Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
The Wettest County in the World - Matt Bondurant

ตอนนี้กำลังหลงใหลหนังเรื่อง Lawless ค่ะ ดูซ้ำดูซากมาเป็นสิบรอบแล้ว ที่ชอบก็คือบรรยากาศของช่วง Prohibition คือช่วงเวลาระหว่างปี 1920 ถึง 1933 ที่มีกฎหมายห้ามผลิตและขายเหล้า (ในอเมริกา) โดยมีสมาชิกสภาเคร่งศาสนาเป็นผู้สนับสนุนกฎหมายนี้ ผลก็คือมีการกลั่นเหล้าแล้วก็แอบขายกันแบบผิดกฎหมาย เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นในรัฐ Virginia เป็นเรื่องของสามพี่น้อง Bondurant ที่ผลิตแล้วก็ขายเหล้าเถื่อน



พอดูเรื่องนี้จบรอบแรกก็หาหนังสือมาอ่านทันที

เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือของ Matt Bondurant ที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับปู่กับพี่ๆ ของปู่ของเขา ชื่อเรื่อง The Wettest County in the World เป็น historical novel เล่าจากสายตาของสามพี่น้องคือ Jack, Forrest และ Howard โดยเรื่องราวส่วนใหญ่มาจาก Jack ซึ่งเป็นน้องชายคนเล็ก





Jack, Forrest, Howard หรือที่รู้จักกันในนาม the Bondurant Boys เป็น moonshiner คือคนผลิตและขายเหล้าเถื่อนใน Franklin County รัฐ Virginia ในช่วงปลายของทศวรรษ 1920 ถึงต้น 1930




ว่ากันว่า the Bondurant Boys เป็น moonshiners กลุ่มหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนั้น

Howard พี่ชายคนโตไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ เคยเป็นทหารไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 มา ฝังใจกับเหตุการณ์ที่พบเห็นในสงคราม Howard แข็งแรงอย่างเดียว ก็เลยตัดสินปัญหาอะไรต่ออะไรด้วยกำลัง ในเรื่องทั้งหนังและหนังสือ Howard ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่

Forrest คนกลางเล่ากันว่าเป็นคนดุ หนังเหนียว เคยโดนยิงหลายครั้ง โดนมีดปาดคอในลักษณะที่ถ้าเป็นคนอื่นก็ตายไปแล้ว แต่ Forrest รอดมาได้ทุกที จนกลายเป็นตำนานว่าใครทำอะไรเขาไม่ได้ ที่สำคัญคือ Forrest มีหัวทางการค้าโดยธรรมชาติ เป็นคนดูแลธุรกิจของครอบครัว เรื่องราวของ Forrest เป็นเหมือนตำนาน มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งถูกหัวขโมยใช้มีดปาดคอ Forrest เดินเท้าเป็นระยะทาง 12 ไมล์เพื่อพาตัวเองไปโรงพยาบาล จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่หนังสือพูดถึงเหตุการณ์นั้นไว้ด้วย ในหนังก็เอาเหตุการณ์นั้นมาแสดงให้เห็นด้วยเหมือนกัน


แล้วก็ Jack ซึ่งเป็นคนเล็ก Jack ชอบความหรูหรา ฝันว่าวันหนึ่งจะได้ไปจาก Franklin แล้วไปอยู่เมืองใหญ่ Jack ใจร้อนแบบเด็กหนุ่ม ไม่รอบคอบอย่าง Forrest ผู้เป็นพี่ชาย ทำอะไรๆ ก็อยากเห็นผลเร็วๆ อยากทำให้ผู้หญิงที่ตัวเองชอบประทับใจด้วย

วิธีการค้าขายเหล้าเถื่อนของพี่น้อง Bondurant ก็เหมือนที่คนอื่นๆ ในสมัยนั้นทำกัน แต่ต่างออกไปตรงที่สามคนพี่น้องนี้ทำได้ทุกอย่างโดยไม่เกรงกลัวใคร ซึ่งก็เหมาะกับสถานการณ์ใน Franklin County ในเวลานั้น คือเป็นสถานที่ที่มีแต่ความรุนแรง กฎหมายเข้าไปไม่ถึง เป็นที่ที่เจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งไปควบคุมดูแลก็กลับคอรัปชั่นเสียอีก แต่ในท่ามกลางความรุนแรง ความโลภของคนก็มีเรื่องของความจงรักภักดีระหว่างพี่น้อง และเพื่อนร่วมชะตากรรมในชุมชนที่ทำอาชีพเดียวกันแทรกเข้ามาให้เห็นด้วย

สมัย Prohibition เป็นยุคของ Al Capone ในเมืองใหญ่อย่าง Chicago ด้วย แต่ชีวิตของพี่น้อง Bondurant ไม่เหมือนชีวิตของมาเฟียในเมืองใหญ่ เป็นชีวิตที่ไม่หรูหราเพราะสภาพภูมิประเทศและความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น มีสภาพสังคมที่ดิบและเถื่อนกว่าหลายเท่า เรื่องราวของ Bondurant Boys ก็เลยสนุกว่าเรื่องราวของมาเฟียในสมัยใกล้เคียงกันอย่างเช่นใน The Godfather ของ Mario Puzo

ข้อเสียอย่างหนึ่งคือเรื่องนี้เล่าแบบกระโดดไปมาหลายปี จากปี 1918 ไป 1934 กลับมา 1920 กว่าๆ แล้วไป 1934 อีก แต่พอเริ่มคุ้นกับวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร

อีกอย่างคือในหนังสือมีตัวละครตัวหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้อง คือนักข่าวและนักเขียนชื่อ Sherwood Anderson ซึ่งมาศึกษาเรื่องราวของพี่น้อง Bondurant และการค้าเหล้าเถื่อนที่ Franklin คิดว่าจริงๆ แล้วตัวละครนี้ไม่ต้องมีก็ได้

อีกอย่างในหนังสือบทบาทของตัวละครหญิงอย่าง Maggie มีน้อยมาก ในหนังมีบทบาทมากกว่าเยอะค่ะ แต่ก็โอเคนะคะเพราะเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องของสามพี่น้องนั้นเป็นหลัก

สรุปว่าชอบมากค่ะหนังสือเล่มนี้ ถึงบทจะโหด ผู้เขียนก็เขียนได้โหดถึงใจจริงๆ








Create Date : 17 ตุลาคม 2556
Last Update : 19 ตุลาคม 2556 8:06:27 น. 8 comments
Counter : 4486 Pageviews.

 
โบว์ร้องให้ฉากที่พี่ชายโดนทำร้ายที่หน้าร้านเหล้าน่ะค่ะ
ตกใจ สะเทือนใจ น้ำตาไหลเลย


โดย: Lavinia วันที่: 17 ตุลาคม 2556 เวลา:14:15:21 น.  

 
ตอนนั้นดูในหนังครั้งแรกคิดว่าตายแน่นอน ไม่น่าเชื่อว่าจะรอดมาได้นะคะ ตอนท้ายเรื่องที่โดนยิงก็อีก โดนเข้าหลายนัดเลย
ในหนังนี่ Forrest ดูเด่นกว่า Jack นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงของ Tom Hardy นี่เด่นมากเลย ใครๆ ก็ชม แต่ในหนังสือ Jack เด่นกว่าค่ะ เป็นเหมือนคนเล่าเรื่องหลักเลย


โดย: กุลธิดา (kdunagin ) วันที่: 18 ตุลาคม 2556 เวลา:0:47:48 น.  

 
ไม่ค่อยได้ดูหนังสักเท่าไหร่คะ


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:20:11:39 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ต้องขอบคุณ Tom Hardy เขาเป็นนักแสดงที่หนูชื่อชอบมากเรียกได้ว่าคลั่งไคล้ ที่ต้องขอบคุณก็เพราะว่าหนูตามเขาจนได้มาดูหนังเรื่องนี้ และทำให้หนูรักหนังเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะ Forrest แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะพี่ทอมแสดง แต่อีกส่วนใหญ่ๆเลยคือลักษณะนิสัยของฟอร์เรสท์เองเลยค่ะ หนังสือของเรื่องนี้หนูซื้อมาไว้แล้วแต่ว่าหนูไม่เก่งภาษาอังกฤษทำให้อ่านไปได้ไม่ถึงไหนแถมไม่เข้าใจอีกด้วย แต่หนูจะพยายาม และหนูชอบมากจนอยากจะไปเคารพหลุมศพของทั้งสามคนสักครั้งเลยค่ะ แต่หนูก็อยากให้มีคนเอาเล่มนี้ไปแปลนะคะ จะได้เข้าใจในตัวหนังและเรื่องราวมากกว่านี้


โดย: P.Pirates IP: 125.24.190.15 วันที่: 25 ตุลาคม 2556 เวลา:21:53:53 น.  

 
เรื่องนี้ยังไม่มีโอกาสได้ดูค่ะ สงสัยต้องรอหาแผ่น
ปล.ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะค้า


โดย: ณ มน วันที่: 12 ธันวาคม 2556 เวลา:10:05:08 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ 2557 ค่ะ
ขอให้พี่ไก่มีความสุขมากๆ
สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง
สมปรารถนาทุกประการนะคะ



โดย: นุ้ย (ปริยาธร ) วันที่: 1 มกราคม 2557 เวลา:9:23:34 น.  

 
แวะเข้ามาสวัสดีปีใหม่ค่ะ




โดย: มาโซคิส วันที่: 1 มกราคม 2557 เวลา:20:40:39 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับคุณไก่ สุขสมหวัง ตลอดปี ตลอดไปนะครับ


โดย: สามปอยหลวง วันที่: 2 มกราคม 2557 เวลา:10:14:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kdunagin
Location :
South Carolina United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




จำหลักไว้ในสายลม
กุลธิดา
www.mebmarket.com
แม้เป็นรักที่แอบเร้น หากก็ขออย่าเลือนไปกับสายลม
บาเคอร์
กุลธิดา
www.mebmarket.com
ราณียิ้มขมขื่น คำนั้นมีความหมายอย่างที่สุด บาเคอร์…วันพรุ่งนี้…ตามการออกเสียงของคนอิรัก เป็นสิ่งที่เธออยากเก็บไว้กับตัวแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป…หรือจนกว่าจะได้พบเขาอีก เพราะนั่นคือคำสุดท้ายที่เขาบอกก่อนจะจากกันในเช้าวันนั้น ที่บ้านย่าของเขา และเธอกำลังร้องไห้แทบขาดใจ ‘มีวันพรุ่งนี้เสมอนะราณี’ และเธอก็ยึดถือคำพูดนั้นของเขาเป็นสรณะนับแต่นั้นมา เป็นความหวังเดียวที่มี ว่าวันหนึ่งเธอและเขาจะได้พบกันอีก แม้อาจไม่ใช่ในโลกนี้ก็ตาม
Friends' blogs
[Add kdunagin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.