Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
..Blueragon : อภินิหารหัวใจมังกร ตอนที่28..

คำเตือน
ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์



************************
Blueragon : อภินิหารหัวใจมังกร
ตอนที่ 28

************************




.
.
.
.

“เจ้าว่ายังไงนะ”
น้ำเสียงที่แผดดังนั้น แฝงอารมณ์โกรธเคืองไว้เต็มเปี่ยม ใบหน้าสวยงดงามแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่โหดเหี้ยมอย่างชัดเจน ดวงตาที่เคยหวานงดงามนั้นบัดนี้กลับดุกร้าว แค้นเคือง ริมฝีปากสีแดงสดราวกลีบกุหลาบขบเม้นเข้าหากันแน่นเป็นเส้นตรง ริ้วรอยของความขุ่นเคืองใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามขององค์ราชินีแห่งนครทองคำ…นาโดบา



“ขณะนี้ กลุ่มนักรบของเจ้าชายบาโอซีลอน ได้ออกเดินทางไปทางทิศเหนือแล้วพะยะค่ะ”
ขุนพลซาโรกล่าวน้ำเสียงระมัดระวัง



“เป็นไปได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อเหล่านักรบของพระองค์ยังอยู่ที่นี่”
พระนางยังคงกล่าวถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง



“....ข้าเองก็ไม่อาจทราบได้พะยะค่ะ องค์ราชินี”
ขุนพลซาโรจนด้วยคำตอบใดๆ



“บ้าที่สุด...เราอุตส่าห์วางแผนเอาไว้...เจ้าชายนะเจ้าชาย”
พระนางสบถอย่างหัวเสีย ขบกรามแน่นด้วยความขุ่นเคืองที่เหตุการณ์ต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่พระนางคาดหวังไว้



“หม่อนฉันจะนำพลทหารไปตามจับเจ้าชายเองพะยะค่ะ”
ขุนพลซาโรยืดอกยืนยัน ขันอาสาออกจับตัวเจ้าชายบาโอซีลอน



“โง่..!!!”
ราชินีนาโดบาตวาดลั่น



“เจ้าคิดว่า เจ้าจะสามารถจับเจ้าชายแห่งนาบีเวียร์ได้ง่ายๆ งั้นรึซาโร”
พระนางกล่าวถามสีหน้าเคร่งเครียด ขุนพลซาโรหยุดนิ่งใคร่ครวญ



“เจ้าไม่รู้หรือไงว่า เจ้าชายไม่ใช่บุรุษธรรมดา ทั้งฝีมือ ไหวพริบ ใครๆ ต่างก็รู้ว่าพระองค์เก่งกาจแค่ไหน อีกอย่าง ไหนจะกองกำลังของพระองค์อีก และ...เราไม่อยากมีเรื่องกับทาง นาบีเวียร์ ในเวลานี้”
องค์ราชินีตรัสน้ำเสียงแผ่วลง สีหน้าเคร่งเครียด



“แต่...”
ขุนพลซาโรยังคงมั่นใจในฝีมือของตนเอง



“ปล่อยพวกเจ้าชายไปก่อน....”
องค์ราชินีตัดสินใจ ด้วยท่าทีที่สงบนิ่งลง



“....”
ขุนพลซาโร คิดจะคัดค้านเพื่อแก้มือ แต่ก็หยุดนิ่งลงเมื่อเห็นแววตาราชินีของตน



“เจ้าไปได้แล้ว...เราต้องการอยู่คนเดียว”
ราชินีนาโดบา โบกมือไล่ขุนพลซาโรให้ออกไปจากท้องพระโรง



เมื่อซาโร ออกไปจากท้องพระโรง ทำให้เหลือเพียงองค์ราชินีเพียงองค์เดียว พระนางนั่งลงที่บัลลังค์ทองอย่างช้าๆ สีหน้าครุ่นคิด แฝงความเจ้าเล่ห์ร้ายลึก...รอยยิ้มบางๆ ผุดที่มุมปากสีแดงสดของพระนาง



“หึหึ....อีกไม่นานเราคงได้เจอกันอีกแน่ๆ เจ้าชายที่รักของข้า...”
น้ำเสียงเรียบเย็นนั้น แฝงความร้ายกาจไว้เต็มเปี่ยม

.
.
.
.
กลุ่มนักรบทหารผู้กล้าแห่งนาบีเวียร์ เดินลัดเลาะตามแนวโขกหินของภูเขาลูกเล็กๆ ซึ่งอยู่ห่างจากทุ่งหญ้าสีทองแห่งนาโดบามาได้ไกลระยะหนึ่งแล้ว...



ทาร์ นักรบผู้ชำนาญเรื่องการเดินทางเดินนำกลุ่มทหารนักรบไปเบื้องหน้า เค้าเคยผ่านเส้นทางนี้มาหลายครั้ง จึงทำให้ไม่ยากนักที่จะพาเจ้าชาย และกลุ่มนักรบร่วมชะตากรรมเดินผ่านท้องทุ่งและป่าลึกเพื่อมุ่งไปยังทิศทางเหนือ



“อีกไม่นาน เราก็จะเข้าเชตนครพากาเซียแล้วพะยะค่ะ”
ทาร์หันมาแจ้งความคืบหน้าของการเดินทางกับเจ้าชายบาโอซีลอน



“นครพากาเซีย...”
เจ้าชายรำพึงเบาๆ ครุ่นคิด



“งั้นพวกเราต้องระวังตัวให้ดีๆ”
องคลักษณ์ทาลอสกล่าวขึ้น



“ข้าเคยได้ยินมาว่า นครแห่งนี้มีแต่คนชั่วอาศัยอยู่”
นักรบคนหนึ่งกล่าวขึ้น น้ำเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย



“ใช่...พระราชากาเซียร่า เป็นผู้มีจิตใจโหดเหี้ยม ไร้ความเมตตาปราณี”
ทาร์กล่าวเสริม



“ทำไมเป็นเช่นนั้นล่ะ”
พาทริสถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ หนุ่มน้อยขมวดคิ้วแน่นมองหน้าทาร์อย่างต้องการคำตอบ



“มีคนกล่าวกันว่า พระราชาองค์นี้มีจิตใจที่โหดร้าย ดุดัน น่ากลัว ทรงชอบการฆ่า และทรมานที่สุด”
ทาร์อธิบายเสริม



“หากมีใครทำให้ไม่พอพระทัย จะทรงสั่งฆ่าทันที”
ทาลอสกล่าวบ้าง ตามที่เค้าเคยได้ยินมา



“อีกอย่าง นครแห่งนี้ไม่สนใจว่า ใครจะทำดี ทำชั่ว ฉะนั้น พวกคนชั่วจึงมาอาศัยอยู่ ยังนครแห่งนี้มากมาย จนคนดีต้องหนีอพยพไปจนหมดเมือง”
ทาร์กล่าวต่อ



“งั้นก็แย่นะซิ อะไรกันเมืองทั้งเมืองมีแต่คนชั่ว”
พาทริสพูดขึ้นด้วยความไม่ชอบใจนัก



“คืนนี้เราจะพักแรมที่นี่...พอรุ่งเช้าค่อยเดินทางต่อ”
เจ้าชายตัดสินใจให้หยุดพักแรมที่ริมชายป่า ก่อนข้ามผ่านเข้าเขตนครพากาเซีย



“งั้นข้าจะไปหาไม้มาทำฟืนก่อกองไฟ”
ทาร์บอกจบก็หันไปทางทิศชายป่า



“ข้าไปด้วย”
พาทิรสยังคงมีเรื่องสงสัยใคร่รู้มากมายอยากจะรู้จากทาร์ หนุ่มน้อยเลยวิ่งตามหลังทาร์หายเข้าไปในป่า




“เจ้าหนูนี่ช่างสงสัยจริง”
ทาลอสมองตามหลังพาทริสที่วิ่งตามทาร์หายเข้าไปในป่าด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก



“คืนนี้จัดเวรยามให้ดี...ต่อไปนี้หนทางข้างหน้าจะมีแต่อันตรายรอพวกเราอยู่”
เจ้าชายกล่าวขึ้นสีหน้าเคร่งขรึมกว่าเคย พระองค์ตระหนักดีว่า หนทางเบื้องหน้านั้นไม่ได้เรียบง่าย สะดวกสบายนัก จะมีแต่เรื่องที่ไม่คาดฝันมากมายรอพระองค์และเหล่านักรบอยู่



“พะยะค่ะ”
ทาลอสรับคำ เค้าหันไปสั่งการกับกลุ่มนักรบทหารกล้าตามคำบัญชาของเจ้าชายบาโอซีลอน
.
.
.
.
.
.
“นี่ทาร์ อีกนานมั้ยกว่าพวกเราจะไปถึงทุ่งหญ้ากว้างที่เจ้ามังกรชั่วมันอาศัยอยู่หน่ะ”
อยู่ๆ พาทริสที่ช่วยทาร์แบกไม้เพื่อใช้ทำฟืนก็กล่าวถามขึ้น หลังจากที่เงียบไปอยู่นาน



“ดูเจ้ากระหายอยากเจอกับเจ้ามังกรบลูรากอนเหลือเกินนะ”
ทาร์มองพาทริสด้วยรอยยิ้ม



“ก็ใช่หน่ะซิ”
หนุ่มน้อยยืนยันหนักแน่น



“เจ้านี่...แม้ตัวจะเล็กแต่ดูท่าทางจะกล้าหาญไม่เบา”
ทาร์ยิ้มมองท่าทางหนุ่มน้อยด้วยความขบขัน



“ข้ามีหนี้แค้นจะต้องชำระกับเจ้ามังกรชั่วนั่น”
หนุ่มน้อยกล่าว ด้วยแววตามุ่งมั่นจริงจัง ทาร์มองอาการของอีกฝ่ายแล้วให้รู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญของหนุ่มน้อยร่างอ้อนแอ้นตรงหน้า



“เจ้าแค้นอะไรเจ้ามังกรบลูรากอน หรือเจ้าหนู”
ทาร์ซักถามอย่างสงสัย



“มัน.....มันฆ่าพ่อข้า”
พาทริสขบกรามแน่น เค้นเสียงรอดไรฟันด้วยความแค้นเคืองทุกคราที่นึกถึงมังกรร้าย



“อ้อ....อืมม...”
ทาร์พยักหน้าเข้าใจ



“แล้วท่านล่ะทาร์..”
พาทริสหันมาเป็นฝ่ายถามทาร์อีกครั้ง



“ข้าหรือ....”
ทาร์หยุดยืนนิ่ง




“ท่าทางท่านก็คล่องแคล่ว ชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี แล้วทำไมถึงมาร่วมขบวนของเจ้าชายได้”
พาทริสซักถามอย่างสงสัยถึงที่มาของทาร์



“ข้าก็เหมือนๆ คนอื่นๆ ต้องการเงินรางวัล และ...และ....”
สีหน้าของทาร์ดูเปลี่ยนไป รอยยิ้มที่เคยมีเลือนหาย



“....”
พาทริสขมวดคิ้วมองทาร์ด้วยความสงสัย



“ข้าเคยผ่านเส้นทางแห่งนี้มาหลายครั้ง....เมื่อก่อน ข้าทำการค้าขายกับคนของเมืองพากาเซีย และเทือกเขาแม่มด จรดเขตใกล้ๆ บึงแห่งภูติ..”
ทาร์เอ่ยขึ้นน้ำเสียงแผ่วเบาลง



“เทือกเขาแม่มด บึงแห่งภูติ...”
พาทริสถวนคำถึงสถานที่ ที่เค้าไม่เคยได้ยิน ไม่เคยผ่าน



“อืมม....ข้าหน่ะ ชอบค้าขายกับพวกคนเลว...หึหึ ฟังดูเหมือนข้าเป็นคนเลวไปด้วยเลยนะ แต่...เพราะพวกคนเลวเหล่านี้ไม่ค่อยได้ผ่านเข้าไปในเมืองต่างนครมากนัก ทำให้พวกเค้าต้องอาศัยการค้าขายกับข้า และพวกพ่อค้าบางคน”
ทาร์กล่าวอธิบาย เค้ายิ้มเหยียดๆ ที่มุมปากของตน



“ค้าขายกับพวกคนชั่ว...”
พาทริสยังไม่เข้าใจอยู่ดี



“ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกอาวุธ เสื้อผ้าหน่ะ.....พวกคนเลวเองก็ไม่กล้าย่างกายผ่านข้ามแดนตั้งแต่ นครนาโดบา ไปจนถึง นาบีเวียร์ ....พวกมันคุ้นเคยกับการอยู่ในดินแดนของตน ทำให้ของใช้จำเป็นขาดแคลน ก็วันๆ ดีแต่ทำชั่วนินะ...หึหึ....”
ทาร์กล่าวยิ้มแห้งๆ



“ข้ากับซีเซียร่า...อ้อ นางเป็นภรรยาของข้าหน่ะ....ข้ากับนางมักจะขนของจำเป็นเหล่านี้มาขายตามชายแดนของนครพากาเซีย เทือกเขาแม่มด และบึงแห่งภูติ”
รอยยิ้มของทาร์ดูเศร้ามากขึ้น



“ระหว่างที่พวกเราทำการค้ากับพวกคนเลว...ซีเซียร่าก็เกิดอยากเห็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สีเขียวชะอุ่นเลื่องชื่อ นางขอร้องข้าให้พานางไปดูสักครั้ง...”
ทาร์เริ่มก้มหน้าลงต่ำ เค้าดูเคร่งเครียด และข่มขื่น



“...แล้ว..”
พาทริสไม่กล้าแม้แต่จะเดาเหตุการณ์ต่อ



“วันนั้นเป็นวันที่ฟ้าโปร่ง...ท้องฟ้าสีครามสดใส ก้อนเมฆสีขาวดูสวยงาม...ข้าไม่เคยคิดว่าจะเจอเรื่องร้าย ใดๆ….ใครจะไปคิดล่ะ ก็ทุ่งนั้นออกจะกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา...”
ทาร์เม้มริมฝีปากแน่น สันกรามของเค้านูนเด่น คมชัด



“นาง....นางหัวเราะเสียงสดใส วิ่งออกไปบนท้องทุ่งแห่งนั้น ดอกหญ้าป่าสวยงามมากมาย นางบอกกับข้าว่า ทุ่งแห่งนั้นสวยงามเหลือเกิน นางไม่เคยเห็นสถานที่ใดงดงามจับใจได้เท่านี้มาก่อน....ขณะที่นางกำลังวิ่งเล่นไปตามท้องทุ่งนั้น....สิ่งที่ข้าและนางไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น....มัน....มัน...”
ทาร์หยุดนิ่ง หยาดน้ำตาของเค้าไหลซึมออกมา น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือแฝงความเครียดแค้นชิงชัง



“มันใช่มั้ย..”
พาทริสเอ่ยเบาๆ



“ใช่ มันบินโฉบมาจากขอบฟ้าอีกทาง มันเร็วมาก...เร็วจนข้าเองก็ไม่คาดคิด....มันไว...ไวมาก ซึ่งขัดกับร่างกายอันใหญ่โตของมัน”
ทาร์กล่าวน้ำเสียงขมขื่น เค้ารู้สึกเจ็บปวดขึ้นเมื่อนึกถึงภาพในความทรงจำ



“มันฆ่านางหรือ...”
หนุ่มน้อยตาโต ร้องถาม



“.....เปล่า...”
ทาร์ส่ายหน้าเบาๆ



“…..”
หนุ่มน้อยขมวดคิ้วยุ่งมองอีกฝ่ายสงสัย



“มันใช้กรงเล็บของมันตะปบร่างนาง....”
เค้าตอบน้ำเสียงแผ่วเบาลง



“.....”
พาทริสอ้าปากค้า เมื่อได้ยินในสิ่งที่ไม่คาดคิด



“ข้าพยายามช่วยนาง...ข้าพยายามแล้ว ข้าพยายาม.....”
ทาร์ร้องออกมาด้วยความข่มขื่นใจ เค้าในยามนี้ดูราวกับคนเสียสติ



“แต่ข้าก็ไม่อาจช่วยนางได้ นางร้องเรียกขอความช่วยเหลือจากข้า แต่ข้า...ข้าช่วยอะไรนางไม่ได้เลย......”
หยาดน้ำตาของทาร์ไหลร่วงลงมาอีก



“ท่านจึงต้องการไปช่วยนาง”
พาทริสกล่าวขึ้นน้ำเสียงแผ่วเบา



“ใช่ แม้ว่า....”
ทาร์ไม่อาจกล่าวคำต่อไปออกมาได้ เค้าไม่อาจคิดได้ว่า ภรรยาของตนจะยังคงรอดชีวิตอยู่ แต่...นั่นคือความหวังเดียวที่เค้ามี



“....”
พาทริสนิ่งเงียบ มองท่าทางของทาร์อย่างเห็นใจ



“มันฝากรอยแผลไว้ให้ข้า....ไอ้มังกรบลูรากอนมันฝากรอยนี้ไว้ให้กับข้า...”
ทาร์เปิดแขนเสื้อขึ้น เค้าเผยให้เห็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากการโดนโจมตีจากมังกรดุร้าย แผลเป็นยาวลึกเกิดที่ต้นแขนของทาร์ ยาวพาดไปถึงช่วงกลางหลังของเค้า



“ตอนนั้นข้าเองก็คิดว่า ต้องตายแน่ๆ ....แต่โชคดีที่คนของราชาแห่งภูติเจอข้าที่ชายป่า พวกเค้าพาข้าหนีออกมาได้”
ทาร์ตบท้ายด้วยน้ำเสียงนิ่ง



“....”
พาทริสรับฟังอย่างเงียบๆ



“หึหึ...ข้าว่า พวกท่านทาลอสคงรอฟืนจากพวกเราอยู่นะ เรากลับไปกันเถอะ”
ทาร์พูดจบก็เดินนำกลับไปทางทิศที่กลุ่มนักรบตั้งที่พัก พาทริสเดินตามร่างชายนักรบพเนจรด้วยความไม่เข้าใจถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เค้าพบเจอ



ใครกัน ราชาแห่งภูติ แล้วทำไมบลูรากอนไม่ฆ่าภรรยาของทาร์เสีย ทำไมมันต้องจับนางไป...แล้วบาดแผลนั้น...หากจะว่ากันตามจริง ทาร์น่าจะเสียชีวิตเพราะบาดแผลนั้นแล้วแท้ๆ แต่เค้ากลับมายืนพูดคุยกับตนได้....อะไรกันที่เกิดขึ้นในป่าที่น่าพิศวงแห่งนี้...





************







Create Date : 04 ธันวาคม 2552
Last Update : 4 ธันวาคม 2552 19:09:01 น. 0 comments
Counter : 284 Pageviews.

kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.