Bloggang.com : สาว17 : สุขภาพที่ควรทราบ นำมาฝากกันค่ะ

สุขภาพที่ควรทราบ นำมาฝากกันค่ะ

"โรค" ที่พึงระวัง ก่อน "ถอนฟัน"
มีคนที่รู้จักฟันผุหลายซี่ และปวดฟันมาก จะไปให้ทันตแพทย์ถอนออก แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูงจะถอนฟันได้ทันทีหรือไม่

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.ทพ.สมชาย อุรพีพล ภาควิชาทันตกรรมประดิษฐ์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า สาเหตุของการปวดฟันอาจเกิดจาก ฟันผุ หรือ ฟันหักจนทะลุไปถึงโพรงประสาทฟัน หรือ เหงือกอักเสบจากหินปูนที่ลุกลาม จนทำให้ปวดฟันมาก บางรายที่มีการติดเชื้อร่วมด้วยจะมีหนอง และมีอาการบวม

เมื่อคนไข้มาพบทันตแพทย์ จะมีการตรวจดูว่าสาเหตุของการปวดฟันเกิดจากอะไร ถ้าฟันผุก็ต้องดูว่าผุมากน้อยแค่ไหน สามารถรักษาได้หรือไม่ หากฟันผุมากไม่สามารถรักษาได้ก็ต้องถอนออก

ก่อนจะถอนฟันจะต้องมีการตรวจร่างกาย ตรวจวัดความดันโลหิต และซักประวัติคนไข้อย่างละเอียด ว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ รับประทานยาอะไรอยู่หรือเปล่า

โรคที่พบบ่อยและถือข้อจำกัดในการถอนฟัน มีอยู่ไม่กี่โรค อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ถ้าคนไข้เป็นโรคเหล่านี้ควรระมัดระวัง แต่มิได้ถือเป็นข้อห้าม คือ ไม่ได้หมายความว่า เป็นโรคเหล่านี้แล้วจะถอนฟันไม่ได้ แต่การถอนฟันจะต้องทำด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากก่อนถอนฟัน จะต้องมีการฉีดยาชาให้กับคนไข้ ถ้าคนไข้เป็นโรคความดันโลหิตสูง การฉีดยาชาบางชนิดเข้าไป จะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นอีก คนไข้บางรายความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นแม้แต่เพียงนิดเดียวก็อาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้

ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการฉีดยาชา ถ้าคนไข้เป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่ปวดฟันมาก เพราะมีการติดเชื้อ อักเสบ เป็นหนอง อาจทำการรักษาด้วยการระบายหนองออก แล้วให้ยาแก้ปวดไปรับประทาน อาการปวดก็อาจบรรเทาลงได้ ขณะเดียวกันจะต้องให้คนไข้กลับไปพบอายุรแพทย์เพื่อควบคุมความดันโลหิตให้คงที่อย่าให้สูงจนเกินไป หรือเป็นโรคเบาหวานแผลจะหายช้า ก็ต้องควบคุมน้ำตาลให้คงที่ก่อน และถ้าเป็นโรคหัวใจ คนไข้ต้องรับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ ก็ต้องให้กลับไปหาอายุรแพทย์โรคหัวใจ เพื่อพิจารณาให้หยุดยาก่อนมาถอนฟัน

เมื่อเห็นว่าปลอดภัยกับคนไข้ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแล้ว ในการถอนฟันทันตแพทย์อาจเลือกใช้ยาชาที่มีความปลอดภัย ไม่ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นมาก แต่ประสิทธิภาพยาชาดังกล่าวการชาจะน้อยกว่า จนทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บปวดเวลาถอนฟัน มากกว่าการใช้ยาชาที่ทำให้ชาลึกและนาน แต่มีข้อเสียคืออาจไปทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นนิดหน่อย

ถ้าไม่มีโรคประจำตัวอะไร ก็ไม่มีปัญหาต่อการถอนฟัน ในอดีตเคยมีเหมือนกันที่ทันตแพทย์ซักประวัติไม่ละเอียด อีกทั้งคนไข้ปกปิดข้อมูลซึ่งถือเป็นความเสี่ยง ดังนั้นก่อนทำการถอนฟัน จำเป็นจะต้องมีการตรวจร่างกายและซักประวัติอย่างละเอียด มิใช่เชื่อตามที่คนไข้พูดมาทั้งหมด เพราะบางทีคนไข้ปวดฟันมากต้องการถอนฟัน อาจไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างละเอียด ยิ่งถ้าคนไข้เป็นโรคหัวใจ ถ้าไม่บอกจะดูไม่ออก

ส่วนการถอนฟันจนถึงขั้นทำให้ช็อกหรือไม่นั้น รศ.ทพ.สมชาย กล่าวว่า พบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่มักพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กบางคนไม่ให้ความร่วมมือ กลัวเครื่องไม้เครื่องมือทำฟัน เหมือนกับกรณีที่เป็นข่าว! ทางหน้าหนังสือพิมพ์ ดังนั้นก่อนจะทำการถอนฟันสักซี่ให้กับเด็กที่กลัวและไม่ให้ความร่วมมือ จะต้องประเมินก่อนว่าโรคในช่องปากที่ เป็นนั้นมากน้อยแค่ไหน จำเป็นต้องทำเร่งด่วนหรือไม่.

"แมลงสาบ" ภัยเงียบ "ภูมิแพ้"
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ คือ กรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ คือ บ้านพักอาศัยซึ่งมีสารก่อภูมิแพ้หลายอย่าง เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ฝุ่นบ้าน ขนแมว ขนสุนัข โดยเฉพาะสารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบเป็นสาเหตุสำคัญของผู้ป่วยภูมิแพ้คนไทย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.พญ.อัญชลี ตั้งตรงจิตร ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า สารก่อภูมิแพ้จะจากส่วนต่าง ๆ ทั้งจากตัวแมลงสาบ สิ่งที่ขับถ่ายออกมา หรือจากสารคัดหลั่งของแมลงสาบ เมื่อมีการสัมผัส หรือถูกกระตุ้นจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ในเวลาต่อมา

แมลงสาบที่พบบ้านในเราส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อเมริกาซึ่งสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว กล่าวคือหากเราเห็นแมลงสาบในบ้าน 1 ตัว เท่ากับยังอยู่ในรังอีก 800 ตัว

ผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงมากน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพความเป็นอยู่ หากเป็นอพาร์ต เมนต์ ที่รวมห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัวไว้ที่เดียวกัน จะมีความเสี่ยงมากกว่า ผู้ที่อาศัยในบ้านพัก หรือห้องเช่าที่มีการจัดแบ่งห้องต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นสัดส่วน เพราะจากการสำรวจพบว่า ในส่วนที่เป็นครัว จะมีสารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบมากที่สุด รองลงมาคือ ห้องนั่งเล่น และห้องนอน

สิ่งสำคัญที่สุด คือ การรักษาความสะอาดภายในบ้านโดยเฉพาะการจัดเก็บเศษอาหารและขยะเพื่อกำจัดอาหารของแมลงสาบ รวมทั้งหลังการทำอาหาร ควรเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย ส่วนห้องนอนต้องดูแลเรื่องความสะอาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศ ต้องตรวจสภาพเครื่องและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

จากการศึกษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่เข้ามารับการรักษา 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ผู้ป่วยจำนวนมากที่เป็นโรคภูมิแพ้และมีสาเหตุมาจากแมลงสาบ 44- 60% ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ทั้งหมด ซึ่งหากเกิดอาการในกลุ่มเด็กจะมีความรุนแรงมากกว่าและมีโอกาสเสียชีวิตได้

รศ.พญ.อัญชลี กล่าวว่า ในตัวแมลงสาบมีสารหลายชนิดที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้และเป็นสารที่แตกต่างจากที่พบในประเทศแถบตะวันตกเนื่องมาจากเป็นแมลงสาบคนละสายพันธุ์ สิ่งที่เป็นปัญหาของการเข้ารับการรักษาของผู้ป่วยนั้น ส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าในบ้านจะมีสารก่อภูมิแพ้ใด จึงทำให้แพทย์เกิดแนวคิดในการทำเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ในบ้านโดยเฉพาะ เพื่อให้ตรวจและรักษาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในอดีตจะใช้ชุดตรวจสอบจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์กับไทย ทำให้ไม่ได้มาตรฐาน แต่วันนี้สามารถพัฒนาน้ำยาดังกล่าวได้สำเร็จแล้ว และนำมาใช้ในการตรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ทีมวิจัยยังได้พัฒนาวัคซีนโดยการนำโปรตีนของแมลงสาบกว่า 20 สายพันธุ์ มาตรวจดูว่าชนิดใดก่อให้เกิดภูมิแพ้ เมื่อรู้ว่าโปรตีนจากแมลงสาบตัวใดที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และเป็นโปรตีนที่ไม่พบในคน ก็นำไปสร้างวัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้ได้ เรียกว่า วัคซีนดีเอ็นเอ เป็นการนำ ดีเอ็นเอที่สร้างโปรตีนแมลงสาบมาเชื่อมกับ ดีเอ็นเอของสารช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของคน และจะสร้างเม็ดเลือดขาวแทนการสร้างสารก่อให้เกิดการแพ้ รักษาโดยหยดที่จมูกหรือใต้ลิ้นไม่กี่ครั้ง นับเป็นการรักษาภูมิแพ้แมลงสาบที่ลดความเสี่ยงต่อความเจ็บปวดและมีใช้แล้วที่โรงพยาบาลศิริราช.

กินยาขณะตั้งท้อง
เคยเห็นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกคนแรก กลัวโน่นกลัวนี่ โดยเฉพาะการรับประทานยาหรืออาหารบางอย่าง ยิ่งช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย คุณแม่หลายคนเป็นไข้หวัด ไอ เจ็บคอ มีข้อสงสัยว่าถ้ารับประทานยาจะส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ หรือไม่

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รอง ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย หัวหน้าหน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า เวลาคุณแม่ไม่สบาย ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด ท้องเสีย ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง ให้ถือว่ายาทุกตัวมีผลกับเด็กไว้ก่อน ดังนั้นควรจะไปปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนการใช้ยา ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาทุกชนิด เพราะยาทุกชนิดที่รับประทานเข้าไปในช่วง 3 เดือนแรกจะมีผลต่อการสร้างอวัยวะของทารก ยกเว้นยาที่แพทย์แนะนำว่าปลอดภัย โดยยาลดไข้ที่ใช้ได้ปลอดภัย คือ ยาพาราเซตามอล ส่วนยาอย่างอื่นไม่แนะนำ แต่ถ้าคุณแม่ไม่อยากรับประทานยาที่แพทย์แนะนำตอนมีไข้ก็อาจใช้วิธีเช็ดตัวแทน

ถ้าคุณแม่เป็นไข้หวัดก็ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ รับประทานวิตามินซี หรือผัก ผลไม้ที่มีวิตามินซี และพักผ่อนให้มาก ๆ ในกรณีที่ไข้ไม่ลดใน 1-2 วัน ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจจะเป็นโรคไข้เลือดออกได้เนื่องจากบางคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา ขณะเดียวกันบางคนติดเชื้อไวรัสบางตัวจนส่งผลกระทบให้ทารกในครรภ์เกิดความพิการ ดังนั้นคุณแม่บางคนที่มีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดอาจจะไม่ได้เป็นไข้หวัดก็ได้ การมาพบแพทย์น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะการรับประทานยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ คุณแม่อาจจะต้องมานั่งเสียใจภายหลังได้ เพราะยาที่รับประทานเข้าไป อาจทำให้ลูกของคุณผิดปกติ หรือเกิดความพิการ ปัญหาที่มักจะเจอ คือ เวลาคุณแม่ไปซื้อยาที่ร้านขายยามักจะไม่ได้บอกกับเภสัชกร หรือ คนขาย ว่าตั้งครรภ์ ซึ่งจริง ๆ แล้วต้องบอก และควรถามว่ายาตัวไหนรับประทานได้หรือไม่ได้ และควรซื้อยาจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรประจำอยู่เท่านั้น

สำหรับคุณแม่ที่มีอาการไอ เจ็บคอ สามารถรับประทานยาอมแก้ไอ แก้เจ็บคอได้ ซึ่งยาอมแก้ไอ แก้เจ็บคอ ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดสามารถใช้ได้ ไม่มีข้อห้าม ยกเว้นยาแก้ไอบางชนิด ที่ไปกดอาการไอ และยาแผนโบราณบางชนิด ที่พูดมิได้หมายความว่ายาแผนโบราณไม่ดี แต่ยาบางชนิดหลายคนไม่รู้ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้างและรับประทานแล้วจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือไม่

นอกจากไข้หวัด และท้องเสีย แล้ว ที่พบบ่อยในผู้หญิงตั้งครรภ์ คือ เป็นตะคริว เพราะร่างกายขาดแคลเซียม วิธีการแก้ไข ง่าย ๆ คือ ใช้วิธีดัดขา โดยคุณแม่เหยียดขาให้ตรง แล้วให้สามีหรือคนใกล้ตัวดันฝ่าเท้าเข้าหาตัวจะช่วยลดอาการเกร็งจากตะคริวได้

รศ.นพ.ธีรพงษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากการรับประทานยาแล้ว การรับประทานอาหารก็มีส่วนสำคัญสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ อาหารที่มีรสชาติเค็มจัดจะทำให้มีเกลือโซเดียมมากและอาจทำให้เกิดอาการครรภ์เป็นพิษได้ ส่วนอาหารหมัก ดองอาจทำให้ท้องเสียและมีการติดเชื้อ แต่ผู้หญิงตั้งครรภ์ในระยะ 3 เดือนแรกอาจ อยากรับประทานอาหารรสจัด ดังนั้นก็คงต้องอะลุ่มอล่วยกันไป อย่างไรก็ตาม ควรงด หรือรับประทานอาหารที่ใส่ผงชูรสให้น้อยลง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ควรเน้นอาหารจำพวกโปรตีน ไข่ ถือเป็นอาหารที่มีโปรตีนมาก แพทย์จึงแนะนำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์รับประทานอย่างน้อยวันละ 1-2 ฟอง และให้ดื่มนมประมาณ 3 แก้วขึ้นไปหรือ 1 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้แคลเซียมมากและไม่เป็นตะคริว ส่วนผลไม้รับประทานได้ทุกอย่าง แต่ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่ทำให้เกิดกรดแก๊ส เช่น ทุเรียนบางคนรับประทานแล้วจะทำให้เกิดอาการจุกเสียด แน่นท้อง.

Create Date : 12 มกราคม 2551

Last Update : 14 มกราคม 2551 21:21:54 น.

2 comments

Counter : 1646 Pageviews.

ภัยสุขภาพอีกอย่างที่ควรระวังให้มากใว้
ก็คือ ภูมิเเพ้จากไรฝุ่น เเละจากฝุ่นละอองขนาดละเอียดเล็กในเมืองใหญ่
..เเมลงสาบนั้นเห็นเเละกำจัดได้เห็นๆ เเต่ไรฝุ่นมองไม่เห็นเลยวางใจ ควรซัก ตาก ต้ม ผ้าปูที่นอนหมอนเเละม่าน เสมอๆ ห้องหากมีเวลาที่เเดดส่องเข้าถึงได้ก็ดี ส่วนฝุ่นละเอียดที่จะระคายเคืองปอดเเละกระตุ้นการเเพ้ได้เหมือนกันนั้น เเก้ยากเพราะเป็นปัญหาเมืองใหญ่
เเต่ควรมีเครื่องปรับอากาศที่มีระบบฟอกอาอาศด้วยในตัว ล้างใส้กรองเเอร์เสมอๆ เเละหากมีโอกาสก็ไปฟอกปอดต่างจังหวัดบ้างก็ดี ขอให้รักษาสุขภาพทุกๆคนนะครับ

โดย: ดุ๊ค IP: 125.24.14.28 วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:18:28:25 น.

เเวะมาอ่านค่ะ...
ปล.กำลังผังเพลงเดียวกับที่เจ้าของบล๊อคเอาลงะอดีเลยค่ะ เเต่เป็นเวอร์ชั่นทงบัง อิอิ

โดย: Mcjaiaon

วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:20:25:43 น.