Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

..Blueragon : อภินิหารหัวใจมังกร ตอนที่3..

คำเตือน
ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์



************************
Blueragon : อภินิหารหัวใจมังกร
ตอนที่ 3

************************




.
.
.
ร่างบางเดินลัดเลาะแนวทุ่งหญ้าเพื่อกลับไปยังบ้านหลังน้อยเชิงเขา...

ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปยังบ้านหลังน้อยนั้น บ้านที่เคยมีความรักความอบอุ่นจากบิดาของนาง..บิดาผู้เก่งกล้าเหนือผู้ใดทั้งปวง บิดาผู้ซึ่งรักนางดั่งดวงใจ

แววตาที่ฉายออกมานั้นแสดงถึงความหมองเศร้าภายในอย่างหาที่สุดมิได้





“พาทีเซีย เจ้าหายไปไหนมา”
เสียงเรียกตวาดแหลมระคนความห่วงใยดังมาจากภายในบ้าน


ร่างบางเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางหม่นหมอง จนผู้ที่รอคอยการกลับมาของนางต้องรู้สึกอ่อนใจ


“เจ้าไปในเมืองมาอีกแล้วใช่หรือไม่”
คำถามดังขึ้น ก่อนที่ถ้วยซุปร้อนๆ จะวางลงบนโต๊ะไม้



“แม่...”



พาทิเซียมองหน้ามารดาด้วยแววตาหมอง



“เจ้าก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้”
ซินเทรียมองบุตรสาวด้วยสีหน้าเห็นใจ แต่นางก็ช่วยอะไรไม่ได้



“ทำไมข้าต้องเกิดเป็นหญิงด้วย...ทำไม”
คำถามซ้ำๆ คำถามเดิมๆ หลุดออกจากริมฝีปากสวย จนผู้ฟังรู้สึกอึดอัดใจ



“แต่แม่ดีใจที่เจ้าเกิดเป็นหญิงนะพาทีเซีย”
คำกล่าวของมารดาชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่นางคิด จนพาทีเซียต้องขมวดคิ้วแน่น



“หากเจ้าเป็นชาย แม่มิต้องเสียเจ้าไปอีกคนหรือไร เจ้าไม่คิดถึงใจแม่บ้าง”
ซินเทรียร้องถามบุตรีด้วยสีหน้าใคร่รู้




พาทีเซียมองมารดาของนางแล้วให้รู้สึกผิดกับสิ่งที่นางคิด แต่เมื่อคิดถึงอีกเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่า นางกลับขมวดคิ้วแน่นหนักกว่าเดิม




“แต่มันฆ่าท่านพ่อ”


หญิงสาวขบกรามแน่น ด้วยดวงตาขุ่นแค้น



“แล้วมันก็จะฆ่าเจ้าด้วย หากเจ้าไปหามัน”
มารดาค้านขึ้น



“ลูกยอมตายไปพร้อมๆ กับมัน ลูกจะฆ่ามันด้วยมือลูก”
พาทีเซียกล่าวสีหน้าเครียด ดวงตามุ่งมั่น



“พ่อเจ้ายังพ่ายให้มัน แล้วเจ้าจะชนะมันได้หรือไร”
ซินเทรียไม่เชื่อว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างลูกสาวนางจะเอาชนะเจ้ามังกรร้ายได้



“ลูกต้องฆ่ามันได้แน่ท่านแม่ ลูกต้องฆ่ามันได้”
พาทีเซียมั่นใจในฝีมือของนาง



ซินเทรียผู้เป็นมารดามองหน้าบุตรสาว แล้วให้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางส่ายหน้าไปมาอย่างไม่อยากเชื่อ





“เจ้าบ้าไปแล้ว”




ทิ้งไว้เพียงคำพูดปลงๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางหลังบ้านเพื่อเก็บของใช้ให้เข้าที่

พาทีเซียนั่งจ้องควันจากซุปที่มารดาตักมาให้ นางจ้องมองมันแล้วให้คิดถึงคำของนางพราย...




“เจ้าจงไป มีเพียงเจ้าเท่านั้น ที่ทำได้ พาทีเซีย เจ้าเท่านั้น...”




คำพูดนั้นสร้างความมั่นใจให้นางได้ไม่น้อย ขนาดนางพรายยังบอกว่านางทำได้ แล้วใยนางต้องกลัว หญิงสาวยกมือของนางขึ้น แล้วมองมันด้วยแววตามุ่งมั่น


แต่แล้วคิ้วงามก็ต้องขมวดเข้าหากันแน่น...




“แล้วเราจะไปยังไง”



นางถามตัวเองเบาๆ แล้วให้หยิบเอาแหวนที่นางพรายมอบให้ขึ้นมาดู




“เจ้าบอกเราทีซิว่า เราจะทำอย่างไร”
.
.
.
“ฝ่าบาท....ฝ่าบาทเพคะ”
เสียงหวานใส ร้องดังขึ้นเมื่อร่างสูงเดินผ่านไปตรงหน้า


เจ้าชายบาโอซีลอนหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น พระองค์หันมองเจ้าของร่างงามที่ยืนมองมาด้วยแววตาวิตก


“เจ้ามีอะไรรึนาเซียร่า”
กล่าวถามนางงามด้วยความสงสัย


ร่างบางในชุดสวยระบายลูกไม้ทั้งชุด ผมยาวเป็นลอนสีทองส่งแสงระยิบระยับยามต้องแสงแดด ดวงตากลมโตดำขลับ ริมฝีปากสวยสีแดงสด เดินเข้ามาหาเจ้าชายบาโอซีลอนใกล้ๆ ก่อนจะก้มลงอย่างอ่อนน้อม


“ข้าได้ยินท่านพ่อกล่าวว่า ฝ่าบาทจะออกล่ามังกรหรือเพคะ”
นางกล่าวถามเจ้าชายด้วยน้ำเสียงหวานจับใจ



“ใช่”
เจ้าชายผู้องอาจตอบน้ำเสียงหนักแน่น



“ฝ่าบาททรงอย่าไปเลยนะเพคะ”
นาเซียร่า รั้งเจ้าชายไว้ด้วยดวงตาวิงวอน


เจ้าชายบาโอซีลอนจ้องมองนางงามตรงหน้า แล้วทรงถอนหายใจอย่างลำบาก...



“เราจำเป็นต้องไป”
ตอบนางด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่แววตาก็ดูจะอ่อนลง



“แล้วหม่อนฉันละเพคะ”
นางถามขึ้น ด้วยน้ำเสียงเศร้า



เจ้าชายบาโอซีลอน มองพักตร์ที่งามของนาง แล้วให้ถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่




“เจ้าก็อยู่นี่ไง นาเซียร่า”




“หากฝ่าบาทเป็นอะไรไป หม่อนฉันจะอยู่ได้อย่างไรเพคะ”
นางถามน้ำเสียงเศร้า สีหน้าวิงวอน




เจ้าชายบาโอซีลอนจ้องมองใบหน้าสวย แล้วให้ต้องตัดใจ จริงอยู่ที่พระองค์รู้สึกชื่นชมในความงามของนาง แต่ก็หาใช่จะยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อความงามนี้ไม่ อิสตรีเพียงนางเดียวจะมาลบล้างกับความตั้งใจอันแรงกล้านั้นคงไม่ได้




“นาเซียร่า เราเป็นทหารแห่งพระราชานาบีเวียร์นะ เจ้าจะให้เราขลาดเขลา และเห็นแก่อิสตรีจนละทิ้งหน้าที่งั้นรึ”
ตรัสถามน้ำเสียงเครียด จนบุตรีแห่งหัวหน้าอัศวินต้องลดสายตาลง




“แต่พระองค์เป็นถึงรัชทายาท”




“รัชทายาทแล้วไง”



ตวาดนางเสียงเข้ม เมื่อรู้สึกว่าแม้นางเองก็คิดว่าพระองค์อยู่เหนือประชาชนทั้งปวง




“ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันมิได้...”
หญิงสาวร่างบางสดสวย ทรุดกายลงนั่งคุกเข่ากับพื้น อย่างเกรงบารมีของอีกฝ่าย




เมื่อเห็นท่าทีของหญิงงาม เจ้าชายบาโอซีลอน ก็ต้องลดสีหน้าลง





“เราเข้าใจว่าเจ้าห่วงใยเรา แต่เราจำเป็นต้องไป เพื่อศักดิ์ศรีของบุตรแห่งกษัตริย์บาบีเวียร์ และในฐานะพี่ชายที่ต้องช่วยน้องสาว”
ตรัสจบก็ทรงเดินจากไป ด้วยท่าทางอันทระนงสมกับที่เป็นราชโอรสแห่งพระราชานาบีเวียร์



นาเซียร่า มองตามร่างสูงที่เดินจากไป แล้วพาลให้น้ำตาของนางไหลลงมา...
.
.
.
บนที่นอนนุ่ม...


ร่างบางนอนมองแหวนสีเขียวมรกตในมือ พลางให้สงสัยว่า มันมีไว้ทำอันใดกัน ทำไมนางพรายจึงมอบมันให้นาง


พลิกกายลงกับที่นอน แล้ววางแหวนวงน้อยไว้กับหมอน


“เจ้าลองบอกเราทีซิว่า มีเจ้าไว้ทำอันใดกัน”
กล่าวถามแหวนวงน้อยด้วยความสงสัย


“นางพรายนะนางพราย ให้ของมาก็ไม่บอกว่ามีไว้ทำอะไร”
บ่นออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะหยิบแหวนขึ้นมาชมอีกครั้ง


“อืมม เป็นแหวนก็มีไว้ใส่ซินะ...แล้วจะใส่เจ้าไปทำไมกัน”
นางขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะหยิบแหวนชูขึ้นมอง


แล้วพาทีเซียก็กางนิ้วของนางออก........มือหนึ่งจับแหวนวงน้อยสีมรกต จ่อไปที่นิ้วของนาง


แหวนค่อยๆ ถูกสวมเข้าไปในนิ้วเรียวสวยอย่างช้าๆ....


พลันแสงประหลาดก็เกิดขึ้น ลำแสงสีเขียวอมฟ้า ฉายวูบจากนิ้วของพาทีเซีย แสงนั้นเจิดจรัสสว่างจ้าไปวูบใหญ่


พาทีเซียรู้สึกว่าร่างกายของนางกำลังเปลี่ยนแปลงไป บางสิ่งทำให้นางรู้สึกอึดอัด และบางสิ่งทำให้นางรู้สึกลดหาย..


เมื่อลำแสงสีเขียวอมฟ้าจางลง....หญิงสาวจึงลืมตามองไปรอบๆ อีกครั้ง


“ไม่เห็นมีอะไรเลย”
นางบ่นออกมาเบาๆ


แต่แล้วนางก็ต้องชะงักเมื่อมองไปที่มือของนางอีกครั้ง นิ้วที่เคยบางเรียวอย่างหญิงสาวทั่วไป กลับหนาใหญ่กว่าเดิม


“อะไรกันนี่”
นางร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ


และเมื่อมองไปที่ต้นแขนก็พบว่า แขนที่เคยบอบบางของนาง บัดนี้ดูแข็งแกร่งเกินหญิง


“อะไรกัน เกิดอะไรขึ้น”
นางร้องถามตัวเองอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะรีบลุกขึ้น แล้วตรงไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง


แล้วภาพที่พาทีเซียเห็นในกระจกเงานั้น ทำเอานางแทบช็อค....นางตะลึงกับภาพที่สะท้อนให้เห็นด้วยความประหลาดใจอย่างที่สุด


“นี่ข้าหรือ”
กล่าวถามกับตัวเอง พร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตนเองไปมาอย่างเหลือเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
.
.
.



************










 

Create Date : 28 เมษายน 2551
0 comments
Last Update : 20 มีนาคม 2554 20:21:35 น.
Counter : 386 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.