< NK นวนคร มัลติเพล็กซ์ > ++ < ดูหนัง 4 เรื่อง 50 บาท > ++ < ถูกกว่านี้มีอีกเหรอ >
< NK นวนคร มัลติเพล็กซ์ > โรงหนังที่เรารัก < สุดยอดแห่งความคุ้มค่าในการดูหนัง >
........... 16 มิถุนายน เป็นต้นมา โรงภาพยนตร์ NK นวนคร มัลติเพล็กซ์ ที่ห้าง ABLOOM นวนคร มีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงโฉมใหม่ เปลี่ยนแปลงจากราคาค่าตั๋ว 80 บาททุกวัน ทุกที่นั่งมาเป็น ฉายหนังแบบบุฟเฟท์ ราคาเดียว 50 บาท ดูหนังได้ทั้งหมดในโปรแกรมของโรงเลยครับ อยากดูเรื่องใหน โรงใหน เลือกเอาเลยครับ ปกติแล้วเครือนี้มีโรงฉายทั้งหมด 3 โรงครับ แต่รู้สึกตอนนี้จะปิดไปโรงนึงก็เลยเหลือแค่สองโรง มีหนังฉายทั้งหมดในโปรแกรมตอนนี้ 4 เรื่องครับ ค่าตั๋ว 50 บาท ถ้าดูครบทุกเรื่องก็ตกเรื่องละ 12.50 บาท ถูกกว่านี้มีที่ใหนอีกครับ ??? ถูกยิ่งกว่าเช่าหนังมาดูที่บ้านซะอีก !! ถึงแม้จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการฉายหนังใหม่ แต่คุณภาพของโรงหนังยังเหมือนเดิมครับ แอร์ในโรงหนังอาจจะไม่เย็นนัก แต่ถ้าใครชอบความเย็นก็เลือกที่จะไปนั่งบริเวณใกล้ตู้แอร์ได้ เมื่อวานผมลองนั่งกลางโรง ก็ถือว่ากำลังสบายๆครับ
............ลักษณะการฉายหนังวน ก็ดูจะคล้ายโรงหนังชั้นสอง แต่ที่ต่างคือบรรยากาศครับ เพราะสภาพโรงหนังของที่นี่อยู่ในระดับ โรงหนังชั้น 1 ครับ เบาะนั่งนุ่มสบายกว่าโรงชั้น 1 บางโรงอีก ขอโทษนะครับ นั่งสบายกว่าโรงหนังลิโด้เยอะเลยแหละ ยืดแข้งยืดขาได้สบาย รอบฉายของหนังเขาก็จะคั่นกันระหว่างโรง 1 กับโรง 3 โรงหนึ่งฉายสองเรื่องสลับกันไปเรื่อยๆ โรงสามก็จะฉายสองเรื่องคั่นกันไปเรื่อยๆ แต่รอบฉายจะคาบเกี่ยวกันอยู่นิดๆ สามารถเลือกเรื่องที่จะดูได้อย่างไม่ลำบากใจ ถ้าเหนื่อยนักก็ลงมาหาซื้อข้าวกินคั่นการดูหนังได้ ...หรือจะเอาเข้าไปกินในโรงหนังก็ไม่มีใครว่า !! จริงครับ เพราะกลิ่นไม่รบกวนใคร จะซื้อป๊อปคอร์น หรือหิ้วโค๊กลิตรจากร้านข้างนอกเข้าไป ก็ไม่มีพนักงานโรงหนังว่าเหมือนโรงหนังบางเครือ ?? อ้อ และไม่อยากจะเล่าเลยว่า ร้านข้าวกล่องที่ขายอยู่ด้านล่างของห้างน่ะครับ กับข้าวสองอย่าง ( มีไข่ด้วย ) กล่องละ 15 บาท 3 กล่อง 40 บาท ผมล่ะงงเลยว่าราคานี้ขายได้ยังไง กับข้าวอย่างนึงมีไข่ดาวหรือไข่เจียวเนี่ย ถ้าอยู่ในเมือง กล่องละ 25 บาทผมก็ว่าถูกแล้วนะ
.............โปรแกรมของสัปดาห์นี้มีทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่ ส้มตำ , สี่แพร่ง , เทวดา ท่าจะเท่ง , ลองของ 2 ครับ เช็ครอบฉายของโรงหนังเครือนี้ได้จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ครับ จริงๆที่ผมตั้งใจจะไปดูจริงๆคือเรื่องลองของ 2 ครับ แต่ปรากฏพอเห็นความเปลี่ยนแปลงของโรงหนังคราวนี้ ผมเลยรีบวิ่งพาที่บ้านรีบมาตีตั๋วแล้ววิ่งเข้าโรงหนังกันเลยครับ อิอิ ... มีที่ใหนล่ะ ค่าตั๋วถูกลงไปเกือบครึ่งแถมยังได้ดูหนังแถมอีก เอ้อ ไม่รีบดูก็โง่ล่ะ .. สรุปเมื่อวานเลยพากันยกโขยงเข้าไปดูทั้งครอบครัว มีผม คุณมูวี่ คุณนายแม่มูวี่และคุณย่ามูวี่ อิอิ เสียตังดูหนังคนละสองเรื่องแค่ 150 บาทเท่านั้น คุ้มจริงๆพับเผื่อย แถมเหมือนเหมาโรงหนังดูอีกตะหากนะครับ เพราะว่าเกือบตลอดการดูหนังทั้งสองเรื่อง ไม่มีใครในโรงหนังเลยครับ มีแค่ครอบครัวเราครอบครับเดียว จริงๆ ผมล่ะงงเลยว่าทางโรงหนังเปิดหนังฉายได้ไง ถ้าเป็นโรงอื่นเขาคงปิดไฟประหยัดพลังงานไปแล้ว แต่ที่นี่สุดยอด ไม่ใช่คนเดียวก็ยังฉายนะครับ แต่เป็น ไม่มีคนก็ยังฉายให้ดูจ๊ะ .. อารมณ์ตอนดูนี้เหมือนหนังเรื่อง ผีจ้างหนังเลย อิอิ ถ้าเค้าฉายหนังผีสงสัยเสียวเยี่ยวแตกแน่ๆเลย ..
..............และที่ผมอยากจะชื่นชมอีกอย่างก็คือ บริการของที่นี่ครับ คือมีพนักงานที่มีใจด้านการบริการจริงๆ บนห้องฉายก็มองเห็นมีคนตลอด ไม่เหมือนบางโรงที่แม่ม เปิดเครื่องทิ้งไว้ พอจอตก หรือมีปัญหา ต้องวิ่งหาตัวคนฉายกันให้จาละหวั่นแถมเสียอารมณ์อีก พอเราจะลุกจะเข้าจะออก เขาจะเปิดสวิทซ์ไฟตรงทางเดินให้ทันที เรียกว่าอำนวยความสะดวกกันสุดๆ เห็นเรามีคนแก่มาด้วยเขาก็ช่วยประคอง ฯลฯ ระบบเสียงที่นี่อาจจะไม่เลิศเลอนัก แต่ก็อยู่ในระดับพอใช้ได้ ระบบภาพคมชัดดีครับ พูดถึงหนังที่เพิ่งดูสักหน่อยละกันครับ < ส้มตำ > 2 ดาวครึ่ง หนังระดับกลางๆ แอคชั่นแบบไม่ต้องคิดมาก ประมาณแนว เจสัน สแตทแธม บู๊แบบไม่ต้องใส่เหตุผล ซึ่งอาศัยความสามารถในการแสดงของตัวนำและหนังก็เล่าเรื่องได้สนุกสนานพอประมาณ ไม่มีติดขัดในอารมณ์ พระเอกฝรั่งร่างยักษ์นาธาน สามารถเรียกคะแนนสงสารและฉายแววความน่ารักออกมาได้อย่างไม่ติดขัด แต่ที่ผมชอบมากคือน้องผู้หญิงคนที่เล่นเป็นแชมป์มวยไทยอ่ะ ขโมยซีนไปได้หลายทีเดียว
...............< ลองของ 2 > 2 ดาวครึ่ง ถ้าไม่เอาภาคแรกมาเป็นเกณฑ์ ภาคนี้ก็ถือว่าสนุกใช้ได้ และมีการเรียบเรียงเรื่องราวได้ไม่เลว แต่ time line ของหนังยังค่อนข้างน่าสับสน คือเข้าใจว่าภาคแรกวางเรื่องราวได้สมบูรณ์แบบในตัวมากแล้ว พอมาขยายส่วนต่อซึ่งเป็นภาคย้อนอดีตให้ลงตัวและเข้าล็อคกับภาคแรกมันเลยเป็นอะไรที่ยากเกินไปหน่อย แต่การได้เห็น มะหมี่ในบทครูพะนอ ซึ่งถือเป็นตัวร้ายที่น่ากลัวและชั่วร้ายที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ไทยทั้งหมด ก็ถือว่าเป็นความคุ้มค่าอยู่ดี และงานนี้เราได้รู้อีกว่า จริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็นแค่เหยื่ออย่างที่เราเข้าใจ ภาคนี้ถือว่าหนังได้ให้ภาพรวมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สมบูรณ์พอตัวเลยครับ ธีมของเรื่องก็ต่างจากภาคก่อน และสรุปให้เห็นถึงวัฐจักรวนเวียนของความแค้นที่เกิดขึ้นเพราะคนเราไม่สามารถดับด้านมืดและกิเลสภายในจิตใจของเราได้นั่นเอง และวิธีแห่งการจบความชั่วร้ายต่างๆเหล่านี้ ก็มีสรุปอยู่ในตอนท้ายของหนังแล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องยากเกินกว่าที่มนุษย์เราส่วนใหญ่จะทำได้อยู่ดี ชีวิตไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นเพราะคนเราเลือกจะทำให้มันยาก ก็แค่นั้น ! ถ้ารู้จักพอ รู้จักลด ละ เลิก และปล่อยวางเสียบ้าง ความสุขสงบและความสุขที่แท้จริงก็จะเกิดขึ้นกับเราเอง
ป.ล. ใครอยู่ไม่ไกลนัก ลองแวะเวียนไปดูนะครับ รับประกันไม่ผิดหวัง เบอร์โทรโรงหนัง โทรเช็ครอบฉายได้ 029097813 ต่อ 103
( รีวิวโรงหนัง อยู่ในบล็อคเก่าๆของผม เลื่อนลงไปอ่านได้นะครับ ) //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=joblovenuk&month=04-2008&date=18&group=7&gblog=84
พูดคุยเพิ่มเติม เชิญมาที่เวปหมีเลยครับ
//www.pandagroup.pantown.com/
Create Date : 25 มิถุนายน 2551 |
|
14 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2551 13:15:37 น. |
Counter : 2253 Pageviews. |
|
|
|
ดูภาคแรกมา ยังติดตาอย่างสยองอยู่เลยค่ะคุณจ๊อบ
คงทำใจอีกนิด นานอีกหน่อย กว่าจะดูภาคสองของลองของค่ะ แหะๆ....
ปอเอาชามาฝากค่ะ