เมื่อตะวันยอแสง..เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า..พักลงตรงนี่ที่เดิมแล้วหลับตา..
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
2 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
ท้อง - เครียด – แท้ง !!







ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ที่มักจะหงุดหงิด เจ้าอารมณ์เป็นพิเศษ บางครั้งอารมณ์ดีอยู่ดีๆ ก็กลับแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหดหู่ แบบหาสาเหตุไม่ได้ เรื่องที่ไม่เคยเป็นเรื่องมาก่อนก็กลับกลายเป็นเรื่องขึ้นมาจนแม้แต่คุณเองและคนรอบข้างก็ยังแปลกใจ คงต้องทำใจกันนิดนึงค่ะสำหรับเรื่องนี้ เพราะช่วงเวลาที่คุณตั้งครรภ์นั้น นอกจากร่างกายจะเปลี่ยนแปลงแล้ว ไหนจะกิจวัตรประจำวัน สังคมแวดล้อมที่คุณต้องปรับตัวต่างๆ แถมยังมีเรื่องของระดับฮอร์โมนที่ขึ้นๆ ลงๆ ในร่างกาย ที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจและอารมณ์ของคุณโดยตรงด้วย อาการเหล่านี้มักจะก่อให้เกิดความเครียดได้ง่าย ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังและควบคุมไว้ให้ดี อย่าให้มีผลกับทั้งกับตัวคุณเอง และคนที่คุณรัก


เรื่องของความเครียดอย่าปล่อยให้เกิดไว้แหละเป็นดี เพราะอันตรายจากความเครียดขณะที่คุณกำลังตั้งครรภ์นั้นมีไม่น้อย คุณคงเคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่าคนที่ตกอยู่ในภาวะเครียดมากๆ นั้นมีโอกาสสูงในการแท้งลูก หรือคลอดก่อนกำหนดใช่ไหม... อะไรทำให้เป็นแบบนั้น บรรดาคุณหมอนักวิจัยเขาก็สงสัยเหมือนกัน จนกระทั่งทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทัฟส์ ร่วมกับทีมจากประเทศกรีซ ก็ได้พยายามหาคำตอบเพื่อไขข้อข้องใจนี้จนพบความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดกับการตั้งครรภ์ และรายงานไว้ในวารสารวิชาการด้านต่อมไร้ท่อ “Endocrinology” ฉบับเดือนมิถุนายน 2003 ซึ่งพอจะอธิบายได้ว่า ทำไมผู้หญิงถึงแท้งได้ทั้งๆ ที่ไม่มีประวัติการเจ็บป่วยมาก่อน และทำไมบางคนถึงแท้งบุตรซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยปกติระหว่างที่คนเราเครียด สมองจะปล่อยฮอร์โมนหลายชนิด รวมทั้งฮอร์โมนที่เรียกว่า “corticotrophin-releasing hormone” หรือ CRH นักวิจัยกลุ่มนี้ได้ทำการศึกษาผู้หญิง 23 คน และพบว่าคนที่เคยมีประวัติการแท้งบุตรหลายครั้ง มักมีระดับฮอร์โมน CRH และฮอร์โมนอื่น เช่น Urocortin สูงอย่างเด่นชัด เมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่เคยแท้งเพียงครั้งเดียว หรือคลอดลูกก่อนกำหนด ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็มีระดับ CRH สูงกว่าปกติอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังพบว่า CRH ส่วนที่ผลิตในรก และมดลูกของผู้หญิงท้อง เพื่อช่วยในการบีบเกร็งของมดลูกขณะคลอด ยังเป็นสาเหตุให้กลุ่มเซลล์ในมดลูกที่เรียกว่า Mast cells หลั่งสารที่อาจเป็นสาเหตุของการแท้งได้


Dr. Theoharis C. Theohardies จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยทัฟส์ อธิบายว่า Mast cells เป็นกลุ่มเซลล์ที่เปรียบได้กับลูกบอลลูกหนึ่ง ที่บรรจุด้วยลูกปิงปอง 500 ลูก และลูกปิงปองแต่ละลูกก็ยังมีลูกแก้วอีก 30 ลูกบรรจุอยู่ หากเมื่อไหร่ที่เกิดการแพ้อะไรขึ้นมา เซลล์เหล่านี้จะแตกตัวเพื่อเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองการแพ้ โดยปล่อยสารประเภท histamine ที่ทำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัว และสารเคมีอย่างอื่นออกมา


เช่นเดียวกับการเกิดสารก่อภูมิแพ้ดังกล่าว ทั้ง CRH และ Urocortin ใน Mast cells อาจปล่อยสารเคมีหลายชนิด สารเคมีตัวการสำคัญของการแท้ง อย่างเช่น “ทริปเทส (Tryptase)” ที่ Mast cells ปล่อยออกมา ทำหน้าที่คล้ายกับสารที่ทำให้เนื้อนุ่ม โดยมันจะไปทำลายเนื้อเยื่อ และยับยั้งการผลิตเมมเบรนเพื่อพัฒนาตัวอ่อน (Embryo) และทำลายการสร้างรกที่เป็นเส้นทางให้อาหารกับลูกอ่อนในท้อง เมื่อเกิดกระบวนการเหล่านี้ขึ้นตอนตั้งครรภ์ช่วงแรกๆ จึงเป็นสาเหตุทำให้แท้งลูกได้ การค้นพบนี้จึงยืนยันได้ว่า ความเครียดนำไปสู่การแท้งลูกได้จริง ดังนั้นคุณที่กำลังตั้งครรภ์จำเป็นต้องลดความเครียดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ

หากคุณรู้สึกว่ากำลังเครียด คงต้องหาวิธีช่วยให้ตัวเองผ่อนคลายลงบ้าง ดีกว่าปล่อยให้ความเครียดเข้ามาเกาะกุมใจ ทำให้อารมณ์บูดเสีย ซึ่งคงไม่เป็นผลดีทั้งคุณเอง ลูกน้อยในครรภ์ และคนรอบข้างด้วย ดังนั้นเราจึงมีวิธีดับความเครียดมานำเสนอให้คุณลองทำตามดูเพื่อจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นได้

1. มองหา และลงมือทำสิ่งที่เบนความสนใจของคุณจากเรื่องที่กำลังหงุดหงิด ทำให้คุณผ่อนคลาย เช่น การหลับสักงีบ การวางมือบนหน้าท้องเพื่อรับรูการเคลื่อนไหวของลูกในท้อง การอาบน้ำอุ่น หรือการพูดคุยกับลูกในท้อง

2. พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ อาจจะเพิ่มเวลานอนกลางวันให้มากขึ้นจากปกติ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

3. หาเวลาออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอทุกวัน อย่างเช่นการออกไปเดินเล่น เว้นแต่คุณหมอที่คุณฝากครรภ์ไว้จะสั่งเป็นอย่างอื่น

4. กินอาหารให้สมดุลได้สัดส่วน การกินอาหารที่ถูกต้อง และเพียงพอจะช่วยลดความไม่สบายตัว และความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ซึ่งนำไปสู่ความเครียดในชีวิตคุณได้ พยายามหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มคาเฟอีน และการสูบบุหรี่

5. หาเวลาเงียบๆ อยู่กับตัวเองบ้าง เช่น การนั่งสมาธิ อ่านหนังสือ เพื่อให้จิตใจสงบ

6. สร้างอารมณ์ให้มีชีวิตชีวา คุณอาจจะหัดเล่นดนตรี หรือฟังเพลงประเภทผ่อนคลาย ที่สมัยนี้เขาผสานเสียงจากธรรมชาติ น้ำไหล จากป่าเขาลำเนาไพรมาให้คุณสร้างจินตนาการตามเสียงให้แช่มชื่น หรืออาจจะชมภาพวีดิโอประเภทที่สอนการฝึกหายใจ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อก็ดี

7. หากคุณยังคงรู้สึกเครียด หรือหงุดหงิดไม่หาย ลองใช้เทคนิค “หักดิบความคิด” บอกตัวเองให้ “หยุด” คิดเสียที โดยการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และผ่อนลมหายใจออกช้าๆ ใช้จิตย้อนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มองไปที่เรื่องราวที่คุณเผชิญอยู่ ถามตัวเองว่าคุณร้อนรุ่มเกินเหตุไปมั้ย? อย่าลืมว่าระดับฮอร์โมนในตัวคุณที่ขึ้นๆ ลงๆ ขณะตั้งครรภ์มักจะทำให้คุณรู้สึกต่อสิ่งต่างๆ ย่ำแย่เกินกว่าความเป็นจริง แล้วถามตัวเองใหม่ว่า เราควรจะมองปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีกว่านี้ได้อย่างไร

8. ลองใช้จินตนาการเข้าช่วยดับความเครียด โดยการหาสถานที่ที่คุณสามารถนั่งพักเงียบๆ สัก 10-15 นาที แล้วทดลองทำตามนี้ .... หลับตาลง หายใจตามปกติ จินตนาการให้ตัวเองกำลังเป็นกระสอบทรายที่มีทรายบรรจุอยู่เต็ม กำลังทับโถมคุณจนหนักอึ้งไปหมด แล้วให้จินตนาการต่อไปว่า ทันใดนั้นถุงทรายที่หนักอึ้งกำลังปริแตก ....ทรายในถุงเริ่มรั่วไหลออกจากถุงทีละน้อย คุณรู้สึกว่าปลายเท้าสัมผัสเม็ดทรายที่กำลังไหลออกจากถุง กรูผ่านเท้าของคุณ น้ำหนักที่หนักอึ้งและความตึงเครียดทั้งหลายค่อยๆ เบาลงทีละน้อย.... จนกระทั่งทรายหมดถุง ความเครียดก็ปลาสนาการไปพร้อมกับทราย เหลือแต่ความโปร่งโล่ง .....จากนั้น....สูดหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง ผ่อนหายใจออก...แล้วค่อยกลับไปทำกิจกรรมตามปกติของคุณต่อไป

9. ควบคุมลมหายใจของคุณเพื่อความผ่อนคลาย โดยการนั่งในที่เงียบๆ สัก 10-15 นาที นั่งตัวตรง วางมือพักไว้บนตักทั้ง 2 ข้าง หรือปล่อยสบายๆ ไว้ข้างตัว หลับตา สูดลมหายใจลึกๆ เก็บลมหายใจไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วค่อยหายใจออกช้าๆ นั่งเงียบๆ จดจ่อที่ลมหายใจที่สูดเข้าผ่านจมูก เมื่อผ่อนออกให้กล่าวคำว่า “สงบ” ทุกลมหายใจออก จนรู้สึกว่าจิตของคุณเริ่มนิ่งมากขึ้น หากมีความคิดอื่นแว่บเข้ามา ก็ปล่อยให้มันผ่านไปไม่ต้องสกัดกั้น เพียงแต่จดจ่อกับลมหายใจของคุณเอง หลังจาก 10-15 นาทีผ่านไป ค่อยลืมตาขึ้น นั่งพักต่ออีก 2-3 นาที แล้วค่อยกลับไปทำกิจกรรมของคุณตามปกติ วิธีนี้จะช่วยให้คุณคลายจากความหมกมุ่นกับปัญหาที่ทำให้คุณเครียดได้ชะงัดนัก

10. ในเวลาที่คุณรู้สึกหดหู่ ท้อแท้ จงคิดว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก แต่ยังมีคนรอบตัวที่คอยเป็นห่วงและอยากช่วยเหลือคุณอยู่ ไม่ว่าสามี เพื่อน หรือคนในครอบครัว แต่บางทีเขาก็ไม่รู้ว่าคุณกำลังเป็นอะไร หรือจะช่วยคุณได้อย่างไร ดังนั้นคุณอาจจะระบายความรู้สึก พูดคุยให้พวกเขาฟังบ้าง โดยอาจจะบอกกล่าวเล่าข้อสันนิษฐานของอารมณ์คุณให้คนอื่นเข้าใจด้วยว่ามีสาเหตุมาจากฮอร์โมนที่ทำให้เป็นเช่นนี้ ซึ่งหากต้องการความช่วยเหลือก็บอกกันตรงๆ รับรองว่าไม่มีใครใจร้ายกับคุณแน่ๆ และน่าจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้มากค่ะ


ทีนี้....เมื่อทราบวิธีแล้วก็ต้องลองทำดู เพื่อลดความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส รักษาสุขภาพทั้งตัวคุณเองและเจ้าตัวน้อยในครรภ์ให้แข็งแรง จนกว่าจะถึงเวลาที่เขาออกมาลืมตาดูโลกอันสดใสใบนี้นะคะ


ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today





Create Date : 02 เมษายน 2551
Last Update : 2 เมษายน 2551 17:03:59 น. 0 comments
Counter : 620 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาว17
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Color Codes ป้ามด







เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว
มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ
เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว
มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ
ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย
ดูอย่างต้นไม้ซิ
มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล
มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ
เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี
อดทนและอดทน
เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา
เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข








Free Hit Counter ทีเว็บมาสเตอร์ รวมพลคนทำเว็บ
Google
New Comments
Friends' blogs
[Add สาว17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.