เรื่องราว....ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต...ของแมวเก้าชีวิตติสต์แตก ยินดีต้อนรับค้าบ.....แง๊ววว.....
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
27 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
*******สีนวล........ หมาเจ้าเล่ห์*******

สีนวลเป็นลูกหมาที่ได้มาจากเพื่อนบ้าน สีนวลไม่ได้มาตัวเดียว แต่มาเป็นแพ็คเก็จ ได้หนึ่งแถมหนึ่ง ที่แถมมาด้วยคือเจ้าปุ๊กลุ๊ก สีนวลมีสีขาวทั้งตัว ขาวแบบนวลๆสบายตา ส่วนเจ้าปุ๊กลุ๊กมีสีขาวด่างดำ

ทั้งคู่มาอยู่ที่บ้านตั้งแต่ยังเล็กๆ สีนวลเป็นหมาฉลาด รู้จักจับขวดนมนอนหงายกินเองเหมือนคนเลย ความฉลาดของสีนวลแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

มีอยู่ครั้งหนึ่ง เราสงสัยว่าสีนวลกำลังขุดหาอะไรใต้ต้นไม้ พอเรียกชื่อ สีนวลมีสะดุ้งเหมือนคนทำความผิด แล้วกลบเกลื่อนด้วยการวิ่งเข้ามาหาเรา แต่ไม่วายพะวงกับหลุมที่ตัวเองขุดค้างเอาไว้

เราเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ถามสีนวลว่า

“สีนวล ซ่อนอะไรในหลุม”

สีนวลเห่า เราตีความได้ว่า

” ไม่มีอะไร อย่าสนใจเลย”

แต่เราไม่เชื่อ เดินไปดู เห็นหัวตุ๊กตา พอคุ้ยดูก็เจอตุ๊กตาตัวโปรดที่หายไปหลายวันก่อน ขุดลึกไปอีกหน่อยเจอขวดนม และของอีกมากมายที่คิดว่าหายไป

“สีนวล ทำไมขี้ขโมยอย่างนี้ ดูซิของที่หายไปเอามาฝังไว้ตรงนี้นี่เอง”

สีนวลเห่าอีก จับความได้ว่า

“ไม่ได้โขมย แค่เอามาเก็บไว้ให้เฉยๆ”

เราจัดการรวบรวมของทั้งหมดที่สีนวลขุดฝังไว้ คิดดูขนาดเชี่ยนหมากยาย สีนวลยังไม่เว้นเลย ยายหาว่าเราเอาไปเล่นขายของ เราบอกว่าไม่ได้เอาไปก็ไม่เชื่อ ที่แท้เจ้าสีนวลนี่เองตัวการ

เราเอาเชื่ยนหมากไปคืนยายและบอกว่าสีนวลขโมยไปฝังใต้โคนมะม่วง ยายไม่เชื่อเรา เราจะพาไปดูก็ไม่ไป อ้อ สีนวลน่ะหมาตัวโปรดของยาย

หลังจากนั้นเราต้องคอยเฝ้าดูพฤติกรรมสีนวลตลอดว่าโขมยอะไรไปบ้าง ถ้าของหายไม่ต้องไปหาที่ไหน ไปดูที่หลุมสมบัติสีนวลก่อนเลย ส่วนมากสีนวลชอบขโมยของเล่นเรา นานๆทีจะขโมยรองเท้าแตะแม่ หรือแม้กระทั่งแว่นของตา

แปลกทั้งๆที่สีนวลรู้ว่าของที่ซ่อนเราต้องหาเจอ แต่สีนวลไม่เคยเปลี่ยนที่ซ่อนไปไว้ที่อื่น

ทุกครั้งที่เราขุดเอาของจากหลุม สีนวลจะมานอนหมอบอยู่ใกล้ๆ และถอนหายใจดังเฮือก ความจริงน่าจะเป็นเรามากกว่าที่ควรถอนหายใจ ด้วยความเหนื่อยใจกับพฤติกรรมของสีนวล

อีกพฤติกรรมของสีนวลที่คนทั้งบ้านเอือมระอา คือชอบกัดกับปุ๊กลุ๊ก ทั้งๆที่สองตัวนี้เป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่เหมือนโกรธกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน อยู่ใกล้กันไม่ได้ต้องกัดกันตลอด จุดสิ้นสุดที่คนที่บ้านทนไม่ได้คือสีนวลกัดกับเจ้าปุ๊กลุ๊ก ตาเราเข้าไปห้ามเจ้าสีนวลกำลังบ้าเลือดเลยเผลอกัดมือตาไปด้วย

น้าโมโหมากจนทนไม่ไหวจับสองตัวใส่รถเอาไปส่งที่วัด เพราะมันช่างดื้อและไม่ปรองดองกันดีนัก

หลังจากน้าพาเจ้าสองตัวนี้ไปปล่อยวัด ก็กลับมาที่บ้านพอยายรู้เข้าก็บ่นน้าบอกให้ไปรับเจ้าสองตัวกลับมา เพราะสงสารด้วยเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก และสีนวลก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะกัดตา

น้าบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยไปรับ หากมันทั้งคู่ยังอยู่ที่วัดก็จะรับกลับมา รุ่งขึ้นเราไปวัดกับน้าสองคน ภาพแรกที่เห็นเมื่อเลี้ยวรถเข้าประตูวัดคือ เจ้าสีนวลกับเจ้าปุ๊กลุ๊กนั่งคู่กันมองออกมาทางประตูวัด พอเห็นรถน้าขับเข้ามา ก็ดีใจวิ่งมาที่รถกระโดดโลดเต้นกันใหญ่ น้าบอกว่าหากกลับบ้านแล้วทะเลาะกันอีก คราวหน้าจะปล่อยไม่มารับกลับเลย ทั้งสองไม่เถียงซักคำ ได้แต่ทำหูตูบ หางตก

พอน้าเปิดประตูรถปุ๊บเจ้าสองตัวกระโดดขึ้นรถปั๊บเหมือนกลัวน้าจะเปลี่ยนใจ เราถามทั้งสองตัวว่า

“เป็นงัย นอนวัดโดนผีหลอกป่ะ หายซ่าส์รึยังอิอิอิ”

เจ้าสีนวลกับปุ๊กลุ๊กแย่งกันเห่าใหญ่ แปลได้ว่า

“ไม่เอาแล้ว เข็ดแล้วค้าบ”

น้ายังไม่ทันได้ขึ้นรถ ก็มีพระรูปหนึ่งเดินเข้ามาถามว่าเป็นเจ้าของเจ้าสองตัวนี้เหรอ พอน้าบอกว่าใช่ พระรูปนั้นก็บอกว่า เห็นสีนวลกับปุ๊กลุ๊กนั่งอยู่หน้าประตูวัดตั้งแต่เมื่อวาน ไม่ขยับไปไหนเลย เรียกมากินข้าวก็ไม่มา ตอนเช้ามาก็เห็นอยู่ที่เดิม นอนขดตัวกลมทั้งคู่

ท่านถามว่า “เอาหมามาปล่อยทำไมล่ะโยม ทิ้งไว้ก็เป็นภาระกับวัดนะ หมาสองตัวนี้ก็ดูลักษณะดีเลี้ยงไว้น่ะดีแล้ว”

น้าแก้ต่างว่า”มันดื้อน่ะครับ ก็เลยพามาดัดนิสัยที่วัดเผื่อมันจะดีขึ้น”

พระตอบว่า”หมานะโยม มันสัตว์เดรัจฉาน หากมันทำผิดก็ดุว่า แต่อย่าเอามาทิ้งขว้างอย่างนี้ โยมเป็นคนเวลาทำผิด พ่อแม่ก็ไม่เคยตัดหางโยมปล่อยวัดใช่ไหม”

เราแอบมองหน้าน้าแล้วขำในใจ ไม่กล้าหัวเราะดังๆ กลัวน้าเขกหัวเอา

น้าเได้แต่ก้มหน้าฟังพระเทศน์ เถียงไม่ออกซักคำ ก่อนกลับก็เขอโทษพระและสัญญาว่าจะไม่เอาหมามาปล่อยวัดอีก

พอขึ้นรถได้น้าบ่นเจ้าสองตัวใหญ่เลย สีนวลกับปุ๊กลุ๊กรู้ชะตากรรมตัวเองได้แต่นั่งหงอยๆ

ตั้งแต่รับเจ้าสองตัวกลับมา สีนวลกับปุ๊กลุ๊กไม่เคยกัดกันอีกเลย รักใคร่กลมเกลียวกันมากกว่าเดิมสงสัยคงกลัวโดนจับไปปล่อยวัด

สำหรับสีนวลสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือนิสัยชอบโขมยของไปซ่อน แก้ยังไงก็ไม่หายซักที ที่แย่กว่านั้นคือมันสองตัวรวมหัวกันขโมยของเรา มันคงเรียนรู้ที่วัดวันนั้นว่า”รวมกันเราอยู่ แยกกันโดนปล่อย”

วันนั้นเห็นกับตาว่าเจ้าสีนวลคาบร้องเท้านักเรียนข้างนึง เจ้าปุ๊กลุ๊กคาบอีกข้างนึง เราแอบดูว่าทั้งสองตัวจะทำอะไร ใช่มันไปที่เดิมร่วมแรงร่วมใจกันขุดหลุม และช่วยกันกลบ พอเราตะโกนดุ ทั้งสองตัวก็ใส่เกียร์สี่โกยกันไปตัวละทิศละทาง

เราไปฟ้องยาย ยายบอกว่า หมามันจะขโมยของได้งัย เราเก็บของไม่ดีเองแล้วไปโทษหมา เฮ้อ เป็นงั้นไป

วันไหนถ้าเราโมโหมากๆเราก็จะบอกสีนวลว่า “นิสัยไม่ดี เดี๋ยวจับไปปล่อยวัดซะเลย” เหมือนสีนวลจะรู้ สีนวลจะรีบเดินเข้ามานอนหงายเอาขาตะกายฟ้า และครางงี๊ดๆๆๆ จนเราอดใจอ่อนไม่ได้ ต้องบอกว่าล้อเล่น ถึงจะเลิกร้อง

มีอยู่วันนึง ยายหารองเท้าแตะอีกข้างไม่เจอ ยายถามสีนวลว่าเห็นรองเท้ายายมั้ย เจ้าสีนวลรีบวิ่งหายไป ซักพักกลับมาคาบรองเท้าข้างนั้นมาด้วยทำเป็นว่าหาของเจอแล้วคาบเอามาให้ยาย ความจริงมันนั่นแหละขโมยไป แต่ทำเป็นมาเอาหน้า ยายก็ชมว่าสีนวลฉลาด

เราได้แต่แอบหมันไส้มัน เจ้าสีนวลหันมามองหน้าเราแล้วเห่า แปลได้ว่า “ผมบอกแล้ว ว่าผมไม่ใช่ขโมย”



Create Date : 27 มีนาคม 2551
Last Update : 27 มีนาคม 2551 17:44:18 น. 1 comments
Counter : 961 Pageviews.

 
น่ารักจังค่ะ วันหลังมาเล่าเรื่องเจ้าสีนวลอีกนะคะ


โดย: m.siss วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:20:51:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าวโพดแมวติสต์แตก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





myspace layout images



Friends' blogs
[Add ข้าวโพดแมวติสต์แตก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.