เมื่อตะวันยอแสง..เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า..พักลงตรงนี่ที่เดิมแล้วหลับตา..
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
25 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 

ดีท็อกซ์ ( Detox )

บทความนี้ได้นำมาจาก หนังสือพิมพ์ชาวไทยในประเทศเยอรมัน ค่ะขออนุญาตินำม่เผยแผ่ ให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ



ดีท็อกซ์ ( Detox )

“ แก้ว พิกุล ”

มีผู้อ่าน ชาวไทย โทรศัพท์มาคุยกับฉัน ขอร้องให้เขียนเรื่อง ดีท็อกซ์ ซึ่งก็ได้ตอบเธอไปตรงๆว่าไม่อยากเขียนอะไรที่เป็นเรื่องวิชาการ ให้เธอหาข้อมูลทางอินเทอร์ เน็ตก็ได้ แต่เธอก็ตอบมาว่าไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นก็มีคนสนใจ ขอให้เขียนเรื่องดีท็อกซ์อีก เป็นเพราะฉันคุยให้เธอฟังเองว่า เริ่มทำดีท็อกซ์ เพราะกลัวความแก่ ความเจ็บป่วยจะมาเยือน จริง ๆ ความแก่มันตามเราอยู่แล้วทุกนาที ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แต่การจะทำใบหน้าและรูปทรงไม่ให้แก่เกินความเป็นจริงน่าจะมีทางทำได้ อ่านแล้วงงหรือเปล่าเอ่ย ไม่น่างงนะ แต่ถ้างง ก็ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ ว่า หากคุณอายุ 40 แล้วมีคนทายว่าคงสี่สิบกว่าเกือบห้าสิบ แบบนี้ต้องรีบพิจารณาปรับปรุงตนเองเสียแล้ว จะรีบวิ่งไปร้านทำผม เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว หรือเข้าฟิตเนส สตูดิโอ ก็แล้วแต่

การทำดีท็อกซ์น่าจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง ตามความหมายคำว่าดีท็อกซ์ คำนี้อาจารย์ดร..สาทิส อินทรกำแหงเป็นผู้เริ่มใช้ โดยย่อมาจากคำว่า ดีทอกซิเคชั่น (Detoxication ) คือการเอาพิษออกจากตัว (ด้วยการสวนล้างลำไส้ใหญ่ด้วยกาแฟบริสุทธิ์) ถึงตอนนี้คงมีคนสงสัยว่า ในตัวเรามีพิษด้วยหรือ ใช่แล้ว เรารับพิษเข้าไปในร่างกายโดยไม่รู้ตัวมากมาย หรืออาจรู้ตัวแต่ไม่สนใจ เช่นกินอาหารไขมันมาก (ตามปกติร่างกายเราต้องการพลังงานซึ่งได้จากอาหารหลายหมวด ได้แก่ ไขมัน แป้ง โปรตีน ผักผลไม้ และน้ำ)เมื่อไขมันในเลือดสูง ก็เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ดื่มเหล้าก็เป็นพิษต่อร่างกายโดยตรง คนที่ตับแข็งแรงและไม่ดื่มเครื่องดื่มพวกแอลกอฮอล์มากเกินไป ตับก็ขับสารพิษออกมาได้ หรือยาบางอย่างที่เรากินเข้าไปเพื่อรักษาโรค แต่ยาบางตัวก็เรียกได้ว่ามีคุณอนันต์ และมีโทษมหันต์เหมือน กัน เป็นสารเคมีที่ร่างกายต้องขับออก

ทุกวันนี้สารพิษที่เรามองไม่เห็นจะๆด้วยตาเปล่า มีอีกมากมาย เช่นยาฆ่าแมลง สารเคมีที่ใช้ประกอบในอาหารสำเร็จรูปต่าง ๆ ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่าแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปีเรารับเข้าไปในตัวเท่าไร

เริ่มเขียนมาเกือบครึ่งหน้า แล้วกลับมาคิดว่า เอ..จะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน หรือเปล่านะนี่ เอาเป็นว่ายกเรื่องนี้ให้ บ.ก.พิจารณาก็แล้วกัน

เริ่มไปแล้วเรื่องพิษที่เข้ามาในร่างกายจากทางปาก (คือการกิน ดื่ม) แล้วก็ยังมีจากทางจมูกอีก คือสูดพิษเข้าไปจากอากาศเสีย ควันพิษ ทางใจก็มีพิษเข้ามาได้ เช่นเสียงคนด่าว่า ติฉินนินทา กระทบกระเทียบ ประชดประชัน เสียงอึกทึกครึกโครม เหล่านี้ ก็เป็นพิษทางอารมณ์ หรือทางใจ หรือใจที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา ความโลภโกรธหลง ก็นับว่าเป็นพิษชนิดหนึ่ง

แต่วันนี้เราจะพูดถึงแต่การระบายพิษในตัวออกไป โดยการสวนล้างลำไส้ใหญ่ เพราะการจะมีสุขภาพดี ต้องมีวินัยหลายอย่าง เช่น การกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาร่างกายให้สะอาด

ด้วยเหตุผล ที่ว่าเมื่อร่างกายสกปรกเราจึงต้องชำระล้างให้สะอาด สดชื่น จึงมีการคิดทำดีท็อกซ์ขึ้นมา (ดร.สาทิส อินทรกำแหง ได้บรรยายว่า ในประวัติศาสตร์ มีแพทย์ชาวฝรั่งเศสแนะนำให้พระเจ้าหลุยส์ที่16 หรือ 17 (ท่านไม่แน่ใจ ในขณะที่บรรยาย) ให้ทำดีท็อกซ์ เพื่อแก้ปัญหาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร) ลำไส้ซึ่งเป็นทางผ่านของอาหารสารพัดชนิด จึงมีของเสียหมักหมมอยู่มากมาย แม้ว่าเราจะถ่ายอุจจาระอย่างสม่ำเสมอก็ตาม แต่ถ้าเรานึกถึงถ้วยชามที่เราใส่อาหาร เรายังต้องล้างทุกครั้งหลังการใช้ ลำไส้ก็เช่นกัน

ขอรวบรัด เล่าถึงวิธีการทำดีท็อกซ์เลยดีกว่า ก่อนอื่นถ้าทำได้ ถ่ายอุจจาระให้เรียบร้อยก่อน

1. แขวนหม้อสวน หรือถุง ให้สูงจากพื้นประมาณ 2-3 ฟุต (ถ้าแขวนสูงมากกว่านี้ น้ำจะไหลลงเร็ว ทำให้ปวดท้อง แล้วอั้นไม่อยู่)ปิดวาล์วสายยางก่อน ใส่น้ำดีท็อกซ์ ครั้งแรกประมาณ 800-1000ซีซี (คนตัวเล็กก็ใช้จำนวนน้อยกว่า ถ้าผู้ชายตัวใหญ่ ก็อาจใช้ถึง1500 ซีซี )

ใช้กาแฟบริสุทธิ์มีทั้งแบบละลายในน้ำร้อน หรือแบบใช้กระดาษหรือผ้ากรองโดยใช้กาแฟ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1000-15 00 ซีซีถ้าน้ำน้อยก็ลดลงตามส่วน เติมน้ำเย็น หรือ ทิ้งไว้ให้อุ่น น้ำควรมีอุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเชียส 2. เปิดวาล์วไล่อากาศออกจากสาย แล้วปิดวาล์ว

3. นอนตะแคงขวา (สะโพกขวาลงพื้น) ขาขวาเหยียดตรง ขาซ้ายงอ ที่นอนท่านี้เพื่อสอดสายยางได้สะดวก

4. สอดหัวสวน(ทาน้ำมันหล่อลื่น เช่นวาสลิน)เข้าทวาร ลึกประมาณ 8-12 เซนติเมตร

5. เปิดวาล์ว ปล่อยน้ำไหลเข้า ถ้ารู้สึกปวด ให้ปิดวาล์วก่อน แล้วขมิบก้น สูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ ทำตัวให้ผ่อนคลาย ไม่เกร็ง แล้วเริ่มเปิดวาล์วเพียงครึ่งเดียว เพื่อให้น้ำไหลเข้าลำไส้ช้าๆ จนหมด

6. นอนหงาย ใช้สันมือนวดหน้าท้องวนแบบทวนเข็มนาฬิกา พยายามอั้นไว้ให้ได้ 10-15 นาที

หลังจากดีท็อกซ์ ควรดื่มน้ำผลไม้ จะทำให้กระปี้กระเปร่าขึ้น

หมายเหตุ การทำดีท็อกซ์ (สวนล้างลำไส้ใหญ่) ควรทำเดือนละ 2-4 ครั้ง

กระบวนการทำงาน

1. ชำระล้างอุจจาระที่ตกค้างในลำไส้ใหญ่

2. ล้างสารพิษโดยตรง

3. กาแฟจะซึมเข้าทางผนังลำไส้ เข้าสู่ระบบไหลเวียนของเลือด ไปยังตับ กระตุ้นการทำงานของตับคือขับพิษต่าง ๆ ที่อยู่ในเลือดออก

ผลที่ได้ หากทำดีท็อกซ์อย่างสม่ำเสมอ

สุขภาพทั่วไปดีขึ้น(ดังได้กล่าวไว้แล้วว่าต้องร่วมกับปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่าง) ผิวพรรณสดใส หน้าตาอ่อนวัยเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลขึ้น

และต้องเข้าใจว่าดีท็อกซ์ไม่ใช่การรักษาโรค แต่ช่วยลดอาการของโรคบางอย่าง ได้แก่โรคภูมิแพ้ หลาย ๆ ประเภท โรคหอบหืด ปวดศีรษะ ไมเกรน โรคทางเดินอาหาร กลิ่นปากเหม็น ไข้ที่เกิดจากมะเร็ง และอาการข้างเคียงจากการได้รับเคมีบำบัด โรคเครียด นอนไม่หลับ ซึ่งแต่ละคน อาจได้รับประสบการณ์ไม่เหมือนกัน

อาจใช้น้ำมะขาม (มะขามหนึ่งกำมือ ต้มในน้ำ 800-1500 ซีซี แล้วกรอง) หรือน้ำมะนาว 3-5 ลูกต่อน้ำประมาณหนึ่งลิตร หรือน้ำลูกใต้ใบ มีขายเป็นซองสำเร็จรูป 2-3 ซองต่อการสวนหนึ่งครั้ง

ไม่ควรทำตอนเย็น หรือก่อนนอน จะทำให้นอนไม่หลับได้

บางทฤษฎี ให้ใช้หม้อสวนจะดีกว่าเพราะการใช้ขวดพลาสติกหรือถุงพลาสติกซ้ำกันหลาย ๆ ครั้ง อาจมีสารเคมีที่ใช้ทำพลาสติก ซึ่งเป็นสารกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็งได้หลุดหรือละลายในน้ำ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือมีความเสี่ยงที่จะเกิดเชื้อราในถุงที่มีความอับชื้นนาน

บางคนอาจมีคำถามว่าหากทำนาน ๆ เข้า จะถ่ายอุจจาระเองไม่ได้เพราะความเคยชิน ข้อนี้ไม่ต้องกังวลค่ะ เมื่อไม่ทำดีท็อกซ์ การขับถ่ายก็จะเป็นปกติ (ที่ตอบได้ เพราะจากประสบการณ์ของตนเอง)

ข้อห้ามทำดีท็อกซ์

1. เด็กวัยเจริญเติบโต (ยกเว้นมีความจำเป็น เช่นป่วยด้วยโรคมะเร็ง ก็ต้องใช้จำนวนน้อยและเจือจางกว่าผู้ใหญ่มาก)

2. หญิงมีครรภ์

3. คนแพ้กาแฟ (ใช้มะนาว หรือมะขาม หรือน้ำอุ่นแทนก็ได้)

4. คนที่มีลำไส้อุดตัน เช่นเป็นมะเร็งในลำไส้ใหญ่

5. คนที่ผ่าตัดลำไส้มาใหม่ ๆ แผลยังไม่หายสนิท จะทำให้แผลแยก เป็นอันตรายมาก

6. คนที่ผ่าตัดลำไส้ เอามาเปิดออกทางหน้าท้อง 7. คนที่ได้รับการฉายแสง บริเวณอุ้งเชิงกราน

8. คนที่มีบาดแผลที่ทวารหนัก หรือคนที่อยู่ในระยะริดสีดวงทวารที่กำลังอักเสบ

9. คนที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงและต่ำ โรคไตเสื่อม โรคตับเสื่อม

จะหาซื้ออุปกรณ์และกาแฟบริสุทธิ์ได้ที่ไหน

ที่ชมรมนักมังสวิรัติ สวนจตุจักร

บริษัทพลังบุญ หน้าขุมชนสันติอโศก

และในต่างจังหวัด ตามร้านขายสมุนไพรและอาหารประเภทมังสวิรัติ

เอกสารอ้างอิง

หนังสือ ประสบการณ์ดีท็อกซ์ สำนักพิมพ์ กลั่นแก่น








 

Create Date : 25 มิถุนายน 2550
2 comments
Last Update : 26 มิถุนายน 2550 21:14:50 น.
Counter : 1640 Pageviews.

 

ได้รับความรู้กลับไปเลย

 

โดย: goodpeople 25 มิถุนายน 2550 21:28:49 น.  

 

เพื่อนที่ทำงาน เขาทำประจำ มาชวน
ใจหนึ่งอยากลอง อีกใจหนึ่งมันยังงัยไม่รู้กับกรรมวิธีนี้
ก็เพิ่งจะมาอ่านในบล็อกนี้ว่า
ห้าม
คนเป็นโรคหัวใจ
ขอบใจนะ
เพราะเป็นโรคหัวใจ
ทำไมเพื่อนเขาถึงไม่ทราบข้อห้ามการทำดีท๊อกซ์ เขาก็ทราบทุกอย่างดีนี่นาทั้งเกี่ยวกับตัวเราและทำดีท็อกซ์

 

โดย: Yoawarat 25 มิถุนายน 2550 22:09:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาว17
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Color Codes ป้ามด







เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว
มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ
เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว
มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ
ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย
ดูอย่างต้นไม้ซิ
มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล
มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ
เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี
อดทนและอดทน
เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา
เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข








Free Hit Counter ทีเว็บมาสเตอร์ รวมพลคนทำเว็บ
Google
New Comments
Friends' blogs
[Add สาว17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.