายๆอย่างจากหนังสือไม่ได้ ไม่ลึกซึ้งเท่าหนังสือ แต่ก็เรียกว่าทำได้ดีเท่าที่เวลาชั่วโมงครึ่งของหนังจะถ่ายทอดได้นะคะ



ยิ่งในตอนจบของเรื่อง เมื่อ Ishmael ยอมรับการสูญเสียรักแรกในชีวิตของตัวได้ในที่สุด และทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง ฉากในหนังก็ทำให้น้ำตาซึมได้พอๆกับหนังสือเหมือนกันค่ะ



(ภาพจากหนังทั้งหมดมาจาก Yahoo! movies)




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2550
26 comments
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2551 7:23:25 น.
Counter : 3104 Pageviews.

 

เล่มนี้ได้อ่านค่ะ
ตอนมาที่นี่ใหม่ๆ ปี 98 สาเหตุที่ซื้อเพราะกิ๋วเข้าร้านหนังสือเมืองฝรั่งเป็นครั้งแรก เห็นเล่มนี้วางอยู่ตรงทางเข้า
เปิดๆดู เห็นว่าอ่านไม่ยาก เลยซื้อค่ะ
เลยกลายเป็นหนังสือนิยายเล่มแรกที่ซื้อในเมืองฝรั่งเจ้าค่ะ

 

โดย: เพลงเสือโคร่ง 7 พฤศจิกายน 2550 7:44:21 น.  

 

กิ๋ว ว้าย...ดีใจค่ะ ดีใจที่เห็นกิ๋ว เอาหนังสือที่เขียนมาให้กิ๋วแล้วค่ะ พี่กลับมาจากเมืองไทยได้ 4-5 วันแล้วค่ะ ทีนี้ไม่ทราบจะติดต่อกิ๋วได้ยังไง จะส่งหนังสือมาให้ตามสัญญาเมื่อสายันต์น่ะค่ะ ขอที่อยู่ของกิ๋วหน่อยได้ไหมคะ ส่งมาที่อีแมวของพี่ที่ที่ทำงานก็ได้ค่ะ ที่ kbd@clemson.edu นะคะ

 

โดย: กุลธิดา IP: 206.74.208.238 7 พฤศจิกายน 2550 8:08:05 น.  

 

ชอบหนังเรื่องนี้ค่ะ เล่นดีกันทุกคนเลย
โดยเฉพาะ ethan หล่อมั่กมาก

 

โดย: w i c k e d (w i c k e d ) 7 พฤศจิกายน 2550 9:13:24 น.  

 

พี่ไก่ค่ะ

เรื่องนี้ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ แต่อ่านจากที่พี่ไก่เขียนน่าสนใจมากค่ะ เลยหันไปถามชิพค่ะ

ชิพบอกว่าหนังสือเล่มนี้อยู่ที่ชั้นวางหนังสือที่ห้องรับแขกค่ะ ...อิอิ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปหาอ่านค่ะ ...ขอบคุณพี่ไก่มากที่แนะนำหนังสือดี ๆ ให้น้อง ๆ ได้ทราบค่ะ

หลับฝันดีนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: roslita 7 พฤศจิกายน 2550 11:03:55 น.  

 

ยังไม่เคยอ่านหนังสือครับ แต่เคยดูหนังเวอร์ชั่นที่ ฮอล์ค นำแสดงนั่นแหละครับ หนังดีนะครับผมว่า

 

โดย: joblovenuk 7 พฤศจิกายน 2550 13:55:06 น.  

 

ได้อ่านเล่มนี้เหมือนกันค่ะ อ่านได้เรื่อยๆดีค่ะ ตัวละครแต่ละตัวดูเป็นคนน่านับถือดีค่ะ ชอบทุกตัวละครเลยก็ว่าได้ ไม่มีใครทำผิดศีลธรรมกันเลยสักคนในเชิงชู้สาวเลยค่ะ น่านับถือๆๆ

 

โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) 7 พฤศจิกายน 2550 18:48:34 น.  

 

ไม่เคยอ่าน และไม่เคยดูหนังด้วยค่ะ
อ่านที่ จขบ. รีวิว แล้วน่าอ่านมากมาย แต่เป็น Eng นี่เห็นทีจะไม่ไหวอ่ะ
ภาษาอ่อนด้อยอย่างแรง

 

โดย: Wayamin 7 พฤศจิกายน 2550 22:49:50 น.  

 

domain yahoo & domain free
//domain2you.blogspot.com/

 

โดย: dk IP: 58.8.152.202 7 พฤศจิกายน 2550 23:28:54 น.  

 

อารายเนี่ย

 

โดย: ฝ้าย IP: 203.113.66.73 14 พฤศจิกายน 2550 18:20:22 น.  

 

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านค่า

 

โดย: กุลธิดา IP: 205.188.117.66 15 พฤศจิกายน 2550 19:24:21 น.  

 

หนังสือก็ไม่เคยอ่าน หนังก็ไม่เคยดูค่ะพี่ไก่

 

โดย: pim(พิม) 29 พฤศจิกายน 2550 4:16:10 น.  

 

พี่ไก่ค่ะ
สบายดีหรือเปล่าคะ? งานยุ่งไหมคะ?
วันนี้เป็นวันเกิดยีนส์คะ
เลยถือโอกาสเอาดอกไม้มาฝากพี่ไก่ค่ะ



และก็ถือโอกาสชวนพี่ไก่ไปทานเค้กและอาหารด้วยกันค่ะ
ยีนส์กับชิพไม่ได้ฉลองอะไรกันมากมายค่ะ
เอาแบบธรรมดา ๆ เรียบง่าย
แต่มากด้วยความสุขใจค่ะ

พี่ไก่ดูแลรักษาสุขภาพบ้างนะ อากาศคงจะเริ่มหนาวขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ แล้วจะแวะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ

ยีนส์ขอให้พี่และครอบครัวมีความสุขมาก ๆ นะคะ

 

โดย: roslita 30 พฤศจิกายน 2550 13:50:27 น.  

 

พี่ไก่คะ
กิ๋วได้รับหนังสือแล้วค่า

ขอบพระคุณมากค่ะ(ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ )

 

โดย: เพลงเสือโคร่ง 5 ธันวาคม 2550 0:36:21 น.  

 

พี่ไก่ค่ะ

สุขสันต์วันพ่อค่ะ
ยีนส์ขอให้พี่ไก่และครอบครัว
มีความสุขมาก ๆ ค่ะ

 

โดย: roslita 5 ธันวาคม 2550 6:56:13 น.  

 

ไม่ได้มาที่บล็อกนานแล้วค่ะ เพิ่งมาเห็นดอกไม้ ขอบคุณค่ะยีนส์ สวัสดีกิ๋วด้วยค่ะ

 

โดย: กุลธิดา IP: 206.74.241.79 7 ธันวาคม 2550 8:10:57 น.  

 

เข้ามาอ่าน อ่ะครับ หนังสือน่าอ่าน และหนังน่าดูนะครับ

 

โดย: เพกร 9 ธันวาคม 2550 12:29:06 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณกุลธิดา

พอดีว่ามีคุณบุ้ง (B Oprysk) แนะนำบล็อกคุณมาให้ เนื่องจากฉันกำลังเก็บสะสมข้อมูลการศึกษาต่อระดับป.เอก ด้านการศึกษา แต่เกรงว่าจะหลงทางและสะเปะสะปะในชีวิต

คือ เป้าหมาย ไม่ได้อยากจะไปเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษา แต่อยากทำงานอิสระและพัฒนาการศึกษาของผู้ด้อยการศึกษา แต่เนื่องจากตนเองไม่ได้มีพื้นฐานการศึกษาด้านนี้เลยค่ะ (ตรีด้านวารสารศาสตร์ โทการจัดการระหว่างประเทศ) มีเพียงแค่ประสบการณ์การสอนในโครงการภาษาอังกฤษของโรงเรียนรัฐบาล 6 เดือนและการสอนหนังสืออาสาสมัครทีสถานสงเคราะห์เด็กฯเท่านั้น เป็นระยะเวลาที่ล้ำค่าในชีวิตมากค่ะ แต่คิดว่าตนเองน่าจะถนัดการทำงานด้านนี้แบบอิสระมากกว่า และคิดอยากหาความรู้เพิ่มเติมแบบจริงจัง จึงดำริจะลงเรียนระดับนี้ดู

เกริ่นยาวมากเลยค่ะ ไม่ทราบว่า ตอนนี้คุณกุลธิดาใช้ความรู้ด้านนี้อย่างไรบ้างคะ แล้วศึกษาจากสถาบันใด

ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: เวนดี้ IP: 203.172.32.158 12 ธันวาคม 2550 10:41:44 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณเวนดี้ ไม่ได้มาเช็คบล็อกเลยหลายวันแล้วค่ะ
ตัวเองจบปริญญาตรีจากเมืองไทยเหมือนกันค่ะ ส่วนโทกับเอกนั่นจบแบบจับฉ่ายมากค่ะ แต่พื้นฐานปริญญาตรี (อักษรศาสตร์) มีประโยชน์มาก สมัยนั้นเรียนแบบ Liberal Arts จริงๆ สมัยนี้จะเป็นอย่างไรแล้วก็ไมทราบ Liberal Arts นี่เป็นฐานรองรับปริญญาโทอีก 2 สาขากับเอกทางการบริหารการศึกษาได้ดีมาก ตอนจบเอกใหม่ๆก็ได้งานสอนทันทีที่มหาวิทยาลัยในอเมริกานี่ค่ะ ต่อมาก็ขอโอนมาทำงานบริหารแทน มันก็ตรงกับสาขาปริญญาเอกที่เรียนนะคะ บวกกับปริญญาโทใบหนึ่งทาง information science ก็มาเป็นผู้อำนวยการศูนย์คอมพิวเตอร์บวกกับห้องสมุดด้วย เป็นศูนย์การศึกษาทางไกลค่ะ เวปไซท์นี้ค่ะ htto://www.UCGreenville.org

ส่วนคำถามที่ว่าศึกษาจากสถาบันใด ปริญญาตรีจากจุฬาค่ะ ปริญญาโทใบแรกจาก California State University ใบที่สองจาก University of South Carolina ปริญญาเอกจาก University of North Texas ค่ะ

 

โดย: กุลธิดา IP: 64.12.117.66 19 ธันวาคม 2550 9:49:32 น.  

 

คุณเพกรคะ เรื่องนี้สนุกทั้งหนังสือทั้งหนังเลยค่ะ

 

โดย: กุลธิดา IP: 64.12.117.66 19 ธันวาคม 2550 9:51:31 น.  

 

คุณเวนดี้คะ เพิ่งเห็นว่าพิมพ์เวปที่ทำงานผิดไปนิดค่ะ ตรง http พิมพ์เป็น htto เอาใหม่ค่ะ //www.UCGreenville.org หรือ //www.Greenville.org ก็ได้ค่ะ มัน point ไปที่เดียวกัน ถ้าจะอีเมลมาคุยกันก็ได้นะคะ มีอีเมลอยู่ที่หน้า staff ค่ะ

 

โดย: กุลธิดา (kdunagin ) 20 ธันวาคม 2550 4:05:30 น.  

 

ขอบคุณคุณกุลธิดาที่เข้าไปแก้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนของผู้เขียนคอลัมน์ ซึงกูรูนำมาเปิดประเด็นในห้องสมุด

เลยแวบเข้ามาขอบคุณในเวปบล็อคนี้อีกครั้ง
อ่านไปอ่านมายิ่งแน่ใจว่า
พี่ไก่เป็นรุ่นพี่ที่คณะ นั่งร่วมกับกลุ่มพี่ยีนส์ พี่ลี่ ใช่มั้ยเอ่ย

 

โดย: กูรูขอบสนาม IP: 124.121.90.31 20 ธันวาคม 2550 7:34:43 น.  

 

wowww! Thanks a lot ka K.Kulnadda.

Will write you an email.

 

โดย: wendy darling IP: 203.172.32.63 21 ธันวาคม 2550 7:32:11 น.  

 

ใช่เลี้ยวค่าคุณกูรู สิงสถิตย์อยู่หลังตึกหนึ่งตลอดสี่ปีเลยค่ะ นี่เรารู้จักกันหรือเปล่าคะ

คุณ wendy คะ เพิ่งไปเห็นที่เวปไซท์ว่าเขาเปลี่ยนหน้า staff เป็น contact แล้วค่ะ มีลิ้งค์ไปหน้านั้นจาก homepage เลยค่ะ เมื่อก่อนหน้านั้นไปหลบๆซ่อนๆอยู่หน้าอื่นค่ะ

 

โดย: กุลธิดา IP: 64.12.117.66 22 ธันวาคม 2550 11:14:08 น.  

 




มีความสุขทุกวันนะคะ

 

โดย: เพลงเสือโคร่ง 25 ธันวาคม 2550 9:24:21 น.  

 

ขอบคุณค่ะกิ๋ว สามหนุ่มสุดหล่อค่ะ ขอให้กิ๋วและครอบครัวมีความสุขตลอดปีใหม่เช่นกันนะคะ

 

โดย: กุลธิดา IP: 205.188.117.66 25 ธันวาคม 2550 11:18:24 น.  

 



สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้พี่ไก่และครอบครัวมีความสุขมาก ๆ มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวังและตั้งใจ ขอให้ร่ำรวยเงินทอง และโชคดีตลอดไป

ตอนนี้นั่งเชียร์ฟุตบอลไปด้วยค่ะ ทีม Auburn & Clemson U ค่ะ ได้ลุ้นได้เชียร์ชอบมากค่ะ แพ้ชนะไม่สำคัญค่ะ พี่ไก่เชียร์หรือเปล่าค่ะ คนที่เมืองยีนส์อยู่พร้อมใจกันใส่เสื้อ Auburn เยอะมาก ๆ ค่ะ

ขอให้พี่ไก่และครอบครัวฉลองปีใหม่กันให้สนุกนะคะ

 

โดย: roslita 1 มกราคม 2551 12:25:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kdunagin
Location :
South Carolina United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




จำหลักไว้ในสายลม
กุลธิดา
www.mebmarket.com
แม้เป็นรักที่แอบเร้น หากก็ขออย่าเลือนไปกับสายลม
บาเคอร์
กุลธิดา
www.mebmarket.com
ราณียิ้มขมขื่น คำนั้นมีความหมายอย่างที่สุด บาเคอร์…วันพรุ่งนี้…ตามการออกเสียงของคนอิรัก เป็นสิ่งที่เธออยากเก็บไว้กับตัวแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป…หรือจนกว่าจะได้พบเขาอีก เพราะนั่นคือคำสุดท้ายที่เขาบอกก่อนจะจากกันในเช้าวันนั้น ที่บ้านย่าของเขา และเธอกำลังร้องไห้แทบขาดใจ ‘มีวันพรุ่งนี้เสมอนะราณี’ และเธอก็ยึดถือคำพูดนั้นของเขาเป็นสรณะนับแต่นั้นมา เป็นความหวังเดียวที่มี ว่าวันหนึ่งเธอและเขาจะได้พบกันอีก แม้อาจไม่ใช่ในโลกนี้ก็ตาม
Friends' blogs
[Add kdunagin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.